สวัสดีครับวันนี้ผมจะมารีวิวการทดลองใช้งานสาย Type-c to HDMI หลังจากที่ Samsung Galaxy Note 8 ได้รับการอัพเดทเป็น Andriod 9
ซึ่งจากที่พอจะทราบกันดีว่าใน Note 8 ก่อนหน้านี้นั้นหากต้องการใช้ DEX MODE ต้องมีอุปกรณ์เสริมคือ DEX STATION ซึ่งมีราคาถึงหลักพันบาท
แต่หลังจากที่ได้รับการอัพเดททั้ง ONE UI และตัว Andriod 9 ทำให้ Galaxy Note 8 นั้นสามารถใช้งาน DEX MODE ได้เพียงแค่เสียบสายเท่านั้น !!!
และสาย Type-c to HDMI ที่ผมได้มาในราคา 790.- นั้นจะทำได้ดีแค่ไหนไปดูกันเลยครับ
โดยปกตินั้นผมจะเล่นคอม 2 หน้าจออยู่แล้ว โดยที่อันหนึ่งเปิดหนัง หรือ Youtube ไปเรื่อยเปื่อย อีกจอก็เอาไว้เล่นเกมส์หรือทำงานบ้างในบางครั้ง
ซึ่งเมื่อรู้ว่า Note 8 ใช้ DEX MODE ได้ก็เริ่มหาข้อมูลเรื่องของสายที่จะนำมาใช้เพื่อตอบสนองความอยากลองของผมเอง
จนวันนี้ผมไปเดินที่ห้างแถวบ้านและได้สอบถามพนักงานว่ามีสาย Type-c to HDMI หรือไม่ พอน้องตอบว่ามีเท่านั้น ก็ทำให้ตาผมลุกวาวเป็นประกาย
ทางร้านให้ผมทดลองต่อสายกับทีวีของร้านก่อนเพื่อความแน่ใจ ซึ่งปรากฎว่าใช้ได้ดังนั้นผมก็รีบจ่ายเงินทันที
ราคาเต็มคือ 990.- ซึ่งทางลดลดให้เหลือราคา 790.- บาท
และนี่คืออุปกรณ์ที่ผมจะลองใช้ DEX MODE ในค่ำคืนวันนี้ครับ Note 8 ผู้ซึ่งได้รับการอัพเดทเรียบร้อย
ผมขอเสริมเรื่อง ONE UI ของทางซัมซุงนิดนึงนะครับ หลังจากที่ผมได้ลองใช้ดูแล้วส่วนตัวรู้สึกปลื้มมาก
ไอคอนมีความน่ารักขึ้น โหมดการใช้งานต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้อย่างผมสะดวกขึ้นเยอะครับ อันนี้มาจากความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ
งั้นมาเริ่มกันเลยครับ ในขั้นแรกผมตรวจสอบก่อนว่าแบตเตอรี่เหลืออยู่ที่ 97%
และได้รับการอัพเดทเป็น Andriod 9 จริง ๆ
จากนั้นก็ได้เปิดกล่อง และสาย Type-c to HDMI จะถูกจัดเก็บไว้ประมาณในรูปนะครับ
*สายได้ถูกเปิดทดลองใช้ที่ร้านมาก่อนแล้วครับ*
มาถึงหัวต่อของแต่ละฝั่งกันเลยครับ ด้านหนึ่งคือ Type-c และอีกด้านหนึ่งคือ HDMI
ผมนำด้านที่เป็น HDMI เสียบเข้ากับช่องหลังทีวีให้เรียบร้อย
ส่วนอีกด้านที่เป็น Type-c ก็เสียบเข้าไปที่ Note 8 เช่นกัน
เมื่อเสียบสายเข้าไปแล้วให้สังเกตุที่มุมบนด้านซ้ายมือจะมีไอคอนแสดงการเชื่อมต่อขึ้นมา
เมื่อเราลากแถบการแจ้งเตือนลงมาจะพบหัวข้อดังในรูปด้านบนนะครับ แสดงว่าการเชื่อมต่อสำเร็จและอีกอันคือ
การใช้หน้าจอโทรศัพท์เป็น Touchpad หรือเป็นเมาส์นั่นเองให้เราจิ้มลงไปได้เลยครับ
หน้าจอโทรศัพท์ของเราก็จะขึ้นเป็นตารางดังรูปด้านบนครับ
ในส่วนของทีวีนั้นให้เราเลือกช่อง HDMI ที่เราได้เสียบสาบเอาไว้แล้ว
หน้าจอทีวีธรรมดา ๆ ก็จะเข้าสู่ DEX MODE ครับผม
ในส่วนของแอพก็จะถูกจัดวางอย่างสวยงาม การเลื่อนหน้าก็จะคล้าย ๆ กับการที่เราใช้นิ้มมือปาดไปมาบนหน้าจอโทรศัพท์ปกติครับ
ทีนี้เรามาลองเปิดแอพดูว่าเป็นยังไงบ้าง โดยผมเริ่มจากการเปิด Netflix ครับ
งั้นขั้นต่อมาลองเปิด Youtube ขึ้นมาอีกหน้าต่างหนึ่ง ก็ยังใช้ได้ดีอยู่
แล้วถ้าเราอยากจะแชทคุยกับเพื่อนล่ะ ไม่มีปัญหาครับหน้าจอที่ 3 ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา
ถ้ายังไม่หนำใจงั้นเปิด Facebook และ IG ด้วยเลยก็ยังสบาย ๆ
และสำหรับคนที่สงสัยว่าจะพิมพ์ยังไง นี่คือคำตอบครับ
เมื่อเราเลื่อนเมาส์ไปไว้ในช่องข้อความเพื่อจะพิมพ์ตัวอักษร แป้นคีย์บอร์ดก็จะเด้งขึ้นมาเป็นแบบนี้เลยครับ
แล้วถ้าเป็นงานเอกสารล่ะ ก็ไม่มีปัญหาเช่นกันครับสามารถเปิดใช้งานได้เช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างในรูปเป็น word ผมลองเปิดและพิมพ์ดูก็ใช้ได้ แต่อาจจะยุ่งยากสักหน่อยสำหรับการใช้งานที่จริงจัง
แต่ถ้าแค่การแก้ไขงานเล็กน้อย ผมว่าก็ใช้ได้ดีเลยทีเดียว
มาถึงบทสรุปในตอนท้าย
ถามว่าจำเป็นต้องซื้อมั๊ยผมก็บอกได้ว่าไม่จำเป็นสำหรับคนที่มีอุปกรณ์อื่น ๆ ในการทำงานอยู่แล้ว
เช่นอย่างผมเองก็มี Notebook ที่บ้าน หรือถ้าออกไปนอกบ้านผมก็ใช้ Ipad ในการจดหรือแก้ไขเอกสารอยู่แล้ว
ส่วนตัวผมมองว่าเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ยามฉุกเฉิน มีก็ดี ไม่มีก็ได้ คือเรามีสายนี้ก็ช่วยให้มีตัวเลือกในความบันเทิงเพิ่มขึ้น
เพราะในปัจจุบันตามโรงแรมที่พักส่วนใหญ่ก็มีทีวีที่มีช่อง HDMI อยู่แล้ว เราก็แค่โหลดหนังใส่เครื่อง พอไปถึงเสียบสายและก็นอนดูได้เลย
และสำหรับ Note 8 ในมือของผมนั้น ก็คงอยู่ด้วยกันยาวขึ้นอีกแน่นอน แม้ว่าตอนนี้จะมีทั้ง Note 9 และล่าสุดก็ S10 ออกมา
เพราะตัวผมเองการที่ Note 8 สามารถใช้งาน DEX MODE ได้ ก็ทำให้ผมรู้สึกว่ามี Notebook ขนาดเล็กเพื่อใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวได้สบาย
หากต้องใช้เพื่อความบันเทิงก็ทำให้เพิ่มอรรถรสในการดูมากขึ้น หากใช้งานด้านเอกสารก็พอที่จะช่วยแก้ขัดได้ไม่มีปัญหาอะไร
* หากกระทู้นี้ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ *
ขอบคุณครับ....
[CR] รีวิวทดลองใช้ DEX MODE ของ Samsung Galaxy Note 8 กับสาย Type-c to HDMI
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้