เจ้าของกระทู้ได้พาลูกชาย อายุ 1ขวบ7เดือน ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ และในคืนที่ 3 ของการไปเที่ยวลูกชายได้ตกเตียงในโรงแรม ซึ่งเตียงค่อนข้างสูงทำให้หัวฟาดที่พื้นอย่างจัง แต่ตอนที่ตกลูกชายร้องแป๊บเดียวค่ะ แล้วก็กลับมาซนเหมือนเดิม ซึ่งแม่เองก็ได้จับดูที่หัวของลูกชายแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ เลยเอายาหม่องทาให้ พอตอนเช้าพ่อเขาอาบน้ำสระผมให้ จับดูหัวลูกจึงรู้สึกเหมือนหัวลูกโนปูดบวมมาก แต่ที่เราตกใจคือตรงบริเวณที่โนปูดบวมนั้นมีลักษณะนิ่มเอามือกดลงไปแล้วบุ๋ม เหมือนมีน้ำในหัว เราเลยโทรหาเพื่อนที่เป็นชาวญี่ปุ่นเพื่อที่จะให้ประสานโรงพยาบาลให้ ณ เวลานั้นสติเราหลุด เราทำอะไรไม่ถูก เพื่อนที่เป็นชาวญี่ปุ่นก็บอกมาว่าการจะไปโรงพยาบาลในญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย เดี๋ยวรอให้เค้าเลิกงานก่อนเค้าจะรีบมาหา ระหว่างที่รอเพื่อนมาหาเราเครียดมากแต่ลูกเรายังปกติยังซนเหมือนเดิมไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด จนถึงช่วงเย็นเพื่อนจึงมาหา และเพื่อนก็ได้โทรประสานทางโรงพยาบาลเพื่อจะขอเอาตัวลูกเราเข้าไปรับการรักษาแต่ทางโรงพยาบาลไม่มีคุณหมอสแตนด์บายเพราะเป็นช่วงเย็น แต่ทางโรงพยาบาลก็ได้สอบถามอาการของลูกเรา ซึ่งเพื่อนเราก็อธิบายให้ฟังว่าหัวของลูกเราโนปูดแต่นิ่มๆ เหมือนมีน้ำอยู่ด้านใน ทางโรงพยาบาลจึงโทรประสานคุณหมอและเล่าเหตุการณ์ให้ฟังอีกต่อหนึ่ง ซึ่งทางคุณหมอก็แจ้งมาว่าเนื่องจากน้องยังเด็ก เวลาหัวกระแทกอะไรอย่างแรงแล้วก็จะมีลักษณะแบบนี้แต่ไม่ต้องตกใจ ที่หัวลูกเรานิ่มเนื่องจากเลือดมันซึมออกมา จากกะโหลกที่มันยังไม่หุ้ม ซึ่งมันจะค่อยๆซึมกลับเข้าไปเอง และเท่าที่สอบถามอาการของลูกเราแล้วลูกเราไม่มีอาการอ้วกไม่มีอาการเดินเซแต่ยังร่าเริงเป็นปกติแสดงว่าด้านไหนไม่มีอะไรแตกหัก คุณหมอยืนยันว่าให้เราสบายใจไม่ต้องไปรับการรักษาอะไรแค่ให้ลูกเราประคบอุ่นที่หัว เนื่องจากมันเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว ถ้ายังไม่เกิน 24 ชั่วโมงให้ประคบเย็น ไม่นานก็หาย แค่ต้องใช้เวลา ซึ่งเราเองก็ยังไม่สบายใจเลยให้เพื่อนโทรประสานโรงพยาบาลทั้งหมด 3 แห่ง ซึ่งทุกแห่งตอบเหมือนกันหมด เราเลยได้หยุดเรื่องโรงพยาบาลของทางญี่ปุ่นไว้ในตอนนั้น และได้ทำการสอบถามแม่ๆในกลุ่มกลุ่มหนึ่งที่เราเป็นสมาชิกอยู่ บังเอิญว่ามีคุณแม่ท่านหนึ่งที่รู้จักกันบอกว่าลูกสาวเค้าเองก็เคยเป็นแบบนี้ซึ่งตอนที่น้องเป็นยังไม่ถึงขวบด้วยซ้ำ น้องตกเตียงสูงมากเหมือนกันและหัวของน้องมีลักษณะนิ่มเหมือนกันเหมือนไม่มีกระดูกอยู่ข้างใน ซึ่งคุณแม่น้องเองก็ได้พาไปหาหมอและทางคุณหมอก็แจ้งมาว่าเดี๋ยวก็หายเหมือนกันกับคุณหมอที่ญี่ปุ่นแจ้งเลยค่ะ คือตอนนั้นทุกคนบอกเราหมดเลยว่าให้เราอดทนเชื่อหมอที่ญี่ปุ่นและเชื่อคุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์กับลูกของเขา สามีเราเองก็บอกว่าถ้าลูกเป็นอะไรมากลูกคงไม่ซนแบบนี้ แต่เราเองก็ยังไม่สบายใจอยู่ดีค่ะพอกลับมาถึงเมืองไทยเราก็ได้พาลูกไปตรวจที่โรงพยาบาลวิภาวดีค่ะซึ่งหลังจากที่คุณหมอได้ตรวจดูคุณหมอเองก็บอกเหมือนกับที่คุณหมอที่ญี่ปุ่นบอกเปี๊ยบเลยค่ะ เด็กที่กะโหลกยังไม่หุ้ม หากมีการถูกกระแทกอย่างแรงจะทำให้มีเลือดที่อยู่ด้านไหนซึมออกมาด้านนอก แต่ไม่เป็นอันตรายใดใดเพราะหลังจากนั้นแล้วเลือดก็จะมีการค่อยๆไหลกลับเข้าไปใหม่ แค่ต้องใช้เวลาเท่านั้น แต่เรายังไม่สบายใจ คุณหมอเลยแนะนำให้เอ็กซเรย์ค่ะ โดยเป็นการเอ็กซเรย์แบบธรรมดาไม่ใช่ tc สแกน แต่จะเห็นถึงกะโหลกว่ามีการแตกร้าวไหม ซึ่งหลังจากเอกซเรย์แล้วตอนนั้นแหละค่ะแม่ยิ้มออกแล้วเพราะมันเป็นอย่างที่คุณหมอบอกจริงๆคือด้านในกะโหลกไม่มีอะไรแตกหัก เพราะอย่างที่คุณหมอบอกว่าถ้าด้านในมีกะโหลกร้าวแตกหรือมีความผิดปกติที่รุนแรงกว่านี้ น้องจะอยู่ไม่ได้ น้องเองต้องงอแง ต้องมองไม่เห็น หรืออาจจะทรงตัวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่นี่เท่าที่ดูแล้วน้องยังปกติดีทุกอย่าง คุณหมอเลยมั่นใจว่าด้านในไม่มีอะไรผิดปกติ
และที่เจ้าของกระทู้มาเล่าให้ทุกท่านฟังเพราะเจ้าของกระทู้อยากให้เป็นประสบการณ์สำหรับคุณแม่หลายท่านที่อาจจะต้องเจอปัญหาแบบนี้ หัวโนปูดแบบนิ่มๆ มันมีอยู่จริงค่ะถ้าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็จะได้ไม่ต้องตกใจค่ะ
ขอร้องอย่าด่าเจ้าของกระทู้นะคะ ไม่มีใครอยากให้ลูกเจ็บ แค่หันหลังให้ลูกแค่ 2 วินาทีแค่นั้น ถ้าเลือกเจ็บได้ก็ขอเป็นคนเจ็บเองค่ะ
ลูกตกเตียงหัวโนแบบนิ่มๆ
และที่เจ้าของกระทู้มาเล่าให้ทุกท่านฟังเพราะเจ้าของกระทู้อยากให้เป็นประสบการณ์สำหรับคุณแม่หลายท่านที่อาจจะต้องเจอปัญหาแบบนี้ หัวโนปูดแบบนิ่มๆ มันมีอยู่จริงค่ะถ้าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็จะได้ไม่ต้องตกใจค่ะ
ขอร้องอย่าด่าเจ้าของกระทู้นะคะ ไม่มีใครอยากให้ลูกเจ็บ แค่หันหลังให้ลูกแค่ 2 วินาทีแค่นั้น ถ้าเลือกเจ็บได้ก็ขอเป็นคนเจ็บเองค่ะ