สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกคน ขอเรียกแทนตัวเองว่าขวัญนะคะ ขวัญถือโอกาสใช้ช่วงหลังปีใหม่(มานานแล้ว) มาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้กำลังใจทุกคนที่เป็นมะเร็งว่ามะเร็งน่ากลัวก็จริง แต่รักษาหายได้ถ้าตรวจเจอเร็วและรักษาเร็วค่ะ และถือโอกาสมารีวิวเล็กๆให้โรงพยาบาล กับอาหารเสริมที่ขวัญทานด้วยเลย อีกข้อคืออยากบอกเพื่อนว่า "เย่ๆ เรารอดแล้วววววววววว!"
“คุณเป็นมะเร็งรังไข่ ชนิดเซลล์ในเด็ก”
คือประโยคเริ่มต้นเรื่องราวทุกอย่าง
หลังจากทราบว่าเป็นมะเร็ง...
ย้อนไปเมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2561
เป็นช่วงเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด
อาการเริ่มต้นไม่มีอะไรเลยนะ
แค่รู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้น
ตอนแรกคงคิดว่ากินมากตามปกติ
แต่มาสังเกตได้ว่าท้องมันป่องขึ้นเรื่อยๆ ป่องขึ้นทีละนิด
จนมันเหมือนคนท้องประมาณ 5-6 เดือนค่ะ
เราคิดว่ามันเริ่มไม่ปกติแล้ว เลยตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลนนทเวช
วันที่ 9 ก.ย. 2561
คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่แน่ๆแล้ว
และเป็นมะเร็งในเด็ก (ขวัญไม่ใช่เด็กนะคะ มันคือชื่อเรียกลักษณะของเซลล์มะเร็งที่เจริญเติบโตเร็วมาก และรุนแรงกว่าเซลล์มะเร็งทั่วไป)
ตอนนั้นตกใจมาก เหมือนสมองมันวูบดับไปประมาณ 3-5 วิ
เพราะตกใจและทำอะไรไม่ถูก
ใครๆก็กลัวคำว่า"มะเร็ง"ทั้งนั้นเนอะ พอตั้งสติได้ ก็อ่ะ!!
อะไรจะเกิดก็เกิด ก็รักษาตามขั้นตอนกันไป
อันนี้คือผลเอ็กซเรย์ค่ะ จะสังเกตว่ามีก้อนๆเนื้อรวมอยู่เป็นกลุ่ม นั่นแหละค่ะเจ้าตัวปัญหา
วันที่ 14 ก.ย. 2561
วันเข้าห้องผ่าตัด...
หลังจากขอคุณหมอย้ายจากโรงพยาบาลนนทเวช ไปศิริราชปิยมหาราชการุณย์ (ชื่อจำยากเชียว 555)
เพราะหลายคนแนะนำว่าคุณหมอร.พ.นี้มีอาจารย์หมอที่เชี่ยวชาญเรื่องมะเร็งหลายคน
ขวัญเลยย้ายตามคำแนะนำ
(คุณหมอที่ร.พ.นนทเวชก็เก่งนะคะตรวจและวินิจฉัยไวมาก)
วันที่ 24 ก.ย. 2561
รับคีโมครั้งแรก...
ขวัญเข้ารับคีโมทันทีหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์กว่าๆ
เพราะผลวินิจฉัยของชิ้นเนื้อบอกว่าเป็นมะเร็งรังไขชนิดเซลล์ในเด็ก
คุณหมอเลยกลัวว่ามะเร็งในเด็กจะลามไปเร็วถ้าปล่อยไว้นาน
(รูปจะน่ากลัวหน่อยนะคะ เลยแต่งสีใส่เบลอนิดนึง ข้างบนเป็นรูปสดๆตอนผ่าตัด ข้างล่างเป็นรูปชิ้นเนื้อที่เอาออกมาแล้วค่ะ)
(จริงๆมีรูปเยอะเลย แต่กลัวจะสยดสยองกันค่ะ 55)
ขวัญต้องเข้ารับคีโมทั้งหมด 6 ครั้ง
เพราะค่ามะเร็งขวัญค่อนข้างสูงเลย อยู่ที่ 5500
แล้วมันก็ไม่ได้อยู่ที่รังไข่จุดเดียว
แต่มีทั้งในลำไส้และผนังหน้าท้องอีก
เพราะขวัญเป็นขั้นลุกลาม เลยลามไปเรื่อยสมชื่อเลยนะเจ้ามะเร็ง!
2 สัปดาห์แรกแห่งความหฤหรรษ์ผ่านไป...
ตั้งแต่ตรวจพบจนถึงเข้ารับผ่าตัดและให้คีโมครั้งแรก
แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ^^
ต้องขอบคุณคุณหมอทั้ง 2 โรงพยาบาลค่ะ
เก่งจริงๆค่ะ ทุกขั้นตอนไวมาก
แต่ขอเน้นไปที่คุณหมอที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์
เก่งสมคำแนะนำค่ะ ไม่ผิดหวังเลย การบริการดีด้วยค่ะ
เป็นร.พ.เอกชน แต่ไม่แพงเว่อร์เท่ากับร.พ.เอกชนดีๆทั่วไป
คุณหมอและบุคคลากรก็เป็นของร.พ. ศิริราชค่ะ
หลังจากคีโมครั้งแรก...
ผลข้างเคียงหลังคีโมครั้งแรก ตอนนั้นร่างกายขวัญอ่อนแอมากจริงๆ ทั้งท้องเสีย อาเจียน ไม่มีเรี่ยวแรง ทานข้าวไม่ได้เลย ตอนนั้นนอนไม่ค่อยหลับด้วย ตาเลยโบ๋ ผิวคล้ำกร้านมาก เลยอยู่เฉยไม่ได้คิดหาอาหารเสริมมาทาน แล้วก็ดูว่าเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้มันดีขึ้น
เริ่มศึกษาการดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงควบคู่กับการเข้ารับคีโม
เป็นวิธีที่ขวัญเลือกปฏิบัติ ขวัญไล่อ่าน pantip เกี่ยวกับมะเร็งไปเรื่อยๆ
เจอกระทู้กล่าวถึงเบต้ากลูแคน
เลยเอาไปเสริชดูข้อมูลใน google ด้วย
เจอยี่ห้ออะไรก็ list ไว้ เอามาหาใน pantip ต่อ
และตัดสินใจมาจบที่ ยัวร์เบต้ากลูแคน
ลองสั่งมาทานเพราะราคาไม่แพง
ยี่ห้ออื่นค่อนข้างแพงเลยตัดสินใจยากค่ะ 555
กระทู้นี้กระรีวิว ขวัญเลยขอแนะนำตรงๆ,,
อย่างที่บอกว่าขวัญสั่งยัวร์มาทานได้สักพัก
แล้วรู้สึกว่าที่ตาโบ๋ๆ เห้ยย!! มันดีขึ้น
ผิวเหี่ยวๆมันดูอิ่มขึ้น แล้วค่อยๆกลับมาขาวเหมือนผิวเดิม
อาจจะเป็นเพราะหลังจากแย่แล้ว เราทานข้าวได้เยอะขึ้นด้วย
เรียกได้ว่าหิวตลอดเวลาถึงแม้ปากจะไม่รับรสชาติอาหาร
ก็อยากทานไปซะทุกอย่างเลย (นิสัยกินเยอะกลับมาแล้ววว)
แต่! ขวัญก็เลือกทานอยู่นะคะ อย่างละนิดละหน่อย
ของทอดไม่ทานเลย สัตว์เนื้อแดงยอมรับว่าทานแต่น้อยมาก
เน้นปลานึ่ง ผักผลไม้เยอะหน่อย
และพยายามนอนให้ตรงเวลา แต่จะไม่นอนทั้งวันทั้งคืนเด็ดขาด เพราะจะทำให้ขวัญมึนและงัวเงียไปทั้งวันเลย
ระหว่างนี้ก็เข้ารับคีโมไปเรื่อยๆ มาดูกันว่าค่ามะเร็งขวัญเป็นยังไงบ้าง
ครั้งที่ 1 จาก 5500 เหลือ 4000
ครั้งที่ 2 จาก 4000 เหลือ 264
ครั้งที่ 3 จาก 264 เหลือ 34
ผลข้างเคียงจากคีโมครั้งที่ 2 เป็นต้นไปคือน้อยมากจริงๆ จะไม่มีเรี่ยวแรง 1-2 วันแรก หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตได้ปกติมาก ซึ่งค่ามะเร็งขวัญดีขึ้นขนาดนี้เลยอดคิดไม่ได้ว่า เป็นเพราะทานยัวร์ควบคู่ไปด้วย จากแย่ๆทานข้าวน้อยมาก เพราะมันเบื่อจริงๆ กลายเป็นดีขึ้นเรื่อยๆ (ก็ยังขอชมคุณหมออยู่ว่ารักษาเราเต็มที่มาก และชมตัวเองที่พยายามดูแลตัวเองดี) เรื่องอาหารตอนสบายดีนี่ขวัญทานยากมาก สำคัญคือขวัญไม่ชอบทานปลา เพราะรู้สึกมันคาวตอนเคี้ยว โดยเฉพาะปลาไม่มีเกล็ดเพราะกลัว ไข่ขาวก็ไม่ทาน เลยเป็นที่มาที่ต้องหาเบต้ากลูแคนมาทานนี่แหละค่ะ ขวัญแนะนำเลยค่ะ แต่อย่าดราม่านะ ขวัญเล่าจากสิ่งที่ขวัญเผชิญมาจริงๆ เสียเงินซื้อจริงๆ ไม่มีมาแจกฟรีนะคะ ไม่รู้จักแบรนด์เป็นการส่วนตัวเลยแม้แต่น้อย
นี่ก็เป็น timeline การเข้ารับรักษาของขวัญเองว่ามันเร็วจริงๆ ทั้งหมดที่ขวัญเล่ามาก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์เข้ารับรักษา อะไรที่มันดีขวัญก็อยากแนะนำ เพราะเข้าใจว่าหัวอกคนเป็นมะเร็งก็อยากหาย อยากมีชีวิตรอดปลอดภัยกันทั้งนั้นค่ะ อย่างนึงที่ขวัญมีตั้งแต่แรกเลยคือ ขวัญไม่ใช่คนคิดมากค่ะ ตกใจแค่ตอนแรกแปปเดียว หลังจากนั้นก็คือสู้ไปตามขั้นตอน และเชื่อมั่นในตัวคุณหมอค่ะ ระหว่างทางมันเลยไม่รู้สึกว่าหดหู่ หรือโลกทั้งใบจะกลายเป็นสีเทาๆ เหมือนกับ mood & tone ของหลายคนที่มองเห็นและตั้งไว้ให้กับคำว่า “โรคมะเร็ง”
ใครที่เผชิญกับโรคนี้อยู่ หรือเป็นญาติผู้ป่วย ขออย่างเดียวค่ะว่าอย่าเศร้า หรือเสียใจจนบั่นทอนนะคะ เราผ่านมันได้แน่นอน สู้ๆค่ะ! ขวัญเป็นกำลังใจให้ มีอะไร inbox มาถามขวัญได้เลย
[CR] มะเร็งครั้งแรก กับ Timeline ตั้งแต่ตรวจพบจนหายไปแบบไวมาก
“คุณเป็นมะเร็งรังไข่ ชนิดเซลล์ในเด็ก”
คือประโยคเริ่มต้นเรื่องราวทุกอย่าง
หลังจากทราบว่าเป็นมะเร็ง...
ย้อนไปเมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2561
เป็นช่วงเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด
อาการเริ่มต้นไม่มีอะไรเลยนะ
แค่รู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้น
ตอนแรกคงคิดว่ากินมากตามปกติ
แต่มาสังเกตได้ว่าท้องมันป่องขึ้นเรื่อยๆ ป่องขึ้นทีละนิด
จนมันเหมือนคนท้องประมาณ 5-6 เดือนค่ะ
เราคิดว่ามันเริ่มไม่ปกติแล้ว เลยตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลนนทเวช
วันที่ 9 ก.ย. 2561
คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่แน่ๆแล้ว
และเป็นมะเร็งในเด็ก (ขวัญไม่ใช่เด็กนะคะ มันคือชื่อเรียกลักษณะของเซลล์มะเร็งที่เจริญเติบโตเร็วมาก และรุนแรงกว่าเซลล์มะเร็งทั่วไป)
ตอนนั้นตกใจมาก เหมือนสมองมันวูบดับไปประมาณ 3-5 วิ
เพราะตกใจและทำอะไรไม่ถูก
ใครๆก็กลัวคำว่า"มะเร็ง"ทั้งนั้นเนอะ พอตั้งสติได้ ก็อ่ะ!!
อะไรจะเกิดก็เกิด ก็รักษาตามขั้นตอนกันไป
อันนี้คือผลเอ็กซเรย์ค่ะ จะสังเกตว่ามีก้อนๆเนื้อรวมอยู่เป็นกลุ่ม นั่นแหละค่ะเจ้าตัวปัญหา
วันที่ 14 ก.ย. 2561
วันเข้าห้องผ่าตัด...
หลังจากขอคุณหมอย้ายจากโรงพยาบาลนนทเวช ไปศิริราชปิยมหาราชการุณย์ (ชื่อจำยากเชียว 555)
เพราะหลายคนแนะนำว่าคุณหมอร.พ.นี้มีอาจารย์หมอที่เชี่ยวชาญเรื่องมะเร็งหลายคน
ขวัญเลยย้ายตามคำแนะนำ
(คุณหมอที่ร.พ.นนทเวชก็เก่งนะคะตรวจและวินิจฉัยไวมาก)
วันที่ 24 ก.ย. 2561
รับคีโมครั้งแรก...
ขวัญเข้ารับคีโมทันทีหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์กว่าๆ
เพราะผลวินิจฉัยของชิ้นเนื้อบอกว่าเป็นมะเร็งรังไขชนิดเซลล์ในเด็ก
คุณหมอเลยกลัวว่ามะเร็งในเด็กจะลามไปเร็วถ้าปล่อยไว้นาน
(รูปจะน่ากลัวหน่อยนะคะ เลยแต่งสีใส่เบลอนิดนึง ข้างบนเป็นรูปสดๆตอนผ่าตัด ข้างล่างเป็นรูปชิ้นเนื้อที่เอาออกมาแล้วค่ะ)
(จริงๆมีรูปเยอะเลย แต่กลัวจะสยดสยองกันค่ะ 55)
ขวัญต้องเข้ารับคีโมทั้งหมด 6 ครั้ง
เพราะค่ามะเร็งขวัญค่อนข้างสูงเลย อยู่ที่ 5500
แล้วมันก็ไม่ได้อยู่ที่รังไข่จุดเดียว
แต่มีทั้งในลำไส้และผนังหน้าท้องอีก
เพราะขวัญเป็นขั้นลุกลาม เลยลามไปเรื่อยสมชื่อเลยนะเจ้ามะเร็ง!
2 สัปดาห์แรกแห่งความหฤหรรษ์ผ่านไป...
ตั้งแต่ตรวจพบจนถึงเข้ารับผ่าตัดและให้คีโมครั้งแรก
แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ^^
ต้องขอบคุณคุณหมอทั้ง 2 โรงพยาบาลค่ะ
เก่งจริงๆค่ะ ทุกขั้นตอนไวมาก
แต่ขอเน้นไปที่คุณหมอที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์
เก่งสมคำแนะนำค่ะ ไม่ผิดหวังเลย การบริการดีด้วยค่ะ
เป็นร.พ.เอกชน แต่ไม่แพงเว่อร์เท่ากับร.พ.เอกชนดีๆทั่วไป
คุณหมอและบุคคลากรก็เป็นของร.พ. ศิริราชค่ะ
หลังจากคีโมครั้งแรก...
ผลข้างเคียงหลังคีโมครั้งแรก ตอนนั้นร่างกายขวัญอ่อนแอมากจริงๆ ทั้งท้องเสีย อาเจียน ไม่มีเรี่ยวแรง ทานข้าวไม่ได้เลย ตอนนั้นนอนไม่ค่อยหลับด้วย ตาเลยโบ๋ ผิวคล้ำกร้านมาก เลยอยู่เฉยไม่ได้คิดหาอาหารเสริมมาทาน แล้วก็ดูว่าเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้มันดีขึ้น
เริ่มศึกษาการดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงควบคู่กับการเข้ารับคีโม
เป็นวิธีที่ขวัญเลือกปฏิบัติ ขวัญไล่อ่าน pantip เกี่ยวกับมะเร็งไปเรื่อยๆ
เจอกระทู้กล่าวถึงเบต้ากลูแคน
เลยเอาไปเสริชดูข้อมูลใน google ด้วย
เจอยี่ห้ออะไรก็ list ไว้ เอามาหาใน pantip ต่อ
และตัดสินใจมาจบที่ ยัวร์เบต้ากลูแคน
ลองสั่งมาทานเพราะราคาไม่แพง
ยี่ห้ออื่นค่อนข้างแพงเลยตัดสินใจยากค่ะ 555
กระทู้นี้กระรีวิว ขวัญเลยขอแนะนำตรงๆ,,
อย่างที่บอกว่าขวัญสั่งยัวร์มาทานได้สักพัก
แล้วรู้สึกว่าที่ตาโบ๋ๆ เห้ยย!! มันดีขึ้น
ผิวเหี่ยวๆมันดูอิ่มขึ้น แล้วค่อยๆกลับมาขาวเหมือนผิวเดิม
อาจจะเป็นเพราะหลังจากแย่แล้ว เราทานข้าวได้เยอะขึ้นด้วย
เรียกได้ว่าหิวตลอดเวลาถึงแม้ปากจะไม่รับรสชาติอาหาร
ก็อยากทานไปซะทุกอย่างเลย (นิสัยกินเยอะกลับมาแล้ววว)
แต่! ขวัญก็เลือกทานอยู่นะคะ อย่างละนิดละหน่อย
ของทอดไม่ทานเลย สัตว์เนื้อแดงยอมรับว่าทานแต่น้อยมาก
เน้นปลานึ่ง ผักผลไม้เยอะหน่อย
และพยายามนอนให้ตรงเวลา แต่จะไม่นอนทั้งวันทั้งคืนเด็ดขาด เพราะจะทำให้ขวัญมึนและงัวเงียไปทั้งวันเลย
ระหว่างนี้ก็เข้ารับคีโมไปเรื่อยๆ มาดูกันว่าค่ามะเร็งขวัญเป็นยังไงบ้าง
ครั้งที่ 1 จาก 5500 เหลือ 4000
ครั้งที่ 2 จาก 4000 เหลือ 264
ครั้งที่ 3 จาก 264 เหลือ 34
ผลข้างเคียงจากคีโมครั้งที่ 2 เป็นต้นไปคือน้อยมากจริงๆ จะไม่มีเรี่ยวแรง 1-2 วันแรก หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตได้ปกติมาก ซึ่งค่ามะเร็งขวัญดีขึ้นขนาดนี้เลยอดคิดไม่ได้ว่า เป็นเพราะทานยัวร์ควบคู่ไปด้วย จากแย่ๆทานข้าวน้อยมาก เพราะมันเบื่อจริงๆ กลายเป็นดีขึ้นเรื่อยๆ (ก็ยังขอชมคุณหมออยู่ว่ารักษาเราเต็มที่มาก และชมตัวเองที่พยายามดูแลตัวเองดี) เรื่องอาหารตอนสบายดีนี่ขวัญทานยากมาก สำคัญคือขวัญไม่ชอบทานปลา เพราะรู้สึกมันคาวตอนเคี้ยว โดยเฉพาะปลาไม่มีเกล็ดเพราะกลัว ไข่ขาวก็ไม่ทาน เลยเป็นที่มาที่ต้องหาเบต้ากลูแคนมาทานนี่แหละค่ะ ขวัญแนะนำเลยค่ะ แต่อย่าดราม่านะ ขวัญเล่าจากสิ่งที่ขวัญเผชิญมาจริงๆ เสียเงินซื้อจริงๆ ไม่มีมาแจกฟรีนะคะ ไม่รู้จักแบรนด์เป็นการส่วนตัวเลยแม้แต่น้อย
นี่ก็เป็น timeline การเข้ารับรักษาของขวัญเองว่ามันเร็วจริงๆ ทั้งหมดที่ขวัญเล่ามาก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์เข้ารับรักษา อะไรที่มันดีขวัญก็อยากแนะนำ เพราะเข้าใจว่าหัวอกคนเป็นมะเร็งก็อยากหาย อยากมีชีวิตรอดปลอดภัยกันทั้งนั้นค่ะ อย่างนึงที่ขวัญมีตั้งแต่แรกเลยคือ ขวัญไม่ใช่คนคิดมากค่ะ ตกใจแค่ตอนแรกแปปเดียว หลังจากนั้นก็คือสู้ไปตามขั้นตอน และเชื่อมั่นในตัวคุณหมอค่ะ ระหว่างทางมันเลยไม่รู้สึกว่าหดหู่ หรือโลกทั้งใบจะกลายเป็นสีเทาๆ เหมือนกับ mood & tone ของหลายคนที่มองเห็นและตั้งไว้ให้กับคำว่า “โรคมะเร็ง”
ใครที่เผชิญกับโรคนี้อยู่ หรือเป็นญาติผู้ป่วย ขออย่างเดียวค่ะว่าอย่าเศร้า หรือเสียใจจนบั่นทอนนะคะ เราผ่านมันได้แน่นอน สู้ๆค่ะ! ขวัญเป็นกำลังใจให้ มีอะไร inbox มาถามขวัญได้เลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้