The Favourite (Yorgos Lanthimos, 2018) คะแนน B+
"อีเสน่ห์ร้าย ตบตีกันแบบมีชั้นเชิง" ผู้กำกับ ยอร์กอส ลานธิมอส หยิบเรื่องราวประวัติศาสตร์มาเล่นตลกปมดราม่าได้อย่างมีชั้นเชิง เรื่องราวของสมเด็จพระราชินีแอนน์ (โอลิเวีย โคลแมน) ที่อยู่ภายใต้ความวุ่นวายของสงคราม รายล้อมไปด้วยพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านที่คอยจะปั่นหัวในการรบกับฝรั่งเศส แต่เนื่องอื่นใด ความชิงดีชิงเด่นหว่านเสน่ห์เพื่อให้ได้เป็นคนชื่นชอบของราชินีแอนน์ แท้จริงกลับเป็น ซาร่าห์ (เรเชล ไวสซ์) และ อบิเกล (เอมม่า สโตน) การเชือดเฉือนกันระหว่างตัวละครทั้งสองตัวจึงสร้างสีสัน และพาเราไปร่วมลุ้นกับบทสรุปว่าใครกันแน่คือฝ่ายชนะศึกแห่งเสน่ห์ครั้งนี้ ใครคือคนที่ได้ครอบครองอำนาจต่อรองจากพระราชินีที่แท้จริง ซึ่งตัวภาพยนตร์อาศัยมุมมองส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริง มาแต่งเติมตีความและสอดแทรกประเด็นของอำนาจที่เกิดขึ้นจากความหลงใหลเสน่ห์หา จนไปถึงแสดงสภาวะความเหงาโดดเดี่ยวของราชินีแอนน์ ที่ขาดทั้งวุฒิภาวะแถมยังเอาแต่ใจ หรือกลายสภาพเป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่งให้กับชนชั้นนำของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความสัมพันธ์ระหว่างพระราชินีแอนน์กับซาราห์ เชอร์ชิล (ดัชเชสแห่งมาร์ลบะระ) จะคงความปกติและจะไม่มีเหตุอะไรมาสั่นคลอนความสัมพันธ์ครั้งนี้เลย ถ้าไม่มีตัวละคร อบิเกล เข้ามาสร้างความร้าวฉานและนำพาให้ความสัมพันธ์ปกติสุขต้องพลิกผันกลับกันไปคนละทิศคนละทาง ซึ่งมุมนี้หนังสามารถทำให้เราร่วมสนุก หัวเราะ และชวนลุ้นว่าทั้งหมดจะลงเอยยังไง แน่นอนว่า ส่วนที่ดีมากเกิดจากการแสดงที่ยอดเยี่ยมของทั้งสามคน ที่ไม่ว่าจะมีฉากอารมณ์เชือดเฉือน ไดอะล็อกดุเผ็ดระหว่างกัน สีหน้าแววตาที่แฝงความดราม่าแต่ก็ชวนตลก ซึ่งทั้งสามคนเหมาะสมแล้วที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ทั้งนักแสดงนำและสมทบ นอกจากนี้ ความมีชั้นเชิงในวิธีกำกับของ ยอร์กอส ลานธิมอส ยังสร้างแนวโน้มของหนังให้น่าติดตาม มีมุมกล้องที่แสดงทั้งมุมกว้าง มุมใกล้ ให้เรามองเห็นพฤติกรรมของตัวละครอย่างมีนัยยะประเด็นแอบแฝง เราจึงเป็นทั้งผู้แอบมอง ผู้ร่วมสังเกต หรือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเป็นความแปลกประหลาดแบบมีคลาสอีกด้วย งานโปรดักชั่นแสดงความเป็นชนชั้นนำในอดีตของอังกฤษได้ชัดเจน ฉากและเครื่องแต่งกายจัดเต็ม รวมไปถึงดนตรีประกอบที่ชวนปลุกเร้าอารมณ์
ท้ายสุด The Favourite สมควรอย่างยิ่งที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 10 สาขา เพราะในทุกสาขาที่ได้เข้าชิงนั้นมีศักยภาพพอที่จะได้รางวัลทั้งหมด และงานนี้ของผู้กำกับ ยอร์กอส ลานธิมอส ไม่ได้ดูยากจนเกินไปสำหรับคอหนังทั่วไป ความง่ายของหนังทำให้เราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมโดยไม่ต้องตีความเยอะ หรือแทนสัญลักษณ์ต่าง ๆ เหมือนกับภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ข้อความที่หนังใช้ต่อตัวละครนำที่เป็นเพศหญิง ได้แสดงอำนาจการต่อรอง เสียดสี ทิ่มแทง พิษภัยที่เกิดจากเสน่ห์ของสตรี ในการครอบครองอำนาจไว้ในกำมือ ซึ่งตัวละครเพศชายในเรื่องถูกเพศหญิงกดทับอยู่ตลอดเวลาอย่างสิ้นไร้ไม้ต่อ ดังนั้น อีเสน่ห์ร้าย จึงเป็นภาพยนตร์ที่มีทั้งเรื่องราวในรั้ววัง สตรีนิยม อำนาจเป็นใหญ่ จนไปถึงความไร้เดียงสาไม่รู้โลกของผู้ปกครองประเทศ...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: The Favourite (Yorgos Lanthimos, 2018) รีวิวโดย Form Corleone
"อีเสน่ห์ร้าย ตบตีกันแบบมีชั้นเชิง" ผู้กำกับ ยอร์กอส ลานธิมอส หยิบเรื่องราวประวัติศาสตร์มาเล่นตลกปมดราม่าได้อย่างมีชั้นเชิง เรื่องราวของสมเด็จพระราชินีแอนน์ (โอลิเวีย โคลแมน) ที่อยู่ภายใต้ความวุ่นวายของสงคราม รายล้อมไปด้วยพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านที่คอยจะปั่นหัวในการรบกับฝรั่งเศส แต่เนื่องอื่นใด ความชิงดีชิงเด่นหว่านเสน่ห์เพื่อให้ได้เป็นคนชื่นชอบของราชินีแอนน์ แท้จริงกลับเป็น ซาร่าห์ (เรเชล ไวสซ์) และ อบิเกล (เอมม่า สโตน) การเชือดเฉือนกันระหว่างตัวละครทั้งสองตัวจึงสร้างสีสัน และพาเราไปร่วมลุ้นกับบทสรุปว่าใครกันแน่คือฝ่ายชนะศึกแห่งเสน่ห์ครั้งนี้ ใครคือคนที่ได้ครอบครองอำนาจต่อรองจากพระราชินีที่แท้จริง ซึ่งตัวภาพยนตร์อาศัยมุมมองส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริง มาแต่งเติมตีความและสอดแทรกประเด็นของอำนาจที่เกิดขึ้นจากความหลงใหลเสน่ห์หา จนไปถึงแสดงสภาวะความเหงาโดดเดี่ยวของราชินีแอนน์ ที่ขาดทั้งวุฒิภาวะแถมยังเอาแต่ใจ หรือกลายสภาพเป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่งให้กับชนชั้นนำของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความสัมพันธ์ระหว่างพระราชินีแอนน์กับซาราห์ เชอร์ชิล (ดัชเชสแห่งมาร์ลบะระ) จะคงความปกติและจะไม่มีเหตุอะไรมาสั่นคลอนความสัมพันธ์ครั้งนี้เลย ถ้าไม่มีตัวละคร อบิเกล เข้ามาสร้างความร้าวฉานและนำพาให้ความสัมพันธ์ปกติสุขต้องพลิกผันกลับกันไปคนละทิศคนละทาง ซึ่งมุมนี้หนังสามารถทำให้เราร่วมสนุก หัวเราะ และชวนลุ้นว่าทั้งหมดจะลงเอยยังไง แน่นอนว่า ส่วนที่ดีมากเกิดจากการแสดงที่ยอดเยี่ยมของทั้งสามคน ที่ไม่ว่าจะมีฉากอารมณ์เชือดเฉือน ไดอะล็อกดุเผ็ดระหว่างกัน สีหน้าแววตาที่แฝงความดราม่าแต่ก็ชวนตลก ซึ่งทั้งสามคนเหมาะสมแล้วที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ทั้งนักแสดงนำและสมทบ นอกจากนี้ ความมีชั้นเชิงในวิธีกำกับของ ยอร์กอส ลานธิมอส ยังสร้างแนวโน้มของหนังให้น่าติดตาม มีมุมกล้องที่แสดงทั้งมุมกว้าง มุมใกล้ ให้เรามองเห็นพฤติกรรมของตัวละครอย่างมีนัยยะประเด็นแอบแฝง เราจึงเป็นทั้งผู้แอบมอง ผู้ร่วมสังเกต หรือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเป็นความแปลกประหลาดแบบมีคลาสอีกด้วย งานโปรดักชั่นแสดงความเป็นชนชั้นนำในอดีตของอังกฤษได้ชัดเจน ฉากและเครื่องแต่งกายจัดเต็ม รวมไปถึงดนตรีประกอบที่ชวนปลุกเร้าอารมณ์
ท้ายสุด The Favourite สมควรอย่างยิ่งที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 10 สาขา เพราะในทุกสาขาที่ได้เข้าชิงนั้นมีศักยภาพพอที่จะได้รางวัลทั้งหมด และงานนี้ของผู้กำกับ ยอร์กอส ลานธิมอส ไม่ได้ดูยากจนเกินไปสำหรับคอหนังทั่วไป ความง่ายของหนังทำให้เราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมโดยไม่ต้องตีความเยอะ หรือแทนสัญลักษณ์ต่าง ๆ เหมือนกับภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ข้อความที่หนังใช้ต่อตัวละครนำที่เป็นเพศหญิง ได้แสดงอำนาจการต่อรอง เสียดสี ทิ่มแทง พิษภัยที่เกิดจากเสน่ห์ของสตรี ในการครอบครองอำนาจไว้ในกำมือ ซึ่งตัวละครเพศชายในเรื่องถูกเพศหญิงกดทับอยู่ตลอดเวลาอย่างสิ้นไร้ไม้ต่อ ดังนั้น อีเสน่ห์ร้าย จึงเป็นภาพยนตร์ที่มีทั้งเรื่องราวในรั้ววัง สตรีนิยม อำนาจเป็นใหญ่ จนไปถึงความไร้เดียงสาไม่รู้โลกของผู้ปกครองประเทศ...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/