ในวันที่แม่ของฉันเป็นโรคซึมเศร้า

คิดนานมากว่าจะเขียนดีมั้ย​ แต่อยากฝากไว้เตือนให้สังเกตคนใกล้ตัวไว้ค่ะ​ ยาวหน่อยนะคะ

1.ประมาณสองสามปีก่อน​ เราเริ่มสังเกตได้ว่าแม่เรามีอาการแปลกไป​ แค่เห็นต้นไม้เหี่ยวเฉาแกก็จะพูดว่ารู้สึกหดหู่​ แล้วก็ซึมๆไปเลย​

2.ต่อมาเริ่มเศร้า​ สลับกับซึมบ้างนานๆครั้ง​ ซึ่งตอนนั้นคนในบ้านคิดไปว่าอาจมาจากปัญหาการเงินในบ้าน​ (ตอนนั้นฐานะทางบ้านแย่ค่ะ​ เราเรียนมหาลัยต่างจังหวัดในคณะที่ค่อนข้างใช้เงินพอสมควร​ และครอบครัวพยายามช่วยกันประหยัดเต็มที่)​ อันนี้​ จขกท.เริ่มคิดว่าไม่ปกติละ​ (เราเรียนทางสายการแพทย์เลยพอรู้คร่าวๆมาบ้างค่ะ)​ เลยแนะนำให้ไปหาหมอแต่แม่ไม่ยอมค่ะ​ เพราะอาการซึมเศร้านี้นานๆจะเป็นทีและค่อยๆหายไปเอง

3.หลังจากเวลาผ่านไปใกล้ๆเราเรียนจบแม่เริ่มมีโรคกระเพาะกำเริบ​ ซึ่งรักษาต่อเนื่องนานมาก​ และด้วยตัวโรคที่ต้องใช้เวลาเพราะแม่เป็นๆหายๆมานานกว่า30ปีแล้วค่ะ​ ซึ่งเหตุการณ์เริ่มแย่ขึ้นเรื่อยๆเพราะเครียดที่ว่าโรคกระเพาะไม่หายซักทีทำให้ซึมเศร้าหนักเข้าไปอีก​ เราพยายามบอกให้ไปหาหมอเพื่อรักษาอาการซึมเศร้าไปด้วยแต่แกไม่ยอมค่ะ​ จขกท.เลยปล่อยตามเลย​ (ซึ่งอันนี้เราผิดเองค่ะ​ จริงๆควรรีบรักษาได้แล้ว)​

4.จากนั้นเมื่อไม่ถึงสองเดือนที่ผ่านมา​ อยู่ๆแม่ก็เข้ามาบอกเราว่าไม่ไหวแล้ว​ ซึมเศร้าจนทนไม่ไหวเลยสมัครใจรักษาเองแล้วทีนี้​ ก็เริ่มพบหมอรักษาปรับยากันมา​ แต่เนื่องจากผลข้างเคียงของยาทำให้แม่ไม่ได้กินยาตามหมอสั่งแต่ปรับลดยาเอง​ (อันนี้เราก็ผิดอีกแล้วค่ะที่ตามใจแม่​ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ดีมากๆ)​

5.จนเมื่อสามสี่วันที่ผ่านเวลาประมาณสามทุ่มแม่ร้องไห้บอกว่าไม่ไหวแล้ว​ ใจหวิวๆ​ นอนไม่ได้​ เราตกใจคิดว่ามีอาการโรคหัวใจหรือเป็นโรคอื่นเลยรีบไปโรงพยาบาล​ หมอตรวจทุกอย่างปรากฏว่าปกติดี​ อาการที่เกิดเป็นผลมาจากโรคซึมเศร้า​ หมอที่อยู่เวรเลยแนะนำให้มาพบหมอที่รักษาเฉพาะทางในวันรุ่งขึ้น(จริงๆมีนัดหมอเฉพาะทางด้านโรคซึมเศร้าอยู่แล้วค่ะ)

6.ล่าสุดอาการแม่แย่มากๆเศร้าจนไม่ค่อยกินข้าว​ ไม่ทำกิจกรรมปกติ​ (ยาต้องใช้เวลาออกฤทธิ์เต็มที่2-4 สัปดาห์เลยค่ะ​ )​ เราได้พยายามอย่างมาก​ ทั้งให้กำลังใจ​ ปลอบใจ​ ให้ฟังธรรมะ​ พาไปทำบุญ​ แต่อาการก็ยังไม่ค่อยดี​ วันหยุดนี้เราว่าจะลองพาไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศดูค่ะ

>>ตอนนี้สถานะทางบ้านไม่มีอะไรน่าห่วงเลยค่ะ​ พ่อและเราช่วยกันดูแลให้ความรักเต็มที่​ การเงินก็ไม่มีปัญหา​

*สุดท้ายนี้อยากฝากให้สังเกตคนใกล้ตัวเราดูนะคะ​ อย่าเริ่มรักษาเมื่อมีการหนักแล้ว​ รีบรักษาแต่เนิ่นๆเลยค่ะ​ เพราะกว่ายาจะออกฤทธิ์กว่าจะปรับให้เหมาะสมกับผู้ป่วยใช้เวลาค่อนข้างนานและในช่วงที่ปรับกันนี่แหละค่ะ​ ครอบครัวต้องเข้าใจให้มากๆเพราะไม่งั้นเราจะเครียดตามเลยจริงๆ

#โรคซึมเศร้าเกิดขึ้นได้กับทุกคนจริงๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่