เคยมั้ย เจ็บจนหน้าชา ตัวชา และรู้สึกสิ้นหวัง หมดกำลังใจที่จะทำอะไร จมอยู่กับความทรงจำที่แสนเจ็บปวด..😔
เรากับสามีอยู่กันคนละที่ คนละประเทศ..สามีเราเป็นคนมาเลเซีย
ก่อนหน้านี้เราและสามีรักกันมาก ถึงแม้จะอยู่คนละประเทศแต่ก็พยายามมาหาเราทุกๆเดือน เดือนละหลายๆครั้ง อยากให้เราเชื่อใจ เลยขอรหัส Facebook กัน เพราะไม่อยากมีความลับต่อกัน มีรหัสกันแทบทุกอย่าง เราก็ยอม เพราะก่อนหน้านั้นเราเจอผู้ชายเจ้าชู้มาเยอะ เรากับสามีคบกันได้ 8 เดือน เลยตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่งงานกัน (และจดทะเบียนสมรสแบบอิสลาม) ตลอดเวลาที่คบกัน สามีเรายังคงเสมอต้นเสมอปลายดูแลเราเป็นอย่างดี ดีจริงๆ
ตัดเล็บมือ เล็บเท้า ตัดมันยันขนจมูก ปรับแสงโทรศัพท์ให้เวลาเราเล่นกลางคืน กลัวสายตาเราเสีย เช็ด เครื่องสำอางให้ก่อนเราไปอาบน้ำ เอาใจใส่ดูแลดีทุกอย่าง ทำแบบนี้ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน
เราเฝ้ารอนับวันที่จะอยู่ด้วยกันที่ไทย สามีเราพยายามหางานทำในไทยแต่ก็ยังหางานที่ตรงใจไม่ได้ เงินเดือนน้อยกว่าที่มาเลเซีย
(สามีเราตอนนั้นเป็นอาจารย์ในวิทยาลัย)
ส่วนเราเองรับราชการย้ายไปอยู่ที่มาเลเซียก็ไม่ได้ เสียดายงานกว่าจะสอบได้ แต่อนาคตเราคิดกันไว้ว่าเราจะมาอยู่ด้วยกันที่ไทยให้ได้
และคิดว่าเรารักกันมากพอ..ที่จะรอกันได้...รอจังหวะชีวิตที่ดีที่จะได้อยู่ด้วยกัน
การที่สามีบอกรักเราทุกวัน วิดิโอคอลคุยกันทุกวัน ตั้งสถานะกันชัดเจน Facebook ของสามีเราก็มีแค่เพื่อนเท่านั้น ทำให้เราเชื่อใจทุกอย่าง จะไปไหนจะทำอะไรรายงานเราตลอด ส่งภาพมาให้ดูว่าอยู่กับคนนี้นะ ถ้าเราไม่เชื่อก็จะวิดีโอคอลมาทันที ทำแบบนี้ทุกครั้งโดยที่เราไม่ต้องร้องขอ..จนเรา...เชื่อใจ และคิดว่าคนนี้นี่แหละที่เรามั่นใจและพร้อมจะสร้างครอบครัวด้วยกัน เพราะเราเองก็ 30 กว่าแล้ว (สามีเราอ่อนกว่าเรา 4 ปี) เราอยากมีลูก มีครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนกับเพื่อนๆที่ทยอยมีลูกกันไปหมดแล้ว
จนวันหนึ่งเราท้องและได้ลูกสาว เราดีใจมาก..สามีดูมีความสุข วันที่เราคลอด ซื้อดอกกุหลาบมาให้เรา 1 ช่อ หอมแก้มเรา ขอบคุณเราที่มีลูกสาวที่น่ารักให้กับเค้า หลังจากมีลูก..สามีก็ดูแลเราและลูกสาวเป็นอย่างดี ทำตัวเป็นสามีที่แสนดี มีความเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยลืมวันพิเศษของเรา ทำให้เราเชื่อใจเสมอ
หลังจากลูกได้ 2 เดือนเราต้องกลับมาทำงาน ต้องฝากแม่ให้ดูแลลูก เพราะเราต้องมาทำงานอีกจังหวัดหนึ่ง สามีและเราจะกลับไปหาลูกทุกเดือน แต่เกือบทุกครั้งที่เจอกัน ประจำเดือนเราจะมา เป็นแบบนี้อยู่หลายเดือน เรากับสามีจึงไม่ได้มีอะไรกัน แต่หลังจากนั้นสามีไม่ค่อยมีอะไรกับเรา หลายเดือนเข้าจนเราเก็บความสงสัยไว้ สามีก็อ้างว่าลูกสาวเรายังเล็ก รอให้โตอีกหน่อย เราค่อยมีลูกชายด้วยกันอีกสักคนหนึ่ง เราก็ไม่คิดอะไรมาก คิดชื่นชมสามีด้วยซ้ำที่ไม่โฟกัสเรื่องเซ็กส์ เชื่อมั้ยว่า เกือบ 2 ปี ที่ไม่มีอะไรกัน ด้วยความน่ารักและความดูแลเอาใจใส่ของสามีอย่างเสมอต้นเสมอปลายทำให้เราไม่คิดมากและยังคงเชื่อใจในตัวสามีของเรา..
จนวันหนึ่ง...มีผู้หญิงฟิลิปปินส์ add friend เรามาใน Facebook
เราแอบไปส่องดู อายุ 26 ปีและเห็นว่าอยู่ที่มาเลเซีย เราก็คุ้นๆว่า เหมือนเคย add เรามาครั้งหนึ่งแล้ว หลายๆเดือนก่อน เราเลย กดรับเพื่อน
หลังจากกดรับ นาง Block เราทันที
เราก็งง add มาทำไมวะ คิดสงสัยว่า เอ๊ะ หรือว่าจะมีอะไร..หลังจากนั้น ไม่จบนางยังมาดู story เรา ใน Instagram คราวนี้เรามั่นใจว่าต้องมีอะไรแน่ๆ เราเลยให้เพื่อนเรา ไป Follow นาง...พอนางรับ
ใช่...
จริงอย่างที่คิด
ภาพที่เราเห็น..
เต็มไปด้วยภาพ ที่นางเจาะจงถ่ายฉากหลัง ให้เห็นพรมสีแดง พรมที่เรารู้ทันทีว่า นั่นมันคือพรมในคอนโดของสามีเรา
เราน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว หน้าชา ตัวชา ไปหมด ตั้งคำถามกับตัวเองว่า นี่กูโง่มานานแค่ไหนแล้ว??😥
เราค่อยๆ เลื่อนดูภาพ ดูเวลา วันที่
ภาพที่เต็มด้วยพรมในห้องนอน
มือสามีของเราที่จับมือผู้หญิงคนนั้น
มันคือมือที่เคยตัดเล็บให้เรา...
มือที่เคยป้อนข้าวให้ลูกสาวของเรา..
ภาพที่ผู้หญิงถือเหล้า เบียร์ พื้นหลังคือพรมสีแดงในห้องนอน
ใครกันเคยบอกว่าจะไม่แตะเหล้า เบียร์ อีกแล้วหลังจากมีลูก
สามีแสนดีของเราคนนั้น กับคนนี้คือคนเดียวกันมั้ย
เลื่อนภาพเรื่อยมา เจอของขวัญ ที่เปย์ให้กับผู้หญิงคนนั้น น้ำหอมขวดนี้คุ้นๆนะ ซื้อให้ผู้หญิงคนนั้นด้วยหรอ
ที่ผ่านมา...คืออะไร..โกหกเราได้นานขนาดนี้เลยหรอ??
เพื่อนเราทนเห็นเราร้องไห้ไม่ไหวเลยเก็บโทรศัพท์ แต่เชื่อมั้ย เราจำมันได้ทุกภาพ
เราก็จำได้ว่านี่คือมือของสามีเรา นี่คือเสื้อผ้าของสามีเรา แผ่นหลังของสามีเรา ใครบ้างจะจำสามีตัวเองไม่ได้..
เพื่อนเรากลัวเราคิดสั้น แต่เราบอกเพื่อนว่าเราไม่เห็นแก่ตัวที่ทิ้งทุกอย่างไปด้วยการฆ่าตัวตายหรอก เรามีลูกสาวตัวเล็กที่ยังต้องดูแล.. มีพ่อที่พูดไม่ได้หลังจากล้มรถ.. แม่ที่แก่และน้องชาย ที่ยังต้องการเรา
เราร้องไห้ทุกวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับติดกันหลายวัน สามีโทรมาเราก็ไม่ค่อยรับ chat น้อยกว่าปกติ จนสามีเราสงสัยว่าเราเป็นอะไร ตอนนั้นเราไม่บอกว่าเรารู้เรื่องหมดแล้ว สามีเราก็ยังทำตัวปกติทุกอย่าง เสมือนว่าไม่มีอะไร ทำตัวเนียนมาก
จนวันที่เจอกัน..เราถามรู้จักผู้หญิงคนนี้ไหม???..เราเอารูปให้ดู
สามีเราบอกไม่รู้จัก ถัาไม่ไว้ใจก็ให้ไปถามผู้หญิงคนนี้ได้เลย ท้าเราแบบนั้น..
เราบอกว่าเราไปเห็นภาพบางอย่างมา สามีเราหน้าเสีย..
ถามว่าภาพอะไร?? ภาพของเค้าหรอ?? เราตอบว่าใช่ เราบอกว่าที่บอกว่าจะรอวันที่ได้อยู่ด้วยกัน...เราไม่อยากรอแล้วนะ..
ไปอยู่ด้วยกันเลยได้มั้ยที่ไทย จะงานอะไร ...เงินเดือนเท่าไหร่ก็ช่างเถอะ ... ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยกัน
เค้ากอดเรา ร้องไห้ และ มองหน้าลูก บอกเราว่า ได้.. จะไปลาออกจากงานเลย และจะไปอยู่กับเราที่ไทยทันที..
เราเอาโทรศัพท์สามีเราส่งข้อความไปหาผู้หญิงคนนั้น แกล้งปลอมเป็นสามี
นางโทรมาทันที สามีก็บอกนางว่า ผมเลือกครอบครัวของผม ออกไปจากครอบครัวของเรา
พูดต่อหน้าเรา เราเห็นแก่ความชัดเจน เราให้อภัย...
และทำใจยอมรับ คิดว่าเพราะความห่างไกล อาจทำให้เค้าออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง..เชื่อมั้ยว่าผู้หญิงคนนี้รู้เรื่องของเราทุกอย่าง รู้ว่าสามีเรามีลูกแล้ว ตอนแรกแอบคิดว่าสามีเราไปหลอกนางหรือเปล่าว่าโสด..แต่เปล่าเลยนางรู้ทุกอย่าง..สามีสารภาพให้ฟังทุกอย่าง
หลังจากนั้น..สามีเราลาออกจากงานที่ KL
และบอกกับแม่และญาติๆของเค้าว่าจะมาอยู่ไทยกับเรา
เรื่องเหมือนจะจบ แต่..
ไม่..
ขณะที่สามีเราอยู่กับเราที่ไทย ผู้หญิงคนนี้ทักแชทเรามา บอกว่า สามีเราไม่มีทางย้ายไปอยู่กับเราหรอก และยังติดต่อกับนางอยู่ตลอด..
เราเครียดจนเราป่วย ..ปวดท้องหนัก อาจเพราะเราไม่ค่อยกินข้าว จนต้องเรียกรถฉุกเฉิน
ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเราแกล้ง แอบตั้งสถานะเหน็บแนมเรา ว่าเราควรได้รับรางวัลออสการ์ โพสต์รูปดอกไม้ที่สามีเราเคยซื้อให้นาง
ด่ากันไปมาจนเราโกรธเลยส่งเมล์ไปที่ทำงานนาง บอกว่านางเป็นชู้กับสามีเรา
นางกลัวตกงาน เลยให้สามีเก่านางบอกกับเรา บอกว่านางมีลูกที่ต้องเลี้ยงดู (นางมีลูกชายแล้ว 1 คน 10 ขวบกว่าๆ) และขอให้เราหยุดส่งเมล์ไปที่ทำงานนาง บอกเราว่าจะเลิกติดต่อกับสามีเรา และจะเลิกกัน
คิดว่าจะเชื่อนางได้มั้ย ??
ส่วนสามีเราก็อ้างว่าหางานยาก
หลังจากพาลูกไปมาเลเซีย ก็ไม่มาหาเราอีกเลย วันเกิดเรา โทร Line มาตอนดึก และ ลบออก... วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ก็ไม่มีอีกแล้วคำบอกรัก...
หรือถ้าจะส่งมาก็แค่รูปลูก เราเองไม่ค่อยตอบแชทอีกเลย มันยากที่จะคุยกันดีๆได้
สามีเราให้แม่และน้องสาวดูแลลูกของเราแทน และกลับไปอยู่ KL ที่ที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่กลับบอกกับเราว่าต้องเคลียร์อะไรหลายๆอย่างก่อนจะกลับมาอยู่กับลูก
เราโกรธมาก..ขอหย่า..แต่ทุกครั้งที่แชทเรื่องหย่า..สามีเราก็ไม่เคยให้คำตอบที่ชัดเจน..เราไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ว่าเค้ารู้สึกยังงัยหรือคิดอะไรอยู่
ส่วนเราคงพอแล้ว เราไม่อยากโง่อีกต่อไปแล้ว 2 ปีที่ผ่านมามันก็โง่พอแล้ว สิ่งที่มองย้อนกลับไปคือความรักสวยงามจอมปลอมที่ซ่อนเร้นไปด้วยการโกหกและหลอกลวง เป็นความทรงจำที่แสนเจ็บปวดตลอดไป
สามีที่แสนดีในวันนั้น.. คือผู้ชายที่โกหกได้แนบเนียนในวันนี้ หรือเรากันแน่ที่โง่เกินไป..เราคงไม่กล้าเชื่อใจใครอีกแล้ว...
เราควรทำอย่างไรต่อไปดี..มืดมนไปหมด รู้สึกอ่อนแอ และท้อแท้มาก😢
จากคนที่กำลังจะเป็น
#SingleMom คนต่อไปของโลกใบนี้
เคยเจ็บที่ใจแล้วชาไปทั้งตัวมั้ย? อย่าเชื่อใจสามีให้มาก...จากว่าที่ Single Mom คนต่อไป
เรากับสามีอยู่กันคนละที่ คนละประเทศ..สามีเราเป็นคนมาเลเซีย
ก่อนหน้านี้เราและสามีรักกันมาก ถึงแม้จะอยู่คนละประเทศแต่ก็พยายามมาหาเราทุกๆเดือน เดือนละหลายๆครั้ง อยากให้เราเชื่อใจ เลยขอรหัส Facebook กัน เพราะไม่อยากมีความลับต่อกัน มีรหัสกันแทบทุกอย่าง เราก็ยอม เพราะก่อนหน้านั้นเราเจอผู้ชายเจ้าชู้มาเยอะ เรากับสามีคบกันได้ 8 เดือน เลยตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่งงานกัน (และจดทะเบียนสมรสแบบอิสลาม) ตลอดเวลาที่คบกัน สามีเรายังคงเสมอต้นเสมอปลายดูแลเราเป็นอย่างดี ดีจริงๆ
ตัดเล็บมือ เล็บเท้า ตัดมันยันขนจมูก ปรับแสงโทรศัพท์ให้เวลาเราเล่นกลางคืน กลัวสายตาเราเสีย เช็ด เครื่องสำอางให้ก่อนเราไปอาบน้ำ เอาใจใส่ดูแลดีทุกอย่าง ทำแบบนี้ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน
เราเฝ้ารอนับวันที่จะอยู่ด้วยกันที่ไทย สามีเราพยายามหางานทำในไทยแต่ก็ยังหางานที่ตรงใจไม่ได้ เงินเดือนน้อยกว่าที่มาเลเซีย
(สามีเราตอนนั้นเป็นอาจารย์ในวิทยาลัย)
ส่วนเราเองรับราชการย้ายไปอยู่ที่มาเลเซียก็ไม่ได้ เสียดายงานกว่าจะสอบได้ แต่อนาคตเราคิดกันไว้ว่าเราจะมาอยู่ด้วยกันที่ไทยให้ได้
และคิดว่าเรารักกันมากพอ..ที่จะรอกันได้...รอจังหวะชีวิตที่ดีที่จะได้อยู่ด้วยกัน
การที่สามีบอกรักเราทุกวัน วิดิโอคอลคุยกันทุกวัน ตั้งสถานะกันชัดเจน Facebook ของสามีเราก็มีแค่เพื่อนเท่านั้น ทำให้เราเชื่อใจทุกอย่าง จะไปไหนจะทำอะไรรายงานเราตลอด ส่งภาพมาให้ดูว่าอยู่กับคนนี้นะ ถ้าเราไม่เชื่อก็จะวิดีโอคอลมาทันที ทำแบบนี้ทุกครั้งโดยที่เราไม่ต้องร้องขอ..จนเรา...เชื่อใจ และคิดว่าคนนี้นี่แหละที่เรามั่นใจและพร้อมจะสร้างครอบครัวด้วยกัน เพราะเราเองก็ 30 กว่าแล้ว (สามีเราอ่อนกว่าเรา 4 ปี) เราอยากมีลูก มีครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนกับเพื่อนๆที่ทยอยมีลูกกันไปหมดแล้ว
จนวันหนึ่งเราท้องและได้ลูกสาว เราดีใจมาก..สามีดูมีความสุข วันที่เราคลอด ซื้อดอกกุหลาบมาให้เรา 1 ช่อ หอมแก้มเรา ขอบคุณเราที่มีลูกสาวที่น่ารักให้กับเค้า หลังจากมีลูก..สามีก็ดูแลเราและลูกสาวเป็นอย่างดี ทำตัวเป็นสามีที่แสนดี มีความเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยลืมวันพิเศษของเรา ทำให้เราเชื่อใจเสมอ
หลังจากลูกได้ 2 เดือนเราต้องกลับมาทำงาน ต้องฝากแม่ให้ดูแลลูก เพราะเราต้องมาทำงานอีกจังหวัดหนึ่ง สามีและเราจะกลับไปหาลูกทุกเดือน แต่เกือบทุกครั้งที่เจอกัน ประจำเดือนเราจะมา เป็นแบบนี้อยู่หลายเดือน เรากับสามีจึงไม่ได้มีอะไรกัน แต่หลังจากนั้นสามีไม่ค่อยมีอะไรกับเรา หลายเดือนเข้าจนเราเก็บความสงสัยไว้ สามีก็อ้างว่าลูกสาวเรายังเล็ก รอให้โตอีกหน่อย เราค่อยมีลูกชายด้วยกันอีกสักคนหนึ่ง เราก็ไม่คิดอะไรมาก คิดชื่นชมสามีด้วยซ้ำที่ไม่โฟกัสเรื่องเซ็กส์ เชื่อมั้ยว่า เกือบ 2 ปี ที่ไม่มีอะไรกัน ด้วยความน่ารักและความดูแลเอาใจใส่ของสามีอย่างเสมอต้นเสมอปลายทำให้เราไม่คิดมากและยังคงเชื่อใจในตัวสามีของเรา..
จนวันหนึ่ง...มีผู้หญิงฟิลิปปินส์ add friend เรามาใน Facebook
เราแอบไปส่องดู อายุ 26 ปีและเห็นว่าอยู่ที่มาเลเซีย เราก็คุ้นๆว่า เหมือนเคย add เรามาครั้งหนึ่งแล้ว หลายๆเดือนก่อน เราเลย กดรับเพื่อน
หลังจากกดรับ นาง Block เราทันที
เราก็งง add มาทำไมวะ คิดสงสัยว่า เอ๊ะ หรือว่าจะมีอะไร..หลังจากนั้น ไม่จบนางยังมาดู story เรา ใน Instagram คราวนี้เรามั่นใจว่าต้องมีอะไรแน่ๆ เราเลยให้เพื่อนเรา ไป Follow นาง...พอนางรับ
ใช่...
จริงอย่างที่คิด
ภาพที่เราเห็น..
เต็มไปด้วยภาพ ที่นางเจาะจงถ่ายฉากหลัง ให้เห็นพรมสีแดง พรมที่เรารู้ทันทีว่า นั่นมันคือพรมในคอนโดของสามีเรา
เราน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว หน้าชา ตัวชา ไปหมด ตั้งคำถามกับตัวเองว่า นี่กูโง่มานานแค่ไหนแล้ว??😥
เราค่อยๆ เลื่อนดูภาพ ดูเวลา วันที่
ภาพที่เต็มด้วยพรมในห้องนอน
มือสามีของเราที่จับมือผู้หญิงคนนั้น
มันคือมือที่เคยตัดเล็บให้เรา...
มือที่เคยป้อนข้าวให้ลูกสาวของเรา..
ภาพที่ผู้หญิงถือเหล้า เบียร์ พื้นหลังคือพรมสีแดงในห้องนอน
ใครกันเคยบอกว่าจะไม่แตะเหล้า เบียร์ อีกแล้วหลังจากมีลูก
สามีแสนดีของเราคนนั้น กับคนนี้คือคนเดียวกันมั้ย
เลื่อนภาพเรื่อยมา เจอของขวัญ ที่เปย์ให้กับผู้หญิงคนนั้น น้ำหอมขวดนี้คุ้นๆนะ ซื้อให้ผู้หญิงคนนั้นด้วยหรอ
ที่ผ่านมา...คืออะไร..โกหกเราได้นานขนาดนี้เลยหรอ??
เพื่อนเราทนเห็นเราร้องไห้ไม่ไหวเลยเก็บโทรศัพท์ แต่เชื่อมั้ย เราจำมันได้ทุกภาพ
เราก็จำได้ว่านี่คือมือของสามีเรา นี่คือเสื้อผ้าของสามีเรา แผ่นหลังของสามีเรา ใครบ้างจะจำสามีตัวเองไม่ได้..
เพื่อนเรากลัวเราคิดสั้น แต่เราบอกเพื่อนว่าเราไม่เห็นแก่ตัวที่ทิ้งทุกอย่างไปด้วยการฆ่าตัวตายหรอก เรามีลูกสาวตัวเล็กที่ยังต้องดูแล.. มีพ่อที่พูดไม่ได้หลังจากล้มรถ.. แม่ที่แก่และน้องชาย ที่ยังต้องการเรา
เราร้องไห้ทุกวัน กินไม่ได้นอนไม่หลับติดกันหลายวัน สามีโทรมาเราก็ไม่ค่อยรับ chat น้อยกว่าปกติ จนสามีเราสงสัยว่าเราเป็นอะไร ตอนนั้นเราไม่บอกว่าเรารู้เรื่องหมดแล้ว สามีเราก็ยังทำตัวปกติทุกอย่าง เสมือนว่าไม่มีอะไร ทำตัวเนียนมาก
จนวันที่เจอกัน..เราถามรู้จักผู้หญิงคนนี้ไหม???..เราเอารูปให้ดู
สามีเราบอกไม่รู้จัก ถัาไม่ไว้ใจก็ให้ไปถามผู้หญิงคนนี้ได้เลย ท้าเราแบบนั้น..
เราบอกว่าเราไปเห็นภาพบางอย่างมา สามีเราหน้าเสีย..
ถามว่าภาพอะไร?? ภาพของเค้าหรอ?? เราตอบว่าใช่ เราบอกว่าที่บอกว่าจะรอวันที่ได้อยู่ด้วยกัน...เราไม่อยากรอแล้วนะ..
ไปอยู่ด้วยกันเลยได้มั้ยที่ไทย จะงานอะไร ...เงินเดือนเท่าไหร่ก็ช่างเถอะ ... ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยกัน
เค้ากอดเรา ร้องไห้ และ มองหน้าลูก บอกเราว่า ได้.. จะไปลาออกจากงานเลย และจะไปอยู่กับเราที่ไทยทันที..
เราเอาโทรศัพท์สามีเราส่งข้อความไปหาผู้หญิงคนนั้น แกล้งปลอมเป็นสามี
นางโทรมาทันที สามีก็บอกนางว่า ผมเลือกครอบครัวของผม ออกไปจากครอบครัวของเรา
พูดต่อหน้าเรา เราเห็นแก่ความชัดเจน เราให้อภัย...
และทำใจยอมรับ คิดว่าเพราะความห่างไกล อาจทำให้เค้าออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง..เชื่อมั้ยว่าผู้หญิงคนนี้รู้เรื่องของเราทุกอย่าง รู้ว่าสามีเรามีลูกแล้ว ตอนแรกแอบคิดว่าสามีเราไปหลอกนางหรือเปล่าว่าโสด..แต่เปล่าเลยนางรู้ทุกอย่าง..สามีสารภาพให้ฟังทุกอย่าง
หลังจากนั้น..สามีเราลาออกจากงานที่ KL
และบอกกับแม่และญาติๆของเค้าว่าจะมาอยู่ไทยกับเรา
เรื่องเหมือนจะจบ แต่..
ไม่..
ขณะที่สามีเราอยู่กับเราที่ไทย ผู้หญิงคนนี้ทักแชทเรามา บอกว่า สามีเราไม่มีทางย้ายไปอยู่กับเราหรอก และยังติดต่อกับนางอยู่ตลอด..
เราเครียดจนเราป่วย ..ปวดท้องหนัก อาจเพราะเราไม่ค่อยกินข้าว จนต้องเรียกรถฉุกเฉิน
ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเราแกล้ง แอบตั้งสถานะเหน็บแนมเรา ว่าเราควรได้รับรางวัลออสการ์ โพสต์รูปดอกไม้ที่สามีเราเคยซื้อให้นาง
ด่ากันไปมาจนเราโกรธเลยส่งเมล์ไปที่ทำงานนาง บอกว่านางเป็นชู้กับสามีเรา
นางกลัวตกงาน เลยให้สามีเก่านางบอกกับเรา บอกว่านางมีลูกที่ต้องเลี้ยงดู (นางมีลูกชายแล้ว 1 คน 10 ขวบกว่าๆ) และขอให้เราหยุดส่งเมล์ไปที่ทำงานนาง บอกเราว่าจะเลิกติดต่อกับสามีเรา และจะเลิกกัน
คิดว่าจะเชื่อนางได้มั้ย ??
ส่วนสามีเราก็อ้างว่าหางานยาก
หลังจากพาลูกไปมาเลเซีย ก็ไม่มาหาเราอีกเลย วันเกิดเรา โทร Line มาตอนดึก และ ลบออก... วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ก็ไม่มีอีกแล้วคำบอกรัก...
หรือถ้าจะส่งมาก็แค่รูปลูก เราเองไม่ค่อยตอบแชทอีกเลย มันยากที่จะคุยกันดีๆได้
สามีเราให้แม่และน้องสาวดูแลลูกของเราแทน และกลับไปอยู่ KL ที่ที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่กลับบอกกับเราว่าต้องเคลียร์อะไรหลายๆอย่างก่อนจะกลับมาอยู่กับลูก
เราโกรธมาก..ขอหย่า..แต่ทุกครั้งที่แชทเรื่องหย่า..สามีเราก็ไม่เคยให้คำตอบที่ชัดเจน..เราไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ว่าเค้ารู้สึกยังงัยหรือคิดอะไรอยู่
ส่วนเราคงพอแล้ว เราไม่อยากโง่อีกต่อไปแล้ว 2 ปีที่ผ่านมามันก็โง่พอแล้ว สิ่งที่มองย้อนกลับไปคือความรักสวยงามจอมปลอมที่ซ่อนเร้นไปด้วยการโกหกและหลอกลวง เป็นความทรงจำที่แสนเจ็บปวดตลอดไป
สามีที่แสนดีในวันนั้น.. คือผู้ชายที่โกหกได้แนบเนียนในวันนี้ หรือเรากันแน่ที่โง่เกินไป..เราคงไม่กล้าเชื่อใจใครอีกแล้ว...
เราควรทำอย่างไรต่อไปดี..มืดมนไปหมด รู้สึกอ่อนแอ และท้อแท้มาก😢
จากคนที่กำลังจะเป็น
#SingleMom คนต่อไปของโลกใบนี้