เคยมั้ยคะ มีคนที่เราตัดใจไม่ได้ซะที

สวัสดีค่ะ
เราได้มีโอกาสรู้จักน้องคนนึงตอนที่ไปเรียนต่อโทต่างประเทศ น้องอายุน้อยกว่าเราสี่ปี แรกๆ ก็คิดแค่ว่าน้องมันน่ารักดี (เป็นถึงคฑากรของมหาลัยตั้งแต่ปีหนึ่ง) นิสัยก็โอเค เราก็มีแฟนแล้วด้วย เลยไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าน้องชายคนนึงในตอนนั้น

ในขณะที่แฟนเรากำลังจะเข้ากรมนั้น เป็นช่วงที่ลำบากที่สุดของเราในตอนนั้น เพราะแฟนเราเกลียดการเป็นทหารมาก แต่ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ เค้าเลยดาวน์มากๆ ถึงขั้นบอกเลิกเราทุกวัน เรารู้สึกเหนื่อยแบบไม่ไหวแล้ว ทั้งเรื่องเรียนก็หนักแล้วยังต้องมารองรับอารมณ์แฟนอีก สุดท้ายก็ปรับความเข้าใจกันได้

ระหว่างที่แฟนเราเข้ากรมนั้น เราก็สนิทกับน้องมากขึ้น ได้ไปเที่ยวช่วงวันหยุดยาวด้วยกัน ไปทำรายงานที่ห้องสมุดด้วยกัน เราทำอะไรให้น้องหลายอย่างมากๆ  แล้วความรู้สึกที่มีต่อน้องก็เริ่มเปลี่ยนไป  เรารู้สึกดีที่ได้ดูแลใครสักคน มันมีความสุขนะ น้องเป็น Comfort Zone ของเรา ที่ไม่ว่าเรามีเรื่องไม่สบายใจอะไร พอไปหาน้อง เราจะรู้สึกดีขึ้นทันที และยิ่งได้รู้ว่าเราเองก็เป็นคนที่น้องนึกถึงเป็นคนแรกๆ เช่นกัน ก็ยิ่งมีความสุข อย่างตอนวันเกิดน้อง น้องชวนเราไปทำบุญที่วัดไทยในเอดินเบอระ ไปกันแค่สองคน เราโคตรดีใจเลย แต่น้องไม่ได้คิดอะไรกับเราหรอก เรารู้ดี และพยายามนึกถึงแฟนตัวเองให้มากๆ เราคิดว่าตัวเองคงแค่หวั่นไหวเพราะเหงา แล้วยิ่งน้องหน้าตาดี สูง ขาว และนิสัยดี ก็ยิ่งหวั่นไหวง่าย เท่านั้นเอง น้องเองก็ฮ็อตมากเช่นกันในหมู่สาวไทยและสาวจีน

พอแฟนเราออกจากกรม เค้าก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เราไม่รู้ว่าเค้าไปเจออะไรในนั้น เค้าเย็นชากับเรามาก บอกเราว่าเค้าลืมไปแล้วว่าความรู้สึกตอนที่มีแฟนมันเป็นยังไง เค้าอยู่คนเดียวได้แล้ว เราโทรไลน์ไปเค้าก็บอกว่าไม่มีอะไรจะคุยด้วย จนเราไม่อยากคุยกับคนนี้อีกแล้ว เพราะเราไม่อยากรู้สึกเหมือนเรากลายเป็นคนผิดที่ไปคุยกับเค้า บอกตรงๆ ว่าเราช็อคมาก และสุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะหยุดความสัมพันธ์ไว้ จนกว่าเราจะเรียนจบแล้วกลับไทย ค่อยมาเจอหน้ากันแล้วดูว่ายังรู้สึกยังไง จะไปต่อหรือเลิก  เอาจริงๆ ตอนนั้นก็เหมือนเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วล่ะ  เราเฟลมาก อยู่คนเดียวไม่ไหวต้องอยู่กับเพื่อนตลอด พอแยกจากเพื่อนกลับมาหอ ก็ร้องไห้ ร้องไห้ อย่างเดียว

เรารู้สึกว่าตัวเองเคว้งคว้างมาก ไม่มีอะไรให้ยึดเกาะ แต่ยังโชคดีที่มีเพื่อนดีๆ คอยเตือนสติ
ตอนที่ปลื่มน้องมากๆ เราก็เตือนตัวเองให้โฟกัสที่แฟนเรา อย่าหวั่นไหวกับคนอื่น แล้วมันก็โอเคขึ้น แต่คราวนี้ เราต้องเปลี่ยนจุดโฟกัสจากแฟน เป็นเรื่องเรียนแทน เราต้องเรียนให้จบ เรียนให้ได้คะแนนดีๆ แล้วมันก็ช่วยได้จริงๆ นะ  เราทำใจเรื่องแฟนได้

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเรากับน้องก็เป็นไปตามปกติ ไปกินข้าว ไปเที่ยวบ้าง และเราก็ยังรู้สึกดีกับน้องเหมือนเดิม
...เราไม่ได้เล่าอะไรเกี่ยวกับแฟนเราให้น้องฟังเลย  น้องรู้แค่ว่าเรามีแฟนแล้วนะ และเคยเห็นเราร้องไห้ตอนคุยไลน์กับแฟนครั้งนึง...

หลังส่งโปรเจคตัวสุดท้ายก่อนที่เราจะกลับไทย เราทำใจกล้าชวนน้องไปเที่ยวเอดินกันสองคน เพราะคิดว่าพอกลับไทยก็คงเจอกันยากแล้วล่ะ น้องอยู่หาดใหญ่ แต่เราอยู่กรุงเทพ และชีวิตนี้มันสั้น อยากทำอะไรก็รีบๆทำ เดี๋ยวไม่มีโอกาสได้ทำซะก่อน  แล้วน้องก็ตอบตกลง แม้จะมาเอดินกับเราเป็นรอบที่สามแล้วก็ตาม ตอนนั่งข้างน้องบนรถไฟแม้มันจะเป็นหนึ่งชั่วโมงสั้นๆ แต่เราก็มีความสุขมากจริงๆ ทุกครั้งที่อยู่ใกล้น้อง ใจสั่นมาก ยังไม่อยากกลับไทยเลย ส่วนน้องเลื่อนส่งงานเลยยังต้องอยู่ทำรายงานและกลับหลังเราสี่เดือน ตอนที่เราอยู่หน้าเกตรอขึ้นเครื่องกลับไทย เราโทรหาน้องเป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะไม่ได้ใช้เบอร์ UK อีกแล้ว

...เราเคยคิดว่า เราแค่หลงน้อง เดี๋ยวก็ลืมได้เอง มันแค่เหงาเลยรู้สึกดีที่มีคนมาทำดีด้วย...

เรากลับไปคบกับแฟน แฟนก็ทำเหมือนปกติก่อนเราไปเรียน คือ เป็นคนเดิมที่เรารู้จัก เหมือนที่เค้าเคยบอกเลิกเรามันไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ยังติดต่อน้องเรื่อยๆ เรายังเป็นห่วงน้องอยู่ อยากเอาใจช่วยให้เรียนจบให้ได้ จนวันที่น้องส่งรายงานตัวสุดท้าย เราก็คิดว่าไม่มีอะไรให้ห่วงอีกแล้ว เราก็คงจะลืมน้องไปได้ ถ้าน้องกลับไทย น้องก็ต้องกลับไปเจอสังคมของน้อง แล้วเราก็จะไม่ใช่คนที่น้องจะนึกถึงเป็นคนแรกๆ อีกแล้ว พอคิดแบบนี้แล้วมันก็ใจหาย

ผ่านไปหนึ่งเดือนหลังจากน้องกลับไทย น้องขึ้นมางานแต่งเพื่อนที่กรุงเทพและนัดเจอเราเพื่อเอาของมาให้ ตอนที่เจอน้องนั้น เรารู้เลยว่าความรู้สึกที่มีต่อน้องไม่ได้ลดลงเลยและไม่เคยลืมได้เลย เราเจอกันที่สยาม ไปกินข้าว เดินเล่น ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเดตกันอยู่ แม้มันจะเป็นเพียงสองสามชั่วโมงสั้นๆ แต่เราโคตรมีความสุขเลย

จนถึงตอนนี้ เรายังคงคิดถึงน้องอยู่ตลอด เราไม่อยากเป็นแบบนี้กับแฟนเลย ยอมรับว่าเราไม่ควรรู้สึกดีกับคนอื่นนอกจากแฟนตัวเอง มันไม่แฟร์กับคนที่อยู่ข้างๆ มันรู้ทุกอย่างว่าควรทำอะไร แต่มันทำได้ยากเหลือเกิน เรายังคงนึกถึงน้อง พยายามไม่ทักไป สุดท้ายก็หาเรื่องทักไปอยู่ดี

มันอึดอัดมาก.....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่