สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวความประมาทของผมเอง หลังจากที่นอนอ่านกระทู้ของท่านอื่นๆมามากพอสมควร
คำเตือน "รูปภาพอาจจะน่ากลัวนิดนึงนะครับ" กลัวจะกินข้าวกันไม่อร่อย
เริ่มเลย ผมประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน คือความมักง่าย เนื่องจากผมต้องการจะเข้าตู้คอร์นเทนเนอร์ จึงให้พี่ที่ขับโฟร์คลิฟท์ค่อยๆยกผมขึ้นไป ทุกอย่างทำอย่างระมัดระวัง แต่แล้วขาผมดันยืนไม่พ้นขอบตู้ด่านล่าง เลยโดนหนีบเข้าระหว่าง งารถโฟร์คลิฟท์กับขอบตู้ด่านล่าง
ความรู้สึกแรกคือทั้งชาและปวดอย่างรุนแรง เมื่อถอดรองเท้าออกมาดู สภาพนิ้วเท้าก็เป็นแบบนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เห็นแผลครั้งแรก ไม่มีเลือดเลยและแล้วเลือดก็ค่อยๆไหลออกมาจนท่วม
ผมถูกพยาบาลเบื่องต้น โดยพันแผลห้ามเลือดและไปโรงพยาบาล สภาพนี้ (ในใจคิดว่าคงแค่เย็บแผลปกติ แต่ปวดขนาดนี้คงไม่ใช่แน่นอน)
นั่งรอคุณหมอในห้องฉุกเฉิน พยาบาลก็ถามว่าปวดไหม ความรู้สึกตอนนั้นชามากกว่าปวด

ผมเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงโรงพยาบาล พยายามยกขาสูง เพราะกลัวเลือดจะออกมาก
ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที คุณหมอห้องฉุกเฉินเปิดแผลดูก็อุทานว่า โอ้โห ไปโดนอะไรมา?
ผมก็เล่าๆเหตุการณ์ อาการปวดก็เริ่มทวีคูณ
ซักประวัติเสร็จก็โดนฉีดยา ไม่รู้กี่เข็มจำได้ว่ามี บาดทะยัก,แก้ปวด,ฆ่าเชื้อ จังหวะนั้นอะไรจะทิ่มจะแทงก็จัดมาเลย ในใจคิดรีบๆรักษาเลยหมอ
คุณหมอแจ้งกับคุณหมออีกท่าน ให้ส่งตัวผมไปแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ แจ้งว่า Open ผมก็พึ่งจะมารู้ว่ามันคือ กระดูกหักแบบเปิด หมายถึง มีกระดูกทิ่มออกมาด้านนอกหรือกระดูกหักแบบมีแผลเปิดนั่นเอง
ผมถูกส่งตัวมาแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ คุณหมอฝั่งนี้เห็นแผลก็ร้องว่า โอ้วววว หมอขอถ่ายรูปไว้ส่งเข้าประกวดหน่อยนะ (คิดในใจ เห็นหน้าหมอ 2 คนแล้ว คงไม่ได้แค่เย็บแผลแน่ๆ)
ผลการตรวจ
-กระดูกหัก/แตกอย่างสมบูรณ์
-เอ็นขาด
-แผลกว้างและมีเนื้อตาย
คุณหมอแจ้งว่าต้องแอดมิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ พยาบาลมาถามว่าจะเลือกยาสลบหรือบล็อคหลัง ผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตผมกลัวสลบไปแล้วจะไม่ฟื้น งั้นขอบล็อคหลังแล้วกันครับ
พยาบาลก็ไปปรึกษาคุณหมอว่าบล็อคหลังจะไหวไหม สรุปผมก็ได้บล็อคหลัง
ตื่นเต้นมาก เลือดก็ไหลไม่หยุด

ผมใช้เวลาผ่าตัด 1 ชั่วโมงและพักฟื้นในห้องพักฟื้นอีก 1 ชั่วโมง
แอบเสียดายที่ตัวเองคิดผิดเลือกบล็อคหลัง เพราะสำหรับผมทรมาณพอสมควรคือ หายใจไม่ออก,คลื่นไส้,และหนาวมาก สั่นไปทั้งตัว จนคุณหมอที่บล็อคหลังต้องไปเอาผ้าห่มเป่ากับฮิทเตอร์มาห่มให้ในห้องผ่าตัด แต่ก็ยังสั่นไม่หยุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผ่าตัดเสร็จก็หลับไปตื่นมาตี 3 ลืมตัววิ่งเข้าห้องน้ำเพราะท้องเสีย เช้ามาเลือดออกเยอะพอสมควร

เอาละ โม้มาเยอะ มาดูแผลกัน
-อายุแผล 10 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แผลแห้ง ไม่ซึมแต่เริ่มมีจุดดำ

-อายุแผล 15 วัน
ช่วงนี้เครียดมาก ปรึกษาคุณหมอว่าผมจะหายไหม แผลดูแย่ลงมาก
คุณหมอก็บอกมาตรงๆว่า ต้องลุ้นว่านิ้วเราจะทนไหวไหม เพราะตอนที่มาก็เรียกได้ว่านิ้วขาดมาเลยแค่ยังไม่หลุดออกจากเท้าเท่านั้นเอง เป็นช่วงที่จิตตกสุดๆ การใช้ชีวิตลำบากมากๆ ต้องเข้าเฝือกอ่อนและถอดล้างแผลทุกวัน และยกขาสูงตลอดเวลา เพราะเลือดคลั่งในแผล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แผลปริออกด้านข้างเพราะบวม แถมไหมหลุดอีก ล้างแผลทุกวันจนหลอน ไม่อยากเห็นแผลตัวเอง
นิ้วผมดามด้วยเหล็ก KY 10cm. และใส่กระดุมยึดเอ็นไม่ให้หดกลับเข้าไป เวลาล้างแผลโดนเหล็กไม่มีปัญหา แต่โดนกระดุมแล้วเจ็บมาก จี๊ดเข้าไปในฝ่าเท้าจนถึงข้อเท้า

-อายุแผล 22 วัน
ล้างแผลทุกวัน เรียกได้ว่าผ่านมือพยาบาลทุกคน จนมีชื่อเล่นใหม่ว่าน้องกระดุม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แผลแห้ง แต่ซอกนิ้วยังซึมและมีเนื้อซีด
เห็นแผลตัวเองแล้วจิตตกทุกครั้ง

-อายุแผล 31 วันครบ 1 เดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แผลไม่ซึมและดีขึ้นเรื่อยๆครับ ช่วงนี้ก็ยังกินยาฆ่าเชื้อติดต่อกัน หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น-ก่อนนอน ไม่เคยขาด
นี่นิ้วก้อยหรือนิ้วโป้ง บวมซะขนาดนี้

-อายุแผล 38 วัน
ตั้งแต่ผ่าตัดเสร็จคุณหมอก็สั่งห้ามล้างแผลเอง ต้องล้างที่โรงพยาบาลหรือคลินิกเท่านั้น จนตอนนี้แผลแห้งสนิทดี ปรึกษาคุณหมอเรื่องอาการเน่า
ก็ได้คำตอบว่า เป็นเนื้อตายแห้ง โชคดีที่ไม่ใช่เนื้อตายเน่า ถ้าเป็นแบบแห้งเดี๋ยวเนิ้วก็หลุดออกไปเอง ไม่เสี่ยงกับการติดเชื้อมากเท่าเนื้อตายเน่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 40 วัน
ไปล้างแผลทุกวันที่คลินิก คุณหมอก็ทำความสะอาดให้อย่างดี จนสุดท้ายเนื้อตายก็เริ่มลอก ดีใจสุดๆได้เห็นเนื้อข้างในยังไม่เน่า แต่นิ้วก็ยังดำอยู่ดี
ผมดีใจได้แปปเดียว คุณหมอก็แจ้งว่า เป็นหนอง(ซอกนิ้ว) ให้ตายเถอะติดเชื้อได้ยังไงในเมื่อกินยาตลอด ล้างแผลทุกวัน
ก้ได้คำตอบว่า แผลไกลหัวใจ โดยเฉพาะแผลปลายเท้าจะหายช้าเพราะเลือดไหลเวียนไม่ดีเท่าส่วนอื่นเพราะตัวยาก็มากับเลือดบวกกับแผลผมลึกถึงกระดูก ก็มีโอกาศติดเชื้อได้ คุณหมอที่คลินิกให้แจ้งกับคุณหมอเจ้าของไข้ทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 47 วัน
วันหมอนัด ผมก็แจ้งว่าแผลมีหนองครับหมอ หมอก็บีบดูเจ็บมาก เจ็บสุดๆ เลือดไหลออกมาพร้อมหนอง โอ้เป็นหนองอยู่ข้างในจริงๆ ชีวิต!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 47 วัน วันเดียวกันคุณหมอสั่งดีไบต์แผล ทำความสะอาดแผลเอาหนองออก เป็นช่วงที่เจ็บที่สุด เจ็บกว่าผ่าตัดใหญ่ ขนาดใช้ยาชายังเจ็บมาก ทรมาณสุดๆ จนสภาพออกมาแบบนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เห็นแผลแล้วก็ท้อ สภาพไม่เหมือนนิ้วเลย ต้องกลับมาดูแลแผลต่อ แต่ก็ยังดีใจที่เห็นเนื้อข้างในเป็นสีแดง

-อายุแผล 50 วัน ถึง 80 วัน
ผมถ่ายสลับวันเว้นวัน ล้างแผลทุกวัน ระวังตัวสุดๆ ยาฆ่าเชื้อกินติดต่อกันตั้งแต่ผ่าตัด
ช่วงนี้พยายามกินโปรตีน เนื้อนมไข่ อัดเข้าไป วิตามินเสริมโดยเฉพาะวิตามิน C อ่านมาว่าช่วยสมานแผล ผลไม้ทุกอย่างยัดเข้าไป
วิตามินบำรุงเลือด แคลเซียมบำรุงกระดูกก็อัดกันเต็มเหนี่ยว แผลก็ดีวันดีคืน ใจชื้นขึ้นมาเยอะเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมือกๆ ถามคุณหมอ คุณหมอบอกคือเนื้อเยื่อ ไม่ใช่หนอง รอดตัวไป TT

-จนในที่สุด
นิ้วผมก็ลอกออกมา ไม่น่าเชื่อว่าจะมีนิ้วใหม่ใต้ผิวหนังที่ตาย ดีใจสุดๆ น้ำตาจะไหล
ผมใส่เหล็กอยู่ 8 สัปดาห์ กระดุม 8 สัปดาห์ ลอกออกมาแล้วสภาพเป็นแบบนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-จนปัจจุบันผมก็ล้างแผลเองทุกวัน เริ่มเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำยัน แต่ยังลงน้ำหนักไม่ได้เต็มที่
คุณหมอก็ยังนัดติดตามอาการทุก 2-3 สัปดาห์ เพราะกระดูกยังไม่สมานกันดี แต่แผลดีขึ้นมาก ยังมีตรงที่คว้านเนื้อติดเชื้อทิ้งไป ที่ยังไม่แห้งสนิท
ชีวิตดีขึ้นเยอะครับจากวันแรก ก็เรื่อง Step สุดท้ายคือเรื่องกระดูก ที่ยังไม่โอเคเลยคุณหมอบอก แต่อาการปวดไม่มี ก็ไม่มีปัญหา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปัจจุบัน เล็บก็หลุดเรียบร้อย แผลที่ดึงเหล็ก KY ออกก็สมานกันดี ยังเหลือแผลตรงเส้นเอ็นตรงข้อเท้าในรูป ที่ยังเป็นรูอยู่ แต่ไม่ซึมก็ถือว่าโอเค

จบแล้วครับ
เข้าใจอารมณ์คนขาหักเลย ทำอะไรลำบากสุดๆ ชีวิตประจำวันนี่ไม่ต้องพูดถึง แต่สำหนับผมก็โชคดีที่เป็นข้างซ้าย ขับรถได้ก็ถือว่า ยังใช้ชีวิตปกติพอสมควร
จะกินอะไรก็ Drive Thru อย่างเดียว ขับรถไปล้างแผลเองตั้งแต่วันแรก จนแผลหาย
หมอสั่งหยุดก็แอบมาทำงาน (นอนอยู่บ้านมันน่าเบื่อครับ)
แถมตกบันไดที่บ้านไป 5-6 ขั้น เล่นซะเหล็กหมุนไปคนละทิศละทาง
อยากลงไว้เป็นอุทาหรให้ครับ เผื่อไว้เตือนตัวเองเวลาที่หายดีแล้ว
แล้วก็เป็นกำลังใจให้คนที่ขาหัก เพราะผมเองตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาล ได้อ่านของท่านอื่นๆแล้ว ของผมดูเด็กไปเลย
แถมๆ กับการซื้อก๋วยเตี๋ยวแบบ Drive Thru ป้าแกก็เห็นใจให้เบอร์โทรมา บอกว่าโทรมาสั่งก้ได้ เดี๋ยวป้าไปส่งให้

ขับรถก็ขับท่านี้ตลอด ยกขาสูงๆไว้ ขับไปทำงานไปล้างแผลก็ท่านี้ พี่ รปภ.ที่โรงพยาบาล เขาก็ยอมให้จอดที่จอดคนพิการ VIP กันเลยทีเดียว
รถติดๆก็จะเมื่อยสุดๆ แต่ก็ไม่อยากเป็นภาระใคร ไปได้ก็ไป แท็กซี่ไม่ได้กินเงินผมหรอก อิอิ

บอกแล้วว่าผมยกขาสูงตลอดเวลา เข้าห้องน้ำก็ท่านี้ไว้ก่อน

คนเฝ้าไข้ส่วนตัว ตอนอยู่โรงพยาบาลอยากกลับบ้าน เพราะคิดถึงหมาสุดๆ

ลาละครับ
ผมใช้เวลารักษามา 3 เดือนแล้ว ก็ยังไม่หายดี
ขอเป็นกำลังใจให้คนขาหักทุกคนนะครับ รู้สึกเลยว่าจิตตกจริงๆ และเครียดมากๆ แต่เดี๋ยวมันก็หายครับ
สู้ๆครับ
เตือนตัวเองว่าอย่าประมาทอีกละ
อายุ 24 วันที่กระดูกหักครั้งแรก เก็บกระทู้ไว้เตือนใจ อย่าใช้ชีวิตประมาท
คำเตือน "รูปภาพอาจจะน่ากลัวนิดนึงนะครับ" กลัวจะกินข้าวกันไม่อร่อย
เริ่มเลย ผมประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน คือความมักง่าย เนื่องจากผมต้องการจะเข้าตู้คอร์นเทนเนอร์ จึงให้พี่ที่ขับโฟร์คลิฟท์ค่อยๆยกผมขึ้นไป ทุกอย่างทำอย่างระมัดระวัง แต่แล้วขาผมดันยืนไม่พ้นขอบตู้ด่านล่าง เลยโดนหนีบเข้าระหว่าง งารถโฟร์คลิฟท์กับขอบตู้ด่านล่าง
ความรู้สึกแรกคือทั้งชาและปวดอย่างรุนแรง เมื่อถอดรองเท้าออกมาดู สภาพนิ้วเท้าก็เป็นแบบนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงโรงพยาบาล พยายามยกขาสูง เพราะกลัวเลือดจะออกมาก
ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที คุณหมอห้องฉุกเฉินเปิดแผลดูก็อุทานว่า โอ้โห ไปโดนอะไรมา?
ผมก็เล่าๆเหตุการณ์ อาการปวดก็เริ่มทวีคูณ
ซักประวัติเสร็จก็โดนฉีดยา ไม่รู้กี่เข็มจำได้ว่ามี บาดทะยัก,แก้ปวด,ฆ่าเชื้อ จังหวะนั้นอะไรจะทิ่มจะแทงก็จัดมาเลย ในใจคิดรีบๆรักษาเลยหมอ
คุณหมอแจ้งกับคุณหมออีกท่าน ให้ส่งตัวผมไปแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ แจ้งว่า Open ผมก็พึ่งจะมารู้ว่ามันคือ กระดูกหักแบบเปิด หมายถึง มีกระดูกทิ่มออกมาด้านนอกหรือกระดูกหักแบบมีแผลเปิดนั่นเอง
ผมถูกส่งตัวมาแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ คุณหมอฝั่งนี้เห็นแผลก็ร้องว่า โอ้วววว หมอขอถ่ายรูปไว้ส่งเข้าประกวดหน่อยนะ (คิดในใจ เห็นหน้าหมอ 2 คนแล้ว คงไม่ได้แค่เย็บแผลแน่ๆ)
ผลการตรวจ
-กระดูกหัก/แตกอย่างสมบูรณ์
-เอ็นขาด
-แผลกว้างและมีเนื้อตาย
คุณหมอแจ้งว่าต้องแอดมิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมใช้เวลาผ่าตัด 1 ชั่วโมงและพักฟื้นในห้องพักฟื้นอีก 1 ชั่วโมง
แอบเสียดายที่ตัวเองคิดผิดเลือกบล็อคหลัง เพราะสำหรับผมทรมาณพอสมควรคือ หายใจไม่ออก,คลื่นไส้,และหนาวมาก สั่นไปทั้งตัว จนคุณหมอที่บล็อคหลังต้องไปเอาผ้าห่มเป่ากับฮิทเตอร์มาห่มให้ในห้องผ่าตัด แต่ก็ยังสั่นไม่หยุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอาละ โม้มาเยอะ มาดูแผลกัน
-อายุแผล 10 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 15 วัน
ช่วงนี้เครียดมาก ปรึกษาคุณหมอว่าผมจะหายไหม แผลดูแย่ลงมาก
คุณหมอก็บอกมาตรงๆว่า ต้องลุ้นว่านิ้วเราจะทนไหวไหม เพราะตอนที่มาก็เรียกได้ว่านิ้วขาดมาเลยแค่ยังไม่หลุดออกจากเท้าเท่านั้นเอง เป็นช่วงที่จิตตกสุดๆ การใช้ชีวิตลำบากมากๆ ต้องเข้าเฝือกอ่อนและถอดล้างแผลทุกวัน และยกขาสูงตลอดเวลา เพราะเลือดคลั่งในแผล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 22 วัน
ล้างแผลทุกวัน เรียกได้ว่าผ่านมือพยาบาลทุกคน จนมีชื่อเล่นใหม่ว่าน้องกระดุม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 31 วันครบ 1 เดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 38 วัน
ตั้งแต่ผ่าตัดเสร็จคุณหมอก็สั่งห้ามล้างแผลเอง ต้องล้างที่โรงพยาบาลหรือคลินิกเท่านั้น จนตอนนี้แผลแห้งสนิทดี ปรึกษาคุณหมอเรื่องอาการเน่า
ก็ได้คำตอบว่า เป็นเนื้อตายแห้ง โชคดีที่ไม่ใช่เนื้อตายเน่า ถ้าเป็นแบบแห้งเดี๋ยวเนิ้วก็หลุดออกไปเอง ไม่เสี่ยงกับการติดเชื้อมากเท่าเนื้อตายเน่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 40 วัน
ไปล้างแผลทุกวันที่คลินิก คุณหมอก็ทำความสะอาดให้อย่างดี จนสุดท้ายเนื้อตายก็เริ่มลอก ดีใจสุดๆได้เห็นเนื้อข้างในยังไม่เน่า แต่นิ้วก็ยังดำอยู่ดี
ผมดีใจได้แปปเดียว คุณหมอก็แจ้งว่า เป็นหนอง(ซอกนิ้ว) ให้ตายเถอะติดเชื้อได้ยังไงในเมื่อกินยาตลอด ล้างแผลทุกวัน
ก้ได้คำตอบว่า แผลไกลหัวใจ โดยเฉพาะแผลปลายเท้าจะหายช้าเพราะเลือดไหลเวียนไม่ดีเท่าส่วนอื่นเพราะตัวยาก็มากับเลือดบวกกับแผลผมลึกถึงกระดูก ก็มีโอกาศติดเชื้อได้ คุณหมอที่คลินิกให้แจ้งกับคุณหมอเจ้าของไข้ทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 47 วัน
วันหมอนัด ผมก็แจ้งว่าแผลมีหนองครับหมอ หมอก็บีบดูเจ็บมาก เจ็บสุดๆ เลือดไหลออกมาพร้อมหนอง โอ้เป็นหนองอยู่ข้างในจริงๆ ชีวิต!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 47 วัน วันเดียวกันคุณหมอสั่งดีไบต์แผล ทำความสะอาดแผลเอาหนองออก เป็นช่วงที่เจ็บที่สุด เจ็บกว่าผ่าตัดใหญ่ ขนาดใช้ยาชายังเจ็บมาก ทรมาณสุดๆ จนสภาพออกมาแบบนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-อายุแผล 50 วัน ถึง 80 วัน
ผมถ่ายสลับวันเว้นวัน ล้างแผลทุกวัน ระวังตัวสุดๆ ยาฆ่าเชื้อกินติดต่อกันตั้งแต่ผ่าตัด
ช่วงนี้พยายามกินโปรตีน เนื้อนมไข่ อัดเข้าไป วิตามินเสริมโดยเฉพาะวิตามิน C อ่านมาว่าช่วยสมานแผล ผลไม้ทุกอย่างยัดเข้าไป
วิตามินบำรุงเลือด แคลเซียมบำรุงกระดูกก็อัดกันเต็มเหนี่ยว แผลก็ดีวันดีคืน ใจชื้นขึ้นมาเยอะเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-จนในที่สุด
นิ้วผมก็ลอกออกมา ไม่น่าเชื่อว่าจะมีนิ้วใหม่ใต้ผิวหนังที่ตาย ดีใจสุดๆ น้ำตาจะไหล
ผมใส่เหล็กอยู่ 8 สัปดาห์ กระดุม 8 สัปดาห์ ลอกออกมาแล้วสภาพเป็นแบบนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-จนปัจจุบันผมก็ล้างแผลเองทุกวัน เริ่มเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำยัน แต่ยังลงน้ำหนักไม่ได้เต็มที่
คุณหมอก็ยังนัดติดตามอาการทุก 2-3 สัปดาห์ เพราะกระดูกยังไม่สมานกันดี แต่แผลดีขึ้นมาก ยังมีตรงที่คว้านเนื้อติดเชื้อทิ้งไป ที่ยังไม่แห้งสนิท
ชีวิตดีขึ้นเยอะครับจากวันแรก ก็เรื่อง Step สุดท้ายคือเรื่องกระดูก ที่ยังไม่โอเคเลยคุณหมอบอก แต่อาการปวดไม่มี ก็ไม่มีปัญหา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จบแล้วครับ
เข้าใจอารมณ์คนขาหักเลย ทำอะไรลำบากสุดๆ ชีวิตประจำวันนี่ไม่ต้องพูดถึง แต่สำหนับผมก็โชคดีที่เป็นข้างซ้าย ขับรถได้ก็ถือว่า ยังใช้ชีวิตปกติพอสมควร
จะกินอะไรก็ Drive Thru อย่างเดียว ขับรถไปล้างแผลเองตั้งแต่วันแรก จนแผลหาย
หมอสั่งหยุดก็แอบมาทำงาน (นอนอยู่บ้านมันน่าเบื่อครับ)
แถมตกบันไดที่บ้านไป 5-6 ขั้น เล่นซะเหล็กหมุนไปคนละทิศละทาง
อยากลงไว้เป็นอุทาหรให้ครับ เผื่อไว้เตือนตัวเองเวลาที่หายดีแล้ว
แล้วก็เป็นกำลังใจให้คนที่ขาหัก เพราะผมเองตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาล ได้อ่านของท่านอื่นๆแล้ว ของผมดูเด็กไปเลย
แถมๆ กับการซื้อก๋วยเตี๋ยวแบบ Drive Thru ป้าแกก็เห็นใจให้เบอร์โทรมา บอกว่าโทรมาสั่งก้ได้ เดี๋ยวป้าไปส่งให้
รถติดๆก็จะเมื่อยสุดๆ แต่ก็ไม่อยากเป็นภาระใคร ไปได้ก็ไป แท็กซี่ไม่ได้กินเงินผมหรอก อิอิ
ผมใช้เวลารักษามา 3 เดือนแล้ว ก็ยังไม่หายดี
ขอเป็นกำลังใจให้คนขาหักทุกคนนะครับ รู้สึกเลยว่าจิตตกจริงๆ และเครียดมากๆ แต่เดี๋ยวมันก็หายครับ
สู้ๆครับ