เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีการพิจารณาคดี หมายเลขดำที่ 1313/2560 ซึ่ง นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือไอเฟค ยื่นฟ้องคดีอาญากับ นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการ ไอเฟค และ ไอเฟค ในความผิดฐานฟ้องเท็จ คดีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
สืบเนื่องจากนายวิชัย กล่าวหาว่า นายสิทธิชัย นำที่ดินของบริษัทฯ ยกให้ผู้ซื้อฟรี เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนที่แสวงหาผลประโยชน์ในไอเฟค ทั้งๆ ที่เป็นการโอนที่ดินที่ใช้เป็นทางเข้าออกของที่ดินที่บริษัทฯ ขายให้ผู้ซื้อไปก่อนหน้านี้แล้ว และเป็นการกระทำตามเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งทำให้ไอเฟคขายที่ดินได้ในราคาสูงขึ้นถึง 4 เท่า โดยนายสิทธิชัย และกรรมการบริหารทุกคนทำตามมติบอร์ด และสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน อีกทั้ง นายวิชัย เองเป็นคนลงลายมือชื่อขายที่ดินดังกล่าวเองด้วย
ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเห็นว่า นายวิชัยและนายสิทธิชัยมีการขัดแย้งกันในการแย่งอำนาจการบริหารงานในบริษัทไอเฟค จึงมีการดำเนินคดีแพ่งและอาญา เพื่อกลั่นแกล้งกันเพื่อบีบบังคับกดดันอีกฝ่าย เพื่อเป็นประโยชน์ที่ตนกับพวกจะได้เข้าไปเป็นผู้บริหารกิจการไอเฟค การกระทำของนายวิชัยเป็นการนำความเท็จมาฟ้องต่อศาลว่านายสิทธิชัยทำความผิดทางอาญาอันไม่เป็นความจริง
นอกจากนี้ ศาลยังไม่เชื่อที่นายวิชัยอ้างว่าลายมือที่ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินของตนเป็นลายมือปลอม ศาลไม่เชื่อเพราะศาลพิจารณาจากลักษณะลีลาการเขียนและตัวอักษรลายมือชื่อของนายวิชัยในหลายๆเอกสารนั้นเป็นลายมือของบุคคลคนเดียวกัน ยากที่ผู้อื่นจะปลอมหรือเลียนแบบได้
โดยคดี หมายเลขดำที่ 1313/2560 ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงมีคำพิพากษาตัดสินสั่งจำคุกนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการไอเฟค เป็นเวลา 2 ปี ในข้อหาฟ้องเท็จ
อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายวิชัยเคยนำคดีเรื่องการขายที่ดินที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มาฟ้องนายสิทธิชัยเป็นจำเลยในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.773/2560 ที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องไป เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ซึ่งนายวิชัยก็ไม่เคยกล่าวแย้งว่าลายมือชื่อของตนนั้นเป็นลายมือชื่อปลอมแต่ประการใด
ส่วนอีกคดี ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.1490/2560 นายวิชัย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 3 โบรคเกอร์ (บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ว่ามีการปลอมลายมือชื่อในการทำสัญญากู้เงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ตนไม่เคยจำนำหุ้น และยังขอคุ้มครองไม่ให้มีการขายทอดตลาดหุ้นของตน แต่ต้องจำนนกับคำซักค้านและหลักฐาน ตามที่ปรากฏในคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 ศาลท่านว่า นายวิชัย จบการศึกษาแพทย์ศาสตร์บัณฑิต มีประสบการณ์วิชาชีพนายแพทย์เป็นเวลานาน เป็นถึงประธานบริษัทของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีประสบการณ์ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 10 ปี ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ ศาลเชื่อว่านายวิชัยต้องรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการลงลายมือชื่อในเอกสารใดใดนั้นย่อมมีผลผูกพันตามกฎหมาย การที่จะลงลายมือชื่อในเอกสารใดใด ย่อมเชื่อได้ว่านายวิชัยต้องรู้แล้วว่าเป็นเอกสารอะไรและจะผูกพันตนเองอย่างไรในอนาคต
จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก 21 กุมภาพันธ์ 2562
ศาลสั่งจำคุก ”หมอวิชัย”ไอเฟค 2 ปี กรณีฟ้องเท็จ “สิทธิชัย” โกงขายที่ดินบ้านโพธิ์
สืบเนื่องจากนายวิชัย กล่าวหาว่า นายสิทธิชัย นำที่ดินของบริษัทฯ ยกให้ผู้ซื้อฟรี เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนที่แสวงหาผลประโยชน์ในไอเฟค ทั้งๆ ที่เป็นการโอนที่ดินที่ใช้เป็นทางเข้าออกของที่ดินที่บริษัทฯ ขายให้ผู้ซื้อไปก่อนหน้านี้แล้ว และเป็นการกระทำตามเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งทำให้ไอเฟคขายที่ดินได้ในราคาสูงขึ้นถึง 4 เท่า โดยนายสิทธิชัย และกรรมการบริหารทุกคนทำตามมติบอร์ด และสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน อีกทั้ง นายวิชัย เองเป็นคนลงลายมือชื่อขายที่ดินดังกล่าวเองด้วย
ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเห็นว่า นายวิชัยและนายสิทธิชัยมีการขัดแย้งกันในการแย่งอำนาจการบริหารงานในบริษัทไอเฟค จึงมีการดำเนินคดีแพ่งและอาญา เพื่อกลั่นแกล้งกันเพื่อบีบบังคับกดดันอีกฝ่าย เพื่อเป็นประโยชน์ที่ตนกับพวกจะได้เข้าไปเป็นผู้บริหารกิจการไอเฟค การกระทำของนายวิชัยเป็นการนำความเท็จมาฟ้องต่อศาลว่านายสิทธิชัยทำความผิดทางอาญาอันไม่เป็นความจริง
นอกจากนี้ ศาลยังไม่เชื่อที่นายวิชัยอ้างว่าลายมือที่ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินของตนเป็นลายมือปลอม ศาลไม่เชื่อเพราะศาลพิจารณาจากลักษณะลีลาการเขียนและตัวอักษรลายมือชื่อของนายวิชัยในหลายๆเอกสารนั้นเป็นลายมือของบุคคลคนเดียวกัน ยากที่ผู้อื่นจะปลอมหรือเลียนแบบได้
โดยคดี หมายเลขดำที่ 1313/2560 ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงมีคำพิพากษาตัดสินสั่งจำคุกนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการไอเฟค เป็นเวลา 2 ปี ในข้อหาฟ้องเท็จ
อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายวิชัยเคยนำคดีเรื่องการขายที่ดินที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มาฟ้องนายสิทธิชัยเป็นจำเลยในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.773/2560 ที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องไป เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ซึ่งนายวิชัยก็ไม่เคยกล่าวแย้งว่าลายมือชื่อของตนนั้นเป็นลายมือชื่อปลอมแต่ประการใด
ส่วนอีกคดี ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.1490/2560 นายวิชัย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 3 โบรคเกอร์ (บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ว่ามีการปลอมลายมือชื่อในการทำสัญญากู้เงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ตนไม่เคยจำนำหุ้น และยังขอคุ้มครองไม่ให้มีการขายทอดตลาดหุ้นของตน แต่ต้องจำนนกับคำซักค้านและหลักฐาน ตามที่ปรากฏในคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 ศาลท่านว่า นายวิชัย จบการศึกษาแพทย์ศาสตร์บัณฑิต มีประสบการณ์วิชาชีพนายแพทย์เป็นเวลานาน เป็นถึงประธานบริษัทของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีประสบการณ์ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 10 ปี ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ ศาลเชื่อว่านายวิชัยต้องรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการลงลายมือชื่อในเอกสารใดใดนั้นย่อมมีผลผูกพันตามกฎหมาย การที่จะลงลายมือชื่อในเอกสารใดใด ย่อมเชื่อได้ว่านายวิชัยต้องรู้แล้วว่าเป็นเอกสารอะไรและจะผูกพันตนเองอย่างไรในอนาคต
จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก 21 กุมภาพันธ์ 2562