DEVIL AMONG US | เยาว์วัย...ใฝ่อำมหิต | DEVA HELLBLAZER

‘ลูก’ ผลผลิตจากสถาบันครอบครัวที่เป็นผู้สะท้อนถึงการเลี้ยงดูภายในครอบครัวนั้นๆ…
หากเด็กคนไหนกลายมาเป็นที่รักของผู้คนรอบๆ ความดีความชอบก็จะตกเป็นของการเลี้ยงดูในครอบครัว
แต่ก็ยังมีเด็กบางกลุ่มที่ชวนให้สังคมตั้งคำถามย้อนกลับไปที่ครอบครัวหรือภูมิหลังของเด็กคนนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น...ทำไมถึงกลายเป็นเด็กที่ใครๆ ต่างก็พากันรังเกียจ

และร้ายแรงยิ่งกว่านั้น คือการตั้งคำถามว่า...ที่มาที่ไปของเด็กเหล่านั้นเป็นอย่างไร...ทำไมถึง ‘ฆ่า’ คนได้ลงคอ?
ดังเช่น 5 คดีสะเทือนขวัญที่ผม… Deva Hellblazer จะหยิบมาเล่าในบทความนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นคดีฆาตกรรมที่รูปการณ์นั้นแสนสะเทือนขวัญไม่แพ้ฆาตกรชื่อดังคนอื่นๆ แต่ส่วนที่สยองของจริงนั้นไม่ใช่วิธีการฆ่าที่แสนพิสดารแต่อย่างใด หากแต่เป็นตัวของผู้ลงมือเองที่ยังอยู่ใน...วัยเด็ก!

คำเตือน: อายุ 18 ปีบริบูรณ์นั้นยังไม่ถือเป็นวัยที่บรรลุนิติภาวะแล้วแต่อย่างใด แต่สามารถออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ครับ

“‘เยาวชน’
กลุ่มคนในสังคมที่เปรียบเสมือนกับต้นไม้
หากเราหมั่นดูแลอย่างถูกวิธี
พวกเขาก็จะเติบโตไปเป็นไม้ใหญ่ที่งดงาม
แต่ถ้าเราปล่อยปละละเลย
หากไม่เฉาตาย…
พวกเขา...ก็จะกลายเป็นไม้ใหญ่สูงทะมึนอันน่าสะพรึงกลัว”




NEVADA: นักฆ่า...น่ารักจัง

‘นัทสึมิ ซึจิ’ เด็กสาวผู้เกิดในวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 1992 เมืองซาเซโบ เขตนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น แม้เธอจะมีใบหน้าแสนน่ารักชวนเอ็นดู แต่เพราะเอกลักษณ์ของเธอซึ่งก็คือการยิ้มยกที่มุมปากบ่อยๆ ราวกับเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในหัวตลอดเวลา จึงนำมาสู่บรรยากาศแสนลึกลับที่ห้อมล้อมตัวเธออยู่เสมอ ทั้งนี้ อาจเพราะความฉลาดทางสติปัญญา (I.Q.) ของเธอนั้นสูงถึง 140 ตั้งแต่วัยเด็ก บวกกับการที่เธอมักจะค้นคว้าหาความรู้นอกห้องเรียนผ่านการดูหนัง หรือท่องอินเทอร์เน็ต อีกทั้งในตอนที่ทุกคนยังรู้จักเธอในฐานะ ‘นัทสึมิจัง นักเรียนดีเด่น’ เธอยังดูเป็นเด็กร่าเริง ชอบเล่นกีฬาอย่างบาสเก็ตบอล และยังมีเพื่อนสนิทอย่าง ‘ซาโตมิ มิทาราอิ’ ซึ่งหากมองจากตรงนี้...เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวอัจฉริยะธรรมดาคนหนึ่งเสียด้วยซ้ำ

จนกระทั่งในปี 2004 ชีวิตการเป็นนักบาสเก็ตบอลตัวน้อยของเธอก็มีอันต้องจบลง เมื่อผลการเรียนของเธอตกลงจนถูกผู้เป็นพ่อและแม่สั่งห้าม เพราะสำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว การศึกษา...ถือเป็นเรื่องสำคัญ

และเมื่อกิจกรรมกลางแจ้งต้องจบลง
กิจกรรมในบ้าน...จึงต้องเข้ามาแทนที่


การดูหนังและท่องอินเทอร์เน็ตกลายมาเป็นช่องทางระบายความเครียดที่เหลืออยู่ของเด็กหญิงนัทสึมิ เพียงแต่หนังเรื่องโปรดของเธอนั้น เธอกลับเทใจไปที่ Battle Royale และโลกอินเทอร์เน็ตที่เธอท่องนั้น...คือ Tor Browser หรือที่บางคนอาจรู้จักกันดีในฐานะ ‘โลกของ Dark Web’

หยาดเลือด เศษเนื้อ...และการฆ่าฟัน
ไม่อาจสร้างความกลัวต่อเด็กหญิงนัทสึมิในที่สุด

นอกจากนี้จินตนาการของเธอยังถูกถ่ายทอดลงสู่นิยาย และไดอารีส่วนตัวของเธออีกหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 2004 ซาโตมิ มิราทาอิ ได้โพสต์ข้อความลงในเว็บบอร์ดของนัทสึมิด้วยคำว่า ‘โอะโมอิ’ ซึ่งมีความนัยตรงกับคำว่า ‘อ้วน’ สำหรับซาโตมิ มันอาจเป็นเพียงการหยอกล้อของเด็กสาวในวัยย่างเข้าสู่วัยรุ่น แต่สำหรับนัทสึมิ มันคือถ้อยคำดูหมิ่น จนนำมาสู่ความขัดแย้งกันด้วยความไม่พอใจบนโลกออนไลน์ระหว่างเด็กสาวสองคนในที่สุด

และนั่นคือครั้งแรก
ที่นัทสึมิเริ่มมีความต้องการที่จะ ‘ฆ่าคน’


28 พฤษภาคม ปี 2004 นัทสึมิ ซึจิ บรรยายวิธีการฆ่าคนถึง 3 แบบลงในไดอารี นั่นคือ คัตเตอร์ปาดคอ สว่านเจาะน้ำแข็งทะลุกะโหลก และอุ้งมือบีบคอให้ตาย ซึ่งแน่นอนว่าเหยื่อในจินตนาการของเธอก็คือ...ซาโตมิ มิทาราอิ พร้อมทิ้งท้ายข้อความในไดอารีว่า…

“ฉันอยากจะฆ่ามันวันนี้แหละ
แต่ยัง...ฉันยังทำไม่ได้”


29 พฤษภาคม ปี 2004 ซาโตมิ มิทาราอิ ได้รับข้อเสนอสุดท้ายจากนัทสึมิด้วยการพูดขอโทษเธอภายในเว็บบอร์ด แต่คำที่ซาโตมิมอบให้นั้น กลับเป็นคำว่า ‘อวดเก่ง’ ซึ่งนั่นทำให้เธอได้รับข้อความสุดท้ายจากเพื่อนรักทันที

“แกหายไปจากโลกนี้ซะเถอะ!”


31 พฤษภาคม ปี 2004: “วันพรุ่งนี้...ฉันจะฆ่ามันด้วยคัตเตอร์”

เช้าวันที่ 1 มิถุนายน ปี 2004 นัทสึมิ ซาโตมิ เพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ และครูในโรงเรียนได้ถ่ายรูปร่วมกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ในเวลาพักกลางวัน ซาโตมิ จะถูกนัทสึมิเรียกไปในห้องเรียนว่างห้องหนึ่งบนชั้นสามของอาคารเรียน…

ภายในห้องที่ปิดม่านทึบ ซาโตมินั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ตั้งกลางห้อง และได้พบกับนัทสึมิที่พูดอย่างหนักแน่นว่า “ฉันจะฆ่าเธอ” แต่เพราะไม่ได้คิดว่าเด็กสาวอัจฉริยะจะฆ่าเธอจริงๆ ความคิดหนี จึงไม่ได้อยู่ในหัวของซาโตมิแต่อย่างใด

นัทสึมิ ซึจิ จึงเดินเข้ามา ถอดแว่นของเด็กสาวผู้โชคร้ายออก ก่อนจะปิดตา แล้วใช้คัตเตอร์กรีดเข้าที่คอของอดีตเพื่อนรักจนเกิดบาดแผลลึก และยาว 10x10 เซนติเมตรทันที ก่อนนัทสึมิจะกรีดหลังมือขวาของซาโตมิอีกแผลลึกจนเห็นกระดูก…

15 นาทีผ่านไป...เมื่อคิดว่าประจวบเวลาพอดีที่อดีตเพื่อนรักจะเสียเลือดจนตายสนิทแล้ว เธอจึงเดินออกจากที่เกิดเหตุไปในที่สุด

ถึงเวลาคาบเรียนยามบ่าย เสียงหวีดร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัวจากครูและเพื่อนร่วมชั้นดังระงม เมื่อเห็นว่า นัทสึมิ ซึจิ เด็กสาวอัจฉริยะประจำโรงเรียน เดินเข้ามาในห้องพร้อมคราบเลือดที่เปียกโชกไปทั้งเสื้อของเธอ ส่วน ซาโตมิ มิทาราอิ นั้น แพทย์แจ้งว่าเธอยังไม่ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แต่ก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา

และในขณะที่ครูตัดสินใจแจ้งตำรวจ
และเพื่อนร่วมชั้นพยายามจะถ่ายรูปเธอ
เธอ...หันมายิ้มให้กล้อง
ด้วยรอยยิ้มมุมปากอย่างที่ทุกคนคุ้นเคย


ภายในสถานีตำรวจ...หลังตำรวจควบคุมตัวเธอมาได้ คำขอโทษด้วยความเสียใจ ต่างพร่างพรูออกมาในที่สุด แต่ก็ต้องใช้เวลาถึง 1 คืนเต็มๆ กว่าที่เธอจะสงบลง และเริ่มให้การกับตำรวจ

“ซาโตมิเขียนว่าร้ายหนูในเน็ตหลายครั้งแล้ว
หนูไม่ชอบ...หนูเลยเรียกเขามาแล้วเชือดคอ
แต่หนูก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหนูถึงกล้าทำแบบนั้น
หนู...อยากขอโทษ”


คำให้การของเธอทำให้เธอถูกส่งตัวเข้าพบจิตแพทย์ โดยมีคำวินิจฉัยเบื้องต้นว่าเธออาจป่วยเป็นโรคแยกตัวจากสังคม เพราะพฤติกรรมก่อนก่อเหตุของเธอ และหลักฐานอย่างไดอารีประจำตัวของเธอ แต่เมื่อเข้ารับการตรวจจริง กลับไม่พบความผิดปกติทางสมองของเธอแต่อย่างใด หากแต่เป็นผลจากการเลี้ยงดูที่กดดัน และการเสพสื่อบนโลกอินเทอร์เน็ตของเธอมากกว่า ที่หล่อหลอมให้เธอมีความกล้าตัดสินใจลงมือก่อเหตุ จิตแพทย์จึงลงความเห็นได้เพียงว่า...สุขภาพจิตของเธอสมบูรณ์ดี

นัทสึมิ ซึจิ
จึงถูกศาลตัดสินให้มีความผิดจริง
และถูกจำคุก
ในข้อหาฆาตกรรม


อิทธิพลจากคดีฆาตกรรมของนัทสึมิ ซึจิ ส่งผลให้ทางการญี่ปุ่นออกมาตรการให้มีการอบรมมารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ตของเยาวชนทั่วญี่ปุ่น

นอกจากนี้ นัทสึมิ ซึจิ ยังถูกตั้งฉายาว่า ‘Nevada-Tan’ (เนวาด้าจัง) จากเสื้อกันหนาวสีน้ำเงินของเธอในวันก่อเหตุที่ปักคำว่า NEVADA ไว้กลางอก จนกลายเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มวัยรุ่นญี่ปุ่นอีกมากมายในการสร้างผลงานผ่านสื่อ ทั้งแฟนอาร์ต หรือการคอสเพลย์ ไปจนถึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้กำกับชาวญี่ปุ่นอย่าง ‘เท็ตสึยะ นาคาชิม่า’ ในการสร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า ‘Confessions’ [Kokuhaku] ที่เล่าถึงประเด็นการกลั่นแกล้งกันของเยาวชนในโรงเรียนจนนำไปสู่ความตายของเด็กคนหนึ่ง ก่อนจะตามมาด้วยการแก้แค้นแสนอำมหิตของผู้เป็นแม่ซึ่งเป็นครูในโรงเรียนเดียวกับผู้ก่อเหตุ โดยมีตัวละครอย่าง ‘มิสึกิ คิตาฮาระ’ เด็กสาวลึกลับผู้มีโค้ดเนม ‘NEVADA’ ในโลกอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นการให้ความเคารพต่อบุคคลผู้เป็นแรงบันดาลใจของผู้กำกับในการถ่ายทอดประเด็นนี้ในหนัง ซึ่งก็คือ...นัทสึมิ ซึจิ

มิสึกิ คิตาฮาระ จาก Confessions รับบทโดย ไอ ฮาชิโมโตะ

และปัจจุบัน นัทสึมิ ซึจิ พ้นโทษแล้วหลังจบการศึกษาจากโรงเรียนดัดสันดานแห่งหนึ่งเมื่อปี 2013 และปีนี้ เธอจะมีอายุครบ 27 ปีบริบูรณ์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่