ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี! เจษฏ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ชี้ กรณีประวัติ “ธนาธร” ที่ลงในเว็บไซต์พรรคคลาดเคลื่อน ไม่ถึงขั้นยุบพรรค คนผิดติดคุก 10 ปี ถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
วันที่ 22 ก.พ. นายเจษฏ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ ลงประวัตินายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ว่า เป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสองสมัยซ้อน ทั้งที่เป็นแค่ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครนายก โดยปล่อยข้อมูลที่ผิดพลาดทิ้งไว้นานถึงห้าเดือนก่อนแก้ไข หลังถูกเปิดโปงในโลกออนไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเคยระบุไปว่า หากพบว่าเป็นการกระทำความผิด ฐานหลอกลวง จูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ตามมาตรา 73 (5) ว่า มีโทษถึงขั้นยุบพรรคนั้น เมื่อไปดูรายละเอียดในกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. พบว่า บทลงโทษกรณีดังกล่าวไม่ถึงขั้นยุบพรรค แต่มีโทษตามมาตรา 159 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดยี่สิบปี รวมถึงในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจำนวนเงินค่าปรับให้แก่ผู้แจ้งความนำจับด้วย ซึ่งในขณะนี้ ก็ไม่ทราบว่า จะมีผู้ไปกล่าวโทษพรรคอนาคตใหม่ในกรณีนี้หรือไม่ ส่วนโทษที่ทำให้ถึงขั้นถูกยุบพรรคจะอยู่ในมาตรา 75 ที่บัญญัติ ห้ามมิให้ผู้ใดหรือพรรคการเมืองใด เรียกหรือรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดเพื่อลงสมัครหรือส่งผู้สมัครหรือไม่ลงสมัครหรือไม่ส่งผู้สมัครอันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งและทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ซึ่งเคยมีกรณีพรรคการเมืองที่ทำความผิดในเรื่องจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ถูกยุบพรรคมาแล้วคือพรรคไทยรักไทยในอดีต
ข่าว ดี้ดี 4.0 จาก ไทยรัฐ ธนาธร ยิ้มแก้มปริ เจษฏ์ ชี้โทษธนาธร ไม่ถึงยุบพรรค แต่ถ้าผิดจริง คุก 10 ปี ถอนสิทธิฯ 20ปี
วันที่ 22 ก.พ. นายเจษฏ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ ลงประวัตินายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ว่า เป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสองสมัยซ้อน ทั้งที่เป็นแค่ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครนายก โดยปล่อยข้อมูลที่ผิดพลาดทิ้งไว้นานถึงห้าเดือนก่อนแก้ไข หลังถูกเปิดโปงในโลกออนไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเคยระบุไปว่า หากพบว่าเป็นการกระทำความผิด ฐานหลอกลวง จูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ตามมาตรา 73 (5) ว่า มีโทษถึงขั้นยุบพรรคนั้น เมื่อไปดูรายละเอียดในกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. พบว่า บทลงโทษกรณีดังกล่าวไม่ถึงขั้นยุบพรรค แต่มีโทษตามมาตรา 159 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดยี่สิบปี รวมถึงในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจำนวนเงินค่าปรับให้แก่ผู้แจ้งความนำจับด้วย ซึ่งในขณะนี้ ก็ไม่ทราบว่า จะมีผู้ไปกล่าวโทษพรรคอนาคตใหม่ในกรณีนี้หรือไม่ ส่วนโทษที่ทำให้ถึงขั้นถูกยุบพรรคจะอยู่ในมาตรา 75 ที่บัญญัติ ห้ามมิให้ผู้ใดหรือพรรคการเมืองใด เรียกหรือรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดเพื่อลงสมัครหรือส่งผู้สมัครหรือไม่ลงสมัครหรือไม่ส่งผู้สมัครอันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งและทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ซึ่งเคยมีกรณีพรรคการเมืองที่ทำความผิดในเรื่องจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ถูกยุบพรรคมาแล้วคือพรรคไทยรักไทยในอดีต