LG เมื่อพูดถึงแบรนด์นี้ ในยุคสมัยนี้แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันทำมือถือ อันนี้เจอกับตัวเองหลายรอบแล้วสำหรับผมจริงๆเป็นเรื่องน่าเสียดายนะเมื่อพูดถึงแบรนด์นี้ที่ในตอนนี้ถือว่าเงียบเหงามากๆและเลิกทำตลาดในไทยกันไปแล้ว สถานการณ์คล้ายๆกับอีก 2 แบรนด์ SONY HTC เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์อินดี้ทั้ง 3 ค่ายที่จับมือกันหายไปพร้อมน้าพร้อมตากันทั้งหมด มันเป็นแบรนด์ที่มันมีดีอยู่นะจริงๆแต่คนทั่วไปรู้จักกันน้อยมาก แต่ด้วยที่เรานั้นสายอินดี้ จึงไม่พลาดที่จะเอามันมารีวิวซะหน่อยเพราะค่ายนี้เราก็ไม่ค่อยพลาดกันอยู่แล้วนั้นเองสำหรับตระกูล V จากทาง LG ในรุ่นก่อนๆนั้นทาง LG เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกๆที่ทำกล้องมุมกว้างมาตลอดครับ และได้พัฒนามาเรื่อยๆจนตอนนี้มี 3 เลนส์ทุกระยะกันเลย และยังมาพร้อมฝาหลังที่ค่อนข้างสวยและการออกแบบด้านหน้าแบบเต็มจอและมีติ่งหน้าจอ รวมถึงกล้องหน้ามุมกว้างก็มาด้วยเช่นกันครับ แต่ที่น่าเสียดายหน้าจอ ที่ 2 ที่เคยโดดเด่นนั้นหายไปแล้วตั้งแต่รุ่นก่อนหน้า
LG V40 ThinQ นั้นเปิดตัวมาเป็นรุ่นล่าสุดของทางค่าย ก่อนที่ G8 จะมาในไม่กี่วันนี้ครับ V40 นั้นเป็นเรือธงตระกูล V ในครั้งนี้เปิดตัวมาเป็นครั้งแรกสำหรับ 3 กล้องหลังที่มี ทั้งระยะ มุมกว้าง มุมปกติ และ ระยะเทเลครับ และ กล้องหน้ามาถึง 2 ตัว ระยะปกติ และ ระยะมุมกว้างครับ เป็นตัวแรกเลยที่มีมาถึง 5 กล้องรวมทั้งหมด และยังได คุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่นระดับ IP68 หรือด้านความคงทนมาตรฐานทหาร MIL-STD-810G และในด้านระบบเสียงนั้นยังคงใช้ 32-bit QuadDAC จูนเสียงโดย Meridian Audio ไม่ใช่ B&O แล้วนะครับ และ ยังมีรูหูฟัง 3.5 มม. อยู่ด้วยถือว่าเจ๋งเลยแหละ ส่วนสเปคก็ Snap 845 เช่นกัน
ส่วนในด้านราคานั้นตัวนี้แน่นอนว่าในไทยนั้น หายไปแล้วไม่กลับมาแล้ว จึงต้องหิ้วกันล้วนๆครับซึ่งตัวนี้ ราคาอยู่ที่ 23,900 บาทไทยมีทั้งสี แดง น้ำเงิน ดำ ครับผม
UNBOX
ตัวกล่องมาในโทนสีดำเช่นเดิมครับ เรียบๆหรูตัวกล่องนั้นเขียนชื่อรุ่นปกติ แต่ไม่มีเขียน Meridian Audio อะไร ส่วนอุปกรณ์ตัวกล่องนั้นก็มีมาให้ครบครับ เสียดายไม่มีฟิลม์ หรือ เคสแถสมาให้ ส่วนกล่องนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากครับไม่เหมือนตอน V20 ที่ตัวกล่องทำได้น่าสนใจเลยในแง่ของการออกแบบนะ ส่วนอุปกรณ์ที่มีมาให้นั้นมีตามข้างล่างเลย
- ตัวเครื่อง LG V40 ThinQ
- หูฟัง LG IN-EAR
- ผ้าเช็ดตัวเครื่องสีดำ
- สายชาร์จ Type-C
- Adaptor ชาร์จไฟ QC 3.0
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
DESIGN
การออกแบบสำหรับรุ่นนี้ดูผ่านๆอาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักจาก V30 แต่ก็ปรับทั้งหน้าและหลังรวมถึงการใช้วัสดุด้วยนั้นเองครับ สำหรับ V40 ตัวนี้วัสดุด้านหลังมีการโปรโมทว่ามันจะแปลกใหม่ซึ่งดูจริงๆมันจะแบบด้านๆก็ถือว่าสวยและรักษาง่ายเหมือนกันครับ การออกแบบข้างหน้ามีติ่งมาเหมือนเดิม และเต็มขอบจอมากขึ้น ส่วนความหนาบางน้ำหนักอะไรทำได้ดีไม่ได้หนักหรือหนาเกินไปครับ ดีไซน์รวมๆไม่ได้หนีจากเดิมแต่เพิ่มกล้องหลัง เป็น 3 ตัว
หน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอไร้ขอบที่มีติ่งหน้าจอที่มีขนาดพอสมควรครับ แตกต่างจากรุ่น V30 ที่เป็นแบบไม่มีติ่ง ซึ่งการออกแบบด้านหน้าก็ยังคงมีความโค้งเล็กน้อยในส่วนหน้าจอขอบทั้ง 2 ข้างครับ หน้าจอ POLED ขนาด 6.4 นิ้ว 19.5 : QHD ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 หน้าจอสวยงามขึ้นและคุณภาพดีขึ้นพอสมควรเลยแหละ
ทางด้านขอบล่างหน้าจอก็มีขนาดไม่ได้บางมากแต่ก็เท่าๆกับรุ่นอื่นๆในสมัยนี้ครับที่อาจจะไม่ได้บางเท่าด้านบน ส่วนปุ่มควบคุมบนตัวจอก็สามารถเปลี่ยนตำแหน่งอะไรได้ ว่าจะเอากี่ปุ่มอะไรพวกนี้ครับ
ในส่วนของขอบบนหน้าจอตัวนี้จะเป็นแบบติ่งแล้วที่ไม่ใช่แบบหยดน้ำ เพราะว่าต้องมีกล้องหน้าถึง 2 ตัวและช่องลำโพงอีกด้วยครับ ส่วนไฟแจ้งเตือนไม่มีมาแล้วสำหรับรุ่นนี้ แต่แน่นอนว่าติ่งหน้าจอ รอยบากปิดได้เนียนๆและสวย
ขอบด้านซ้ายของตัวเครื่องรุ่นนี้ใชัวัสดุเงาสวยงามตัดกับฝาหลังด้านได้อย่างสวย และปุ่ม เพิ่มลดเสียง และ ปุ่มพิเศษสำหรับใช้งานเรียก Ai Google อะไรพวกนี้ครับ คล้ายๆในตัว G7+ และ พวกปุ่ม Bixby ใน Samsung นั้นเอง
มาที่ด้านขวา ตัวนี้จะเป็นปุ่ม Power เปิดปิดเครื่องครับ และ รุ่นนี้ใช้ถาดซิมแบบ Dualsim เพิ่ม Micro-Sd ได้ด้วยครับ ตัวช่องถาดซิมนั้นจะเป็นวางแนวยาวๆ เลยอาจจะทำให้ช่องมันดูใหญ่อะไรกว่าชาวบ้านเค้า
ด้านขอบล่าง นั้นมัน รูหูฟัง 3.5มม. เกาหลีนั้นไม่ยอมตัดทิ้งกันเลยจริงๆทั้ง 2 ค่ายหลัก และยังมาพร้อมกับ พอร์ตแบบ Type-C และ รูไมค์ตัวที่ 2 และ ลำโพงหลัก ที่ใช้เทคโนโลยี BoomBox และ จูนเสียงจาก Meridian ครับ
ในส่วนขอบด้านบนนั้นเรียบๆไม่มีอะไรครับ จะเป็นไมค์ตัวที่ 2 สำหรับอัดเสียง และจะเห็นความเงาขอบตัวขอบทำได้ดีและสวยมากๆโทนสีแดงดูดีเลยแหละ และกล้องหลังก็ไม่นูนเท่าไรครับผม
ตัวฝาหลังรุ่นนี้เป็นการออกแบบที่แปลกตาสำหรับค่ายนี้ เรียกได้ว่าทำออกมาสวยและดูดีมากๆ สีแดงแบบด้านๆขุ่นๆแต่สะท้อนแสงได้สวยงามนวลตา “Silky Blast” ใช้เทคโนโลยีฟิล์มเคลือบผิวของกระจกฝาหลัง ทำให้นุ่มตอนสัมปัสด้วยนิดหน่อย คล้ายๆกระจกฝ้าแบบนั้นเลย เป็นฝาหลังที่สวยมากๆไม่ต้องมีไล่เฉดสีอะไรเยอะแยะ แต่สวยด้วยตัวมันเองและแสงเงาดูหรูมากๆ กล้องหลังวางแนวนอน 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช รวมถึงสแกนนิ้วด้านหลังตัวเครื่องครับ
SPEC
- Android 8.1 Oreo ทับด้วย LG UX 7.0+
- หน้าจอ POLED ขนาด 6.4 นิ้ว 19.5 : QHD+ Gorilla Glass 5 + Dolby Vision และ HDR10
- CPU Qualcomm Snapdragon 845
- GPU Adreno 630
- RAM 6 GB LPDDR4X
- STORAGE : 128 GB UFS 2.1
- กล้องหลัง 3 ตัว กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 16MP f/1.9 + กล้องหลัก ระยะปกติ 12 MP f/1.5 + กล้องตัวที่ 3 ระยะเทเล 12 MP f/2.4
- กล้องหน้าคู่ 8 MP f/1.9 + 5 MP f/2.2 90 องศา
- รองรับ IP68 รองรับการกันกระเเทกระดับ MIL – STD 810G
- ระบบเสียง Quad DAC 32 Bit Hi – Res Audio จาก Meridian Audio
- Wi-Fi 802.11 a,b,g,n,ac / Bluetooth 5.0 BLE / NFC, LTE-A 4 Band CA
- DTS: X Surround Sound และ ลำโพงคู่ Boombox Speaker
- แบต 3300 mAh รองรับ QuickCharge 4.0 และรองรับ Wireless Charging
- สี : Aurora Black, New Platinum Gray , New Moroccan Blue และ Carmine Red
PERFORMANCE
LG V40 ThinQ ยังคงเป็น Snapdragon 845 ตัวล่าสุด ณ เวลาที่เปิดตัวนะครับ ทำคะแนนไปได้ 218979 ใน Antutu ถือว่าน้อยกว่าหลายตัวพอสมควร และถ้าทดสอบต่อเนื่องไปอีกรอบ เหลือประมาณ 18-19 ครับ จริงๆ 22 ก็จะเท่าๆกับ G7 เลย และ สำหรับหน่วยความจำเป็น UFS2.1 ส่วนคะแนน 3D Mark ก็ประมาณ 3070 เอาจริงๆเมื่อเทียบกับตัว 845 รุ่นอื่นๆนั้นถือว่าได้น้อยกว่านิดหน่อยสำหรับคะแนนเพราะไม่แน่ใจว่า LG นั้นไม่ให้ทำงานเต็มที่เพื่อรักษาอายุ การใช้งาน จอ บอร์ด ให้ไม่พังหรือเสื่อมไวอะไรแบบพวกนั้นไหมนะครับ จึงไม่ได้ทำงานแบบเต็มที่ของตัว CPU เหมือนรุ่นก่อนๆที่ปรับนั้นเอง เพราะลองทดสอบยังไงก็คะแนนไม่หนีจากนี้เท่าไรครับ
SOFTWARE AND UI
LG V40 ThineQ มาด้วย Android 8.1 พร้อมด้วย LG UX 7.0 ที่มีหน้าตาเรียบง่ายสวยงามมากขึ้น และ ลื่นขึ้น หน้าตา Lock นั้นมาด้วยการบอกสภาพอากาศแบบ เรียลไทม์ ถือว่าสวยงามดีมาก ไม่มี Appdrawer แต่สามารถเลือกเปิดให้มีได้ครับ ในด้านของเลขแจ้งเตือนแอพมีปกติ การแจ้งเตือนไวพอสมควร
สำหรับการลากลงมา Quicksetting ลากลงมาก็มีให้เลือกมากมายครับปรับแสงหน้าจอ แต่ถ้าลอากลงมาอีกรอบก็จะมีตั้งค่ามากขึ้น และ สามารถเลือกซิมที่จะใช้ข้อมูลได้ด้วย หรือจะเปลี่ยน User ก็ได้เช่นกัน แบ่งหน้าจอทำได้ปกติ
สำหรับคียบอร์ดยังเป็นไม่กี่แบรนด์ที่ยังคงทำ คียบอร์ดของตัวเองอยู่ และใช้งานได้ดีครับ พื้นที่ภายใน 128 GB เหลือให้ใช้ ไม่รวมแอพ ไม่รวม ภาพถ่าย เหลือใช้ได้ประมาณ 110GB และ RAM 6 GB เหลือประมาณ 2 GB
ตัว Floating Bar นั้นฟีเจอร์ที่เปิดตัวมาแทนหน้าจอที่สองของตระกูล V20 พวกนั้นถ้าหากใครจำกันได้และ ทำให้เข้าถึงการตั้งค่าแบบรวดเร็วถ่ายหน้าจออะไร หรือจะ ควบคุมได้เหมือนมีจอที่ 2 นั้นเอง ปุ่มรวมถึง Gesture ในแต่ละปุ่มว่าจะไว้ทำอะไรบ้างครับ เปิดกล้อง แคปหน้าจออะไรแบบนั้น และ V40 นั้นมีปุ่มด้านซ้ายเพิ่มเข้ามาครับตั้งค่าได้ตามใจเลยว่าจะเปิดใช้งานอะไรในส่วนของ Google และ โหมดเกมในการเล่นเกมก็มีปรับกราฟฟิคแต่ละเกม ได้ว่าจะปรับแบบไหนครับ และ การปลดล็อคก็ยังมีครบทั้ง สแกนใบหน้า เสียง Knockcode มีมาให้ครบครับ
ในส่วนของเสียงก็สามารถปรับแต่งได้เยอะตามสไตล์ LG ทั้งระบบเสียง DTX / Quad DAC และ บาลานซ์ต่างๆซึ่งระบบเสียงจูนโดย Meridian Audio ครับ และ การปรับหน้าจอติ่งที่มีมาให้ค่อข้างอิสระ ทั้งปิดติ่ง แบบสีเทา สีดำ สีรุ่ง ขอบโค้งหรือไม่อย่างไรเป็นยี่ห้อที่แต่งติ่งหน้าจอได้เยอะมากๆ และ แถบปุ่มโฮมก็สามารถสลับได้ เปลี่ยนสีได้ แต่ไม่เจอการใช้งานแบบเต็มหน้าจอ ที่จะทำให้ปุ่มหายไปนะครับสำหรับแบรนด์นี้
THEME
สำหรับ Theme ก็มีมาให้เลือกหลากหลายครับหน้าตาแบบน่ารักๆหรือเท่ๆก็มีเลือก รวมถึงปรับเปลี่ยนตัว ไอคอม ตัวฟอนต์ได้ และ หน้าตารวมๆของแอพโทนสีก็จะปรับตามและสามารถปรับเปลี่ยนหน้าตา Always on ได้ด้วยเช่นกัน
SCREEN
หน้าจอของรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอที่ดีกว่าเดิม ทั้งมุมมอง ความสว่าง และตัวการออกแบบครับ เป็นหน้าจอแบบ POLED FullVision Display ขนาด 6.4 นิ้ว พร้อมขอบข้างบาง 1.6 มิลลิเมตร ทำได้บางมากๆ ส่วนตัวเทคโนโลยี Plastic OLED ก็ได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่เพี้ยนแบบรุ่นเดิมในมุมมองเอียงๆ และ สีทำได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ และจากที่ลองความสว่างในการสู้แสงกลางแจ้งก็เร่งได้ค่อนข้างเยอะมากๆ สู้ได้สบายตามสไตล์ OLED ครับ ส่วนเรื่องสีก็สวยและไม่เวอร์เกินไป แต่เรื่องของความแม่นยำทำได้ดีขึ้นครับ ในหลายๆมุมมองในการใช้งาน
[CR] รีวิว LG V40 ThinQ เรือธง 3 เลนส์กล้องมุมกว้าง และ ระบบเสียง QuadDAC
LG เมื่อพูดถึงแบรนด์นี้ ในยุคสมัยนี้แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันทำมือถือ อันนี้เจอกับตัวเองหลายรอบแล้วสำหรับผมจริงๆเป็นเรื่องน่าเสียดายนะเมื่อพูดถึงแบรนด์นี้ที่ในตอนนี้ถือว่าเงียบเหงามากๆและเลิกทำตลาดในไทยกันไปแล้ว สถานการณ์คล้ายๆกับอีก 2 แบรนด์ SONY HTC เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์อินดี้ทั้ง 3 ค่ายที่จับมือกันหายไปพร้อมน้าพร้อมตากันทั้งหมด มันเป็นแบรนด์ที่มันมีดีอยู่นะจริงๆแต่คนทั่วไปรู้จักกันน้อยมาก แต่ด้วยที่เรานั้นสายอินดี้ จึงไม่พลาดที่จะเอามันมารีวิวซะหน่อยเพราะค่ายนี้เราก็ไม่ค่อยพลาดกันอยู่แล้วนั้นเองสำหรับตระกูล V จากทาง LG ในรุ่นก่อนๆนั้นทาง LG เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกๆที่ทำกล้องมุมกว้างมาตลอดครับ และได้พัฒนามาเรื่อยๆจนตอนนี้มี 3 เลนส์ทุกระยะกันเลย และยังมาพร้อมฝาหลังที่ค่อนข้างสวยและการออกแบบด้านหน้าแบบเต็มจอและมีติ่งหน้าจอ รวมถึงกล้องหน้ามุมกว้างก็มาด้วยเช่นกันครับ แต่ที่น่าเสียดายหน้าจอ ที่ 2 ที่เคยโดดเด่นนั้นหายไปแล้วตั้งแต่รุ่นก่อนหน้า
LG V40 ThinQ นั้นเปิดตัวมาเป็นรุ่นล่าสุดของทางค่าย ก่อนที่ G8 จะมาในไม่กี่วันนี้ครับ V40 นั้นเป็นเรือธงตระกูล V ในครั้งนี้เปิดตัวมาเป็นครั้งแรกสำหรับ 3 กล้องหลังที่มี ทั้งระยะ มุมกว้าง มุมปกติ และ ระยะเทเลครับ และ กล้องหน้ามาถึง 2 ตัว ระยะปกติ และ ระยะมุมกว้างครับ เป็นตัวแรกเลยที่มีมาถึง 5 กล้องรวมทั้งหมด และยังได คุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่นระดับ IP68 หรือด้านความคงทนมาตรฐานทหาร MIL-STD-810G และในด้านระบบเสียงนั้นยังคงใช้ 32-bit QuadDAC จูนเสียงโดย Meridian Audio ไม่ใช่ B&O แล้วนะครับ และ ยังมีรูหูฟัง 3.5 มม. อยู่ด้วยถือว่าเจ๋งเลยแหละ ส่วนสเปคก็ Snap 845 เช่นกัน
ส่วนในด้านราคานั้นตัวนี้แน่นอนว่าในไทยนั้น หายไปแล้วไม่กลับมาแล้ว จึงต้องหิ้วกันล้วนๆครับซึ่งตัวนี้ ราคาอยู่ที่ 23,900 บาทไทยมีทั้งสี แดง น้ำเงิน ดำ ครับผม
UNBOX
ตัวกล่องมาในโทนสีดำเช่นเดิมครับ เรียบๆหรูตัวกล่องนั้นเขียนชื่อรุ่นปกติ แต่ไม่มีเขียน Meridian Audio อะไร ส่วนอุปกรณ์ตัวกล่องนั้นก็มีมาให้ครบครับ เสียดายไม่มีฟิลม์ หรือ เคสแถสมาให้ ส่วนกล่องนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากครับไม่เหมือนตอน V20 ที่ตัวกล่องทำได้น่าสนใจเลยในแง่ของการออกแบบนะ ส่วนอุปกรณ์ที่มีมาให้นั้นมีตามข้างล่างเลย
- ตัวเครื่อง LG V40 ThinQ
- หูฟัง LG IN-EAR
- ผ้าเช็ดตัวเครื่องสีดำ
- สายชาร์จ Type-C
- Adaptor ชาร์จไฟ QC 3.0
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
DESIGN
การออกแบบสำหรับรุ่นนี้ดูผ่านๆอาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักจาก V30 แต่ก็ปรับทั้งหน้าและหลังรวมถึงการใช้วัสดุด้วยนั้นเองครับ สำหรับ V40 ตัวนี้วัสดุด้านหลังมีการโปรโมทว่ามันจะแปลกใหม่ซึ่งดูจริงๆมันจะแบบด้านๆก็ถือว่าสวยและรักษาง่ายเหมือนกันครับ การออกแบบข้างหน้ามีติ่งมาเหมือนเดิม และเต็มขอบจอมากขึ้น ส่วนความหนาบางน้ำหนักอะไรทำได้ดีไม่ได้หนักหรือหนาเกินไปครับ ดีไซน์รวมๆไม่ได้หนีจากเดิมแต่เพิ่มกล้องหลัง เป็น 3 ตัว
หน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอไร้ขอบที่มีติ่งหน้าจอที่มีขนาดพอสมควรครับ แตกต่างจากรุ่น V30 ที่เป็นแบบไม่มีติ่ง ซึ่งการออกแบบด้านหน้าก็ยังคงมีความโค้งเล็กน้อยในส่วนหน้าจอขอบทั้ง 2 ข้างครับ หน้าจอ POLED ขนาด 6.4 นิ้ว 19.5 : QHD ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 หน้าจอสวยงามขึ้นและคุณภาพดีขึ้นพอสมควรเลยแหละ
ทางด้านขอบล่างหน้าจอก็มีขนาดไม่ได้บางมากแต่ก็เท่าๆกับรุ่นอื่นๆในสมัยนี้ครับที่อาจจะไม่ได้บางเท่าด้านบน ส่วนปุ่มควบคุมบนตัวจอก็สามารถเปลี่ยนตำแหน่งอะไรได้ ว่าจะเอากี่ปุ่มอะไรพวกนี้ครับ
ในส่วนของขอบบนหน้าจอตัวนี้จะเป็นแบบติ่งแล้วที่ไม่ใช่แบบหยดน้ำ เพราะว่าต้องมีกล้องหน้าถึง 2 ตัวและช่องลำโพงอีกด้วยครับ ส่วนไฟแจ้งเตือนไม่มีมาแล้วสำหรับรุ่นนี้ แต่แน่นอนว่าติ่งหน้าจอ รอยบากปิดได้เนียนๆและสวย
ขอบด้านซ้ายของตัวเครื่องรุ่นนี้ใชัวัสดุเงาสวยงามตัดกับฝาหลังด้านได้อย่างสวย และปุ่ม เพิ่มลดเสียง และ ปุ่มพิเศษสำหรับใช้งานเรียก Ai Google อะไรพวกนี้ครับ คล้ายๆในตัว G7+ และ พวกปุ่ม Bixby ใน Samsung นั้นเอง
มาที่ด้านขวา ตัวนี้จะเป็นปุ่ม Power เปิดปิดเครื่องครับ และ รุ่นนี้ใช้ถาดซิมแบบ Dualsim เพิ่ม Micro-Sd ได้ด้วยครับ ตัวช่องถาดซิมนั้นจะเป็นวางแนวยาวๆ เลยอาจจะทำให้ช่องมันดูใหญ่อะไรกว่าชาวบ้านเค้า
ด้านขอบล่าง นั้นมัน รูหูฟัง 3.5มม. เกาหลีนั้นไม่ยอมตัดทิ้งกันเลยจริงๆทั้ง 2 ค่ายหลัก และยังมาพร้อมกับ พอร์ตแบบ Type-C และ รูไมค์ตัวที่ 2 และ ลำโพงหลัก ที่ใช้เทคโนโลยี BoomBox และ จูนเสียงจาก Meridian ครับ
ในส่วนขอบด้านบนนั้นเรียบๆไม่มีอะไรครับ จะเป็นไมค์ตัวที่ 2 สำหรับอัดเสียง และจะเห็นความเงาขอบตัวขอบทำได้ดีและสวยมากๆโทนสีแดงดูดีเลยแหละ และกล้องหลังก็ไม่นูนเท่าไรครับผม
ตัวฝาหลังรุ่นนี้เป็นการออกแบบที่แปลกตาสำหรับค่ายนี้ เรียกได้ว่าทำออกมาสวยและดูดีมากๆ สีแดงแบบด้านๆขุ่นๆแต่สะท้อนแสงได้สวยงามนวลตา “Silky Blast” ใช้เทคโนโลยีฟิล์มเคลือบผิวของกระจกฝาหลัง ทำให้นุ่มตอนสัมปัสด้วยนิดหน่อย คล้ายๆกระจกฝ้าแบบนั้นเลย เป็นฝาหลังที่สวยมากๆไม่ต้องมีไล่เฉดสีอะไรเยอะแยะ แต่สวยด้วยตัวมันเองและแสงเงาดูหรูมากๆ กล้องหลังวางแนวนอน 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช รวมถึงสแกนนิ้วด้านหลังตัวเครื่องครับ
SPEC
- Android 8.1 Oreo ทับด้วย LG UX 7.0+
- หน้าจอ POLED ขนาด 6.4 นิ้ว 19.5 : QHD+ Gorilla Glass 5 + Dolby Vision และ HDR10
- CPU Qualcomm Snapdragon 845
- GPU Adreno 630
- RAM 6 GB LPDDR4X
- STORAGE : 128 GB UFS 2.1
- กล้องหลัง 3 ตัว กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 16MP f/1.9 + กล้องหลัก ระยะปกติ 12 MP f/1.5 + กล้องตัวที่ 3 ระยะเทเล 12 MP f/2.4
- กล้องหน้าคู่ 8 MP f/1.9 + 5 MP f/2.2 90 องศา
- รองรับ IP68 รองรับการกันกระเเทกระดับ MIL – STD 810G
- ระบบเสียง Quad DAC 32 Bit Hi – Res Audio จาก Meridian Audio
- Wi-Fi 802.11 a,b,g,n,ac / Bluetooth 5.0 BLE / NFC, LTE-A 4 Band CA
- DTS: X Surround Sound และ ลำโพงคู่ Boombox Speaker
- แบต 3300 mAh รองรับ QuickCharge 4.0 และรองรับ Wireless Charging
- สี : Aurora Black, New Platinum Gray , New Moroccan Blue และ Carmine Red
PERFORMANCE
LG V40 ThinQ ยังคงเป็น Snapdragon 845 ตัวล่าสุด ณ เวลาที่เปิดตัวนะครับ ทำคะแนนไปได้ 218979 ใน Antutu ถือว่าน้อยกว่าหลายตัวพอสมควร และถ้าทดสอบต่อเนื่องไปอีกรอบ เหลือประมาณ 18-19 ครับ จริงๆ 22 ก็จะเท่าๆกับ G7 เลย และ สำหรับหน่วยความจำเป็น UFS2.1 ส่วนคะแนน 3D Mark ก็ประมาณ 3070 เอาจริงๆเมื่อเทียบกับตัว 845 รุ่นอื่นๆนั้นถือว่าได้น้อยกว่านิดหน่อยสำหรับคะแนนเพราะไม่แน่ใจว่า LG นั้นไม่ให้ทำงานเต็มที่เพื่อรักษาอายุ การใช้งาน จอ บอร์ด ให้ไม่พังหรือเสื่อมไวอะไรแบบพวกนั้นไหมนะครับ จึงไม่ได้ทำงานแบบเต็มที่ของตัว CPU เหมือนรุ่นก่อนๆที่ปรับนั้นเอง เพราะลองทดสอบยังไงก็คะแนนไม่หนีจากนี้เท่าไรครับ
SOFTWARE AND UI
LG V40 ThineQ มาด้วย Android 8.1 พร้อมด้วย LG UX 7.0 ที่มีหน้าตาเรียบง่ายสวยงามมากขึ้น และ ลื่นขึ้น หน้าตา Lock นั้นมาด้วยการบอกสภาพอากาศแบบ เรียลไทม์ ถือว่าสวยงามดีมาก ไม่มี Appdrawer แต่สามารถเลือกเปิดให้มีได้ครับ ในด้านของเลขแจ้งเตือนแอพมีปกติ การแจ้งเตือนไวพอสมควร
สำหรับการลากลงมา Quicksetting ลากลงมาก็มีให้เลือกมากมายครับปรับแสงหน้าจอ แต่ถ้าลอากลงมาอีกรอบก็จะมีตั้งค่ามากขึ้น และ สามารถเลือกซิมที่จะใช้ข้อมูลได้ด้วย หรือจะเปลี่ยน User ก็ได้เช่นกัน แบ่งหน้าจอทำได้ปกติ
สำหรับคียบอร์ดยังเป็นไม่กี่แบรนด์ที่ยังคงทำ คียบอร์ดของตัวเองอยู่ และใช้งานได้ดีครับ พื้นที่ภายใน 128 GB เหลือให้ใช้ ไม่รวมแอพ ไม่รวม ภาพถ่าย เหลือใช้ได้ประมาณ 110GB และ RAM 6 GB เหลือประมาณ 2 GB
ตัว Floating Bar นั้นฟีเจอร์ที่เปิดตัวมาแทนหน้าจอที่สองของตระกูล V20 พวกนั้นถ้าหากใครจำกันได้และ ทำให้เข้าถึงการตั้งค่าแบบรวดเร็วถ่ายหน้าจออะไร หรือจะ ควบคุมได้เหมือนมีจอที่ 2 นั้นเอง ปุ่มรวมถึง Gesture ในแต่ละปุ่มว่าจะไว้ทำอะไรบ้างครับ เปิดกล้อง แคปหน้าจออะไรแบบนั้น และ V40 นั้นมีปุ่มด้านซ้ายเพิ่มเข้ามาครับตั้งค่าได้ตามใจเลยว่าจะเปิดใช้งานอะไรในส่วนของ Google และ โหมดเกมในการเล่นเกมก็มีปรับกราฟฟิคแต่ละเกม ได้ว่าจะปรับแบบไหนครับ และ การปลดล็อคก็ยังมีครบทั้ง สแกนใบหน้า เสียง Knockcode มีมาให้ครบครับ
ในส่วนของเสียงก็สามารถปรับแต่งได้เยอะตามสไตล์ LG ทั้งระบบเสียง DTX / Quad DAC และ บาลานซ์ต่างๆซึ่งระบบเสียงจูนโดย Meridian Audio ครับ และ การปรับหน้าจอติ่งที่มีมาให้ค่อข้างอิสระ ทั้งปิดติ่ง แบบสีเทา สีดำ สีรุ่ง ขอบโค้งหรือไม่อย่างไรเป็นยี่ห้อที่แต่งติ่งหน้าจอได้เยอะมากๆ และ แถบปุ่มโฮมก็สามารถสลับได้ เปลี่ยนสีได้ แต่ไม่เจอการใช้งานแบบเต็มหน้าจอ ที่จะทำให้ปุ่มหายไปนะครับสำหรับแบรนด์นี้
THEME
สำหรับ Theme ก็มีมาให้เลือกหลากหลายครับหน้าตาแบบน่ารักๆหรือเท่ๆก็มีเลือก รวมถึงปรับเปลี่ยนตัว ไอคอม ตัวฟอนต์ได้ และ หน้าตารวมๆของแอพโทนสีก็จะปรับตามและสามารถปรับเปลี่ยนหน้าตา Always on ได้ด้วยเช่นกัน
SCREEN
หน้าจอของรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอที่ดีกว่าเดิม ทั้งมุมมอง ความสว่าง และตัวการออกแบบครับ เป็นหน้าจอแบบ POLED FullVision Display ขนาด 6.4 นิ้ว พร้อมขอบข้างบาง 1.6 มิลลิเมตร ทำได้บางมากๆ ส่วนตัวเทคโนโลยี Plastic OLED ก็ได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่เพี้ยนแบบรุ่นเดิมในมุมมองเอียงๆ และ สีทำได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ และจากที่ลองความสว่างในการสู้แสงกลางแจ้งก็เร่งได้ค่อนข้างเยอะมากๆ สู้ได้สบายตามสไตล์ OLED ครับ ส่วนเรื่องสีก็สวยและไม่เวอร์เกินไป แต่เรื่องของความแม่นยำทำได้ดีขึ้นครับ ในหลายๆมุมมองในการใช้งาน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้