สวัสดีครับสมาชิกพันทิปทุกคน วันนี้อยากเอาประสบการณ์ที่ไปเที่ยวเขาใหญ่กับแฟน แล้วไปเจอเหตุการณ์ระทึกใจกลางเขาใหญ่ซึ่งเป็นอุทาหรณ์ที่อยากเอามาแชร์ให้อ่านกันครับ
จริงๆยางที่ผมใช้อยู่ก็ใช้มาประมาณ 2 ปีแล้วครับ ของ pirelli แต่ว่าผมไม่ค่อยได้เช็คสภาพรถ สภาพยางเท่าไหร่ อันนี้น้อมรับความผิดเต็มๆเลย รู้ตัวเลยครับว่าถ้าวันนั้นผมแต้มบุญไม่พอ หรือยางอีก 3 เส้นที่เหลือดันเป็นยางไม่ดี วันนี้คงไม่ได้มานั่งเขียนกระทู้อยู่แบบนี้แน่ๆ เข้าเรื่องเลยนะครับ วันที่เกิดเรื่องคือผมขับรถไปเที่ยวเขาใหญ่กับแฟน ก็ขึ้นเขาลงห้วยเที่ยวกันไปปกติไม่มีปัญหาอะไร จนวันสุดท้ายของทริป จริงๆวันนั้นมันมีสัญญาณเตือนที่หน้าปัดมาสักพักแล้วว่ายางมีความผิดปกติ ผมก็คิดว่าคงจะแค่ลมยางไม่เท่ากันเฉยๆ บวกกับความที่มันยังขับได้ปกติไม่มีอาการอะไรผมเลยไม่ได้เอะใจก็ขับต่อไป หลังจากเช็คเอาท์อะไรเรียบร้อยก่อนกลับผมยังขับแวะไปหาเพื่อนที่อยู่เขาใหญ่ต่อ นั่งคุยกันจนดึกเลยขอตัวกลับ
ระหว่างทางขากลับนั่นแหละครับ ขับไปอีกสัก 5 กิโล มันก็แจ้งเตือนที่หน้าจออีก ผมเริ่มรู้สึกว่ามันมีความผิดปกติตรงล้อหลังฝั่งคนขับ ตอนนั้นยังไม่ได้จอดรถดู เพราะว่ามันเปลี่ยวมาก ตอนนั้นก็ตี 2 แล้วด้วย เลยขับไปอีกนิดนึง ก็ได้ยินเสียงเหมือนยางแตก รถเสียการทรงตัวเล็กน้อย แต่ก็ยังบังคับได้อยู่ ไม่ถึงกับเสียหลัก ตอนนั้นในใจคือสบถแล้วครับ เรือหายแล้ว คือตอนนั้นผมขับมาค่อนข้างเร็วด้วย แต่โชคดีมากที่รถไม่สะบัด ยางอีก 3 เส้นที่เหลือยังช่วยกันประคองรถผมไว้ได้ เลยยังพอจะคุมรถต่อไปได้อีกระยะ ผมพยายามคุมรถให้ทรงตัวอยู่ได้แล้วค่อยๆชะลอความเร็วลง หาจุดเหมาะๆแล้วจอดรถ ตอนนี้คือเลิ่กลั่กแล้วครับ กรรมแท้ๆ มายางแตกกลางป่ากลางเขาแบบนี้ พาแฟนมาลำบากอีก ถึงจะมียางอะไหล่ติดรถมาก็จริง แต่มืดๆเปลี่ยวๆแบบนี้กลัวโจรยิ่งกว่าอะไรครับ
แฟนผมหันไปทางขวามือ ประมาณ 50 เมตรได้ มีแสงไฟอยู่ เลยตัดสินใจขับรถประคองไปต่อจนถึงแสงนั้น แล้วก็เจอกับป้ายที่เขียนด้วยลายมือง่ายๆว่า “ปะยาง” ตอนนั้นรู้สึกเลยว่าปาฏิหารย์มีจริง โชคดีจนเหมือนละคร คือโชคดีมากๆจนผมคิดว่าแต้มบุญผมคงถูกใช้หมดไปวันนั้นแล้วล่ะครับ แต่ตอนนั้นก็ตี 2 กว่าแล้ว ผมก็คิดว่าป่านนี้ใครจะมาเปิดร้านซ่อมให้ตอนนี้ แทบหมดหวัง สุดท้ายก้มสายตาลงเห็นเบอร์โทรเขียนไว้ข้างข้อความว่า “โทรได้ 24 ชั่วโมง” เหมือนผมได้ตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้งครับ 5555
ผมรีบโทรไป ไม่นานก็มีคนรับสายแล้วบอกว่า รอแป๊บๆ แป๊บเดียวจริงๆก็มีคุณลุงเดินงกๆ เงิ่นๆ มากับกล่องอุปกรณ์ของแกอ่ะครับ ตอนนั้นลุงเหมือนเป็นเทวดามาโปรดเลยครับ แต่ก็แอบคิดในใจว่าจะเป็นไงบ้างเนี่ย นานแน่ๆ ตอนนั้นง่วงนอนแล้วด้วย ผมเอายางอะไหล่มาให้ลุงแล้วนั่งรอ เลยชวนแกคุย “ลุงมีคนมาให้เปลี่ยนยางตอนกลางคืน ดึกๆงี้บ่อยหรือเปล่า” ลุงตอบเลยว่า “เยอะแยะ บางคนมาแล้วไม่รู้ว่ามีคนอยู่ เลยต้องเขียนเบอร์ไว้ให้” ส่วนยางผม ลุงแกเดาว่ายางมันน่าจะแตกขอบมาได้พักนึงแล้ว แต่ยังไม่ถึงกับขาด พอใช้งานต่อ มันเลยระเบิดจนขอบแหกอย่างที่เห็นในรูป
ลุงนั่งแงะ นั่งงัดอยู่พักนึง ลุงลุกขึ้นบอกว่าอ่ะ “เสร็จแล้ว 60 บาท” ผมแทบช๊อค ถูกจังลุง โดนปลุกมาทำงานดึกดื่นป่านนี้ ผมเลยให้ค่าเสียเวลาลุงเพิ่มไปอีกนิดหน่อย ถือว่าเป็นคนช่วยชีวิตผมวันนี้เลย
หลังจากนั้นผมก็ขับรถด้วยล้ออะไหล่นี่กลับกรุงเทพ แต่ด้วยความที่งานรัดตัว เลยคิดว่าทนใช้ไปก่อนก็ได้ ก็เลยกระเตงกันไปทั้งแบบนั้น ยาง 3 ยางอะไหล่ 1 ซึ่งจริงๆทำแบบนี้ไม่ดีนะครับ
ผมใช้อยู่เป็นอาทิตย์ถึงได้มีเวลาเอาเข้าไปเปลี่ยนเป็นยาง pirelli ตัวเดิม ตอนแรกจะเปลี่ยนแค่เส้นเดียว แต่คิดไปคิดมาไหนๆก็ใช้มาตั้ง 2 ปีแล้ว เลยตัดสินใจเปลี่ยนไปเลย 4 เส้น เอาเหมือนเดิมนี่แหละ เพราะจากการใช้งานที่ผ่านมาสำหรับผมมันดีมากๆอยู่แล้ว ผมเองใช้งานค่อนข้างลุยด้วย ไปต่างจังหวัดบ่อยเจอถนนโหดๆมาเยอะก็ไม่เคยมีปัญหา เกาะถนนดี เงียบดี แล้วจากที่เห็นตอนเจออุบัติเหตุบนเขาใหญ่แล้วก็ถือว่าฝากชีวิตไว้ได้ เลยยิ่งมั่นใจมากขึ้นอีก แต่คราวนี้หลังจากที่ปรึกษากับช่างแล้วเค้าก็แนะนำให้ใช้เป็นยาง run flat ไปเลยครับ เพราะจะช่วยเซฟได้มากขึ้น เผื่อเกิดอุบัติเหตุแบบคราวนี้อีก แต่ไม่โชคดีเจอร้านเปลี่ยนยางเหมือนเดิม ก็จะได้ขับต่อไปถึงอู่หรือศูนย์ได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนเป็นยางอะไหล่
ถึงผมจะเล่าเหมือนเป็นเรื่องตลกแต่เอาเข้าจริงตอนนั้นผมกลัวเหมือนกันนะ จากเหตุการณ์นี้ผมได้บทเรียนหลายๆอย่างเลยครับ ทั้งเรื่องการไม่เช็คสภาพรถ สภาพยาง รอบเปลี่ยนยาง รวมไปถึงการกระเตงล้ออะไหล่มาจนถึงกรุงเทพ แล้วยังใช้ไปอีกตั้งหลายวัน หลังจากวันนั้นผมกลายเป็นระแวงเช็คนู่นเช็คนี่หลายรอบไปเลย เพราะผมคิดว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกอีกผมคงไม่ได้โชคดีเหมือนเดิมแน่ๆ
ก็อยากเอามาแชร์ประสบการณ์ไว้ตรงนี้ ให้ทุกคนเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง ตรวจคุณภาพยาง อย่าลืมเช็ครอบเปลี่ยนยางให้เป็นประจำ ขืนทิ้งไว้ไม่เช็ค ไม่ทาน อาจจะเจอปัญหาแบบผมได้ ผมโชคดีที่เจอร้านปะยาง ไม่งั้นผมอาจจะต้องนอนในรถรอจนเช้าหรือต้องนั่งเซ็งรอคนมาช่วยแน่ๆ ครับ
*** Safety First ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท กันนะครับทุกคน ***
ประสบการณ์จำไม่ลืม! ยางแตกตอนตี2กลางเขาใหญ่
จริงๆยางที่ผมใช้อยู่ก็ใช้มาประมาณ 2 ปีแล้วครับ ของ pirelli แต่ว่าผมไม่ค่อยได้เช็คสภาพรถ สภาพยางเท่าไหร่ อันนี้น้อมรับความผิดเต็มๆเลย รู้ตัวเลยครับว่าถ้าวันนั้นผมแต้มบุญไม่พอ หรือยางอีก 3 เส้นที่เหลือดันเป็นยางไม่ดี วันนี้คงไม่ได้มานั่งเขียนกระทู้อยู่แบบนี้แน่ๆ เข้าเรื่องเลยนะครับ วันที่เกิดเรื่องคือผมขับรถไปเที่ยวเขาใหญ่กับแฟน ก็ขึ้นเขาลงห้วยเที่ยวกันไปปกติไม่มีปัญหาอะไร จนวันสุดท้ายของทริป จริงๆวันนั้นมันมีสัญญาณเตือนที่หน้าปัดมาสักพักแล้วว่ายางมีความผิดปกติ ผมก็คิดว่าคงจะแค่ลมยางไม่เท่ากันเฉยๆ บวกกับความที่มันยังขับได้ปกติไม่มีอาการอะไรผมเลยไม่ได้เอะใจก็ขับต่อไป หลังจากเช็คเอาท์อะไรเรียบร้อยก่อนกลับผมยังขับแวะไปหาเพื่อนที่อยู่เขาใหญ่ต่อ นั่งคุยกันจนดึกเลยขอตัวกลับ
ระหว่างทางขากลับนั่นแหละครับ ขับไปอีกสัก 5 กิโล มันก็แจ้งเตือนที่หน้าจออีก ผมเริ่มรู้สึกว่ามันมีความผิดปกติตรงล้อหลังฝั่งคนขับ ตอนนั้นยังไม่ได้จอดรถดู เพราะว่ามันเปลี่ยวมาก ตอนนั้นก็ตี 2 แล้วด้วย เลยขับไปอีกนิดนึง ก็ได้ยินเสียงเหมือนยางแตก รถเสียการทรงตัวเล็กน้อย แต่ก็ยังบังคับได้อยู่ ไม่ถึงกับเสียหลัก ตอนนั้นในใจคือสบถแล้วครับ เรือหายแล้ว คือตอนนั้นผมขับมาค่อนข้างเร็วด้วย แต่โชคดีมากที่รถไม่สะบัด ยางอีก 3 เส้นที่เหลือยังช่วยกันประคองรถผมไว้ได้ เลยยังพอจะคุมรถต่อไปได้อีกระยะ ผมพยายามคุมรถให้ทรงตัวอยู่ได้แล้วค่อยๆชะลอความเร็วลง หาจุดเหมาะๆแล้วจอดรถ ตอนนี้คือเลิ่กลั่กแล้วครับ กรรมแท้ๆ มายางแตกกลางป่ากลางเขาแบบนี้ พาแฟนมาลำบากอีก ถึงจะมียางอะไหล่ติดรถมาก็จริง แต่มืดๆเปลี่ยวๆแบบนี้กลัวโจรยิ่งกว่าอะไรครับ
แฟนผมหันไปทางขวามือ ประมาณ 50 เมตรได้ มีแสงไฟอยู่ เลยตัดสินใจขับรถประคองไปต่อจนถึงแสงนั้น แล้วก็เจอกับป้ายที่เขียนด้วยลายมือง่ายๆว่า “ปะยาง” ตอนนั้นรู้สึกเลยว่าปาฏิหารย์มีจริง โชคดีจนเหมือนละคร คือโชคดีมากๆจนผมคิดว่าแต้มบุญผมคงถูกใช้หมดไปวันนั้นแล้วล่ะครับ แต่ตอนนั้นก็ตี 2 กว่าแล้ว ผมก็คิดว่าป่านนี้ใครจะมาเปิดร้านซ่อมให้ตอนนี้ แทบหมดหวัง สุดท้ายก้มสายตาลงเห็นเบอร์โทรเขียนไว้ข้างข้อความว่า “โทรได้ 24 ชั่วโมง” เหมือนผมได้ตายแล้วเกิดใหม่อีกครั้งครับ 5555
ผมรีบโทรไป ไม่นานก็มีคนรับสายแล้วบอกว่า รอแป๊บๆ แป๊บเดียวจริงๆก็มีคุณลุงเดินงกๆ เงิ่นๆ มากับกล่องอุปกรณ์ของแกอ่ะครับ ตอนนั้นลุงเหมือนเป็นเทวดามาโปรดเลยครับ แต่ก็แอบคิดในใจว่าจะเป็นไงบ้างเนี่ย นานแน่ๆ ตอนนั้นง่วงนอนแล้วด้วย ผมเอายางอะไหล่มาให้ลุงแล้วนั่งรอ เลยชวนแกคุย “ลุงมีคนมาให้เปลี่ยนยางตอนกลางคืน ดึกๆงี้บ่อยหรือเปล่า” ลุงตอบเลยว่า “เยอะแยะ บางคนมาแล้วไม่รู้ว่ามีคนอยู่ เลยต้องเขียนเบอร์ไว้ให้” ส่วนยางผม ลุงแกเดาว่ายางมันน่าจะแตกขอบมาได้พักนึงแล้ว แต่ยังไม่ถึงกับขาด พอใช้งานต่อ มันเลยระเบิดจนขอบแหกอย่างที่เห็นในรูป
หลังจากนั้นผมก็ขับรถด้วยล้ออะไหล่นี่กลับกรุงเทพ แต่ด้วยความที่งานรัดตัว เลยคิดว่าทนใช้ไปก่อนก็ได้ ก็เลยกระเตงกันไปทั้งแบบนั้น ยาง 3 ยางอะไหล่ 1 ซึ่งจริงๆทำแบบนี้ไม่ดีนะครับ
ผมใช้อยู่เป็นอาทิตย์ถึงได้มีเวลาเอาเข้าไปเปลี่ยนเป็นยาง pirelli ตัวเดิม ตอนแรกจะเปลี่ยนแค่เส้นเดียว แต่คิดไปคิดมาไหนๆก็ใช้มาตั้ง 2 ปีแล้ว เลยตัดสินใจเปลี่ยนไปเลย 4 เส้น เอาเหมือนเดิมนี่แหละ เพราะจากการใช้งานที่ผ่านมาสำหรับผมมันดีมากๆอยู่แล้ว ผมเองใช้งานค่อนข้างลุยด้วย ไปต่างจังหวัดบ่อยเจอถนนโหดๆมาเยอะก็ไม่เคยมีปัญหา เกาะถนนดี เงียบดี แล้วจากที่เห็นตอนเจออุบัติเหตุบนเขาใหญ่แล้วก็ถือว่าฝากชีวิตไว้ได้ เลยยิ่งมั่นใจมากขึ้นอีก แต่คราวนี้หลังจากที่ปรึกษากับช่างแล้วเค้าก็แนะนำให้ใช้เป็นยาง run flat ไปเลยครับ เพราะจะช่วยเซฟได้มากขึ้น เผื่อเกิดอุบัติเหตุแบบคราวนี้อีก แต่ไม่โชคดีเจอร้านเปลี่ยนยางเหมือนเดิม ก็จะได้ขับต่อไปถึงอู่หรือศูนย์ได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนเป็นยางอะไหล่
ถึงผมจะเล่าเหมือนเป็นเรื่องตลกแต่เอาเข้าจริงตอนนั้นผมกลัวเหมือนกันนะ จากเหตุการณ์นี้ผมได้บทเรียนหลายๆอย่างเลยครับ ทั้งเรื่องการไม่เช็คสภาพรถ สภาพยาง รอบเปลี่ยนยาง รวมไปถึงการกระเตงล้ออะไหล่มาจนถึงกรุงเทพ แล้วยังใช้ไปอีกตั้งหลายวัน หลังจากวันนั้นผมกลายเป็นระแวงเช็คนู่นเช็คนี่หลายรอบไปเลย เพราะผมคิดว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกอีกผมคงไม่ได้โชคดีเหมือนเดิมแน่ๆ
ก็อยากเอามาแชร์ประสบการณ์ไว้ตรงนี้ ให้ทุกคนเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง ตรวจคุณภาพยาง อย่าลืมเช็ครอบเปลี่ยนยางให้เป็นประจำ ขืนทิ้งไว้ไม่เช็ค ไม่ทาน อาจจะเจอปัญหาแบบผมได้ ผมโชคดีที่เจอร้านปะยาง ไม่งั้นผมอาจจะต้องนอนในรถรอจนเช้าหรือต้องนั่งเซ็งรอคนมาช่วยแน่ๆ ครับ