สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เอาที่ผมเคยบวชนะ ขอคุยหน่อยว่าตอนนั้นท่องและสวดปาฏิโมกข์ได้ อุปสรรคในการท่องจำหลักๆเลยคือ ท้อใจ ขี้เกียจ และง่วง บวกกับวิธีท่องที่ผิด
วิธีให้มันจำง่ายๆคือ ให้คุณอ่านบทสวดท่อนที่จะท่อง(ไม่ต้องยาวมาก เอาแค่คิดว่าพอจำไหว)แล้วปิดหนังสือ แล้วนึกแล้วก็เปล่งเสียงท่องออกมา (ถ้าท่องในใจเดี๋ยวมันง่วง) ถ้าจำไม่ได้ให้เปิดหนังสือดูใหม่แล้วปิดอีก ทำทีละประโยค พอได้ซักสองสามประโยคแล้วเอามาเชื่อมกัน แล้วก็ท่องทวนทั้งประโยคหน้าและหลัง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆทวนซ้ำไปซ้ำมา ค่อยๆเชื่อมไป ***อย่าเพิ่งท่องเพิ่มประโยคโดยที่ของเก่ายังจำไม่ได้เด็ดขาด*** หลักๆต้องปิดหนังสือให้มันเกิดการนึกขึ้นมา คือเราจะเน้นจำมากกว่าการอ่านการนึกถึงบ่อยๆทำให้จำได้ขึ้นใจ ถ้าเอาแต่เปิดอ่านแล้วท่องซ้ำๆๆมันจะช้า
และเดินท่องนี่ดีนักแหละ ทำให้ไม่ง่วง แต่ถ้าท่องไปแล้วมันเบลอๆหรือเครียดเกินไปก็อย่าฝืนให้หยุดไปทำอะไรก็ได้ก่อน เพราะแปลว่าสมองมันไม่ไหวละ ท่องต่อก็ไม่จำ เสียแรงเปล่า
ปล วิธีที่ผมสอนคือวิธีการท่องแบบ"ขึ้นใจ"คือเมื่อขึ้นใจแล้วจะไม่เสียเวลานึกเลย จะสวดแบบลื่นไหลมาก เอาไปดัดแปลงในการท่องจำแบบอื่นก็ได้
วิธีให้มันจำง่ายๆคือ ให้คุณอ่านบทสวดท่อนที่จะท่อง(ไม่ต้องยาวมาก เอาแค่คิดว่าพอจำไหว)แล้วปิดหนังสือ แล้วนึกแล้วก็เปล่งเสียงท่องออกมา (ถ้าท่องในใจเดี๋ยวมันง่วง) ถ้าจำไม่ได้ให้เปิดหนังสือดูใหม่แล้วปิดอีก ทำทีละประโยค พอได้ซักสองสามประโยคแล้วเอามาเชื่อมกัน แล้วก็ท่องทวนทั้งประโยคหน้าและหลัง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆทวนซ้ำไปซ้ำมา ค่อยๆเชื่อมไป ***อย่าเพิ่งท่องเพิ่มประโยคโดยที่ของเก่ายังจำไม่ได้เด็ดขาด*** หลักๆต้องปิดหนังสือให้มันเกิดการนึกขึ้นมา คือเราจะเน้นจำมากกว่าการอ่านการนึกถึงบ่อยๆทำให้จำได้ขึ้นใจ ถ้าเอาแต่เปิดอ่านแล้วท่องซ้ำๆๆมันจะช้า
และเดินท่องนี่ดีนักแหละ ทำให้ไม่ง่วง แต่ถ้าท่องไปแล้วมันเบลอๆหรือเครียดเกินไปก็อย่าฝืนให้หยุดไปทำอะไรก็ได้ก่อน เพราะแปลว่าสมองมันไม่ไหวละ ท่องต่อก็ไม่จำ เสียแรงเปล่า
ปล วิธีที่ผมสอนคือวิธีการท่องแบบ"ขึ้นใจ"คือเมื่อขึ้นใจแล้วจะไม่เสียเวลานึกเลย จะสวดแบบลื่นไหลมาก เอาไปดัดแปลงในการท่องจำแบบอื่นก็ได้
แสดงความคิดเห็น
รบกวนถามคนที่บวชเป็นพระ เขามีวิธีจำบทสวดมนต์ได้ยังไงคะ