ลูกอายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ อนุบาลแห่งหนึ่ง สามพราน จ.นครปฐม

ด้วยลูก เป็นเด็กสมาธิสั้นคะ  การเรียนช้า เรียกว่า คิดช้า ตอบช้า และ เข้าใจอะไรยาก

สิ่งที่เราคิดในฐานะ พ่อแม่ โรงเรียนที่พอจะรู้เทคนิคการสอนและเข้าใจเด็ก  สภาพแวดล้อมที่ดี

อนุบาล 1 ผ่านไป แบบชิว ๆ ด้วย เหมือนไปเล่น ไปศึกษาเพื่อน สังคม โรงเรียน
อนุบาล 2  ไม่เก่งอะไรเลย แต่ชอบ กิจกรรมการแจ้งมาก การเต้น การแสดงออก การช่วยเหลือ เรื่องเรียนครูดันหาวิธี แบบว่าเรารุ้สึกขอบคุณครูมากๆ
อนุบาล 3  ร้องไห้ไม่ไปโรงเรียน   ไม่ยอมทำการบ้าน ไม่เคยพุดเรื่องที่โรงเรียน ไม่เคยพุดว่าตัวเองทำอะไรเลย

สิ่งที่คุยกับครู ได้ข้อสรุปคือ  ลูกเป็นสมาธิสั้น ควรไปพบแพทย์
และเมื่อต้องเลื่อนชั้น ก้อ สรุปว่าเลื่อนไม่ได้ เพราะน้อง อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ และ ไม่ผ่านเกณฑ์ อนุบาล 3
และหากอยู่ที่เดิม เกรงว่า จะไม่เหมาะสมกับการเรียนการสอนที่นั้น

เราพาลูกไปพบแพทย์ ขอคำปรึกษา และ รักษา ฝึกประเมิน 3 เดือนและกินยา 1 เดือน เริ่มตั้งแต่ช่วง อนุบาล 3 เทอม 2
(ก่อนหน้านี้ ไปหาหมอที่มหิดลบอกว่าไม่เป็น และ ส่งไปศูนย์บำบัด 3 เดือน ตอน อนุบาล 2)

เราคิดว่า อาจ เป็นตามวัย  เพราะ เด็กรุ่นเดียวกับเขา หรือ มากกว่าเขา 1-2 ปี ที่เล่นด้วยกัน พี่น้องกัน ยังตอบและรู้ เขียนได้ ไม่เท่าเขาเลย
เราหวังว่า โรงเรียนจะให้และช่วยได้ 70% และ เรา 30%   ปรากฏว่า ไม่ใช่ อย่างที่คิดเลย

ตอนนี้ เราหันมาสนใจลูก เริ่มตั้งข้อสงสัยกับสิ่งที่ครูบอก และมาสอนเองทดสอบเอง

1.ความจำไม่ดี  เรียนรู้ได้ช้า  ตอบช้า จะต้องสอนช้ำๆ หลายครั้ง
2.การอ่าน สะกด ผสมคำ จะอ่านไม่ได้ ลงเสียงผิด ผสมไม่ได้บางคำ
3.การบวกลบ รุ้วิธีการแต่ ทำเองไม่ได้ ต้อง พ้อยให้ สามารถท่องสุตรคูณ ได้แค่ แม่ 2 แต่ 3-6 ไม่ได้
4.การเขียนลายมือไม่สวย เขียนช้า มองทีละตัว
5.ภาษาจีน ว่ายน้ำ คอมพิวเตอร์ ไม่ได้อะไรเลย แต่ภาษาอังกฤษพอได้บ้างพอๆกับไทย

สรุปว่า เรียนมา 3 ปี ได้แค่ อนุบาล 2 เทอม 1
และ แม่ต้องสอนใหม่ตั้งแต่ ต้น เพราะ กลัวจะเรียนไม่ทันเพื่อที่ รร. ใหม่ ซึ่ง ซ้ำ อนุบาล 3

การสอบยิ่งเป็นอะไรที่เรารู้สึกแย่
1.อ่านไม่ออก  ให้ทำข้อสอบเอง  = 0 คะแนน
2.เด็กไม่เก่ง ไม่กล้าตอบ เขารู้ตัวเขาดี  ว่าตอบไม่ได้ตอบผิด เพื่อนมอง  แต่ให้ตอบหน้าชั้นเรียน = 0 คะแนน

เขากลับมาเจอแม่แล้วพุดว่า ที่แม่ติวเตอร์ไปไม่เห็นครูสอบเลย  กอดแม่ทำหน้าเศร้าหนักมาก และ พูดว่าหนูทำไมไ่ด้เลยสอบตกอีกแล้ว
แม่ทำได้แค่ปลอบใจและพุดว่า ไม่เป็นไร เด๋วเราเริ่มใหม่ แม่จะสอนเองให้เก่งที่สุด

การที่ลูกเป็นเด็กสมาธิสั้นจะต้องทำได้ดีเท่าเด็กปกติ และ จะต้องดีกว่า คือ ความหวังของแม่

เราไม่ได้เห็นเลยว่า ลูกเรา ไม่พร้อม ไม่ท่อง ไม่ตอบ ไม่เขียน  แต่ เราเห็นว่า เขา ช้า เท่านั้น
และเขารู้ตัวว่า เขาไม่เก่ง

หากใครมีลูกที่เป็นแบบนี้  อย่าฝากความหวังไว้กับโรงเรียนที่เราคิดว่า ดีที่สุด หรือ ครู
เพราะสุดท้าย  การสอบมาตรฐานมีแบบเดียว และ การสอนมีแบบเดียว อยู่กับว่าลูกเราจะเหมาะสมหรือไม่
และระวัง การตลาด

สำคัญ เราต้องรักและดูแลเขามาก กว่า ที่ เรา คิดว่า จะทำได้
เริ่มใหม่ ยังไม่ช้าไป เพราะ ช่วงที่สำคัญที่สุด คือ อนุบาล 3 - ป.3

ทิ้งกระทู้นี้ไว้และจะมา update เรื่อยๆ เพื่อดูพัฒนาการเรียน เพื่อประโยชน์ กับ คุณแม่ ที่มีปัญหา ลูกสมาธิสั้นมีปัญหาการเรียน
ใครมีประสบการณ์แนะนำได้คะ