สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมตั้งนะครับ ตั้งใจจะมา review และอธิบายถึงขั้นตอนการขอ Schengen visa ในปี 2562 (2019) นะครับ
เบื้องต้นคือ ผมกำลังจะเรียนจบปีนี้ ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวประเทศฝรั่งเศสในช่วงปิดเทอมก่อนขึ้นทำงานครับ
สำหรับการขอ Schengen visa รอบนี้เป็นรอบที่ 3 ของผมนะครับ เคยขอกับทางสถานทูตอิตาลี่ [Tourism, single entry, 2016] และสถานทูตเยอรมัน [Business, multiple entry, 2017] โดยไปขอด้วยตัวเองทั้งหมด อาศัยสะสมเอาความรู้เอาจากกระทู้ในพันทิปนี่แหละครับ ต้องขอบคุณกระทู้ review การขอวีซ่าที่ผมเคยศึกษามา ณ ที่นี้ด้วยครับ

โดยครั้งนี้ผมไป France และ Monaco นะครับ เที่ยวทั้งหมด 20 วัน โดยขอเป็น Single entry

1. สมัครบัญชี และกรอกข้อมูล application form ใน website ของสถานทูต (https://france-visas.gouv.fr/en_US/web/france-visas) หลังกรอกข้อมูลครบทุกอย่าง สิ่งที่จะนำไปให้ในขั้นตอนถัดไปคือ reference number

2. ลงทะเบียนใน website TLScontact โดยการขอวีซ่าของทางฝรั่งเศสสามารถขอผ่าน agent คือ TLScontact ดังนั้นจึงต้องเข้าไปลงทะเบียนสร้างบัญชีอีกบัญชี (https://fr.tlscontact.com/th/BKK/myapp.php?fg_id=6088885) การนัดกับทาง TLScontact คือเอา reference number ที่ได้จากข้อ 1. มาทำการนัดครับ

3. เอกสารที่ผมใช้ในการขอวีซ่า โดยครั้งแรกที่ผมเคยขอไปกับทางอิตาลี่ จำได้ว่าเค้ามี checklist ที่ค่อนข้างละเอียด เลยติดใจ checklist อันนั้น มีคติที่ว่าเหลือดีกว่าขาดครับ เลยเอามาปรับประยุกต์กับทั้งที่ไปขอกับเยอรมัน แลัวก็การขอครั้งนี้ด้วย ใครสนใจก็สามารถกดเข้าไปดูได้เลยครับ (http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/pdf/Checklist_for_Tourist_Application.pdf)
ส่วนตัวผมเองก็จะมีเอกสารดังต่อไปนี้ครับ
- ใบ application form ที่ print ออกมาแล้ว
- Receipt form ที่ได้หลังจากกรอก application form เสร็จ
- รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 3.5x4.5 cm มีพื้นที่หน้าประมาณ 70-80% ของรูป โดยผมถ่ายจากร้านข้างนอกที่ใช้บริการเป็นประจำ จึงเชื่อใจได้ สำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยง ก็มีบริการที่ TLScontact นะครับ
- Valid passport
- Valid ticket โดยผม print ตั๋วจากสายการบินเลยครับ ไม่ได้จองผ่าน agent พอดีได้ตั๋ว promotion
- สำเนาเอกสารประกันการเดินทาง โดยผมใช้บริการกับทางเมืองไทยประกันชีวิตครับ
- Itinerary + เอกสารการจองที่พัก โดยผมจองกับทาง Booking.com, agoda และ Hostelworld ผมก็ print confirmation letter จากทางโรงแรมยื่นไปเลยครับ
- หลักฐานการประกอบอาชีพ ผมขอเอกสารรับรองความเป็นนักศึกษาจากทางมหาวิทยาลัย
- Proof of economic status ของผมยังเป็นนักศึกษา ยังไม่มีเงินเดือน จึงให้คุณพ่อมาเป็น sponsor ให้ครับ โดยเอกสารที่ใช้คือ Bank certificate, รายการเดินบัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 3 เดือน, Letter of sponsorship, เอกสารรับรองการทำงานของคุณพ่อ โดยคุณพ่อเป็นข้าราชการนะครับ มีเงินในบัญชี 6 หลักครับ
- เอกสารยืนยันความเกี่ยวข้องกันของ sponsor โดยที่ผมส่งไปในครั้งนี้คือ 1. สำเนาทะเบียนบ้านหน้าของผม 2. สำเนาทะเบียนบ้านหน้าของคุณพ่อ 3. สูติบัตร โดยเอกสารทั้งหมดหมดผมแปลด้วยตัวเอง เซ็นรับรองด้วยตัวเอง โดยใช้ template ของทางกรมกงสุล (http://www.consular.go.th/main/th/form/1421)
- Copies of original passport 2 ชุด เซ็นรับรองเป็นภาษาอังกฤษ
- บัตรประชาชน
- Previous passport (ไม่ได้เรียกดู เพราะของผมในเล่มนั้นมีวีซ่าท่องเที่ยวของญี่ปุ่น)

4. หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อย ก็นัดวันใน TLScontact เตรียมเอกสารทั้งหมดที่มีในวันนัด ไปที่ตึกสาทรซิตี้ทาวเวอร์ (สามารถ search หาได้ใน Google Maps) เดินทางสะดวกครับ อยู่ใกล้กับ BTS ช่องนนทรี โดยตั้งอยู่ที่ชั้น 12 ก่อนขึ้นไปต้องแลกบัตรกับทาง reception ข้างล่าง ขึ้นบันไดเลื่อน เลี้ยวขวา ก็จะมีทางเข้าต้องใช้บัตรที่แลกเปิดเข้าไป ไปตรงเวลา ยื่นเอกสารตามขั้นตอน ชำระเงินตามที่แจ้งไว้ โดยจะมีทั้งค่าธรรมเนียมวีซ่า และค่าบริการของทาง TLScontact ผมเลือกเป็นช่วง 10.30 ครับ คนน้อยมากถ้าเทียบกับรอบก่อนหน้า

5. รอครับ วันที่ผมขอไปเป็นศุกร์ ดังนั้น passport ผมจะไปถึงสถานทูตก็คือวันจันทร์เลยครับ โดยผมเช็คดู status ตลอดกับทาง website โดยวีซ่าผมก็ขึ้น status ว่าพิจารณาเสร็จวันเดียวกันนั้นเลยครับตอนสี่โมงเย็น ถือว่าเป็น Schengen visa ที่พิจารณาเร็วที่สุดแล้วครับที่เคยได้มา ดังนั้นใครที่ได้เร็วก็ไม่ต้องตกใจนะครับ

6. รับเอกสาร สามารถรับได้ 2 ช่องทาง คือ 1.ไปรับด้วยตัวเองหรือตัวแทนที่ TLScontact 2. EMS ส่งที่บ้านครับ ส่วนผมเลือกเป็นส่งไปรษณีย์ครับ 1 วันถึง เสียค่าบริการเพิ่มอีก 180 บาท

สรุปแล้ว ผมได้เป็น Tourism, Multiple entry 1 ปี, Duration of stay 90 วันครับ

หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะเดินทางไปยุโรปนะครับ สำหรับใครมีคำถามสามารถถามมาได้เลยนะครับ