“หลีกทางหน่อยครับ คนไข้เด็กฉุกเฉินครับ” เสียงตะโกนของบุรุษพยาบาลดังพอที่จะส่งเสียงให้คนในรพ.หันมามองและหลีกทางให้เตียงพยาบาลผ่านไปได้
“ลูกคุณแม่มีไข้สูงค่ะ ควรแอดมิทเพื่อดูอาการ” หลังจากพยาบาลวัดไข้ได้ 40 องศา จึงแจ้งอาการกับแม่จ๋า
“ได้ค่ะ”
แม่จ๋ามองไปรอบๆ โรงพยาบาลนี้ ความรู้สึกแรกเลยคือทำไมทึบอึดอัดจัง
ไม่เป็นไร เดวหมอตรวจก็เจอะสาเหตุและก็กลับบ้านได้แล้ว
อีกใจนึงที่แม่จ๋าคิด รพ.แห่งนี้ ได้ชื่อว่า โรงฆ่าสัตว์ ออกหนังสือพิมพ์บ่อยไป แต่เธอไม่ค่อยสนใจหรอก เพราะเวลาใครบริการไม่ดีก็โดนว่าแบบนี้ล่ะ เธอยังคิดในแง่ดี
ตกกลางคืน หลังจากลูกนอนหลับแล้ว เธอก็ตรงมาสวดมนต์นั่งสมาธิก่อนนอน เพราะวันนี้ต้องนอนนอกบ้าน การนั่งสมาธิมีผลต่อจิตใจเธอมาก
วิ่งเร็ว!!! เธอลุกจากเตียงเฝ้าผู้ป่วยและวิ่งตรงดิ่งไปที่ประตู เพื่อหนีอะไรบางอย่าง
เหนื่อยมาก ...เธอคิด ภาพช่างดูวกวนอะไรเช่นนี้ จากเตียงเฝ้าผู้ป่วยไปประตูระยะไม่เกิน 3 เมตรเอง
เธอลืมตาโพลง...
อ้อ... ฝันไปหรอกหรือ ทำไมภาพเหมือนความจริงทุกอย่าง และหัวใจยังเต้นเร็วด้วย
เธอหอบหายใจถี่....หลังจากลืมตา
อืม..คงไม่ได้คิดไปเองหรอกนะ จริงแล้วเธอพอจะเดาอะไรได้บ้าง แต่ก็ไม่อยากคิดมากเพราะมีหน้าที่ต้องเฝ้าลูก
ระหว่างป้อนข้าว เธอรู้สึกขนลุกตลอดเวลา
ใช่..อาการขนลุกเธอทราบดีว่าหมายถึงอะไร เอาละ อุทิศส่วนกุศลละกัน
ยิ่งอุทิศยิ่งขนลุก แปลกมากๆ เธอไม่เคยรู้สึกขนลุกได้ติดกันขนาดนี้ หรือที่นี่เป็นโรคฆ่าสัตว์อย่างที่เขาพูดกันจริงๆ ไม่เคยนิมนต์พระมาทำบุญเลยหรือ ? เธอคิดในใจ
พอป้อนข้าวลูกเสร็จ เธอเดินไปที่ประตู โห...อยากร้องออกมาดังๆ ทำไมเยอะขนาดนี้
เธอขนลุกตลอดยิ่งตอนเข้าใกล้ประตู แม้จะไม่เห็นด้วยจิต หรือตาเนื้อ แต่ถ้าเยอะขนาดนี้ หนักขนาดนี้ เธอมั่นใจแล้วว่าใช่ยิ่งกว่าใช่ แต่นับจำนวนไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะมองไม่เห็น
“นี่ต้องอยู่อีกกี่วันเนี่ย...” เหนื่อยใจจริงๆ เยอะจนไม่ไหวแล้ว
“คุณหมอแจ้งผลอาการแล้วหรือยังคะ”
“ยังค่ะหมอตรวจไม่พบ”
ใจของแม่จ๋ารีบอยากออกเร็วๆ ไม่ชอบเลยอาการขนลุกแบบนี้ เวลาไปไหน ไม่ว่าจะ วัด โรงพยาบาล สุสาน ไม่เคยขนลุกได้ขนาดนี้เลย ยิ่งตรงประตูทางเข้า บรึ๋ยๆๆๆ เยอะจริงๆ
ยิ่งมืดยิ่งขนลุกหนักเข้าไปอีก เวลาป้อนข้าว ยิ่งขนลุกหนัก
โห...คงหิวกันน่าดู ไม่ไหวเลย คงไม่มีแม้แต่ญาติ เฮ้อ...
รพ.ไม่เคยนิมนต์พระมาบ้างหรือไงนะ ? เธอบ่นในใจ
แม่จ๋าต้องวางจานข้าวลูกลงแล้วตั้งใจอุทิศส่วนกุศลเต็มที่ ยิ่งอุทิศยิ่งขนลุก ยิ่งมากันเยอะ
“ถ้าเห็นได้คงมืดฟ้ามัวดินแน่” เธอคิด
“ตกลงได้ผลตรวจหรือยัง “ คุณยายโทรมาถาม เพราะนานถึง 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่คืบหน้า แถมยังไข้ไม่มีลด หลานก็ไม่รู้สึกตัว
5 โมงเย็นของอีกวัน
“ออกเลยมั้ย ไปรพ.อื่น เลยดาวคะนองออกไปก็มีนะ” ไม่ไกลมากหรอก
“ได้...มีเรื่องอยากจะบอกมากเลย แต่ไม่อยากพูด คือในนี้อะ เยอะมากจริงๆ จนทนไม่ไหวแล้ว นี่โทรศัพท์อยู่ก็เกาะเต็มไปหมดเลย “
บ่นไปพลางอุทิศส่วนกุศลไปด้วย
ปลายสายรีบวางหูทันทีไม่อยากรับรู้ว่าจะพูดอะไรต่อ
“อ้าว ไหนบอกชอบท้า พอจะเล่าดันไม่ฟังซะ จะได้ให้มาเยี่ยมหลานและชี้ให้ดูว่าตรงไหนเยอะ “ ไม่ต้องรอดูหมอปลาให้เสียเวลาหรอก
รพ.ยังคงรั้งไว้บอกว่า ไม่มีคำสั่งจากแพทย์ แม่จ๋าเลยตัดสินใจเอากระเป๋าตังค์ออกมา และบอกว่า ในกระเป๋ามีแค่นี้ค่ะ ไม่มีเงิน ออกได้เลยใช่มั้ยคะ
พอพยาบาลเห็นว่า ในกระเป๋าไม่มีเงินติดเลย จึงทำรีบทำเรื่องออกให้เพราะเดี๋ยวจะอาหารเย็นแล้ว กลัวเปลืองไปอีกมื้อ
นี่ล่ะ...รพ.ที่เคยไล่คนไข้ไปตายไงล่ะ เคยได้ยินข่าวใช่มั้ย ชื่อ รพ....2
โรงฆ่าสัตว์ คือฉายาของโรงพยาบาลนี้เชื่อแล้วจริงๆ
ไปแล้วจ้า..... ให้เจอะแค่ไหนยังไม่เคยเยอะเท่ารพ.นี้เลย ขออย่ามาเหยียบอีกเลย นี่อยู่ค้างคืนได้ 2 วัน เหมือนอยู่ใกล้กันแค่ต่างมิติเท่านั้นเอง
-----
ขอคำแนะนำติชมด้วย เพิ่งเคยเขียนเรื่องสั้นเลยเอาประสบการณ์ตัวเองมาเขียนค่ะ
TOMMY
โรงฆ่าสัตว์ โรงพยาบาลชื่อดัง (จากประสบการณ์)
“ลูกคุณแม่มีไข้สูงค่ะ ควรแอดมิทเพื่อดูอาการ” หลังจากพยาบาลวัดไข้ได้ 40 องศา จึงแจ้งอาการกับแม่จ๋า
“ได้ค่ะ”
แม่จ๋ามองไปรอบๆ โรงพยาบาลนี้ ความรู้สึกแรกเลยคือทำไมทึบอึดอัดจัง
ไม่เป็นไร เดวหมอตรวจก็เจอะสาเหตุและก็กลับบ้านได้แล้ว
อีกใจนึงที่แม่จ๋าคิด รพ.แห่งนี้ ได้ชื่อว่า โรงฆ่าสัตว์ ออกหนังสือพิมพ์บ่อยไป แต่เธอไม่ค่อยสนใจหรอก เพราะเวลาใครบริการไม่ดีก็โดนว่าแบบนี้ล่ะ เธอยังคิดในแง่ดี
ตกกลางคืน หลังจากลูกนอนหลับแล้ว เธอก็ตรงมาสวดมนต์นั่งสมาธิก่อนนอน เพราะวันนี้ต้องนอนนอกบ้าน การนั่งสมาธิมีผลต่อจิตใจเธอมาก
วิ่งเร็ว!!! เธอลุกจากเตียงเฝ้าผู้ป่วยและวิ่งตรงดิ่งไปที่ประตู เพื่อหนีอะไรบางอย่าง
เหนื่อยมาก ...เธอคิด ภาพช่างดูวกวนอะไรเช่นนี้ จากเตียงเฝ้าผู้ป่วยไปประตูระยะไม่เกิน 3 เมตรเอง
เธอลืมตาโพลง...
อ้อ... ฝันไปหรอกหรือ ทำไมภาพเหมือนความจริงทุกอย่าง และหัวใจยังเต้นเร็วด้วย
เธอหอบหายใจถี่....หลังจากลืมตา
อืม..คงไม่ได้คิดไปเองหรอกนะ จริงแล้วเธอพอจะเดาอะไรได้บ้าง แต่ก็ไม่อยากคิดมากเพราะมีหน้าที่ต้องเฝ้าลูก
ระหว่างป้อนข้าว เธอรู้สึกขนลุกตลอดเวลา
ใช่..อาการขนลุกเธอทราบดีว่าหมายถึงอะไร เอาละ อุทิศส่วนกุศลละกัน
ยิ่งอุทิศยิ่งขนลุก แปลกมากๆ เธอไม่เคยรู้สึกขนลุกได้ติดกันขนาดนี้ หรือที่นี่เป็นโรคฆ่าสัตว์อย่างที่เขาพูดกันจริงๆ ไม่เคยนิมนต์พระมาทำบุญเลยหรือ ? เธอคิดในใจ
พอป้อนข้าวลูกเสร็จ เธอเดินไปที่ประตู โห...อยากร้องออกมาดังๆ ทำไมเยอะขนาดนี้
เธอขนลุกตลอดยิ่งตอนเข้าใกล้ประตู แม้จะไม่เห็นด้วยจิต หรือตาเนื้อ แต่ถ้าเยอะขนาดนี้ หนักขนาดนี้ เธอมั่นใจแล้วว่าใช่ยิ่งกว่าใช่ แต่นับจำนวนไม่ได้เท่านั้นเอง เพราะมองไม่เห็น
“นี่ต้องอยู่อีกกี่วันเนี่ย...” เหนื่อยใจจริงๆ เยอะจนไม่ไหวแล้ว
“คุณหมอแจ้งผลอาการแล้วหรือยังคะ”
“ยังค่ะหมอตรวจไม่พบ”
ใจของแม่จ๋ารีบอยากออกเร็วๆ ไม่ชอบเลยอาการขนลุกแบบนี้ เวลาไปไหน ไม่ว่าจะ วัด โรงพยาบาล สุสาน ไม่เคยขนลุกได้ขนาดนี้เลย ยิ่งตรงประตูทางเข้า บรึ๋ยๆๆๆ เยอะจริงๆ
ยิ่งมืดยิ่งขนลุกหนักเข้าไปอีก เวลาป้อนข้าว ยิ่งขนลุกหนัก
โห...คงหิวกันน่าดู ไม่ไหวเลย คงไม่มีแม้แต่ญาติ เฮ้อ...
รพ.ไม่เคยนิมนต์พระมาบ้างหรือไงนะ ? เธอบ่นในใจ
แม่จ๋าต้องวางจานข้าวลูกลงแล้วตั้งใจอุทิศส่วนกุศลเต็มที่ ยิ่งอุทิศยิ่งขนลุก ยิ่งมากันเยอะ
“ถ้าเห็นได้คงมืดฟ้ามัวดินแน่” เธอคิด
“ตกลงได้ผลตรวจหรือยัง “ คุณยายโทรมาถาม เพราะนานถึง 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่คืบหน้า แถมยังไข้ไม่มีลด หลานก็ไม่รู้สึกตัว
5 โมงเย็นของอีกวัน
“ออกเลยมั้ย ไปรพ.อื่น เลยดาวคะนองออกไปก็มีนะ” ไม่ไกลมากหรอก
“ได้...มีเรื่องอยากจะบอกมากเลย แต่ไม่อยากพูด คือในนี้อะ เยอะมากจริงๆ จนทนไม่ไหวแล้ว นี่โทรศัพท์อยู่ก็เกาะเต็มไปหมดเลย “
บ่นไปพลางอุทิศส่วนกุศลไปด้วย
ปลายสายรีบวางหูทันทีไม่อยากรับรู้ว่าจะพูดอะไรต่อ
“อ้าว ไหนบอกชอบท้า พอจะเล่าดันไม่ฟังซะ จะได้ให้มาเยี่ยมหลานและชี้ให้ดูว่าตรงไหนเยอะ “ ไม่ต้องรอดูหมอปลาให้เสียเวลาหรอก
รพ.ยังคงรั้งไว้บอกว่า ไม่มีคำสั่งจากแพทย์ แม่จ๋าเลยตัดสินใจเอากระเป๋าตังค์ออกมา และบอกว่า ในกระเป๋ามีแค่นี้ค่ะ ไม่มีเงิน ออกได้เลยใช่มั้ยคะ
พอพยาบาลเห็นว่า ในกระเป๋าไม่มีเงินติดเลย จึงทำรีบทำเรื่องออกให้เพราะเดี๋ยวจะอาหารเย็นแล้ว กลัวเปลืองไปอีกมื้อ
นี่ล่ะ...รพ.ที่เคยไล่คนไข้ไปตายไงล่ะ เคยได้ยินข่าวใช่มั้ย ชื่อ รพ....2
โรงฆ่าสัตว์ คือฉายาของโรงพยาบาลนี้เชื่อแล้วจริงๆ
ไปแล้วจ้า..... ให้เจอะแค่ไหนยังไม่เคยเยอะเท่ารพ.นี้เลย ขออย่ามาเหยียบอีกเลย นี่อยู่ค้างคืนได้ 2 วัน เหมือนอยู่ใกล้กันแค่ต่างมิติเท่านั้นเอง
-----
ขอคำแนะนำติชมด้วย เพิ่งเคยเขียนเรื่องสั้นเลยเอาประสบการณ์ตัวเองมาเขียนค่ะ
TOMMY