สวัสดีชาว Pantip ทุกผู้ทุกคนเลยนะคะ นี่เป็นรีวิวแรกของเราเลยหลังจากที่แอบสิงอยู่ในนี้มานานมาก วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าเข้าดูไบ ที่เรามีประสบการณ์มาแล้วทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะขอผ่าน Agency ในไทยขอผ่านสายการบินหรือว่าขอผ่านเอเจนซี่จากทางดูไบเองค่ะ มาค่ะเราจะเล่าให้ฟังว่ามีวิธีไหนบ้างแล้วมันมีข้อดีข้อเสีย จะถูกจะแพงต่างกันยังไง มาค่ะ!!!! เริ่ม!!!!!
วิธีแรกขอ วีซ่าผ่าน Agency ในไทยซึ่งวิธีนี้เรา ทำครั้งแรกที่เราเดินทางไปดูไบเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเรามีความกังวลมากๆว่าเราจะผ่านหรือเปล่าเราไม่เคยมีประสบการณ์เดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลางมาก่อน ดังนั้นเราเลยพึ่ง Agency ในไทยค่ะ แล้วทายซิคะเราโดนอะไร แต๊นแต๊นแต้นนนนน!!!! เราโดนฟันหัวแบะเลยค่ะ คือเราไม่ได้ศึกษามาก่อนว่าจริงๆแล้วเนี่ย มันสามารถขอวีซ่าผ่านสายการบินได้ถ้าเราบินกับสายการบินเอมิเรตส์แต่เราไม่ทำ เพราะความขี้เกียจเลยเอาเงินฟาดไปเลยค่ะ สบายตัวมากแต่ไม่สบายกระเป๋าเอาซะเลยค่ะ ค่าเสียหายของเราในครั้งนั้นคือ 6,500 บาท พร้อมเงินมัดจำอีก 70,000 บาทค่ะกว่าเราจะได้เงินมัดจำคืนก็ตอนที่เราออกมาจาก UAE เรียบร้อยแล้วนั่นเอง 😂😂 มันก็เลยกลายเป็นโศกนาฏกรรมในชีวิตเราในการขอวีซ่าไปดูไบในครั้งแรกค่ะ ซึ่งวิธีนี้เราไม่แนะนำ เราขอข้ามไปเลยนะคะทุกคนอย่าทำตามเรานะ
วิธีที่สองง่ายที่สุดแล้วค่ะคือ ขอวีซ่าผ่านสายการบินเอมิเรตส์เข้าไปในเพจของสายการบินเอมิเรตส์แล้วก็อับโหลดเอกสารต่างๆผ่าน website ของเอมิเรตส์พร้อมจ่ายตังค์เสร็จสับก็รอรับ e-Visa ได้เลยค่ะ ค่าเสียหายประมาณ 3,000 นิดๆเองค่ะ วิธีนี้ง่ายมากกกก ง่ายสุดๆแล้วค่ะ
และวิธีที่สามขอวีซ่าผ่าน agency ที่ดูไบในกรณีที่เราไม่ได้ใช้บริการด้วยสายการบินเอมิเรตส์ นะคะ ขั้นตอนการขอ e-visa ผ่าน agency ที่ดูไบก็ง่ายนิดเดียวค่ะ ง่ายมากกกกพอๆกับขอผ่านสายการบินเอมิเรตส์เลยค่ะ ทีนี้มาค่ะเราจะเล่าให้ฟังว่ามันง่ายยังไง
เริ่มจากเสริทหา agency ใน internet เลยค่ะใครถูกจริตกับบริษัทไหนก็เลือกเลยค่ะ ตามใจชอบของคุณเลยนะคะเพราะมี agency ให้บริการหลายจ้าวมากๆเลยค่ะ แต่สำหรับเรา เราใช้บริการของบริษัทนี้นะคะ
https://southtravels.com/uae-dubai-visa หน้าตา website จะประมาณนี้ค่ะ
หลังจากที่เราตัดสินใจจะใช้บริการ agency จ้าวนี้แล้วนะคะเราก็ไปฝากประหวัดเราพร้อ
มทั้ง e-mail ไว้ในช่องที่เขียนว่า mail นั่นละค่ะ แล้วรอเค้าตอบกลับมานะคะ ในกรณีของเราเค้าตอบกลับเรามาในวันรุ่งขึ้นค่ะ
แล้วเราก็ส่งหลักฐานผ่าน e-mail เป็นไฟล์ pdf. ให้เค้าดังนี้นะคะ
1.สำเนา passport ไฟล์ pdf.
2.รูปถ่าย ขนาด 2×2
3.ตั๋วเครื่องบิน
4.รร ที่เราจองไว้ที่ UAE ค่ะ
หลังจากเราส่งหลักฐานทั้งหมดให้เค้าแล้วนะคะ เค้าก็จะส่ง link ให้เราจ่ายตังค์ค่ะ สิริรวมค่าเสียหายทั้งหมด 95 USD เท่านั้นค่ะ พอจ่ายตังค์ครบเรียบร้อยเค้าก็จะดำเนินการขอวีซ่าให้เราในวันถัดไปทันทีค่ะ แล้วหลังจากนั้นรอแค่ 1 วันทำการของที่โน้นเค้าก็จะส่ง e-visa มาให้เราใน e-mail ที่เราติดต่อกับเค้าตั้งแต่ตอนแรกนั่นแหละค่ะ และนี่คือหน้าตาของ e-VISA นะคะ
ปล.e-Visa ที่เราได้มาเนี่ยมันไม่ใช่เป็นวีซ่าที่แปะติดกับเล่มพาสปอร์ตของเรานะคะ e-visa ตัวนี้เราปริ้นสีออกมาในกระดาษ A4 แล้วถือไปได้เลยค่ะ
เห็นไหมคะขอวีซ่าไปเที่ยว UAE นี่ง่ายนิดเดียวจริงๆค่ะ ความเห็นส่วนตัวเรานะเราว่าขอวีซ่าที่นี่ง่ายสุดในโลกหล้านี้แล้วค่ะ แค่มี internet ก็ขอได้ง่ายๆเลยค่ะ ไม่ต้องวิ่งไปสถานฑูตหรือศูนย์รับทำวีซ่าให้ยุ่งยาก หลักฐานที่ใช้ขอวีซ่าก็ไม่ไม่ยุ่งยากวุ่นวายอะไร แบบนี้เราแฮปปี้มากค่ะ ส่วนใครที่วางแผนหรือกำลังจะไปเที่ยวที่โน้นก็ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ มีความสุขกีบการท่องเที่ยวนะคะ ❤❤
ขอวีซ่า Dubai ง่ายนิดเดียว!!!
วิธีแรกขอ วีซ่าผ่าน Agency ในไทยซึ่งวิธีนี้เรา ทำครั้งแรกที่เราเดินทางไปดูไบเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเรามีความกังวลมากๆว่าเราจะผ่านหรือเปล่าเราไม่เคยมีประสบการณ์เดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลางมาก่อน ดังนั้นเราเลยพึ่ง Agency ในไทยค่ะ แล้วทายซิคะเราโดนอะไร แต๊นแต๊นแต้นนนนน!!!! เราโดนฟันหัวแบะเลยค่ะ คือเราไม่ได้ศึกษามาก่อนว่าจริงๆแล้วเนี่ย มันสามารถขอวีซ่าผ่านสายการบินได้ถ้าเราบินกับสายการบินเอมิเรตส์แต่เราไม่ทำ เพราะความขี้เกียจเลยเอาเงินฟาดไปเลยค่ะ สบายตัวมากแต่ไม่สบายกระเป๋าเอาซะเลยค่ะ ค่าเสียหายของเราในครั้งนั้นคือ 6,500 บาท พร้อมเงินมัดจำอีก 70,000 บาทค่ะกว่าเราจะได้เงินมัดจำคืนก็ตอนที่เราออกมาจาก UAE เรียบร้อยแล้วนั่นเอง 😂😂 มันก็เลยกลายเป็นโศกนาฏกรรมในชีวิตเราในการขอวีซ่าไปดูไบในครั้งแรกค่ะ ซึ่งวิธีนี้เราไม่แนะนำ เราขอข้ามไปเลยนะคะทุกคนอย่าทำตามเรานะ
วิธีที่สองง่ายที่สุดแล้วค่ะคือ ขอวีซ่าผ่านสายการบินเอมิเรตส์เข้าไปในเพจของสายการบินเอมิเรตส์แล้วก็อับโหลดเอกสารต่างๆผ่าน website ของเอมิเรตส์พร้อมจ่ายตังค์เสร็จสับก็รอรับ e-Visa ได้เลยค่ะ ค่าเสียหายประมาณ 3,000 นิดๆเองค่ะ วิธีนี้ง่ายมากกกก ง่ายสุดๆแล้วค่ะ
และวิธีที่สามขอวีซ่าผ่าน agency ที่ดูไบในกรณีที่เราไม่ได้ใช้บริการด้วยสายการบินเอมิเรตส์ นะคะ ขั้นตอนการขอ e-visa ผ่าน agency ที่ดูไบก็ง่ายนิดเดียวค่ะ ง่ายมากกกกพอๆกับขอผ่านสายการบินเอมิเรตส์เลยค่ะ ทีนี้มาค่ะเราจะเล่าให้ฟังว่ามันง่ายยังไง
เริ่มจากเสริทหา agency ใน internet เลยค่ะใครถูกจริตกับบริษัทไหนก็เลือกเลยค่ะ ตามใจชอบของคุณเลยนะคะเพราะมี agency ให้บริการหลายจ้าวมากๆเลยค่ะ แต่สำหรับเรา เราใช้บริการของบริษัทนี้นะคะ https://southtravels.com/uae-dubai-visa หน้าตา website จะประมาณนี้ค่ะ
หลังจากที่เราตัดสินใจจะใช้บริการ agency จ้าวนี้แล้วนะคะเราก็ไปฝากประหวัดเราพร้อ
มทั้ง e-mail ไว้ในช่องที่เขียนว่า mail นั่นละค่ะ แล้วรอเค้าตอบกลับมานะคะ ในกรณีของเราเค้าตอบกลับเรามาในวันรุ่งขึ้นค่ะ
แล้วเราก็ส่งหลักฐานผ่าน e-mail เป็นไฟล์ pdf. ให้เค้าดังนี้นะคะ
1.สำเนา passport ไฟล์ pdf.
2.รูปถ่าย ขนาด 2×2
3.ตั๋วเครื่องบิน
4.รร ที่เราจองไว้ที่ UAE ค่ะ
หลังจากเราส่งหลักฐานทั้งหมดให้เค้าแล้วนะคะ เค้าก็จะส่ง link ให้เราจ่ายตังค์ค่ะ สิริรวมค่าเสียหายทั้งหมด 95 USD เท่านั้นค่ะ พอจ่ายตังค์ครบเรียบร้อยเค้าก็จะดำเนินการขอวีซ่าให้เราในวันถัดไปทันทีค่ะ แล้วหลังจากนั้นรอแค่ 1 วันทำการของที่โน้นเค้าก็จะส่ง e-visa มาให้เราใน e-mail ที่เราติดต่อกับเค้าตั้งแต่ตอนแรกนั่นแหละค่ะ และนี่คือหน้าตาของ e-VISA นะคะ
ปล.e-Visa ที่เราได้มาเนี่ยมันไม่ใช่เป็นวีซ่าที่แปะติดกับเล่มพาสปอร์ตของเรานะคะ e-visa ตัวนี้เราปริ้นสีออกมาในกระดาษ A4 แล้วถือไปได้เลยค่ะ
เห็นไหมคะขอวีซ่าไปเที่ยว UAE นี่ง่ายนิดเดียวจริงๆค่ะ ความเห็นส่วนตัวเรานะเราว่าขอวีซ่าที่นี่ง่ายสุดในโลกหล้านี้แล้วค่ะ แค่มี internet ก็ขอได้ง่ายๆเลยค่ะ ไม่ต้องวิ่งไปสถานฑูตหรือศูนย์รับทำวีซ่าให้ยุ่งยาก หลักฐานที่ใช้ขอวีซ่าก็ไม่ไม่ยุ่งยากวุ่นวายอะไร แบบนี้เราแฮปปี้มากค่ะ ส่วนใครที่วางแผนหรือกำลังจะไปเที่ยวที่โน้นก็ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ มีความสุขกีบการท่องเที่ยวนะคะ ❤❤