สำหรับ Smartwatch ในไทยก็ค่อนข้างเงียบเหงาถ้าไม่ใชพวก Apple Watch อะไรแบบนั้น ตลาด Android Wear ก็ไม่ค่อยปังเท่าไรนักตัวเลือกน้อยลงเรื่อยๆสำหรับตลาดกลุ่มนี้ แต่ก็ยังดีที่หลายๆค่ายก็ยังพอเอาเข้ามาขายกันบ้างและในครั้งนี้ล่าสุดเป็นทางHuawei Watch GT ที่เอาเข้ามาขายในไทย แต่จากที่ลองไม่กล้าเรียกว่า Smartwatch เท่าไรเลย เพราะมันทำอะไรได้น้อยมากๆครับในแง่ของ Smartwatch แต่ถ้าในแง่การออกกำลัง ใช้งานแบบนั้นก็ถือว่าทำได้ดีอีกตัว เป็น Fitness Band อะไรแบบนั้นมากกว่าครับ ตัวนี้ไม่ใช่ Android Wear แล้วด้วยแต่ก็ ด้วยราคาที่ 5990 บาท เลยอาจจะทำให้หลายๆคนสนใจและอาจจะไม่เน้นอะไรมาก แบตอึดๆเลยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆอีกรุ่นเลยแหละ เรามาลองดูรีวืวกันครับว่า มันทำอะไรได้บ้าง และใช้งานจริงๆเป็นยังไง Huawei Watch GT เปิดตัวมาด้วยการชูจุดเด่นแบตอึด 2 อาทิตย์ได้สบายๆในการใช้งานทั่วไป ส่วน การออกแบบสวยงาม ฝาครอบเซรามิก, Shell สแตนเลสและเคลือบ DLC มากับปุ่มมด้านข้าง 2 เม็ด หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว พร้อมรองรับการจับ HUAWEI TruSeen ™ 3.0 ทั้งชีพจรอะไรต่างๆ และยังมี ระบบการระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียมถึง 3 ตัว (GPS, GLONASS, GALILEO) และยังพวกฟีเจอร์ HUAWEI TruSleep™ 2.0 สามารถตรวจจับปัญหาการนอนได้อีกด้วย และ ยังมีการวัดความดันบรรยากาศอะไรได้ด้วยครับ Huawei Watch GT  สำหรับราคาในไทย Huawei ก็เอาเข้ามาขายแล้วที่ 5,990 บาทไทย มีแค่แบบเดียวนะครับหาซื้อกันได้เลย  UNBOX

ตัวกล่องมาในธีมสีดำ ออกแนวหรูๆนิดหน่อยครับ เปิดตัวกล่องออกมาจะเห็นนาฬิกาวางนอนอยู่พร้อมบอกชื่อรุ่นอะไรชัดเจน ส่วนอุปกรณ์ในตัวกล่องมีมาให้ครบ ทั้งสายชาร์จ และ  แท่นชาร์จ รวมถึงคู่มือแต่ไม่มี Adaptor มาให้นะ
DESIGN

การออกแบบตัวนี้ต้องบอกว่าตอนเห็นคือสวยดูดีครับ ออกไปทางแนวหรู ดูดีใช้งานทั่วไปมากกว่าสายออกกำลังกาย คือสามารถใส่ได้ทุกวัน และใส่ออกงานได้เลยแหละ ดีไซน์ดูดีมากๆทั้งที่เป็นนาฬิกาที่เน้นออกกำลังมากกว่า ก็แอบแปลกใจที่ออกมาในแนวทางนี้ครับน่าจะเน้นใช้งานทั่วไป ใส่ได้ทุกวันมากกว่าด้วย ส่วนวัสดุน้ำหนักอะไร กลางๆครับเป็นพลาสติก +สแตนเลส ผสมกันไป ไม่ได้ดูเบาเกินไป และไม่ได้หนักเกินไป ทั้ง ชาย และ หญิง ใส่ได้แน่ๆครับ
การออกแบบด้านหน้ามาในโทนสีดำล้วนหน้าจอวงกลมเต็ม สู้แดดได้ดีและคมชัด ส่วนรอบๆหน้าปัดก็เป็นฝาครอบเซรามิก, Shell สแตนเลสและเคลือบ DLC ครับประกบกันได้เนียนดี รวมถึงน้ำหนักไม่ได้เบาเกินไป ขายึดสายทั้ง 2 ข้างก็ทำได้ดีครับมีความแข็งแรงและรองรับการเปลี่ยนสายได้ง่าย ส่วนด้านหลังเป็นพลาสติกด้าน พร้อมเซนเซอร์ ทั้ง 4 จุดและ แม่เหล็กสำหรับชาร์จไฟเข้าครับ ตัวน็อตยึดอะไรมีมาให้ 4 มุมตรงตัวเรือนด้านหลังไม่มีเขียนอะไรบอก

สายตัวนี้เป็นสายแบบ ซิลิโคนทั้งเส้น สามารถเปลี่ยนสายทั่วไปได้ตามร้านนาฬิกา ใช้สายขนาด 22 มม.สามารถเปลี่ยนได้เลย และสายเดิมก็ค่อนข้างถอดได้ง่าย เป็นสลักแบบในภาพด้านบนเลยครับ และตัวสายนั้นมีตัวช่องล็อคสำหรับใส่ข้อมือรองรับขนาดใหญ่ๆหรือคนข้อมือเล็กได้ดีมาก เจาะรูยาวและเยอะมากเลยแหละ สาวๆใช้ได้สบายครับ ด้านข้างตัวเรือนของนาฬิกา จะเห็นถึงความหนาที่ไม่ได้หน้าอะไรมากครับ ผสมกับวัสดุ พลาสติก เซรามิค และ สแตนแลส     ซึ่งบอดี้หลักๆจะเป็นสแตนเลสนั้นเอง ส่วนปุ่มทั้งหมด มี 2 ปุ่มคือด้านขวาครับกดสั่งงานอะไรได้ แต่ไม่สามารถหมุนอะไรได้ครับเป็นปุ่มกดปกติ ตัวนี้ไม่มีไมค์ ไม่มีลำโพงอะไรทั้งนั้นครับในด้านซ้ายของตัวเรือน  SPEC

- AMOLED 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454, PPI 326
- Light OS ของทาง Huawei ** ไม่ใช่ Android Wear **
- RAM 16 MB  // ROM 128 MB
- GPS, GLONASS, GALILEO
- Bluetooth 4.2
- Accelerometer , Gyroscope, Magnetometer, Optical heart rate,
- Ambient light sensor , Barometer
- กันน้ำได้ที่ความลึก 50 เมตร หรือ 5 ATM
- แบตเตอรี่ ใช้งานได้ 14 วัน / 22 ชั่วโมงสำหรับ โหมดออกกำลังกาย / 30 วันแบบไม่วัดชีพจร
- ชาร์จไฟเข้า 5V 0.5 A / 1 A / 1.5 A / 2 A
- รองรับ  Android OS 4.4 ขึ้นไป หรือ iOS 9.0 ขึ้นไป
- สายมีขนาด 22 m.m
- ขนาด 46.5 x 46.5 x 10.6 มม
- น้ำหนักทั้งหมด  46 กรัม ไม่รวมสาย

SOFTWARE

ทางด้านระบบที่ใช้ในมือถือนั้นต้องใช้แอพ Huawei Health นะครับ โหลดจาก Playstore ได้เลยไม่ต้องไปสแกนบนตัวนาฬฺกาให้ยุ่งยากนะครับ เหมือนโหลดมาแล้วก็เชื่อมต่อปกติได้เลยไม่มีอะไรยากครับ เปิด Bluetooth บนมือถือแล้วมันก็จะจับหามาให้ แอปนั้นใช้งานง่ายครับ มีภาษาไทยอะไรเรียบร้อย และ หน้าตาใช้งานไม่ยุ่งยากครับผม
หน้าตาในการใช้งานแอปนั้นจะมี 3 หน้าหลักๆคือ หน้าหลักภาพซ้ายสุด คอยสรุปทั้งหมดในเรื่องของการออกกำลัง หน้ากลางคือการเข้าโหมด ออกกำลังที่สามารถเข้าผ่านมือถือหรือ นาฬิกาก็ได้ และยังมี ครูฝึกให้เราด้วย ส่วนขวาสุดนั้นเป็นข้อมูลส่วนตัว การตั้งค่าเป้าหมายและน้ำหนักอะไรพวกนี้ไปตั้งค่าได้เลยครับ และจะเห็นสถานะว่าเชื่อมต่อไหม เมื่อเข้ามาในส่วนนาฬิกานั้นก็จะเป็นรายละเอียดว่าจะให้ตั้งแจ้งเตือนอะไรบ้างแอปไหนบ้าง รวมถึง ข้อมูลการแจ้งเตือนต่าง เรื่องของชีพจรจับตลอดเวลาไหม แจ้งเตือนนั่งนานเกินไป หรือ สภาพอากาศพวกนี้ครับตั้งค่าได้หมด รวมถึงการกูข้อมูลทั้งเรื่อง ระยะทาง แคลที่เผาพลาญไป พวกนี้ครับ และอัพเดทซอฟท์อแวร์ในหน้านี้ได้เลยบรรทัดล่างๆ FEATURE

ฟีเจอร์ในการใช้งานนั้นต้องบอกว่า มันไม่ได้เหมือนพวก Smartwatch ที่แอดมินเคยใช้งานมากันเท่าไร ฟีเจอร์ที่ใช้งานพวกนั้นไม่ค่อยจะรองรับ เช่นการฟังเพลง แล้วกดเปลี่ยนเพลงบนนาฬิกาอะไรพวกนี้ ดูข้อความตอบกลับอะไรก็ไม่สามารถทำได้ จริงๆมันเลยเรียกว่า Smart ได้ไม่เต็มปากเท่าไร จะไปทาง Fitness Band มากกว่าครับแต่แค่มีหน้าปัดให้ใช้งานกัน และมันไม่สามารถลงแอปอะไรเพิ่มเติมได้เลย รวมถึงไม่สามารถโหลดหน้าปัดอะไรเพิ่มได้เลย  ส่วนฟีเจอร์ที่มันน่าสนใจที่มันทำได้ก็มีเช่นการวัดชีพจร / มี GPS ในตัว / การจับการนอนหลับ /  Tracking การออกกำลังต่างๆ / แจ้งเตือนเวลามีคนโทรมา ส่งข้อความ / ตั้งนาฬิกาปลุก / เข็มทิศ / สภาพอากาษ / วัดความดันบรรยากาศ ความสูงต่างๆ / จะเห็นว่ามันจะเน้นไปทางสายออกกำลัง หรือ สายลุยซะมากกว่า
ฟีเจอร์เด่นๆที่หลายคนน่าจะใช้งานกันก็คงหนีไม่พ้นการนำออกมาใช้งานออกกำลังต่างๆ เช่นในภาพข้างบนนั้นผมได้ทำการขี่จักรยานสั้นๆ 6 กม. และให้นาฬิกามันจับ โดยที่ไม่ได้พกมือถือออกไป Standalone ล้วนๆครับเพราะมี GPS ในตัว บอกเลยว่าแม่นมากๆ ทั้งความเร็ว ระยะทางทั้งหมด ตรงกับ ไมล์ CATEYE ที่ติดบนจักรยานเลยแหละ ความเร็วเฉลี่ยนอะไรพวกนี้เป๊ะๆ ส่วนในเรื่องการจับชีพจรอะไรพวกนี้ก็ทำได้ดี แต่เสียดายหน้าปัดติดตลอดเวลาไม่ได้ครับ แต่มันก็จะแจ้งเตือนเวลาถึงระยะทางที่กำหนด ไว้หรือเกินครึ่งทางก็จะบอกว่าใกล้ถึงระยะที่กำหนดแล้วนะ เมื่อขี่เสร็จก็จะมาสรุปการใช้งาน และมาซิงค์กับมือถือตอนกลับมาที่บ้าน ก็จะมีบอกครบๆทั้งแผนที่และรายละเอียดทั้งหมด มาดูหน้าตาในการใช้งานการจับที่ลองกันครับเป็นแบบ Standalone เลยกดจากตัวนาฬิกาได้ทั้งหมดไม่ต้องพึ่งมือถืออะไรทั้งนั้น เรากดปุ่มข้างล่างด้านขวาก็จะเข้ามาหน้าออกกำลังและสามารถเลือกชนิดกีฬาได้ ตั้งค่า เป้าหมาย การแจ้งเตือนอะไรได้ทั้งหมด และ เมื่อเรียบร้อยก็กดเริ่มได้เลย เมื่อกดแล้วก็จะเป็นหน้าแบบภาพซ้ายสุดด้านล่างนะครับที่จะบอก ระยะ บอกชีพจรว่าในโซนไหน รวมถึงเมื่อเสร็จแล้วมันก็จะสรุปมาให้แบบภาพตรงกลาง รวมถึงเลื่อนดูรายละเอียดแบบเป็นกราฟได้ด้วยแบบภาพขวาสุด ทั้งความเร็ว ชีพจร ระยะทาง ความสูง ชันอะไรแบบนี้ครับ ส่วนการใช้งานอื่นๆนั้นเรามาดูเมนูกันก่อนครับคร่าวๆเมื่อกดปุ่มมะยมด้านบนจะเป็นการเข้าหน้าเมนู แต่ถ้ากดค้างจะเป็นการล็อคหน้าจอนะครับไม่ให้ไปโดน ส่วนเมนูในการใช้งานก็ตามภาพเลยมีมาให้เพียงพอใช้งานทั่วไปครับ และในส่วนของหน้าหลักเราก็สามารถเปลี่ยนหน้าตาได้ เลื่อนซ้ายขวา เพื่อดูสภาพอากาศได้ ดูกราฟแบบวงกลมได้ รวมถึงสามารถเลื่อนไปมาได้ครับมันก็จะวนไปเรื่อยๆ และก็มีชีพจรด้วยจะเป็น 4 หน้าหลักๆครับในหน้าหลัก กดค้างเพื่อที่จะเปลี่ยนหน้าปัด ก็มีมาให้เลือกพอสมควร แต่เสียดายที่ไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้เลย หรือ ไม่สามารถโหลดเพิ่มได้เลยครับ การใช้งานหลักๆก็จะเป็นการปัดๆไปมาครับ หน้าหลักก็จะเป็น ปัดซ้ายขวา  เข้าเมนูก็ปัดไปขวาเพื่อย้อนกลับอะไรแบบนี้ครับ ส่วนลากลงมาจากขอบบนก็จะเป็นการเข้า Quicksetting แบบภาพซ้ายสุดครับ สามารถกด ไม่ให้รบกวนอะไรได้ และ ล็อคหน้าจอ รวมถึงหามือถือ เปิดให้หน้าจอติด 5 นาทีเป็นต้น แต่ไม่สามารถติดตลอดเวลาได้ และน่าเสียดายที่ไม่สามารถปรับอะไรได้ที่จะเพิ่มหรือใส่เข้ามา เพราะบางทีอาจจะปรับที่เราใช้บ่อยๆขึ้นมามากกว่านั้นเอง

SCREEN 

หน้าจอของรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบ AMOLED ที่สว่างชัดเจน เต็มวงกลม 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454, PPI 326 ที่รองรับการปรับแสงแบบ Auto ได้ด้วยครับไม่มีจอแหว่งแบบบางรุ่น รวมถึงความคมชัดอะไรทำได้ดีมากๆเป็นจอไม่กี่รุ่นที่ทำได้สูเแสงได้ดีขนาดนี้ในงบประมาณนี้นะครับและสวยเลยแหละทั้งความดำสนิทและสีสันจอสู้แสงได้ดี ตามภาพเลยถ่ายกลางแจ้งมุมสะท้อนๆก็ยังพอเห็นได้ชัดเจนครับสำหรับใครชอบใช้ข้างนอกกลางแจ้ง ส่วนการสัมผัสด้วยตัวระบบที่ไม่ได้มีอะไรเยอะทำให้มันไม่หน่วงเลยและติดนิ้วใช้งานได้ลื่นไหลดีครับ