เวลา เป็นสิ่งมีค่า และเราควรใช้มันอย่างทะนุถนอม อย่างรู้คุณค่าความหมายของมัน ไม่มีใครจะเข้าใจความข้อนี้ ได้ดีไปกว่า
คิมฮเยจา อีกแล้ว
วันหนึ่งในตอนที่เธอยังเป็นเด็กน้อยฮเยจา เธอได้พบกับความอัศจรรย์ของ เวลาชีวิต เมื่อเธอบังเอิญเก็บได้นาฬิกาข้อมือเก่า ๆ เรือนหนึ่งจากชายหาด ที่ดูเหมือนจะพังแล้ว แต่แล้วเธอก็ค้นพบว่า เพียงแค่เธอหมุนนาฬิกาย้อนหลัง เธอก็สามารถกลับไปแก้ไขความผิดพลาดในอดีต ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย หรือใหญ่โตแค่ไหน เธอใช้มันทุกครั้งที่ต้องการแก้ไข ทั้งที่รู้ว่าการกลับไปแก้อะไรในแต่ละครั้ง จะทำให้เวลาชีวิตของเธอเดินหน้าไปอย่างรวดเร็วกว่าคนอื่นทั่วไป วันหนึ่งเธอจึงตัดสินใจที่จะหยุดใช้มัน
วันนี้ ในวัย 25 กำลังสาวสะพรั่ง
คิมฮเยจา มีความฝันและเฝ้ารอคอยให้ฝันเป็นจริงในเร็ววัน ความฝันที่จะได้เป็นผู้ประกาศข่าวกับสถานีโทรทัศน์ แม้จะพลาดหวังไปในครั้งแรกของความพยายาม แต่ความฝันยิ่งใหญ่ของเธอยังพลุ่งพล่านในใจตลอดมา ด้วยแรงใจจากพ่อ - คนขับรถแท็กซี่ และแม่ - เจ้าของร้านเสริมสวยเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน ที่ต่างก็ทำงานหนัก หาเช้ากินค่ำไปวัน ๆ ถึงจะไม่ได้สุขสบายอะไรมากนัก แต่ความรักผูกพันในครอบครัว ที่มีพ่อแม่และพี่ชายจอมกวนประสาทอีกคน เป็นสิ่งที่ทำให้บ้านนี้ไม่เคยเงียบเหงา
ในงานเลี้ยงต้อนรับรุ่นพี่ผู้ประสบความสำเร็จจากโทรทัศน์ช่องใหญ่
ฮเยจา ได้พบกับ
อีจุนฮา เป็นครั้งแรก ชายหนุ่มหน้ามนรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ เขากำลังจะได้เป็นผู้สื่อข่าวอย่างที่ใฝ่ฝัน ด้วยมุมมองที่ต่างกันระหว่างคนอยากเป็นผู้ประกาศข่าว และ คนที่กำลังจะได้ทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว ทำให้ทั้งคู่แยกจากกันไปในคืนนั้นอย่างไม่โสภาในอารมณ์เท่าไหร่นัก
ผิดกับการบังเอิญพบกันครั้งที่สองอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ด้วยความเข้าใจผิดบางประการและความมีน้ำใสใจจริงที่
ฮเยจาแสดงออกมาในสถานการณ์นั้น ได้ทิ้งรอยยิ้มบาง ๆ ไว้ในหัวใจของ
อีจุนฮา
ในระหว่างที่สัมพันธ์ของทั้งคู่กำลังเริ่มก่อตัวและทำท่าจะเดินหน้าไปในทางที่สดใส อุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของฮเยจา ทำให้เธอต้องกลับมาใช้นาฬิกาที่ตั้งใจว่าจะเลิกใช้เรือนนั้นอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้ง วนเวียนจนไม่สามารถนับได้ ในที่สุดฮเยจาสามารถผ่อนเบาเรื่องร้ายของครอบครัวลงมาได้ แน่นอนว่าราคาที่ต้องจ่ายย่อมต้องเท่าเทียม ถ้ามันสามารถเปลี่ยนเป็นเงินทองของนอกกายก็คงไม่เป็นไร แต่สิ่งที่ฮเยจาต้องแลกมาในครั้งนี้คือ การที่เธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่กับตัวเธอในวัย 70
ชีวิตที่พลิกผันกลับตาลปัตร ทำให้ฮเยจาต้องหลบซ่อนและไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนได้ ยกเว้นครอบครัวที่ต้องฟันฝ่าปัญหานี้ไปด้วยกัน ในขณะที่ฮเยจาหายไปจากชีวิตของอีจุนฮาอย่างไม่ทันได้บอกกล่าวใด ๆ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแค่เวลาไม่กี่วันระหว่างนั้น เกิดเรื่องร้ายแรงหนักหนาสาหัสขึ้นกับอีจุนฮาเช่นกัน
อีจุนฮา หนุ่มน้อยหน้ามน ผู้มีรูปลักษณ์ชวนหลงใหล หากแต่ดวงตากลับไร้ซึ่งชีวิตชีวาจนแทบจะเรียกได้ว่าไร้วิญญาณบนใบหน้าเรียบเฉย ในชีวิตเขาไม่มีอะไรที่จะสามารถเรียกได้ว่า ความสุข, แม่ผู้หนีหายไปนานปีและพ่อที่ไม่เคยทำหน้าที่ ยังวนเวียนกลับมาสร้างความเดือดร้อน และเพิ่มความลำบากในชีวิตให้กับเขาและย่าตลอดมา และเหมือนว่าจะเป็นเช่นนี้ไม่มีวันจบสิ้น
เพราะความอดทนที่สิ้นสุดลง ทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่เหนี่ยวรั้งเขาไว้ให้ยังหายใจอยู่ได้ในแต่ละวัน เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่เหลือครอบครัว เสียงานไปอย่างแก้ไขอะไรไม่ได้ อีจุนฮาผู้อาภัพยิ่งนัก
ในวันที่ฮเยจากลับมาพบจุนฮาอีกครั้ง และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ยายแก่ ๆ คนนั้นที่พยายามเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตพัง ๆ ของเขา คือคิมฮเยจา ผู้หญิงที่มีประกายตาระยิบระยับมีชีวิตชีวาคนนั้น
ฮเยจา หลังจากช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่กินไม่นอน ไม่พูดจากับใครในบ้าน ราวกับจะปล่อยให้ตัวเองแห้งเหี่ยวตายไปเหมือนต้นไม้ขาดน้ำ แต่แล้วเธอก็ลุกขึ้นมาได้ในที่สุด เพราะไม่อาจทนมองดูพ่อแม่เป็นทุกข์ได้อีกต่อไป สิ่งที่ฮเยจาได้เรียนรู้จากร่างกายที่แก่เฒ่าของเธอ สิ่งที่เธอไม่เคยมองเห็นหรือให้ค่ามัน เพียงเพราะเธออยู่ในวัยสาวและไม่เคยผ่านความแก่เฒ่า คุณค่าของเวลา คุณค่าของการมีชีวิต คุณค่าของคนคนหนึ่งที่จะทำประโยชน์เพื่อคนอื่น ในวันเวลาที่มีอยู่ ที่เหลืออยู่อย่างดีที่สุด เต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้
สิ่งที่จะยืนยันว่า คิมฮเยจา ผู้หญิงแก่วัย 70 ปีคนนี้ กับ คิมฮเยจา คนสวยในวัย 25 ปี ผู้มีความกระตือรือร้นคนนั้น คือคนคนเดียวกัน หากมองดูจากรูปลักษณ์ภายนอกคงไม่มีใครเชื่อเป็นอันขาด แต่เมื่อมองลึกเข้าไปในแววตาของคนทั้งคู่ เราจะพบว่า มันคือประกายระยิบระยับของชีวิตและความหวัง ที่บ่งบอกว่า ทั้งคู่คือ คิมฮเยจา คนเดียวกันนั่นเอง
The Light In Your Eyes
ซีรีส์ความยาว 12 ตอนที่เพิ่งออกอากาศไปได้ครึ่งทางเรื่องนี้ ที่ฉันไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้มากมายนัก แต่กลับกระตุ้นให้ฉันอยากเขียนรีวิวหลังจากได้รับชมมาจนถึงกลางทาง ด้วยแก่นแกนของเรื่องที่ฉันจับต้องได้ บวกกันการแสดงอันน่าประทับใจของสามนักแสดงหลัก
ฮันจีมิน ที่ยิ่งมายิ่งดี หลังจากที่ได้ชมเธอใน
Familiar Wife ก่อนหน้านี้ และเห็นเธอแว้บ ๆ ในหนังใหญ่ ที่เธอได้รับรางวัลบนเวทีประกวด พูดได้ว่าฉันยอมรับในฝีมือของเธอแล้ว ณ วันนี้ และคิดว่าเข้าใจทีมงานที่เลือกเธอมารับบทนี้ แม้ว่าในความเป็นจริงเธอจะมีอายุโตกว่าคิมฮเยจา ที่เธอสวมบทอยู่ถึง 11 ปีก็ตาม ความสดใสของฮันจีมิน ทำให้เราเชื่อได้ว่าเธอคือ คิมฮเยจาผู้เต็มไปด้วยพลังชีวิตและความสดใสในวัย 25 ปีคนนั้น
คุณยาย
คิมฮเยจา ตัวจริงเสียงจริง ผู้มากความสามารถและรางวัลการันตี ที่ข่าวยืนยันว่าบทคิมฮเยจาในเรื่องนี้นั้น เขียนขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ และคุณยายก็ไม่ทำให้แฟนคลับคนดูผิดหวังแม้แต่น้อยค่ะ นอกจากความเชื่องช้าโดยสังขารที่ต้องถ่ายทอดตามบทแล้ว อื่น ๆ นอกจากนั้นเธอแสดงได้น่ารักน่าเอ็นดูสมกับความเป็นคิมฮเยจา ในวัย 25 จริง ๆ โดยเฉพาะแววตาสดใสเปล่งประกายคู่นั้น
การแสดงอันน่าทึ่งของ
นัมจูฮยอก ต้องใช้คำว่าน่าทึ่งสำหรับหนุ่มน้อยคนนี้ค่ะ สารภาพว่าในสามตัวละครหลัก เขาคือคนที่ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรไว้นักเลย แต่เขาสามารถทำให้ฉันใช้คำว่าน่าทึ่งกับการแสดงของเขาได้ หลังไหล่และทุกอณูเนื้อตัวมันห่อเหี่ยวเหมือนคนไม่มีพลังชีวิต ดวงตาเลื่อนลอย ซึมเซา
ในซีนปะทะกันทางคารม ซีนหนึ่งที่ฉันอยากเอามาวางให้ชมเป็นตัวอย่าง
ตอนที่ดูซีนนี้รอบแรก ฉันยอมรับว่านั่งดูตัวแข็งทื่อ แล้วกรอดูอีกครั้งรอบที่สอง คราวนี้คือจ้องดูการแสดงของเขาอย่างตั้งใจ การจับภาพและลำดับภาพที่จับอารมณ์เขาได้ดีมาก จังหวะหนึ่งที่ภาพจับไปที่ริมผีปากสั่น ๆ ของเขา มันสื่อสารบางอย่าง นัมจูฮยอกทำให้นัมจูฮยอกหายไป คนที่ฉันเห็นคืออีจุนฮา ผู้โกรธเคือง โกรธตัวเอง เคืองคุณยาย อึดอัดที่ต้องมาโดนคุณยายต่อว่าสั่งสอนในสิ่งที่เขาก็ไม่ได้อยากทำ ไม่อยากมาอยู่ในจุดนี้ อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ถ้ายายเดินออกไปช้ากว่านี้อีกนิด คล้ายว่าจุนฮาจะร้องแล้วนะครับ . . ฉันกรอดูซีนนี้เป็นรอบที่สาม มองลึกเข้าไปในแววตาเจ็บช้ำของเขา ในรอบนี้เองน้ำตาฉันไหลค่ะ
อันที่จริง มีซีนที่จูฮยอก ถ่ายทอดอารมณ์ได้ยอดเยี่ยมกว่าซีนนี้อีกด้วยซ้ำ หากการแสดงที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งที่ดีที่สุดที่นักแสดงจะมอบให้กับคนดูได้ ฉันก็คิดว่าไม่สมควรลัดคิว และควรปล่อยซีนที่ยอดเยี่ยมนั้นไว้ให้คุณได้ไปเก็บเกี่ยวรางวัลด้วยตัวเอง จากการผ่านความหนักหน่วงไปพร้อมๆ กับนักแสดงตลอดการรับชมจนถึงเวลาที่เหมาะสมนั้น ให้ความรู้สึกระหว่างตัวละครและคนดูหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
เรื่องราวเพิ่งดำเนินมาครึ่งทาง ฉันบอกอะไรไม่ได้ค่ะ ว่าเรื่องราวจะดำเนินไปทางไหน และบทสรุปของปาฏิหาริย์แห่งเวลาในครั้งนี้จะจบลงอย่างไร ขอบคุณตัวละครอย่างยองซู เรื่องกินเรื่องใหญ่, ลุงหมวกแดง ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก, และเฮียขายไข่ หูทิพย์ ที่มาช่วยสร้างสีสันความรื่นเริงให้กับคนดู
ในความหนักหน่วงของชีวิต ยังมีความรื่นรมย์แทรกอยู่ระหว่างทางเสมอ มองให้เห็น เราจะสัมผัสได้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่
จุดเริ่มต้นที่แสนระทม ที่คุณอาจรู้สึกว่า ต้องใช้ใจที่เข้มแข็งแค่ไหนให้ดูซีรีส์เรื่องนี้ผ่านไปได้ในแต่ละตอน อาจเป็นเหตุผลเดียวกับการที่เราจำเป็นต้องดูซีรีสเรื่องนี้ต่อไปก็ได้ การได้เรียนรู้คุณค่าของเวลา คุณค่าของชีวิต การใช้ชีวิต ผ่านความทุกข์ระทมในชีวิตของอีจุนฮาและคิมฮเยจา อาจทำให้หัวใจของเราเข้มแข็งขึ้นมาได้ และพร้อมจะเผชิญกับอุปสรรคที่จะผ่านเข้ามาให้เราได้ก้าวผ่านมันไปให้ได้
ฉันมองเห็นชีวิต จากประกายระยิบในดวงตาเธอ . . และเขา The Light In Your Eyes
.
.
.
.
.
ost. part 2 하림 - 소풍(Where we go)
ที่ฟังไม่ออก แต่ไพเราะเหลือเกิน ชอบเสียงคนร้องมากค่ะ
.
.
.
.
รับชมตัวอย่างซีรีส์ ได้ที่นี่ค่ะ
.
ซีรีส์ สะกดด้วย ส เสือ การันต์ (ส์) รักซีรีส์ ดูซีรีส์ เผยแพร่ให้ถูกต้องกันค่ะ
[รีวิวซีรีส์][The Light In Your Eyes] ฉันมองเห็นชีวิต จากประกายระยิบในดวงตาเธอ
เวลา เป็นสิ่งมีค่า และเราควรใช้มันอย่างทะนุถนอม อย่างรู้คุณค่าความหมายของมัน ไม่มีใครจะเข้าใจความข้อนี้ ได้ดีไปกว่า คิมฮเยจา อีกแล้ว
วันหนึ่งในตอนที่เธอยังเป็นเด็กน้อยฮเยจา เธอได้พบกับความอัศจรรย์ของ เวลาชีวิต เมื่อเธอบังเอิญเก็บได้นาฬิกาข้อมือเก่า ๆ เรือนหนึ่งจากชายหาด ที่ดูเหมือนจะพังแล้ว แต่แล้วเธอก็ค้นพบว่า เพียงแค่เธอหมุนนาฬิกาย้อนหลัง เธอก็สามารถกลับไปแก้ไขความผิดพลาดในอดีต ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย หรือใหญ่โตแค่ไหน เธอใช้มันทุกครั้งที่ต้องการแก้ไข ทั้งที่รู้ว่าการกลับไปแก้อะไรในแต่ละครั้ง จะทำให้เวลาชีวิตของเธอเดินหน้าไปอย่างรวดเร็วกว่าคนอื่นทั่วไป วันหนึ่งเธอจึงตัดสินใจที่จะหยุดใช้มัน
วันนี้ ในวัย 25 กำลังสาวสะพรั่ง คิมฮเยจา มีความฝันและเฝ้ารอคอยให้ฝันเป็นจริงในเร็ววัน ความฝันที่จะได้เป็นผู้ประกาศข่าวกับสถานีโทรทัศน์ แม้จะพลาดหวังไปในครั้งแรกของความพยายาม แต่ความฝันยิ่งใหญ่ของเธอยังพลุ่งพล่านในใจตลอดมา ด้วยแรงใจจากพ่อ - คนขับรถแท็กซี่ และแม่ - เจ้าของร้านเสริมสวยเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน ที่ต่างก็ทำงานหนัก หาเช้ากินค่ำไปวัน ๆ ถึงจะไม่ได้สุขสบายอะไรมากนัก แต่ความรักผูกพันในครอบครัว ที่มีพ่อแม่และพี่ชายจอมกวนประสาทอีกคน เป็นสิ่งที่ทำให้บ้านนี้ไม่เคยเงียบเหงา
ในงานเลี้ยงต้อนรับรุ่นพี่ผู้ประสบความสำเร็จจากโทรทัศน์ช่องใหญ่ ฮเยจา ได้พบกับ อีจุนฮา เป็นครั้งแรก ชายหนุ่มหน้ามนรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ เขากำลังจะได้เป็นผู้สื่อข่าวอย่างที่ใฝ่ฝัน ด้วยมุมมองที่ต่างกันระหว่างคนอยากเป็นผู้ประกาศข่าว และ คนที่กำลังจะได้ทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว ทำให้ทั้งคู่แยกจากกันไปในคืนนั้นอย่างไม่โสภาในอารมณ์เท่าไหร่นัก
ผิดกับการบังเอิญพบกันครั้งที่สองอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ด้วยความเข้าใจผิดบางประการและความมีน้ำใสใจจริงที่ฮเยจาแสดงออกมาในสถานการณ์นั้น ได้ทิ้งรอยยิ้มบาง ๆ ไว้ในหัวใจของอีจุนฮา
ในระหว่างที่สัมพันธ์ของทั้งคู่กำลังเริ่มก่อตัวและทำท่าจะเดินหน้าไปในทางที่สดใส อุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของฮเยจา ทำให้เธอต้องกลับมาใช้นาฬิกาที่ตั้งใจว่าจะเลิกใช้เรือนนั้นอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้ง วนเวียนจนไม่สามารถนับได้ ในที่สุดฮเยจาสามารถผ่อนเบาเรื่องร้ายของครอบครัวลงมาได้ แน่นอนว่าราคาที่ต้องจ่ายย่อมต้องเท่าเทียม ถ้ามันสามารถเปลี่ยนเป็นเงินทองของนอกกายก็คงไม่เป็นไร แต่สิ่งที่ฮเยจาต้องแลกมาในครั้งนี้คือ การที่เธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่กับตัวเธอในวัย 70
ชีวิตที่พลิกผันกลับตาลปัตร ทำให้ฮเยจาต้องหลบซ่อนและไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนได้ ยกเว้นครอบครัวที่ต้องฟันฝ่าปัญหานี้ไปด้วยกัน ในขณะที่ฮเยจาหายไปจากชีวิตของอีจุนฮาอย่างไม่ทันได้บอกกล่าวใด ๆ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแค่เวลาไม่กี่วันระหว่างนั้น เกิดเรื่องร้ายแรงหนักหนาสาหัสขึ้นกับอีจุนฮาเช่นกัน
อีจุนฮา หนุ่มน้อยหน้ามน ผู้มีรูปลักษณ์ชวนหลงใหล หากแต่ดวงตากลับไร้ซึ่งชีวิตชีวาจนแทบจะเรียกได้ว่าไร้วิญญาณบนใบหน้าเรียบเฉย ในชีวิตเขาไม่มีอะไรที่จะสามารถเรียกได้ว่า ความสุข, แม่ผู้หนีหายไปนานปีและพ่อที่ไม่เคยทำหน้าที่ ยังวนเวียนกลับมาสร้างความเดือดร้อน และเพิ่มความลำบากในชีวิตให้กับเขาและย่าตลอดมา และเหมือนว่าจะเป็นเช่นนี้ไม่มีวันจบสิ้น
เพราะความอดทนที่สิ้นสุดลง ทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่เหนี่ยวรั้งเขาไว้ให้ยังหายใจอยู่ได้ในแต่ละวัน เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่เหลือครอบครัว เสียงานไปอย่างแก้ไขอะไรไม่ได้ อีจุนฮาผู้อาภัพยิ่งนัก
ในวันที่ฮเยจากลับมาพบจุนฮาอีกครั้ง และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ยายแก่ ๆ คนนั้นที่พยายามเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตพัง ๆ ของเขา คือคิมฮเยจา ผู้หญิงที่มีประกายตาระยิบระยับมีชีวิตชีวาคนนั้น
ฮเยจา หลังจากช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่กินไม่นอน ไม่พูดจากับใครในบ้าน ราวกับจะปล่อยให้ตัวเองแห้งเหี่ยวตายไปเหมือนต้นไม้ขาดน้ำ แต่แล้วเธอก็ลุกขึ้นมาได้ในที่สุด เพราะไม่อาจทนมองดูพ่อแม่เป็นทุกข์ได้อีกต่อไป สิ่งที่ฮเยจาได้เรียนรู้จากร่างกายที่แก่เฒ่าของเธอ สิ่งที่เธอไม่เคยมองเห็นหรือให้ค่ามัน เพียงเพราะเธออยู่ในวัยสาวและไม่เคยผ่านความแก่เฒ่า คุณค่าของเวลา คุณค่าของการมีชีวิต คุณค่าของคนคนหนึ่งที่จะทำประโยชน์เพื่อคนอื่น ในวันเวลาที่มีอยู่ ที่เหลืออยู่อย่างดีที่สุด เต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้
สิ่งที่จะยืนยันว่า คิมฮเยจา ผู้หญิงแก่วัย 70 ปีคนนี้ กับ คิมฮเยจา คนสวยในวัย 25 ปี ผู้มีความกระตือรือร้นคนนั้น คือคนคนเดียวกัน หากมองดูจากรูปลักษณ์ภายนอกคงไม่มีใครเชื่อเป็นอันขาด แต่เมื่อมองลึกเข้าไปในแววตาของคนทั้งคู่ เราจะพบว่า มันคือประกายระยิบระยับของชีวิตและความหวัง ที่บ่งบอกว่า ทั้งคู่คือ คิมฮเยจา คนเดียวกันนั่นเอง
The Light In Your Eyes
ซีรีส์ความยาว 12 ตอนที่เพิ่งออกอากาศไปได้ครึ่งทางเรื่องนี้ ที่ฉันไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้มากมายนัก แต่กลับกระตุ้นให้ฉันอยากเขียนรีวิวหลังจากได้รับชมมาจนถึงกลางทาง ด้วยแก่นแกนของเรื่องที่ฉันจับต้องได้ บวกกันการแสดงอันน่าประทับใจของสามนักแสดงหลัก
ฮันจีมิน ที่ยิ่งมายิ่งดี หลังจากที่ได้ชมเธอใน Familiar Wife ก่อนหน้านี้ และเห็นเธอแว้บ ๆ ในหนังใหญ่ ที่เธอได้รับรางวัลบนเวทีประกวด พูดได้ว่าฉันยอมรับในฝีมือของเธอแล้ว ณ วันนี้ และคิดว่าเข้าใจทีมงานที่เลือกเธอมารับบทนี้ แม้ว่าในความเป็นจริงเธอจะมีอายุโตกว่าคิมฮเยจา ที่เธอสวมบทอยู่ถึง 11 ปีก็ตาม ความสดใสของฮันจีมิน ทำให้เราเชื่อได้ว่าเธอคือ คิมฮเยจาผู้เต็มไปด้วยพลังชีวิตและความสดใสในวัย 25 ปีคนนั้น
คุณยาย คิมฮเยจา ตัวจริงเสียงจริง ผู้มากความสามารถและรางวัลการันตี ที่ข่าวยืนยันว่าบทคิมฮเยจาในเรื่องนี้นั้น เขียนขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ และคุณยายก็ไม่ทำให้แฟนคลับคนดูผิดหวังแม้แต่น้อยค่ะ นอกจากความเชื่องช้าโดยสังขารที่ต้องถ่ายทอดตามบทแล้ว อื่น ๆ นอกจากนั้นเธอแสดงได้น่ารักน่าเอ็นดูสมกับความเป็นคิมฮเยจา ในวัย 25 จริง ๆ โดยเฉพาะแววตาสดใสเปล่งประกายคู่นั้น
การแสดงอันน่าทึ่งของ นัมจูฮยอก ต้องใช้คำว่าน่าทึ่งสำหรับหนุ่มน้อยคนนี้ค่ะ สารภาพว่าในสามตัวละครหลัก เขาคือคนที่ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรไว้นักเลย แต่เขาสามารถทำให้ฉันใช้คำว่าน่าทึ่งกับการแสดงของเขาได้ หลังไหล่และทุกอณูเนื้อตัวมันห่อเหี่ยวเหมือนคนไม่มีพลังชีวิต ดวงตาเลื่อนลอย ซึมเซา
ในซีนปะทะกันทางคารม ซีนหนึ่งที่ฉันอยากเอามาวางให้ชมเป็นตัวอย่าง
ตอนที่ดูซีนนี้รอบแรก ฉันยอมรับว่านั่งดูตัวแข็งทื่อ แล้วกรอดูอีกครั้งรอบที่สอง คราวนี้คือจ้องดูการแสดงของเขาอย่างตั้งใจ การจับภาพและลำดับภาพที่จับอารมณ์เขาได้ดีมาก จังหวะหนึ่งที่ภาพจับไปที่ริมผีปากสั่น ๆ ของเขา มันสื่อสารบางอย่าง นัมจูฮยอกทำให้นัมจูฮยอกหายไป คนที่ฉันเห็นคืออีจุนฮา ผู้โกรธเคือง โกรธตัวเอง เคืองคุณยาย อึดอัดที่ต้องมาโดนคุณยายต่อว่าสั่งสอนในสิ่งที่เขาก็ไม่ได้อยากทำ ไม่อยากมาอยู่ในจุดนี้ อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ถ้ายายเดินออกไปช้ากว่านี้อีกนิด คล้ายว่าจุนฮาจะร้องแล้วนะครับ . . ฉันกรอดูซีนนี้เป็นรอบที่สาม มองลึกเข้าไปในแววตาเจ็บช้ำของเขา ในรอบนี้เองน้ำตาฉันไหลค่ะ
อันที่จริง มีซีนที่จูฮยอก ถ่ายทอดอารมณ์ได้ยอดเยี่ยมกว่าซีนนี้อีกด้วยซ้ำ หากการแสดงที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งที่ดีที่สุดที่นักแสดงจะมอบให้กับคนดูได้ ฉันก็คิดว่าไม่สมควรลัดคิว และควรปล่อยซีนที่ยอดเยี่ยมนั้นไว้ให้คุณได้ไปเก็บเกี่ยวรางวัลด้วยตัวเอง จากการผ่านความหนักหน่วงไปพร้อมๆ กับนักแสดงตลอดการรับชมจนถึงเวลาที่เหมาะสมนั้น ให้ความรู้สึกระหว่างตัวละครและคนดูหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
เรื่องราวเพิ่งดำเนินมาครึ่งทาง ฉันบอกอะไรไม่ได้ค่ะ ว่าเรื่องราวจะดำเนินไปทางไหน และบทสรุปของปาฏิหาริย์แห่งเวลาในครั้งนี้จะจบลงอย่างไร ขอบคุณตัวละครอย่างยองซู เรื่องกินเรื่องใหญ่, ลุงหมวกแดง ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก, และเฮียขายไข่ หูทิพย์ ที่มาช่วยสร้างสีสันความรื่นเริงให้กับคนดู
ในความหนักหน่วงของชีวิต ยังมีความรื่นรมย์แทรกอยู่ระหว่างทางเสมอ มองให้เห็น เราจะสัมผัสได้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่
จุดเริ่มต้นที่แสนระทม ที่คุณอาจรู้สึกว่า ต้องใช้ใจที่เข้มแข็งแค่ไหนให้ดูซีรีส์เรื่องนี้ผ่านไปได้ในแต่ละตอน อาจเป็นเหตุผลเดียวกับการที่เราจำเป็นต้องดูซีรีสเรื่องนี้ต่อไปก็ได้ การได้เรียนรู้คุณค่าของเวลา คุณค่าของชีวิต การใช้ชีวิต ผ่านความทุกข์ระทมในชีวิตของอีจุนฮาและคิมฮเยจา อาจทำให้หัวใจของเราเข้มแข็งขึ้นมาได้ และพร้อมจะเผชิญกับอุปสรรคที่จะผ่านเข้ามาให้เราได้ก้าวผ่านมันไปให้ได้
ฉันมองเห็นชีวิต จากประกายระยิบในดวงตาเธอ . . และเขา The Light In Your Eyes
.
.
.
.
.
ost. part 2 하림 - 소풍(Where we go)
ที่ฟังไม่ออก แต่ไพเราะเหลือเกิน ชอบเสียงคนร้องมากค่ะ
.
.
.
.
รับชมตัวอย่างซีรีส์ ได้ที่นี่ค่ะ
.
ซีรีส์ สะกดด้วย ส เสือ การันต์ (ส์) รักซีรีส์ ดูซีรีส์ เผยแพร่ให้ถูกต้องกันค่ะ