ขอออกตัวก่อนนะคะว่ากระทู้นี้อาจจะอ่านยากเพราะจขพ.พิมพ์ในโทรศัพท์และไม่เก่งเรื่องการเขียนบล็อคบรรยาย เราแค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ของการเจอเมทนะคะ
ก่อนอื่นเลยเราเป็นนักศึกษาค่ะเราอยู่หอในมอมาตลอดเมทก็เปลี่ยนมาตลอดทุกปีจนปีนี้ปีสุดท้าย มันพีคตรงปีนี้นี่แหละเมทปีนี้ที่เราเจอเป็นคนเรียนนิติฯทั้ง2 คน(มีปัญหาแค่กับคนคนเดียว) เราเข้ามาตอนแรกด้วยความที่เราเป็นคนยังไงก็ได้ไม่ค่อยอะไรมากเรื่องแรกก็มาค่ะ นางเลี้ยงปลาในห้องนางต้องกลับบ้านนางฝากเราให้อาหาร เปลี่ยนน้ำ เราไม่ได้อะไรนะส่วนตัวแต่รู้สึกว่าเราสนิทกันขนาดไหนความเกรงใจไม่มีเลยหรอเพิ่งรู้จักกัน มาเรื่องที่สองต่อค่ะนางยืมกล้องอ่านไม่ผิดหรอกค่ะนางยืมกล้องถ่ายรูปในใจอยากปฎิเสธนะแต่ก็ให้ยืมไปแล้วนางก็ยืมอีก3-4ครั้งจนเลยส์กล้องแตก(นี่สินะมีครั้งแรกต้องมีครั้งที่2) นางบอกนางไม่ได้ทำเราเลยบอกงั้นออกกันคนละครึ่งนางก็ทยอยโอนจนเดือนสุดท้ายเราบอกว่าโอนที่เหลือมาให้หมดเลย(เหลืออีก 1000) นางเหมือนจะขอทยอยผ่อนอีกเราเลยใช้เรื่องดอกเบี้ยว่าจะติดดอกเบี้ย 300 ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรหรอกเพราะนางผ่อนมานานมากไม่ครบสักทีอยากให้ได้ครบๆเลยบอกแบบนี้ไป ด้วยความที่นางเรียนนิตินางก็ถามคิดยังไง 300 เราก็บอกไปกะเอาเพราะคิดว่าถ้าเอาเงินไปบงทุนเงินมันไม่อยู่แค่นี้แน่นอนแถมได้กำไรเยอะกว่าคิดดอกเบี้ย300 อีก นางก็เริ่มโวยวายในแชทเอาเรื่องนู่นนี่มาว่า (ขอย้อนนิดนึงนะคะอาจจะงง เมทกับเราเคยคุยกันเรื่องห้องเราเคยเอาขยะไปทิ้งในถังนางนางไม่พอใจบอกเป็นถังขยะส่วนบุคคลแต่เรารีบและเอาไปทิ้งแค่ครั้งเดียว) เช่นเรื่องทิ้งขยะบอกว่าเรายังทิ้งขยะที่ถังนางเราหน้าด้านบ้างหละ, เราปิดประตูเสียงดังอันนี้อาจจะเป็นคำแก้ตัวนะแต่ว่าประตูมันพองน้ำลองปิดเบาๆแล้วมันไม่ลงจริงๆ, เรื่องหนูเรา(เราเลี้ยงหนูแฮมเตอร์หลังจากเห็นเมทเลี้ยงปลา) นางบอกว่าหนูเรามีกลิ่นแล้วเอากฎหมายมาพูดว่าผิดมาตรา 433 ฟ้องได้นะ ถ้ามันเกินมากไปนะบอกเลยอย่ามาเล่นกับเด็กนิติ (คำนี้เราไม่ชอบมาก) เราทำความสะอาดแทบทุกวันนะแล้วเอาจริงๆเราว่าปลาที่นางเลี้ยงก็มีกลิ่นเราเลยบอกกลับไปว่าปลาที่เลี้ยงก็มีกลิ่นนะ, เรื่องห้องน้ำเราเป็นคนอาบน้ำนานอันนี้เรารู้เราจะเลือกอาบหลังสุดเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาแต่ก็มีที่นางอาบหลังเราบ้างนางเลยถามว่าเข้าไปนั่งสมาธิหรือนั่งญาณหรออาบเป็นชั่วโมง, เรื่องพัดลมบางครั้งเราออกจากห้องบางครั้งเราลืมปิดนางบอกกลัวห้องร้อนหรองั้นก็จ่ายค่าไฟคนเดียวสิ คือเราคิดว่าคนอคติก็คือคนอคตินางลืมปิดเรายังไม่พูดไม่เอามาเป็นประเด็นแถมเราบอกไปว่าตอนนางทำฟักบัวพังน้ำไหลไม่หยุดนี่ยังไม่ขอโทษสักคำค่าน้ำค่าไฟที่เพิ่มมาเราก็ช่วยจ่ายนะไม่พูดด้วยซ้ำจนนางมาพูดนี่แหละเราถึงบอกไป แต่. . แม้เราพูดแย้งอะไรกลับไปนางตอกกลับมาว่าตอนแรกเหมือนเราทำตัวเป็นพี่สาวที่แสนดีอ่อนหวานเรียบร้อยแต่อยู่ๆไปสันดานออก เราเลยบอกว่าใครทำดีด้วยก็ทำดีใครทำไม่ดีก็ทำแบบนั้นกลับนางจึงเอาเรื่องเพื่อนมาพูดว่าเนี่ยเพราะพี่เป็นคนแบบนี้ถึงเพื่อนไม่คบ ไม่มีบัดดี้นอนหอด้วย เดี๋ยวววว การอยู่หอคนเดียวสุ่มเมทแสดงว่าเพื่อนไม่คบ?การที่ชอบอยู่ห้องเพื่อนไม่คบ? งงตรรกะน้องมากค่าเราเลยบอกน้องไปว่าไม่ต้องเบี่ยงประเด็นโอนเงินมาให้ครบก็จบสุดท้ายน้องโอนเงินครบแล้วก็บล็อคกันไป
ปล.เอาจริงๆเรื่องเลี้ยงสัตว์ผิดทั้งคู่นะอันนี้เรารู้เพราะอยู่ส่วนรวมและหอในมหาลัย (แต่เราก็ยังเลี้ยงอันนี้ผิดจริงยอมรับจากใจ)
เมทนรก?
ก่อนอื่นเลยเราเป็นนักศึกษาค่ะเราอยู่หอในมอมาตลอดเมทก็เปลี่ยนมาตลอดทุกปีจนปีนี้ปีสุดท้าย มันพีคตรงปีนี้นี่แหละเมทปีนี้ที่เราเจอเป็นคนเรียนนิติฯทั้ง2 คน(มีปัญหาแค่กับคนคนเดียว) เราเข้ามาตอนแรกด้วยความที่เราเป็นคนยังไงก็ได้ไม่ค่อยอะไรมากเรื่องแรกก็มาค่ะ นางเลี้ยงปลาในห้องนางต้องกลับบ้านนางฝากเราให้อาหาร เปลี่ยนน้ำ เราไม่ได้อะไรนะส่วนตัวแต่รู้สึกว่าเราสนิทกันขนาดไหนความเกรงใจไม่มีเลยหรอเพิ่งรู้จักกัน มาเรื่องที่สองต่อค่ะนางยืมกล้องอ่านไม่ผิดหรอกค่ะนางยืมกล้องถ่ายรูปในใจอยากปฎิเสธนะแต่ก็ให้ยืมไปแล้วนางก็ยืมอีก3-4ครั้งจนเลยส์กล้องแตก(นี่สินะมีครั้งแรกต้องมีครั้งที่2) นางบอกนางไม่ได้ทำเราเลยบอกงั้นออกกันคนละครึ่งนางก็ทยอยโอนจนเดือนสุดท้ายเราบอกว่าโอนที่เหลือมาให้หมดเลย(เหลืออีก 1000) นางเหมือนจะขอทยอยผ่อนอีกเราเลยใช้เรื่องดอกเบี้ยว่าจะติดดอกเบี้ย 300 ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรหรอกเพราะนางผ่อนมานานมากไม่ครบสักทีอยากให้ได้ครบๆเลยบอกแบบนี้ไป ด้วยความที่นางเรียนนิตินางก็ถามคิดยังไง 300 เราก็บอกไปกะเอาเพราะคิดว่าถ้าเอาเงินไปบงทุนเงินมันไม่อยู่แค่นี้แน่นอนแถมได้กำไรเยอะกว่าคิดดอกเบี้ย300 อีก นางก็เริ่มโวยวายในแชทเอาเรื่องนู่นนี่มาว่า (ขอย้อนนิดนึงนะคะอาจจะงง เมทกับเราเคยคุยกันเรื่องห้องเราเคยเอาขยะไปทิ้งในถังนางนางไม่พอใจบอกเป็นถังขยะส่วนบุคคลแต่เรารีบและเอาไปทิ้งแค่ครั้งเดียว) เช่นเรื่องทิ้งขยะบอกว่าเรายังทิ้งขยะที่ถังนางเราหน้าด้านบ้างหละ, เราปิดประตูเสียงดังอันนี้อาจจะเป็นคำแก้ตัวนะแต่ว่าประตูมันพองน้ำลองปิดเบาๆแล้วมันไม่ลงจริงๆ, เรื่องหนูเรา(เราเลี้ยงหนูแฮมเตอร์หลังจากเห็นเมทเลี้ยงปลา) นางบอกว่าหนูเรามีกลิ่นแล้วเอากฎหมายมาพูดว่าผิดมาตรา 433 ฟ้องได้นะ ถ้ามันเกินมากไปนะบอกเลยอย่ามาเล่นกับเด็กนิติ (คำนี้เราไม่ชอบมาก) เราทำความสะอาดแทบทุกวันนะแล้วเอาจริงๆเราว่าปลาที่นางเลี้ยงก็มีกลิ่นเราเลยบอกกลับไปว่าปลาที่เลี้ยงก็มีกลิ่นนะ, เรื่องห้องน้ำเราเป็นคนอาบน้ำนานอันนี้เรารู้เราจะเลือกอาบหลังสุดเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาแต่ก็มีที่นางอาบหลังเราบ้างนางเลยถามว่าเข้าไปนั่งสมาธิหรือนั่งญาณหรออาบเป็นชั่วโมง, เรื่องพัดลมบางครั้งเราออกจากห้องบางครั้งเราลืมปิดนางบอกกลัวห้องร้อนหรองั้นก็จ่ายค่าไฟคนเดียวสิ คือเราคิดว่าคนอคติก็คือคนอคตินางลืมปิดเรายังไม่พูดไม่เอามาเป็นประเด็นแถมเราบอกไปว่าตอนนางทำฟักบัวพังน้ำไหลไม่หยุดนี่ยังไม่ขอโทษสักคำค่าน้ำค่าไฟที่เพิ่มมาเราก็ช่วยจ่ายนะไม่พูดด้วยซ้ำจนนางมาพูดนี่แหละเราถึงบอกไป แต่. . แม้เราพูดแย้งอะไรกลับไปนางตอกกลับมาว่าตอนแรกเหมือนเราทำตัวเป็นพี่สาวที่แสนดีอ่อนหวานเรียบร้อยแต่อยู่ๆไปสันดานออก เราเลยบอกว่าใครทำดีด้วยก็ทำดีใครทำไม่ดีก็ทำแบบนั้นกลับนางจึงเอาเรื่องเพื่อนมาพูดว่าเนี่ยเพราะพี่เป็นคนแบบนี้ถึงเพื่อนไม่คบ ไม่มีบัดดี้นอนหอด้วย เดี๋ยวววว การอยู่หอคนเดียวสุ่มเมทแสดงว่าเพื่อนไม่คบ?การที่ชอบอยู่ห้องเพื่อนไม่คบ? งงตรรกะน้องมากค่าเราเลยบอกน้องไปว่าไม่ต้องเบี่ยงประเด็นโอนเงินมาให้ครบก็จบสุดท้ายน้องโอนเงินครบแล้วก็บล็อคกันไป
ปล.เอาจริงๆเรื่องเลี้ยงสัตว์ผิดทั้งคู่นะอันนี้เรารู้เพราะอยู่ส่วนรวมและหอในมหาลัย (แต่เราก็ยังเลี้ยงอันนี้ผิดจริงยอมรับจากใจ)