เนื่องจากวันก่อนนักเรียนได้ลงมือแต่งหน้าแบบโดยเน้นที่การลงรองพื้นและการสร้างมิติของโครงหน้า ครูจึงขอเก็บรูปมาอธิบายให้ดูแบบ Step by Step ง่ายๆแต่ละเอียด เผื่อจะนำไปใช้กันนะคะ
แต่ว่าขั้นตอนใครั้งนี้จะค่อนข้างมีหลายขั้นตอนเพื่อความสมบูรณ์ของการแต่งหน้า ดังนั้นในชีวิตจริงถ้าไม่ได้จะแต่งหน้าไปออกงานก็สามารถลดทอนขั้นตอนลงได้ค่ะ
Before
ผิวแห้ง ขาดน้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
After
เริ่มต้นที่ Step 1
น้องมิ้ลค์เลือกใช้รองพื้น l’oreal lucent magique foundation เพราะอยากได้ผิวที่ดูฉ่ำสุขภาพดี
และแบบมีพื้นฐานหน้าแห้งจึงอยากลดการตกร่องจากรองพื้นเนื้อแมทลงไป
ครั้งนี้น้องมิ้ลค์ผสมเบสเขียวเข้าไปเพื่อให้สีรองพื้นสว่างและมีความอมเขียวเพื่อความเทาของสีผิวเพราะแบบมีสีผิวเหลืองอมเขียวเล็กน้อย
การลงรองพื้นน้องมิลค์เลือกใช้แปรงแบนและฟองน้ำไข่คู่กัน
โดยใช้แปรงลงรองพื้นที่ละส่วนของหน้าบางๆและตามด้วยการย้ำจากฟองน้ำไข่ที่ชุบน้ำหมาดๆ
การย้ำด้วยฟองน้ำค่อนข้างสำคัญมาก หากต้องการผิวที่อยู่ทนนานและเนียนกลืนไปเป็นผิว
จะต้องค่อยๆย้ำและหลีกเลี่ยงการใช้ฟองน้ำปาดผิวเพราะจะทำให้รองพื้นเป็นคราบ
ลงรองพื้นเสร็จเรียบร้อย
----------------------------------------------------------------
Step 2
การใช้คอนซีลเลอร์ในการเก็บรอยสิวที่ประจายทั่วหน้า โดยใช้แปรงคอนซีลเลอร์ที่มีปลายแปรงเล็กแน่น
แตะเฉพาะบริเวณที่ต้องการกลบ แล้วใช้นิ้วค่อยๆกดเบาๆให้กลืนไปกับผิว
การเลือกสีคอนซีลเลอร์ควรเลือกที่ใกล้เคียงผิวที่สุด ถ้าขาวไปจะไม่สามารถกลบรอยได้
ถ้าเข้มไปก็จะกลายเป็นผิวด่างๆที่ต้องนำรองพื้นมากลบทับอีกรอบ
ขั้นตอนสำคัญของการเก็บรอยคล้ำใต้ตาที่คล้ำจนเกือบจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม
คือต้องเลือกคอนซีลเลอร์ที่มีเม็ดสีชัดและอมส้มแดงมากกว่าปกติ เพื่อกลบสีดำให้ได้
ครั้งนี้น้องมิลค์เลือกใช้ Nars Concealer สีBiscuit ที่มีเม็ดสีอมส้มเข้ม
เปรียบเทียบแบบที่ลงคอนซีลเลอร์ใต้ตากับไม่ลงคอนซีลเลอร์
หลังจากลงคอนซีลเลอร์ทั้งสองข้างแล้ว
ครูแนะนำว่าให้นำรองพื้นเดิมแตะทับอีกรอบเพื่อเก็บสีส้มให้สว่างขึ้นอีกระดับและสีเสมอผิวทั้งหน้านะคะ
---------------------------------------------------------
Step 3
การลงแก้มด้วยบรัชครีม ครูแนะนำให้วอร์มบรัชครีมที่หลังมือก่อนแล้วค่อยแตะบริเวณหน้าแก้ม ไม่ต่ำกว่าปีกจมูก
จากนั้นใช้ฟองน้ำค่อยๆย้ำเพื่อให้สีของบรัชครีมเบลนออกไปและแน่นเนียนไปกับผิว ระวังอย่าใช้ฟองน้ำปากสีนะคะ
เดี๋ยวจะทำให้รองพื้นและคอนซีลเลอร์ที่ลงไว้หลุดค่ะ ขั้นตอนนี้จะทำให้การแต่งหน้าเสียเวลามาก
ไม่เหมาะสำหรับวันที่เร่งรีบ แต่จะช่วยให้ได้แก้มใต้ผิวสวยๆและทนนานกว่าแบบฝุ่นค่ะ
-------------------------------------------------------------
Step 4
หลังจากได้ผิวที่เนียนแน่นแล้ว ก็ลงด้วยแป้งฝุ่นสีโปร่งแสง เพื่อไม่เปลี่ยนสีรองพื้นของเรานะคะ
ครั้งนี้น้องใช้แป้งศรีจันทร์เพราะสีอมเหลืองสวยสำหรับสาวไทยค่ะ
-----------------------------------------------
Step5
ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการใช้เครื่องสำอางที่เป็นฝุ่นมาเสริมให้ดูมีมิติขึ้น โดยการใช้ไฮไลท์เนื้อเนียนที่มีความวาวเล็กน้อย
ลงในตำแหน่งที่ต้องการให้ดูพุ่งหรือเป็นจุดรับแสงค่ะ
-----------------------------------------------
Step6
หลังลงไฮไลท์ฝุ่นแล้ว จะเป็นการสร้างหน้าแก้มด้วยฝุ่นอีกรอบเพื่อให้ดูผิวอมชมพูระเรื่อ
ครั้งนี้น้องมิ้ลค์ใช้แปรงคาบูกิลงหน้าแก้ม แล้ววนออกเป็นรูปก้นหอยออกกรอบหน้า
แปรงคาบูกิจะมีขนาดใหญ่ช่วยลดการลงแก้มแล้วเป็นจ้ำๆได้สำหรับสาวๆที่มือหนักหรือคุมการจับแปรงยังไม่เก่งนะคะ
น้องเลือกใช้4u2 สี M2 เพราะเป็นสีชมพูอ่อนเบาๆ เหมาะสำหรับสร้างแก้มให้ดูผิวระเรื่อจางๆ ไม่เยอะจนเกินไป
-----------------------------------------
Step สุดท้าย
ในการสร้างมิติของหน้าคือการลงเฉดดิ้งฝุ่น เพื่อสร้างกรอบหน้าให้ดูเรียวและดันให้ไฮไลท์ชัดเจนขึ้น
ควรไล่สีอ่อนๆก่อนแล้วค่อยเพิ่มความเข้มทีละนิดเพื่อป้องกันการเกิดสีชัดจนเกินไปจนเป็นกรอบหน้าแข็งๆ
เสร็จแล้วสำหรับขั้นตอนของการลงผิวและสร้างมิติของหน้า
การแต่งหน้าครั้งนี้เป็นการลงมือแต่งหน้าแบบเต็มขั้นตอนครั้งแรกของน้องซึ่งทำได้ดี
จึงนำมาเป็นตัวอย่างให้ดูนะคะ ถ้าใครที่ยังไม่เก่ง ครูอยากแนะนำว่าการแต่งหน้าเป็นศิลปะที่ต้องการการฝึกฝนบ่อยๆจนชำนาญ
ดังนั้นใครที่ยังทำได้ไม่ดี ให้ลองใช้เวลาแต่งบ่อยๆก็จะเก่งขึ้นเองค่ะ
ในส่วนของเครื่องสำอางน้องเลือกใช้แบบที่ราคากลางๆหาซื้อง่าย ครูคิดว่าน่าจะสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้
แต่ก็ต้องดูตามความเหมาะสมของผิวและโทนที่อยากได้ด้วยนะคะ
ขอให้มีความสุขกับการแต่งหน้านะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/MinimaruMakeupByKai/
https://goo.gl/yzteS3
สอนแต่งหน้า: วิธีลงรองพื้นสร้างงานผิว และสร้างมิติของหน้าด้วยไฮไลท์ เฉดดิ้ง แบบ Step by Step
แต่ว่าขั้นตอนใครั้งนี้จะค่อนข้างมีหลายขั้นตอนเพื่อความสมบูรณ์ของการแต่งหน้า ดังนั้นในชีวิตจริงถ้าไม่ได้จะแต่งหน้าไปออกงานก็สามารถลดทอนขั้นตอนลงได้ค่ะ
การใช้คอนซีลเลอร์ในการเก็บรอยสิวที่ประจายทั่วหน้า โดยใช้แปรงคอนซีลเลอร์ที่มีปลายแปรงเล็กแน่น
การลงแก้มด้วยบรัชครีม ครูแนะนำให้วอร์มบรัชครีมที่หลังมือก่อนแล้วค่อยแตะบริเวณหน้าแก้ม ไม่ต่ำกว่าปีกจมูก
หลังจากได้ผิวที่เนียนแน่นแล้ว ก็ลงด้วยแป้งฝุ่นสีโปร่งแสง เพื่อไม่เปลี่ยนสีรองพื้นของเรานะคะ
ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการใช้เครื่องสำอางที่เป็นฝุ่นมาเสริมให้ดูมีมิติขึ้น โดยการใช้ไฮไลท์เนื้อเนียนที่มีความวาวเล็กน้อย
หลังลงไฮไลท์ฝุ่นแล้ว จะเป็นการสร้างหน้าแก้มด้วยฝุ่นอีกรอบเพื่อให้ดูผิวอมชมพูระเรื่อ
ในส่วนของเครื่องสำอางน้องเลือกใช้แบบที่ราคากลางๆหาซื้อง่าย ครูคิดว่าน่าจะสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้