บาหลี คนเดียวเที่ยวโคตรมัน" ตอนที่ 2 อยากจะมีกะเขาบ้าง


ตอนที่ 1 เผื่อบางคนไม่ได้อ่านคราบ

https://ppantip.com/topic/38575795

รีวิว..."บาหลีคนเดียวเที่ยวโคตรมัน" ตอนที่ 2 อยากจะมีคู่
สวัสดีมิตรรักแฟนเพลงทุกท่านครับ (ผิดงานล่ะ) เดินทางมาถึงวันที่ 2 ของฝั่งบาหลีนะครับ วันนี้เรามีเวลาเต็มวันเลยครับสำหรับการเที่ยวแบบสบายๆสไตล์อานนท์ แน่นอนที่สุดว่าเราจะไปในที่ห่างออกไปจากที่อยู่ไปกลับรวมเกือบ 250 กิโลเมตร ด้วยรถมอเตอร์ไซค์แม่บ้านขนาด 100 CC สภาพแค่ถึงก็ดีแล้ว วันนี้เราจะไปลุยหมู่บ้านที่อยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟ บราสตูร์(ออกเสียงตามแม่ค้าขายกาแฟ ปกบอกว่าต้องมี S ด้วย 5555) คือหมู่บ้าน คินตามณี บอกเลยตอนที่ทำทริปไม่ได้ตัดสินใจมาว่าจะไปไหนบ้าง มาเลือกเอาที่บาหลีนี่หละ คือรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวมาก่อน เพราะตอนนั้นยังไม่สามารถรู้ที่ตั้งชัดเจนว่าอยู่ทิศไหน ระยะทางไปกลับเท่าไหร่ พอถึงที่พักก็มานั่งใส่ GPS เพื่อดูทิศและระยะทาง ตัดสินใจว่าวันนี้จะไปที่ไกลที่สุดคือประมาณ 125 กิโลเมตร คำนวนการเดินแล้วแล้วไปกลับ 4 ชม กว่าๆ ผมเหงาของการขี่รถคนเดียวในต่างแดนคือไม่มีเพื่อนร่วมทางและคนดูทางให้เราต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเราเองแน่นอนที่สุดด้วยความไม่คุ้นเคยกับเส้นทางและถนน หนทาง แม้ว่าจะคล้ายประเทศไทยมากก็ตามก็ทำให้เราลำบากอยู่ไม่น้อย วันนี้ การเดินทางพร้อมกว่าเมื่อวานคือ แบตเต็ม ที่ชาดพร้อม แว่นกันลมพร้อม แต่ที่ไม่เอาไปคือ เสือแขนยาว(ใจถึงอีกล่ะ) ออกจากที่พักประมาณ 8 โมง สะพายกระเป๋ากล้องสตาร์ทรถไปเส้ๆๆๆรอไร ิกจากที่พักได้ไม่นาน GPS ก็พาเข้าไปถนนในเมือง 6 เลน ซึ่งน่าจะเป็นเส้นหลักกลางเมือง ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที ลองนึกภาพ การขี่มอเอตร์ไซค์ใน กทม แล้วไม่รู้ทาง ต้องคอยมองจอมือถืออยู่เรื่อยๆ โอ้โห อยากจะบ่นออกมาเป็นภาษาอินโด ลำบากสราดๆ แถมรถจะชนตายหลายรอบ5555 กว่าจะออกจากตรงนั้นมาได้ก็เล่ นสะเหนื่อยเลยครับ ขับออกมาจากเมืองเรื่อยๆ ถนนหนทางก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ถนนสลับกันตลอดทางระหว่างเมืองกับถนนในชุมชน ออกมาเกือบชั่วโมงละดูในจอมือถือ เฮ้ยยยย ยังไม่ถึงครึ่งทางเลย เหลืออีก80 กิโล โอ้โห อีกไกลมาก พอเริ่มเข้าสู่ถนนหนทางชนบท สิ่งที่ผมได้เห็นตลอดทางคือ วัด และวันที่ผมไปเนี่ยน่าจะเป็นวันสำคัญสักอย่าง เพราะตลอดการเดินทางเจอคนผู้คนมากมายบริเวณวัด ลักษณะ งานทำบุญบ้านเรา ผมขี่ไปเรื่อยและมีอยู่หนึ่งที่ต้องผ่านเส้นทางในเขา เป็นถนน2เลนส์สวนกันเล็กๆ คิดในใจว่าถ้ามีอุบัติเหตุหรือโดยปล้นแถวนี้คือคงไม่มีใครเห็น ตายสถานเดียว ในวเลาประมาณ 10 โมง แต่อากาศหนาวเย็นมาก เส้นทางพาขึ้นเขาอย่างต่อเนื่องจนบางทีแอบคิดว่า GPS พากรูมาถูกทางไหม จะถามใครก็ไม่ได้ ขึ้นเขา ผ่านทุ่งนา ผ่านหมูบ้าน ขับไปขับมาเอ้าน้ำมันหมด คราวนี้เอาไงดีหวะเนี่ย ทำไงได้ เอ้า ไปตายเอาดาบหน้าอย่างเดียว ขับไปเรื่อยๆ ลุ้นสุดตัวว่าอย่างเพิ่งดับนะว้อยยยย ก็เจอกับปั้มหลอด(คน กทม งง อะดิ) แบบบ้านเราเปีะ โอ้โห รอดตาย จัดไปเต็มถัง 555555 แม่ค้าน้ำมันพูดอังกฤษเก่งด้วยเลยสนทนาปราศัยไปพักนึง ถือโอกาสพักรถไปด้วย ขับไปเรื่อยๆก็ยังไม่ถึงสักที คือเส้นทางมันไม่ไกลแต่ด้วยลักษณะเส้นทางขึ้นเขา และทำความเร็วได้ไม่มาก ประกอบกับตัวปมเองก็ไม่ได้รีบร้อยอะไร คือเราอยากจะเก็บบรรยากาศให้มากที่สุด ขับไปขับมา เอ้ย เที่ยงดิ คราวนี้หิวสิครัช พอขับไปอีกสักพักก็เข้าเขตชุมชนอีกครั้ง ก็เริ่มมีร้านค้าตามริมถนน เรื่องกินไว้ใจอานนท์ ไม่เคยไม่พลาด 5555 เหลือเห็นร้านแบบร้านข้าวแกงและตามวั่ง เบรคเลยครัช จอดเลยยย บรรยากาศก็ร้านข้าว้บานเราดีๆนี่เอง และที่สำคัญมีข้าวราดแกงด้วย 5555 พยายามจะสื่อสารกับแม่ค้า โอ้โหไม่ได้เลยเหมือนกัน คุยกันไม่รู้เรื่อง ตัดสินใจเลือกเมนูที่เชฟที่สุดครับ(กลัวท้องเสียระหว่างเดินทาง) เมนูนั้นคือ ผัดวุ้นเส้นกับไข่เจีย 5555 งง ดิ นึกว่ากินข้าวอยู่แถวบ้าน รสชาด เดียวกันเลยฮะ 5555 ข้าว1จานกับ 2 อย่างและน้ำอักลมรสมะนาว(กินเกือบไม่ได้ 55) กินให้อิ่มท้องก็ออกเดินทางต่อไป เส้นทางมันชิวมาก ยิ่งออกมาจากเมืองคือมันดีมาก คิดในใจนี่ถ้ามีไทรอัมพ์มาละก็มันแน่ ตลอดสองข้างทางมีภูเขาไฟสวยๆเต็มไปหมด ระหว่างทางผมแวะถ่ายรูปลักษณธเหมือนวัดเล็กๆข้างทาง ซึ่งมีเด็กๆกำลังจัดผ้าประดับสถานที่กันอยู่ อยู่น่ามองจริงๆ แบบเหมือนเด็กๆไปช่วยงานวัดอ่ะ มันได้บรรยากาศของความเป็นชุมชนดี ผมเดินไปมาแถวนั้นก็ขอถ่ายรูปเด็กน้อยที่กำลังช่วยพี่ๆตกแต่งสถานที่อยู่ เด็กน้องขี้อาย ขอถ่ายรูปนานมาก 5555 และแล้วก็เดินทางมาถึงบริเวณไกล้ภูเขาไฟบราสตูร์ มุ่งหน้าลงไปเชิงเขาก็จะเจอกับหมู่บ้านคินตามณี ซึ่งจริงๆแล้วเป็นชื่อชุมชน รที่อยู่บริเวณริมทะเลสาบรอบๆภูเขาไฟ บรรยากาศดีนะ สบายๆๆๆ เหมาะกับคนชอบความชิวแบบผม ที่หมู่บ้านจะมีท่าน้ำและเรือให้บริการซึ่งดูจากค่าบริการในการล่องเรือชมภูเขาไฟและทะเลสาบ ผมจอดรถและเดินลงไปเก็บบรรยากาศแถวนั้นอยู่สักแปบ เจอกับแม่ค้าขายของที่ระลึกเหมือนบ้านเราเลยครัช เดินตามเลยทีเดียว 555 เวลาล่วงเลยจนบ่ายสาม มองดูแบตโทรศัพอั้ยยะ เหลือ 10% เอาแีกแล้ว ทำไงครับให้ทาย................แผนเดิมครับ หาร้านกาแฟ 55555 อินเทอร์เนตช่วยท่านได้ครับ แอพนี้เลยฮะ Wongnai 555555 แอพเดียวเที่ยวสบาย สุดท้ายก็ไปจบที่ร้านกาแฟ kintamani coffee eco bike สารภาพว่าไม่ได้ทำการบ้านมา หาเอาเดี๋ยวนั้น ร้านนีขี่ขึ้นไปห่างจากหมู่บ้านประมาณ 7 กิโล พอไปถึงนี่ถึงกับแบบ เฮ้ย กรูมาถูกที่แล้วเว้บ คือร้านดูภายนอกไม่มีไร แต่วิวภูเขาไฟคือสุดครับ ชอบมาก เดินเข้าไปหาที่วางของ เสียบสายชาด ซึ่งร้านนี้ดีมาก เหมือนเข้าใจนักท่องเที่ยว คือทุกโต๊ะมีปลั๊กไฟให้เสียบ จัดสิครับรออัลไร หลังจากนั้นก็เดินไปสั่งกาแฟกินให้ชื่นใจ สบายตูด คือ สบายกระเป็าตังนั่นเอง 5555 หลังจากสั่งอาหาร กาแฟ เสร็จก็เดินออกไปชมบรรยากาศภูเขาไฟ บราสตูร์ คือ คนไทยจะออกเสียงและในพันทิพจะเขียนว่า บาร์ตู แต่ผมถามเจ้าของร้านเขาออกเสียงบราสตูร์ ซึ่งเขาเน้นให้เลยว่าต้องมี S อ้ะ ตามคนท้องถิ่นละกัน 55555 ออกไปด้านนอกพอออกไปคราวนี้ ความคิดแรกมาเลยครับ....."กรูมาทำอะไรหวะเนี่ย" ไม่มช่ภูเขาไฟไม่สวยหรือบรรยากาศไม่ดีนะครับ เรื่องวิวเอาไป 8/10 คือดีมีราคาเลยทีเดียว แต่ไอที่บอก กรูมาทำไรวะเนี่ยคือ เขามาเป็นคู่เว้ยเฮ้ยยยย โอ้โห นั่งริมระเบียงเป็นคู่ๆ (มีภาพประกอบ) โอ้โห ความโดดเดียววิ่งมาหาเหมือนนัดกันไว้เลยฮ้ะ เอาว่ะ คนเดียวก็เฟี้ยวได้ ระหว่างที่เดินถ่ายรูปก็แอบมองคู่อื่นๆ อื้อหือ หวานไปละเมิงงงงง นั่งกอดคอ กอดเอวกันไป กรูกอดตัวเองก็ได้หวะ จังหวะนั้นเริ่มเย็น อากาศหนาวขึ้นมาก อินโด เป็นประเทศที่น่าจะร้อนจากภูเขาไฟ แต่ดันหนาวมากในเวลากลางคืน อยากแนะนำคนที่จะมาเที่ยวที่นี่นะครับว่า ร้านนี้วิวดีและชิวๆ เหมาะแก่การมานั่งทอดอารมณ์มาก นั่งเสพวิวภูเขาไฟซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆในประเทศไทย สักประมาณ 1ชม เพื่อรอแบตเต็ม 5555 ก็มองดูนาฬิกาเฮ้ย สี่โมงกว่าแล้วเ้วย กว่าจะถึง คูต้า สงสัยมืด ถ้าเป็นบ้านเรานั่งไปเหอะ มืดค่ำก็นั่งไปได้ขี่กลีบชิวๆ แต่ที่นี่อินโด และเส้นทางที่มามันผ่านป่าเขาลำเนาไพรมาก และเรามอเตอร์ไซค์ ก็เลยได้ออกจากร้านประมาณ 4โมง เกือบ 5 โมง ขากลับบอกเลยว่าสั่นครับ เพราะฝนตกปรอยๆแถมลมแรงมาก อากาศน่าจะสิบกว่าๆ ช่วงขี่ผ่านเทือกเขายาวนานนั้นหน้านี่เย็นเจี๊ยบเลย ขากลับนี่หนาวจัดจริงๆ ขี่กลับมาไม่รู้นานเท่าใด ที่แน่ๆ มืดแล้ว GPS ก็พามาอีกทางที่ไม่ใช่ทางเก่า คราวนี้ดันพามาทางด่วน เฮ้ย.....ยิ้มแล้ว ทางด่วน บ้านเรามอเตอร์ไซค์ใช้ไม่ได้นะว้อย คิดในใจโดนตำรวจจับแน่เลยกรู ขี่เข้ามาในด่าน เฮ้ย...มีมอไซค์หลายคนเลย คันหน้าขี่ไปที่ไม้กัน้แล้วมีบัตรใช้สำหรับผ่านทาง เอาแล้ววว กรูจะหาจากที่ไหนละครับพี่น้อง จอดมันตรงนั้นหละ พอจอดได้แปบเดียว คราวนี้เพื่อมาข้างหลังอีกเป็นขบวน 555555 ฝรั่งทั้งโขยงเลยครับประมาณ 6 คัน งง เหมือนกัน ทำท่าผายมือ ผมก็เลยเดินไปหาเจ้าหย้าที่ตรงนั้น ซึ่งเขาก็เดินตามมาแบบรู้งานมาก และก็ส่งบัตรให้ และให้เราจ่ายค่าทางด่วน คือจำไม่ได้ว่าเป็นเงินเท่าไหร่แต่รู่ว่ามันไม่แพงอ่ะ ถูกๆเลย ก็จ่ายไป เขาก็ให้บัตรมาใช่สำหรับผ่านทางคือเอาไปทาบกับเครื่องอัตโนมัติ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมว่า อินโดเจ๋งอ่ะ คือ มีเลนสำหรับมอเตอร์ไซค์ครับพี่น้อง นั่นหละ คือเขามีกั้นเป็นส่วนเลยครับ ขนานกับทางหลัก ซึ่งไม่ใช่แค่ตีเส้นนะ คือมี กำแพงกั้นเลย สูงประมาณ1 เมตร โอ้โหมันดีมากๆๆๆๆ ปลอดภัย และสามารถวิ่งทางด่วนได้ 555 ประเทศไทยของมั่งได้ไหม กว่าจะกลับถึงที่พักก็เกือบ 2 ทุ่มครับ เป็นอันจบวันที่ 2 ของการเที่ยวบาหลี คนเดียวเที่ยวโคตรมัน บราสตูร์ หมู่บ้านคินตามณี พบกัยตอนสุดท้ายของทริปนี้ในตอนต่อไปนะครับ...บ้าย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่