ปิฬาร์...แมวแพนด้า

กระทู้สนทนา
รู้สึกคิดถึงแมวตัวนี้  จำกันได้ไหมเอ่ย
.
.
.

             แมวปิฬาร์เดินด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวหน้าร้านซุปเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งหลายวัน อย่างสนอกสนใจตามประสาแมว ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความอยากรู้อยากเห็นสูงเป็นทุนเดิมตามสัญชาตญาณอยู่แล้ว  ในสายตาของแมวซุปเปอร์มาเก็ตเป็นแหล่งน่าสนใจน่าค้นหาเหลือเกิน แต่ยังไม่เห็นหมาหรือแมวตัวไหนเข้าไปได้เลย เพราะศูนย์การค้าทั้งหลายมักจะห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไป

             แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ   ทำไมต้องมาจำกัดสิทธิแมวน่ารักด้วย ปิฬาร์คิดอย่างไม่เข้าใจ  เกิดมาเป็นแมวผิดตรงไหน ทีคนยังเข้าไปได้ ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

             กลิ่นหอมลอยมาจากในร้านเชิญชวนเหลือเกิน

             แมวปิฬาร์ยังไม่มีโอกาสเข้าไปในห้างร้านหรูหราโออ่าสง่างามพวกนี้เลย กระจกหน้าร้านติดป้ายตัวโตว่า “ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าภายในร้าน” ซึ่งเหมือนเป็นยันต์กันแมวและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ไม่ให้สามารถแฝงกายเข้าไปในร้านได้

             เคยปลอมตัวเป็นตุ๊กตาแมวหวังว่าจะแฝงกายเดินตามคนเข้าไปแบบเนียนๆ  แต่ลืมนึกว่าตุ๊กตาเดินไม่ได้ จึงโดนพนักงานของร้านจับโยนออกมา วันต่อมาปลอมตัวใหม่เป็นหุ่นยนต์แมวเดินตัวแข็งๆ ทื่อ ๆ เข้าไปในร้าน ผลคือโดนจับไปให้ประชาสัมพันธ์ประกาศหาเจ้าของที่ทำหุ่นยนต์แมวหาย ปรากฏว่าเด็กหลายสิบคนพากันอ้างตัวเป็นเจ้าของ มาแย่งกันจนร้านแทบพัง กว่าจะรอดมา ได้ก็แทบแย่

             เป็นธรรมชาติของเด็กๆที่ส่วนใหญ่เคยได้เห็นสัตว์หุ่นยนต์  แต่ไม่มีใครเคยเห็นหุ่นยนต์แมวสมจริงขนาดนี้  พอมาเห็นแมวหุ่นยนต์เลยแตกตื่นอยากเป็นเจ้าของกันยกใหญ่

             วันนี้เอาใหม่... จะต้องหาทางเข้าไปอีกครั้ง เกิดเป็นแมวมีความมุ่งมั่นสูงอยู่แล้วไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ

             ประตูเลื่อนอัตโนมัติหน้าร้านมียามเฝ้า คงรอดพ้นสายตายาก ไม่มีทางเข้าทางอื่นเพราะทางเข้าหลังร้านก็ปิดสนิท

             ดังนั้นมีทางเดียวคืออาศัยความรวดเร็วสายฟ้าผ่านรกแบบแมว วิ่งเข้าไปให้ได้ แต่พอนึกได้ว่าวิ่งเร็วแบบนั้นอาจไปชนอะไรข้างในจนเจ็บตัวก็ได้ เพราะยังไม่รู้เลยว่ามีอะไรรออยู่ จึงต้องมีการปรับแผนใหม่ให้เหมาะสมและมีชั้นเชิงมากขึ้น

             แมวปิฬาร์เองก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปเพื่ออะไร  รู้เพียงแต่ว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นของสัตว์โลกตัวหนึ่งเท่านั้น ทำให้อยากเข้าไปจนใจแทบขาดรอนๆ   ถ้าไม่ได้เข้าไปคงทานข้าวไม่อร่อย นอนไม่หลับเป็นแน่แท้

             บานประตูเปิดปิดอัตโนมัติเมื่อมีคนเดินเข้าไปใกล้ แต่เมื่อแมวเดินเข้าไปใกล้กลับไม่ยอมทำงาน คล้ายกับว่าตัวตรวจจับของประตู ตรวจจับได้เฉพาะมนุษย์เท่านั้น ดังนั้นแมวปิฬาร์จึงอาศัยจังหวะที่มีหญิงสาวกระโปรงยาวคนหนึ่งเดินเข้าไป พอประตูเปิดออก แมวสาวก็ รีบวิ่งตามเข้าไปทันที
ทว่าเป็นคราวเคราะห์ร้าย พนักงานรักษาความปลอดภัยหนุ่มคนหนึ่งบังเอิญเหลือบมองเห็นพอดี

             “เฮ้ย…แมว”

             เขาร้องเสียงดังแล้วชี้โบ้ชี้เบ้ควงไม้กระบองวิ่งตรงมา ก้มตัวลงใช้มือดึงกระโปรงของหญิงสาวขึ้น เมื่อค้นหาแมว

             “กรี๊ดดด.....  คนโรคจิต ช่วยด้วย!”

             หญิงสาวคนนั้นร้องไม่ร้องเปล่า ตบเปรี้ยงเข้าแก้มซ้ายของยามหนุ่มผู้โชคร้ายกว่าแมวอย่างจัง จนหน้าสะบัด ใครว่าของฟรีไม่มีจริง

             “เปล่า ๆ ครับ เปล่าโรคจิต” เจ็บก็เจ็บ อายก็อาย แต่ก็ต้องรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธพัลวัน  “ตามตามหาแมวครับ แมวครับแมว อยู่ใต้กระโปรง”

             หญิงคนนั้นก้มลงมองพื้น เห็นแมวกำลังวิ่งไปมาอยู่ใกล้ขาของตัวเอง ก็ร้องกรี๊ดสุดเสียงกระโดดตัวลอย

             “กรี๊ด…….ช่วยด้วยแมว…..ว้าย..!”

             บังเอิญผู้หญิงคนนี้เป็นโรคกลัวแมวแพ้ขนแมว แต่ทำไมร้องให้แมวช่วยก็ไม่รู้ แมวสาวเองก็ไม่มีเวลาคิดอะไร เพราะตอนที่หญิงสาวแพ้แมวกระโดดด้วยความตกใจก่อนหล่นลงมาจากอากาศ เท้าทั้งคู่เหยียบลงบนหางแมวเต็มแรง

             “เมี๊ยว…..”

             แมวปิฬาร์ร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บ หญิงสาวคนนั้นยิ่งตกใจหนักเข้าไปอีกเมื่อได้ยินเสียงแมว วิ่งเตลิดเข้าไปในห้างแบบไม่คิดชีวิต ตัวต้นเหตุเองก็ตัดสินใจวิ่งตามไปแบบตายเอาดาบหน้า

             ยามรักษาความปลอดภัยคนนั้นพอตั้งหลักได้ ลุกขึ้นวิ่งตามไปด้วยสัญชาตญาณแห่งยามมืออาชีพ พอไล่เกือบทันก็หวดด้วยไม้กระบอง เพราะการปล่อยให้แมวเข้าไปได้อาจมีผลให้เขาถูกลดขั้นตัดเงินเดือน หรือไล่ออกก็เป็นได้

             โดนไม่เต็มที่และไม่เต็มแรง เพราะยามก็กลัวข้อหาทารุณกรรมแมวเหมือนกัน และเพราะความรวดเร็วของแมวปิฬาร์ทำให้ไม่เจ็บอะไรมากนัก  ถ้าโดนตีเต็มที่เต็มแรง จะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นโศกนาฏกรรมจบลงด้วยการเสียชีวิตของแมวน่ารักตัวหนึ่งก็เป็นได้   ดังนั้นเหตุการณ์น่ากลัวจึงไม่มีทางเกิดขึ้น

             พนักงานสาวเก็บเงินสองคนเฝ้าเคาน์เตอร์อยู่ มองเห็นแมวสาวตัวสวยเหมือนกัน ต่างพากันร้องเสียงลั่นด้วยความตกใจ

            “ว๊าย…..แมว…….ช่วยด้วยแมว!”

            ร้องหาแมวอีกแล้ว

            อาจเป็นเพราะได้ยินเสียงเอะอะทางหน้าร้าน พอเห็นแมวปิฬาร์วิ่งตรงมาทำให้สองพนักกงานนึกว่าเป็นแมวอันตรายร้ายแรง เช่นอาจเป็นแมวมีระเบิดพลีชีพติดตัวอยู่ หรือแมวเป็นแอนแทรกซ์ หรือแมวผีสิงหวีดสยอง แมวสามบาท แมวสิบสามฝันหวาน  แมวซอมบี้ แมวชีวะ  หรือแมวไข้หวัดแมวอะไรพวกนั้น ใครจะไปรู้

             ความไม่เข้าใจทำให้หวาดผวาได้เหมือนกัน

             ร้องไม่ร้องเปล่าสองพนักงานสาวพากันขว้างสิ่งของเข้าใส่ปานห่าฝน มีทั้งปากกาบิน แก้วบิน ห่อขนมบิน ตะกร้าบิน ทุกอย่างที่กำลังตกอยู่ในสภาวะกำลังวางคิดเงิน ถูกจับฉวยมาเป็นอาวุธ ขว้างออกมาถูกบ้างไม่ถูกบ้าง

             อะไรกัน…แมวปิฬาร์นึกในใจ แค่เข้ามาวิ่งเล่นแค่นี้ต้องทำร้ายกันด้วย พวกมนุษย์นี่ใจร้ายใจจืดใจดำกันจริงๆ จะถามสักคำก็ไม่ยอม ขว้างได้ขว้างเอา จึงต้องวิ่งหลบไปมาอย่างมีชั้นเชิงไม่ยอมตกเป็นเป้านิ่ง บางครั้งถึงกับแอ่นตัวใช้ลีลาการหลบลูกปืนแบบ คีอานู รีฟส์ ทำในหนังเรื่อง The Mawtrix  ก่อนออกวิ่งไปมาโชว์ลีลาและความเร็วของแมวให้ชาวโลกเห็น

             เพราะลีลามากไป  ตะกร้าบินอันหนึ่งลอยมาชนหัวพอดี จากฝีมือการขว้างของสาวหน้าใส

            โป๊ก !

             แรงกระแทกทำให้แมวปิฬาร์เปลี่ยนเส้นทางการวิ่งโดยไม่จงใจ หักเหแนวการวิ่งเข้าหาเข้าหากองนมข้นหวานตราแมว ซึ่งกองซ้อนกันเป็นรูปปิรามิดอยู่ด้านหน้าชั้นวางของหมวดอาหารและเครื่องดื่ม พังครืนลงมาอย่างสวยงาม

            ในจำนวนกระป๋องนมตราแมวที่ร่วงลงมานั้นมีหลายกระป๋องหล่นลงใส่หัวแมวปิฬาร์ จนทำให้ต้องนั่งตาลอยอมยิ้มมึนงงไปชั่วขณะ

             พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังวิ่งตรงมาบังเอิญเท้าไปเหยียบเอากระป๋องนมที่กลิ้งอยู่กับพื้น ทำให้ลื่นล้ม เสียหลักผวาพุ่งเข้าชนชั้นวางสินค้าด้านข้างล้มครืนลงทั้งแถบ

             โครม!

             ข้าวของบนชั้นพากันเทกระจาดลงมาเกลื่อนพื้นส่งโครมครามสนั่นหวั่นไหว  ยามเคราะห์ร้ายตะกายอยู่ในดงเครื่องกระป๋อง ดิ้นกระแด่ว ๆ อย่างน่าสงสาร

             ผู้คนกำลังจับจ่ายข้าวของอยู่ไม่รู้เรื่องพอเห็นชั้นวางของล้มครืนลง พร้อมกับเสียงร้องของพนักงานเก็บเงินต่างคิดว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นแน่นอน  เลยพากันร้องเสียงหลงวิ่งกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง  บ้างล้มกลิ้งลงกับพื้น  บ้าง(ถือโอกาส) กระโดดเหยียบฟรีๆ บนคนเคราะห็ร้ายผู้ล้มกลิ้งลงกับพื้น เพราะโอกาสเช่นนี้มีไม่บ่อยนัก  เด็กหลายคนตกใจกินขนมฟรีทันที  คุณยายคนหนึ่งถือโอกาสยัดหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเข้าในอกเสื้ออย่างขวัญผวา

             หลายคนวิ่งไปมาตามช่องทางเดินอย่างตกอกตกใจสอดส่ายสายตาหาของมีค่าไปด้วยตามประสาคนแตกตื่นจนไร้การควบคุม ทำอะไรไม่ถูก บางคนเห็นเครื่องใช้แพง ๆ วางกลิ้งอยู่กับพื้นก็ตกใจสุดขีดจนก้มลงหยิบติดมือขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว สาวคนหนึ่งตกใจจนแกะเครื่องสำอางชั้นดีออกมาส่องกระจก แต่งหน้าเป็นการใหญ่แบบอกสั่นขวัญกระเจิง

             ยังกับเกิดจราจรย่อยๆ ข้าวของกระจัดกระจายวุ่นวายไปทั่ว ผู้จัดการที่อยู่ในห้องด้านหลังร้านมองผ่านกระจกใสเห็นความวุ่นวายภายนอก นึกว่านักเรียนนักเลงบุกมาทำลายข้าวของ จึงตัดสินใจกดปุ่มสัญญาณเตือนภัยทันที

             แมวต้นเหตุตะกายขึ้นมาจากกองกระป๋องนมตราแมว ยังมึนไม่หาย หม้ออะลูมิเนียมใบหนึ่งก็ลอยลงมาครอบตัวพอดี

             เคร้ง…..!!!

             โลกของแมวจอมยุ่งมืดมิดไปทันที เมื่อโดนหม้อครอบ ความตกใจทำให้ออกวิ่งแบบไม่รู้เหนือใต้

             ภาพที่หลายคนเห็นคือหม้ออะลูมิเนียมใบหนึ่งวิ่งเปะปะไปมาบนพื้นเหมือนมีชีวิต ชนโน่นนี่นั่นอุตลุดวุ่นวายไปหมด ต่างพากันนึกว่าเป็นหม้อผีสิง ทำให้เกิดความหวาดกลัวสยดสยองพองขน  คิดว่าร้านนี้เป็นร้านผีหลอกวิญญาณหลอน ยิ่งพากันแตกตื่นกรีดร้องกันชุลมุน  บางคนเสียหลัก ชนใส่ชั้นวางของพังลงมาอีก

             พนักงานรักษาความปลอดภัยหนุ่มเห็นแมวปิฬาร์โดนหม้อครอบใส่ ก็ได้โอกาสพยายามวิ่งไล่ตีด้วยไม้กระบอง แต่เหยียบข้าวของล้มหัวทิ่มหัวตำไปอีกครั้ง  ในร้านพากันตื่นตกใจปั่นป่วนไปหมดแต่กลับมีคนวิ่งออกมาน้อยมาก ส่วนใหญ่จะตกใจแบบแปลกๆ เช่น  ผู้ชายคนหนึ่งตกใจจนเอาเหล้าราคาแพงมาเปิดขวดดื่มเอาอย่างไม่คิดชีวิต หญิงสาวคนหนึ่งตกใจมากถึงกับถอดเสื้อเก่าๆที่เธอสวมอยู่ออก แล้วสวมเสื้อตัวใหม่ราคาแพงที่แขวนโชว์ไว้แทน

             ประชาสัมพันธ์สาวคว้าไมโครโฟนขึ้นมาจะประกาศในทุกคนอยู่ในความสงบ เธอตั้งใจจะกรอกเสียงหวานๆอ้อนๆออกไปตามแบบฉบับของการออกเสียงประชาสัมพันธ์ ในห้างทั่วไป

             ยังไม่ทันได้ประกาศ หม้ออะลูมิเนียมใบหนึ่งก็วิ่งมาชนขาโต๊ะดังโครมก่อนจะกระเด้งกระโดดขึ้นมาบนโต๊ะ ตัวหม้อลอยกระเด็นออกไปตามแรงกระแทก ที่เหลืออยู่บนโต๊ะกลับเป็นแมวตัวหนึ่ง

             สาวสวยคนนี้เคยเห็นแมว แต่ไม่เคยเห็น ‘แมวในหม้อ’ มาก่อน เลยกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ เสียงของเธอผ่านเครื่องขยายเสียงดังสนั่นไปทั่วร้าน แต่เป็นเสียงร้องที่ฟังแปลกมากและรับรองว่าไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนอย่างแน่นอน เนื่องจากเธอ ตั้งใจจะประกาศด้วยเสียงหวานๆอ้อนๆพอกรีดร้องเลยกลายเป็นเสียงกรี๊ดร้องแบบ หวาน ๆ ออดอ้อนอ่อนหวานยาวเหยียดจนคนฟังขนลุกขนพองน่าสะพรึง แถมด้วย..ท่านผู้มีอุปการะคุณ...โปรดฟังอีกครั้ง....แล้วกรี้ด !!!..สนั่นร้านอีกรอบ

             ใครคนหนึ่งวิ่งชนหม้ออะลูมิเนียมใบนั้นลอยกลับมาครอบลงบนหัวประชาสัมพันธ์สาวพอดี เสียงร้องของเธอเลยลั่นสนั่นอยู่ในหม้อ ตกใจจนลืมจับหม้อโยนทิ้งได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อกลายเป็นสาวหัวหม้อ

             ฝ่ายพนักงานรักษาความปลอดภัยมะงุมมะงาหรา  โซเซขึ้นมาจากพื้นมาเจอหม้อซึ่งจำได้ว่าเคยครอบแมว  กลายเป็นมนุษย์หัวหม้อก็ไม่ทันคิดอะไรเพราะมัวแต่โมโห เลยแพ่นไปที่หม้อใบนั้นด้วยกระบองไม่ยั้งมือและเมามันแบบไม่ต้องปิดตาตีหม้อ

             เพล้ง ๆ ๆ!

             น่าสงสารประชาสัมพันธ์สาวผู้หัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงตีของกระบองไร้เงา ดีว่ามีหม้อครอบหัวอยู่จึงไม่ค่อยเจ็บอะไรมากมาย แต่แก้วหูลั่นเปรี๊ยะไปด้วยเสียงกึกก้องของแรงกระแทกระหว่างหม้อและไม้ตะบอง กว่าจะเหวี่ยงหม้อออกไปได้ก็แทบตายตาลายหูอื้อ

            "อ้าว ..ขอโทษครับนึกว่าแมว"

             มือกระบองไร้เงาหนุ่มเงื้อกระบองในมือค้างกลางอากาศ หน้าซีดเหลือสองนิ้ว  ไม่คิดว่ามนุษย์หัวหม้อจักลายเป็นสาวสวยเพราะตัวเองก็กำลังจีบประชาสัมพันธ์สาวคนนี้อยู่พอดี เกิดเหตุการณ์ไปทำร้ายเธอเข้าให้ด้วยความไม่ตั้งใจ อนาคตความรักอันสดใสหายลับดับแน่

             "ตายซะเถอะแก...ไอ้บ้า..!!!".

.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่