***อันนี้เป็นรีวิวนะ ตั้งกระทู้รีวิวไม่ได้ โทษทีนะ***
รีวิวการขอ VISA ดูไบ,ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
บอกนิดนึง : การเดินทาง : เราบินสายการบิน Fly Dubai (บินตรง Bkk-Dubai) ราคาตั๋วไป-กลับ 18,900 บาท
เข้าเรื่องกันเลย ...
การขอวีซ่าครั้งนี้เราทำเองทุกอย่างผ่านบริษัทเอเจนซี่ที่ดูไบโดยตรง ทุกขั้นตอนการขอวีซ่าเค้าจะดำเนินการผ่านทาง E-mail ทั้งหมดเท่านั้น #ไม่มีการสัมภาษณ์ เอกสารที่เราใช้ยื่นมีเเค่4อย่างดังนี้ ...
-หน้าพาสปอร์ต - ถ่ายรูปส่ง mail
-บัตรประชาชน - ถ่ายรูปส่ง mail
-สำเนาทะเบียนบ้าน - ถ่ายรูปส่ง mail
-รูปถ่าย2นิ้ว1รูป - ถ่ายรูปส่ง mail
-หลักฐานการจองที่พัก - ถ่ายรูปส่ง mail
-หลักฐานตั๋วเครื่องบินไปกลับ - ถ่ายรูปส่ง mail
(เอกสารทุกอย่างเราถ่ายรูปผ่านโทรศัพท์มือถือเเล้วส่งเลย ไม่มีการสเเกนอะไรทั้งสิ้น)
หลักฐานทั้งหมดที่ใช้ แค่นี้เท่านั้น ย้ำ ว่าเเค่นี้จริงๆ เป็นประเทศที่ขอวีซ่าได้ง่ายมากที่สุดในโลกแล้ว 😁
หลังจากส่งเอกสารทั้งหมดผ่าน E-mail ทางเอเจนซี่เค้าจะประสานงานยื่นเรื่องให้ทั้งหมดเป็นเวลาทั้งหมด3วันทำการ (นับจากวันที่ส่งเอกสาร) พอครบ3วันแล้ว ถ้าวีซ่าอนุมัติ ทางเอเจนซี่ก็จะส่งวีซ่ามาให้เราทาง E-mail เเล้วเราก็เซฟ เเล้วเอาไปปริ้นออกมาเป็นแผ่นสี ลักษณะหน้าตาวีซ่า UAE จะเป็นกระดาษA4 แผ่นเดียว ใช้ยื่นพร้อมพาสปอร์ตตอนผ่าน ตม.
*** ปล. วีซ่าของประเทศนี้จะเป็นในลักษณะของ "อิเล็กทรอนิกวีซ่า"
Electronic visa) หรือ e-visa
ราคาค่าวีซ่า : 3,000บาท (ถูกมากกกก) 🤗
ขอพูดถึงเรื่องวีซ่านิดนึงละกัน การทำวีซ่าไป ดูไบ, UAE เนี๊ย การขอวีซ่าดูไบ,UAE เราไม่สามารถไปยื่นเรื่องทำกับสถานทูตได้ ทางสถานทูต UAE ในประเทศไทยเค้าไม่รับทำ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน (ใครมีข้อมูลเรื่องนี้เเบ่งปันกันได้นะ)
วิธีการขอวีซ่าของดูไบ,UAE เท่าที่รู้มาจะมี3ช่องทางหลักๆ คือ...
1. ขอผ่านสายการบินเอมิเรตส์ : ถ้าซื้อตั๋วบินกับเค้า ติดต่อยื่นเรื่องทำกับทางสายการบินเค้าได้เลย ต้องบินกับทางสายการบินของเค้าเท่านั้น ...
-1.1. สายการบิน Fly Dubai : สายการบินนี้ก็รับทำวีซ่าให้เหมือนกันราคาไม่เเพงด้วย (ถ้ากรณีไม่บินกับสายการบินของเค้าเค้าจะรับทำไหมไม่เเน่ใจนะ ลองสอบถามไปทางสายการบินเค้าดูได้ เผื่อเค้ารับทำในกรณีบินกับสายการบินอื่นด้วน บริษิทเค้ามีออฟฟิตอยู่ใน กทม.)
ปล. หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราไม่ทำกับสายการบิน Fly Dubai เพราะเราบินกับสายการบินเค้า สาเหตุคือ เราโทรไปถามรายละเอียดที่บริษัทแล้ว แต่พนักงาน(ผู้หญิง)ไม่ให้ข้อมูลอะไรที่ชัดเจนเลย พูดจาก็แย่มากก ลำคารไม่ทำ
เลย ไม่ง้อ เหอะๆ👎👎👎
2. ทำผ่านเอเจนซี่ : การทำผ่านเอเจนซี่ นี่มี2ช่องทางให้เราเลือกเลย เเล้วเเต่สะดวก คือ ...
-2.1. ทำเองผ่านเอเจนซี่บริษัทที่ดูไบเลยโดยตรง (เหมือนเรา) ทำผ่านเอเจนซี่ที่ดูไบโดยตรงราคาจะถูกกว่าทำผ่านเอเจนซี่ที่ไทยมากกกกก ครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว 🤔
-2.2. ทำผ่านเอเจนซี่บริษัทที่ประเทศไทย มีหลายเจ้า เราสอบถามหลายที่หลายเจ้ามากก ซึ่งเเต่ละที่ เเพงมากกก ขั้นต่ำที่ถูกสุดคือ5,000 บางที่ 6,000 และ บางที่ 9,000 ซึ่งไม่ใช่เรื่องเลยแพงเกิน 555 ( คหสต.เราคิดว่า ถึงทำผ่านทางเอเจนซี่ที่ไทยเค้าก็คงต้องยื่นเรื่องผ่านเอเจนซี่ที่บริษัทในดูไบอีกอยู่ดี ง่ายๆคือ2ต่ออะ เค้าเสียให้ทางโน้น 3,000 ที่เหลือคือกำไลเค้า) และเอเจนซี่ในไทยบางที่ เรื่องมาก มากๆ เงื่อนไขเยอะเกิน และเอกสารยุ่งยากวุ่นวาย เราไม่ได้ทำงานประจำเค้าจะให้มัดจำเงิน 70,000บาท เราเซกู๊ดบายเลยจ๊ะ 5555555
3. สปอนเซอร์ที่โน่นทำให้ : เช่น ให้ทางโรงเเรมที่เราจองไว้ที่จะไปพักที่โน่นยื่นเรื่องทำให้ได้เลย โดยทางโรงเเรมที่เราจะพักเค้าจะเป็นสปอนเซอร์ให้เราเอง
(บางโรงเเรมก็รับทำให้ และบางโรงเเรมก็ไม่รับทำให้ ต้องลองถามดูดีๆ)
และสปอนเซอร์เพื่อน, ญาติ , แฟน , ครอบครัว หรือใครก็เเล้วเเต่พำนักอาศัยอยู่ที่โน่น ทำให้ ได้เลย
เห็นไหมละว่าง่ายมาก หวังว่าจะเป็นเเนวทางที่ดีสำหรับทุกคนนะ 🤗
การขอวีซ่า ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2018
รีวิวการขอ VISA ดูไบ,ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
บอกนิดนึง : การเดินทาง : เราบินสายการบิน Fly Dubai (บินตรง Bkk-Dubai) ราคาตั๋วไป-กลับ 18,900 บาท
เข้าเรื่องกันเลย ...
การขอวีซ่าครั้งนี้เราทำเองทุกอย่างผ่านบริษัทเอเจนซี่ที่ดูไบโดยตรง ทุกขั้นตอนการขอวีซ่าเค้าจะดำเนินการผ่านทาง E-mail ทั้งหมดเท่านั้น #ไม่มีการสัมภาษณ์ เอกสารที่เราใช้ยื่นมีเเค่4อย่างดังนี้ ...
-หน้าพาสปอร์ต - ถ่ายรูปส่ง mail
-บัตรประชาชน - ถ่ายรูปส่ง mail
-สำเนาทะเบียนบ้าน - ถ่ายรูปส่ง mail
-รูปถ่าย2นิ้ว1รูป - ถ่ายรูปส่ง mail
-หลักฐานการจองที่พัก - ถ่ายรูปส่ง mail
-หลักฐานตั๋วเครื่องบินไปกลับ - ถ่ายรูปส่ง mail
(เอกสารทุกอย่างเราถ่ายรูปผ่านโทรศัพท์มือถือเเล้วส่งเลย ไม่มีการสเเกนอะไรทั้งสิ้น)
หลักฐานทั้งหมดที่ใช้ แค่นี้เท่านั้น ย้ำ ว่าเเค่นี้จริงๆ เป็นประเทศที่ขอวีซ่าได้ง่ายมากที่สุดในโลกแล้ว 😁
หลังจากส่งเอกสารทั้งหมดผ่าน E-mail ทางเอเจนซี่เค้าจะประสานงานยื่นเรื่องให้ทั้งหมดเป็นเวลาทั้งหมด3วันทำการ (นับจากวันที่ส่งเอกสาร) พอครบ3วันแล้ว ถ้าวีซ่าอนุมัติ ทางเอเจนซี่ก็จะส่งวีซ่ามาให้เราทาง E-mail เเล้วเราก็เซฟ เเล้วเอาไปปริ้นออกมาเป็นแผ่นสี ลักษณะหน้าตาวีซ่า UAE จะเป็นกระดาษA4 แผ่นเดียว ใช้ยื่นพร้อมพาสปอร์ตตอนผ่าน ตม.
*** ปล. วีซ่าของประเทศนี้จะเป็นในลักษณะของ "อิเล็กทรอนิกวีซ่า"
ราคาค่าวีซ่า : 3,000บาท (ถูกมากกกก) 🤗
ขอพูดถึงเรื่องวีซ่านิดนึงละกัน การทำวีซ่าไป ดูไบ, UAE เนี๊ย การขอวีซ่าดูไบ,UAE เราไม่สามารถไปยื่นเรื่องทำกับสถานทูตได้ ทางสถานทูต UAE ในประเทศไทยเค้าไม่รับทำ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน (ใครมีข้อมูลเรื่องนี้เเบ่งปันกันได้นะ)
วิธีการขอวีซ่าของดูไบ,UAE เท่าที่รู้มาจะมี3ช่องทางหลักๆ คือ...
1. ขอผ่านสายการบินเอมิเรตส์ : ถ้าซื้อตั๋วบินกับเค้า ติดต่อยื่นเรื่องทำกับทางสายการบินเค้าได้เลย ต้องบินกับทางสายการบินของเค้าเท่านั้น ...
-1.1. สายการบิน Fly Dubai : สายการบินนี้ก็รับทำวีซ่าให้เหมือนกันราคาไม่เเพงด้วย (ถ้ากรณีไม่บินกับสายการบินของเค้าเค้าจะรับทำไหมไม่เเน่ใจนะ ลองสอบถามไปทางสายการบินเค้าดูได้ เผื่อเค้ารับทำในกรณีบินกับสายการบินอื่นด้วน บริษิทเค้ามีออฟฟิตอยู่ใน กทม.)
ปล. หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราไม่ทำกับสายการบิน Fly Dubai เพราะเราบินกับสายการบินเค้า สาเหตุคือ เราโทรไปถามรายละเอียดที่บริษัทแล้ว แต่พนักงาน(ผู้หญิง)ไม่ให้ข้อมูลอะไรที่ชัดเจนเลย พูดจาก็แย่มากก ลำคารไม่ทำ
2. ทำผ่านเอเจนซี่ : การทำผ่านเอเจนซี่ นี่มี2ช่องทางให้เราเลือกเลย เเล้วเเต่สะดวก คือ ...
-2.1. ทำเองผ่านเอเจนซี่บริษัทที่ดูไบเลยโดยตรง (เหมือนเรา) ทำผ่านเอเจนซี่ที่ดูไบโดยตรงราคาจะถูกกว่าทำผ่านเอเจนซี่ที่ไทยมากกกกก ครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว 🤔
-2.2. ทำผ่านเอเจนซี่บริษัทที่ประเทศไทย มีหลายเจ้า เราสอบถามหลายที่หลายเจ้ามากก ซึ่งเเต่ละที่ เเพงมากกก ขั้นต่ำที่ถูกสุดคือ5,000 บางที่ 6,000 และ บางที่ 9,000 ซึ่งไม่ใช่เรื่องเลยแพงเกิน 555 ( คหสต.เราคิดว่า ถึงทำผ่านทางเอเจนซี่ที่ไทยเค้าก็คงต้องยื่นเรื่องผ่านเอเจนซี่ที่บริษัทในดูไบอีกอยู่ดี ง่ายๆคือ2ต่ออะ เค้าเสียให้ทางโน้น 3,000 ที่เหลือคือกำไลเค้า) และเอเจนซี่ในไทยบางที่ เรื่องมาก มากๆ เงื่อนไขเยอะเกิน และเอกสารยุ่งยากวุ่นวาย เราไม่ได้ทำงานประจำเค้าจะให้มัดจำเงิน 70,000บาท เราเซกู๊ดบายเลยจ๊ะ 5555555
3. สปอนเซอร์ที่โน่นทำให้ : เช่น ให้ทางโรงเเรมที่เราจองไว้ที่จะไปพักที่โน่นยื่นเรื่องทำให้ได้เลย โดยทางโรงเเรมที่เราจะพักเค้าจะเป็นสปอนเซอร์ให้เราเอง
(บางโรงเเรมก็รับทำให้ และบางโรงเเรมก็ไม่รับทำให้ ต้องลองถามดูดีๆ)
และสปอนเซอร์เพื่อน, ญาติ , แฟน , ครอบครัว หรือใครก็เเล้วเเต่พำนักอาศัยอยู่ที่โน่น ทำให้ ได้เลย
เห็นไหมละว่าง่ายมาก หวังว่าจะเป็นเเนวทางที่ดีสำหรับทุกคนนะ 🤗