[CR] ลากกระเป๋าเที่ยว ‘อุลลึงโด (Ulleungdo)' เกาะลับๆ ในเกาหลีใต้ 3 วัน 2 คืน

สวัสดีค่าาาาา
อันยองฮาเซโย ❤

การเดินทางไปเกาหลีใต้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของพวกเราค่ะ ครั้งแรกเราไปช่วงฤดูใบไม้ผลิ 9 คืน 8 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผ่านไป 1 ปี พวกเราอยากจะกลับไปเที่ยวเกาหลีอีกครั้ง ตั้งไปจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน แต่ค่อนข้างผิดแผนมากๆ เพราะจองตั๋วเร็วไปเกือบเดือน ( 11-19 ตุลาคม 2018) ><'

ได้เจอใบไม้เปลี่ยนสีก็ตามยอดเขาซอรัคซาน ในโซลมีบ้างแถวนัมซานทาวน์เวอร์ ทริปก็เกือบพังไปพร้อมร่างแหลกๆ เพราะดันไปเดินขึ้นซอรัคซานกันวันแรกๆ กลับลงจากเขามาก็ขาเดี้ยง ตึง ปวดร้าวไปหมดทำให้โปรแกรมที่เราอยากจะเที่ยวอุลลึงให้ทั่วเกาะเลยมีสะดุดเล็กน้อย

เราไม่เคยรู้จักเกาะนี้ ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน มาสะดุดตาในหนังสือเกาหลีที่ซื้อมาอ่าน เป็นภาพเกาะขนาดใหญ่ น้ำใสมาก มีราวปลาหมึกตากแห้งเต็มไปหมด ค้นหาข้อมูลริวิวภาษาไทยก็มีน้อยมาก ภาษาอังกฤษก็มีบ้างแต่ไม่ค่อยสันทัน เออวะ.. น่าสนใจที่มันมีข้อมูลน้อยมาก เกิดอาการอยากรู้อยากเห็น อยากไปสัมผัส





3 ชั่วโมงบนเรือเกาหลี
พาเราพร้อมกระเป๋าลากมายังเกาะลับๆ แห่งนี้
ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น มีชื่อเรียกว่า ‘อุลลึงโด’ (Ulleungdo)


ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ จขกท. คุณ iaSniW  ที่ได้รีวิวเกี่ยวกับเกาะอุลลึงโดไว้แบบละเอียด เพราะก่อนไปเราค่อนข้างกังวลกับรอบเรือและการเดินทางบนเกาะมากๆ เจอกระทู้นี้ก่อนเราเดินทางแค่ไม่กี่เดือน เลยรู้สึกหายกังวลไปเยอะเลยค่ะ
https://ppantip.com/topic/37816952

ก่อนจะไปเที่ยวเกาะอุลลึงกัน เรามาทำความรู้จักเกาะลับๆ แห่งนี้กันก่อนค่ะ




‘Ulleungdo‘
เป็นเกาะอยู่สุดปลายฝั่งตะวันออกของเกาหลีใต้ ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นพอดิบพอดี เป็นเกาะภูเขาไฟที่ดับแล้ว เดิมเป็นเกาะร้างที่แทบจะไม่มีคนรู้จัก ปัจจุบันมีการสนับสนุนและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของผู้มีใจรักในธรรมชาติ และยังมีความเป็นเกาหลีแบบออริจินอลอยู่มาก จากประสบการณ์การเดินทางในทริปนี้บอกเลยว่าผู้คน ชาวบ้านที่นี่ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใสมากค่ะ ❤

เกาะอุลลึงโดมีคนเข้ามาตั้งรกรากอยู่กันตั้งแต่สมัยชิลลา แต่ถูกทิ้งร้างไปในราวปี 1400 และกลายเป็นแหล่งกบดาลของพวกโจรสลัดอยู่นานหลายร้อยปี จนกระทั้ง ทศวรรษ 1800 มีราษฎรกลับเข้าไปตั้งถิ่นฐานกันใหม่ ทุกวันนี้ อุลลึงโดมีประชากร 9,600 คน ยังชีพด้วยการทำประมงและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

จากแผนที่ง่ายๆ ที่เราทำขึ้น เส้นสีดำคือถนนที่วิ่งรอบเกาะ จุดวงกลมสีดำคือป้ายที่รถเมล์จะจอด ซึ่งก่อนหน้าบนเกาะไม่มีถนนเลยสักเส้น แต่ปัจจุบันถนนรอบเกาะสร้างใกล้เสร็จแล้ว (ตุลา 18 สร้างถนนอยู่ที่ ควันอึมโด)

เกาะอุลลึง แบ่งออกเป็นสามเขตใหญ่
1 เขตอุลลึงอึบ (Ulleung-Eup) เป็นที่ตั้งท่าเรือ ชอดง โดดง และซาดง
2 เขตซอมยอน (Seo-Myeon) เป็นเขตที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของเกาะ ที่พักที่เราจองไว้ก็จะอยู่ในเขตนี้ค่ะ เมือง Taeha-ri (แทฮา)
3 เขตพุกมยอน (Buk-Myeon) เขตนี้จะอยู่ทิศเหนือของเกาะ

การเดินทางภายในเกาะจะมีทั้งรถแท็กซี่และรถบัส เราเลือกนั่งรถบัสเพราะประหยัดและสะดวกที่สุด ใช้บัตร T-Money ได้ด้วย รถบัสจะวิ่งไปตามเส้นทาง ชอดง-โดดง-ซาดงฮัง-นัมยัง-แทฮา-ฮยอนโพ-ชอนบูโดชัก (จุดนี้จะมีรถบัสแยกสายไป ควันอึมโด และ นารีบุนจี)

การเดินทางมายังเกาะอุลลึงต้องนั่งเรือเฟอร์รี่เท่านั้น
1. Anmok Ferry Terminal ที่คังนึงฮัง (Gangneunghang) ที่เมืองคังนึง (Gangneung) จังหวัดคังวอนโด (Gangwon-do) จะมาจอดที่ท่าเรือชอดง
*ไม่สามารถนำรถข้ามไปได้
เช็ครอบเรือจากคังนึงได้ที่
http://www.seaspovill.co.kr

2.โพฮัง (Pohang Port) จากเมืองโพฮัง จังหวัดคยองซังเหนือ (Gyeongsangbuk-do) เรือจะมาจอดที่ท่าเรือโดดงและซาดง
*สามารถขับรถข้ามมายังเกาะได้
เช็ครอบเรือจากโพฮังได้ที่
www.daezer.com

3. Mukho Ferry Terminal จากเมืองดงแฮ(Donghae-si) จังหวัดคังวอนโด (Gangwon-do) เรือจะมาจอดที่ท่าเรือโดดงและชอดง
เช็ครอบเรือจากมกโฮได้ที่
http://www.seaspovill.co.kr

4.ฮูโพ (Hupo Port) จากเมือง อุลจิน(Uljin) เรือจะมาจอดที่ซาดง
เช็ครอบเรือจากฮูโพได้ที่
http://www.jhferry.com

เรือแล่นตามสภาพอากาศ วันไหนคลื่นลมแรงก็จะหยุดวิ่ง ไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้
อยู่ใกล้เมืองไหน ก็เลือกไปขึ้นเรือทีท่าเรือที่ใกล้เราที่สุดได้ค่ะ แต่ละที่ก็จะราคาไม่เท่ากันด้วย

เราเดินทางมาจากซกโช เลยเลือกมามาขึ้นเรือที่คังนึง เพราะอยู่ใกล้เราที่สุดค่ะ
ตั๋วราคา 61,000KRW (1,770฿) ต่อเที่ยว
รวมไปกลับก็ 3,600 กว่าบาท


วิธีการซื้อตั๋ว
1. ไปที่เคาเตอร์แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการซื้อตั๋วสำหรับกี่คน พร้อมยื่นพาสปอร์ตของทุกคนให้เจ้าหน้าที่ค่ะ (การซื้อตั๋วมีแบบจองในเว็บด้วยนะคะ แต่ทางเราไม่รู้ภาษาเกาหลีเลยเลือกจะมาซื้อที่หน้างาน ซึ่งจนท.ก็จะถามค่ะว่าได้ทำการจองมารึเปล่า)

2. จนท.ที่นี่จะพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยค่ะ แต่ที่ยากคือสำเนียงที่อาจจะฟังยากเพราะเจอมากับตัวถึงกับมึนเลยทีเดียว โชคดีที่คุณพี่คนเกาหลีข้างหลังช่วยพูดแบบช้าๆ ชัดๆ ให้ฟังอีกที คำถามหลัก ๆ ที่ จนท.จะถามคือ

- จะซื้อตั๋วแบบ ไป-กลับ หรือไปขาเดียว (ซึ่งเราเลือกไปอย่างเดียวก่อน เพราะกลัวว่าถ้ามีมรสุมแล้วจะโดนยกเลิกเที่ยวเรือ ไม่รู้ว่าจะต้องซื้อใหม่รึเปล่า ตอนนั้นด้วยความที่รู้สึกกังวลเล็กน้อยเลยขอซื้อขาไปอย่างเดียวก่อน จะกลับวันไหนค่อยว่ากันอีกที)

- เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ (ไม่มีเบอร์เกาหลี ก็เลยให้เบอร์ไทยไป ตอนนั้นคิดไม่ทัน ฮ่าๆ )

3. *ข้อนี้สำคัญเลยค่ะ เช็คข้อมูลในตั๋วให้ดี ว่าชื่อตรงไหม สะกดถูกไหม วันเกิดตรงรึเปล่า เพราะก่อนจะขึ้นเรือ จนท.จะตรวจละเอียดมาก ปรากฏว่าวันเกิดผิด ต้องเดินไปที่เคาเตอร์ให้ จนท.ขายตั๋วเปลี่ยนให้ใหม่ ตอนนั้นก็ลน ๆ นิดหน่อย ฮืออ TT คุยก็ยากแล้ว จะต้องมาแก้ตั๋วอีก เรือก็จะออกแล้ว แต่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ จนท.ช่วยเหลือดีมาก


ที่พักบนเกาะ
เกสเฮ้าส์น่ารักๆ เจ้าของเป็นผู้ชายหุ่นหมีที่ชอบประเทศไทยมากๆ ชื่อว่า Sum Guesthouse (ที่พักอารมณ์คล้ายโฮสเทล ห้องน้ำรวม นอนรวมแยก ช ญ มีครัว) แอบไปเซฟรูปที่พักมา ห้องนึงพักได้ 4 คน มีม่านกั้นนะ แต่ไม่ส่วนตัว 555 มีล๊อคเกอร์เก็บของ ไปกัน 3 คน อีกเตียงเป็นของสาวเกาหลี (เพื่อนเกาหลีคนแรกในชีวิต)

ที่พัก 2 คืน คนละ 50,000 วอน
https://www.facebook.com/sumguesthouse01/

ไม่มีจองใน Agoda หรือ Booking ด้วย วิธีจองคือ inbox ไปในเฟสค่ะ ระบุวันเวลาที่จะไป แล้วคุณฮุนจะส่งเลขบัญชีมาให้เราโอนเงินค่าที่พักไป คุณฮุนพูดภาษาอังกฤษอังกฤษได้นิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วเราคุยกันรู้เรื่องค่ะ 55555

ที่เที่ยวที่เราไปเหยียบมา
- Taehahyangmok Tourist Monorail
- Ocean view of the Buk-myeon
- Seomok-Gwaneumdo Walking Footbridge
- Kokkiribawi (Elephant Rock)
- Yerimwon (Letter Carving Park)
- Ulleung Historical and Cultural Experience Center (คาเฟ่ประวัติศาสตร์)


ที่สำคัญมากที่สุดสำหรับใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวเกาะแห่งนี้คือ "ความรู้เรื่องภาษาเกาหลี" ค่ะ
ถ้าอ่านเกาหลีไม่ออกจะค่อนข้างใช้ชีวิตบนเกาะลำบากมาก เพราะเอฟเวอรี่ติงอีสโคเรียค่ะ ชื่อเมือง ป้ายรถเมล์ เมนูอาหาร แผนที่เที่ยวก็ยังเป็นเกาหลีทั้งหมด ได้แต้มบุญจากซีรี่ย์เกาหลี บวกกับไปลงเรียนคอร์สเกาหลีมาบ้างเลยรอดมาได้แบบเข็ดไม้เข็ดมือ เออ...เป็นการเที่ยวที่ดูลำบากเนอะ แต่ก็ไปมาแล้วชอบมากกกกก ชีวิตบนเกาะก็จะมีแต่คนมอง กับถามว่า มาจากไหน มาทำไร Where you come from? ทั้งอิ้งทั้งเกาตีกันมั่วไปหมด นักท่องเที่ยวต่างชาติแทบไม่ค่อยจะมี(แอบเห็นบนเรือมีฝรั่ง 1 คน แต่มากะเพื่อนเกาหลี)

เที่ยวธรรมดาโลกไม่จำ การมาเที่ยวอุลลึงโดในครั้งนี้ ได้เพื่อนเกาหลี 2 คนแหนะ

คลิปการเดินทาง Sokcho-Ulleungdo
https://youtu.be/8wNY59LAZXk

ค่าใช้จ่ายบนเกาะ (ไม่รวมค่าที่พัก)
วันที่ 1
แท็กซี่จากซกโชไปท่าเรือคังนึง 70,000/3 = 23300
ตั๋วเรือ 61000
จาจังกับกุ้งอะไรสักอย่าง 56000/3 = 18700
เคเบิ้ลคาร์ 4,000
กาแฟ 2000
มาม่า โซจู 2400
รวม 111400
= 3230฿
———————————————
วันที่ 2
ลิฟต์ควันอึมโด 4000
คัลกุกซู 10,000
ค่าเข้าสวน 4000
เมกาโน่ 4000
บุลโกกิ 36000/2 = 18000
รวม 12000+28000 = 40,000
= 1660฿
———————————————
วันที่ 3
เมกาโน่ 4000
ค่าเรือกลับคังรึง 61,000
ข้าวเที่ยง 15,000


ของขึ้นชื่อของที่นี่ ก็คือปลาหมึก
เดินไปตรงไหนก็เจอแต่ราวตากปลาหมึก ตากกันทั่วทั้งเกาะ เห็นละอยากสาด!!! ด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด ชาวบ้านส่วนใหญ่น่าจะมีอาชีพ ส่งออกปลาหมึกแห้ง ปลาหมึกที่นี่จะตัวใหญ่มากกก แล้วก็มีแพปลาที่จับแค่ปลาหมึก ล้างเอาตาออกแล้วเอามาตากไว้บนราวให้แห้ง




เช็คล้อให้พร้อม!!...เรามาลากกระเป๋าออกเดินทางกันเล้ยยยยยย


ชอบการเดินทางแบบนี้ ไปลุยๆ กับพวกเราได้ที่
วันศุกร์ขึ้นเขา วันเสาร์ลงห้วย ค่ะ
https://www.facebook.com/ThoughtitFriday/
ชื่อสินค้า:   เกาหลี, ทริปเกาหลี, รีวิวทริปเกาหลี, Ulleungdo , SouthKorea, อุลึงโด
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่