ผมเองมีประสบการณ์ไปเที่ยวต่างประเทศมาบ้างครับ แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไร สิ่งที่หนึ่งที่ผมมักจะอ่านเจอดราม่าบ่อยๆก็คือเรื่อง “
ฝากซื้อของ”
หลายๆคนตั้งใจวางแผนล่วงหน้ามาเป็นปี กว่าเก็บเงิน กว่าจะลางาน ตั้งใจทำงานหนักเพื่อให้ได้หยุดยาว เขียนแพลนเที่ยว ฯลฯ และเมื่อบรรดาญาติสนิท มิตรสหายทราบข่าวเท่านั้นแหละ .. เมิงๆ, แกรๆ, จะไปญี่ปุ่นหรอ ฝากซื้อเครื่องสำอาง...หน่อยสิ, ฝากซื้อกันดั้ม.... หน่อยสิ , ฝากซื้อ... ไม้จิ้มฟัน สากกะเบือ เรือดำน้ำ ... เห้ยๆไปไกลละ 555 ฯลฯ
คุ้นๆไหมครับ เจองี้เข้าไปรู้สึกยังไงบ้างครับ??.
หลายคนอาจจะไม่ได้คิดมากอะไรมีน้ำใจ ใครฝากอะไรหาให้หมด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ยินดีด้วยครับคุณเป็นคนดีที่โลกรอคอย แต่ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่นี่สิถ้าเป็นไปได้นี่แทบจะไม่อยากให้ญาติสนิทมิตรสหายทั้งหลายรู้ซะด้วยซ้ำว่าฉันกำลังจะไปต่างประเทศ
แต่ความเป็นจริงแล้ว แทบจะหลีกเลี่ยงหรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปิดข่าวว่าเราไปเที่ยวต่างประเทศ สุดท้ายก็จะตามมาด้วยเหตุการณ์อย่างที่ผมได้บอกไป ...
แล้วคราวนี้จะทำยังไงดีล้ะ?? [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไอ้นี่ก็เพื่อนสนิทเรา คนนี้ก็ต้องทำงานด้วยกันอีกนาน คนนี้ก็รุ่นพี่รุ่นน้องเราเอง นี่ก็ญาติสนิทญาติห่างๆ บลาๆ
วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ในแบบของผมเองครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อาจจะไปซ้ำกับกระทู้อื่นหรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยล่วงหน้าครับ จุดประสงค์ไม่ได้ต้องการจะตำหนิคนที่ชอบฝากซื้อหรือจุดประเด็นดราม่าครับ
หลักการของผมคือ
“ถ้าจะฝากต้องทำตามเงื่อนไขที่ผมตั้งโดยไม่มีข้อแม้” ตามนี้ครับ
1.เงินไม่มาก่อน ไม่มีการรับฝาก
คงจะเป็นประเด็นหลักเลย บางคนไม่ได้ฝากเงินก่อน พูดลอยๆมาว่าฝากซื้อนั่นนี่ ถึงเวลาซื้อมาก็ไม่ยอมจ่ายเค้าบ้าง กดราคาบ้าง หาว่าเพื่อนกันญาติกันเลยหาข้ออ้างไม่จ่ายบ้าง หรือซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ/ไม่ถูกสีถูกรุ่น ก็ไม่เอา ฯลฯ
ผมเองจะบอกเสมอว่าผมเก็บเงินไปเที่ยว ผมจะแลกเงินพอดีครับเผื่อฉุกเฉินไว้บ้างและแพลนซื้อของผมไว้หมดแล้ว คงจะไม่ได้เหลือเผื่อพอไว้สำหรับให้ใครมาฝากซื้อของและผมเป็นคนไม่ใช้บัตรเครดิต/เดบิตในต่างประเทศถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ดังนั้น จะต้องไป
ศึกษาหาราคาของที่จะฝากซื้อมาให้ดี และแลกเงินสกุลของประเทศนั้นมาให้ผมด้วย(ผมไม่เอาส่วนของผมจ่ายให้) ถ้าราคาของเกินจากนี้ผมไม่ซื้อให้และจะให้เงินคืนเต็มจำนวน(สกุลเงินประเทศนั้น) และถ้าเหลือทอนผมจะคืนให้ตามจำนวนที่ทอน(ผมเก็บใบเสร็จให้หมด)
2.ชื่อสินค้า รุ่น สี ฯลฯ ต้องชัดเจน มีรูปส่งมาให้ยิ่งดี
เพราะผมจะไม่เสียเวลางมเข็มในมหาสมุทร ถ้าหากมีการซื้อของผิดพลาด ผมจะไม่คืนเงินให้แม้แต่บาทเดียว
3.ถ้าอยู่นอกเส้นทางที่จะเที่ยวมากไป/พิกัดไม่ชัดเจน/ของหมด/หาไม่เจอ ผมจะไม่เสียเวลาเดินหาให้ต่อครับ
เราแพลนเที่ยวมาแล้ว ก็คงไม่อยากให้เสียแพลนด้วยการไปโยนหินถามทางซื้อของให้คนอื่นใช่ไหมครับ ประเด็นตรงนี้ผมจะบอกคนฝากเสมอ ว่าผม
ยินดีรับฝากนะ แต่ว่าต่อให้เอาเงินมาให้ก่อนมีของที่จะฝากชัดเจน ต้องเผื่อใจไว้ส่วนนึงด้วยนะครับว่าโอกาสจะไม่ได้ของ 50/50 แต่ก็จะทำให้ดีที่สุดครับ และถ้าไม่ได้ของจริงๆผมจะคืนเงินให้เต็มจำนวน
4.ถ้าน้ำหนักโหลดกระเป๋าบนเครื่องบินเกิน ต้องจ่ายเอง
ผมเองจะพกเรื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าไปแต่อยู่แล้ว ฉะนั้นหากของที่ฝากซื้อมันทำให้น้ำหนักกระเป๋าที่โหลดเกินโควต้าของผม ผมจะให้คนฝากโอนเงินค่าปรับน้ำหนักเกินมาให้เต็มจำนวน (ยกเว้นของผมเองมีส่วนที่เกินด้วยผมจะร่วมแชร์) ถ้าไม่ยอมโอนมาให้ก่อนผมจะเช็คอินโหลดกระเป๋า ผมจะขออนุญาติเอาของตรงนั้นฝากไว้ที่สนามบิน และมาเอาไปเองที่สนามบินของประเทศนั้นๆครับ
ผมอาจจะดูใจร้ายหรือแล้งน้ำใจไปบ้าง แต่ผมคิดว่าเราเองมาเที่ยว มาให้ความสุขใส่ตัว โดยส่วนตัวคนที่ผมรักผมแคร์ผมจะซื้อของฝากเค้าโดยที่เค้าไม่ต้องมาเอ่ยปากขอผมแต่แรกอยู่แล้วครับ แต่เราเองก็ไม่ใช่ไปรษณีย์ รับส่งของเนอะ เพื่อนกันญาติกันเกื้อกูลกันได้อยู่แล้วแต่จะต้องไม่เกินขอบเขตที่เราจะรับได้....
อยากให้ช่วยกันแชร์ไอเดียดีๆ ขอแบบสร้างสรรค์และไม่หยาบคายนะครับ
แชร์ประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศ ทำอย่างไรให้เที่ยวมีความสุขเวลาโดนฝากซื้อของ ไม่เสียแพลนเที่ยวและ... ไม่เสียน้ำใจกับคนฝาก
หลายๆคนตั้งใจวางแผนล่วงหน้ามาเป็นปี กว่าเก็บเงิน กว่าจะลางาน ตั้งใจทำงานหนักเพื่อให้ได้หยุดยาว เขียนแพลนเที่ยว ฯลฯ และเมื่อบรรดาญาติสนิท มิตรสหายทราบข่าวเท่านั้นแหละ .. เมิงๆ, แกรๆ, จะไปญี่ปุ่นหรอ ฝากซื้อเครื่องสำอาง...หน่อยสิ, ฝากซื้อกันดั้ม.... หน่อยสิ , ฝากซื้อ... ไม้จิ้มฟัน สากกะเบือ เรือดำน้ำ ... เห้ยๆไปไกลละ 555 ฯลฯ คุ้นๆไหมครับ เจองี้เข้าไปรู้สึกยังไงบ้างครับ??.
หลายคนอาจจะไม่ได้คิดมากอะไรมีน้ำใจ ใครฝากอะไรหาให้หมด [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่นี่สิถ้าเป็นไปได้นี่แทบจะไม่อยากให้ญาติสนิทมิตรสหายทั้งหลายรู้ซะด้วยซ้ำว่าฉันกำลังจะไปต่างประเทศ
แต่ความเป็นจริงแล้ว แทบจะหลีกเลี่ยงหรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปิดข่าวว่าเราไปเที่ยวต่างประเทศ สุดท้ายก็จะตามมาด้วยเหตุการณ์อย่างที่ผมได้บอกไป ... แล้วคราวนี้จะทำยังไงดีล้ะ?? [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ในแบบของผมเองครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลักการของผมคือ “ถ้าจะฝากต้องทำตามเงื่อนไขที่ผมตั้งโดยไม่มีข้อแม้” ตามนี้ครับ
1.เงินไม่มาก่อน ไม่มีการรับฝาก
คงจะเป็นประเด็นหลักเลย บางคนไม่ได้ฝากเงินก่อน พูดลอยๆมาว่าฝากซื้อนั่นนี่ ถึงเวลาซื้อมาก็ไม่ยอมจ่ายเค้าบ้าง กดราคาบ้าง หาว่าเพื่อนกันญาติกันเลยหาข้ออ้างไม่จ่ายบ้าง หรือซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ/ไม่ถูกสีถูกรุ่น ก็ไม่เอา ฯลฯ
ผมเองจะบอกเสมอว่าผมเก็บเงินไปเที่ยว ผมจะแลกเงินพอดีครับเผื่อฉุกเฉินไว้บ้างและแพลนซื้อของผมไว้หมดแล้ว คงจะไม่ได้เหลือเผื่อพอไว้สำหรับให้ใครมาฝากซื้อของและผมเป็นคนไม่ใช้บัตรเครดิต/เดบิตในต่างประเทศถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ดังนั้น จะต้องไปศึกษาหาราคาของที่จะฝากซื้อมาให้ดี และแลกเงินสกุลของประเทศนั้นมาให้ผมด้วย(ผมไม่เอาส่วนของผมจ่ายให้) ถ้าราคาของเกินจากนี้ผมไม่ซื้อให้และจะให้เงินคืนเต็มจำนวน(สกุลเงินประเทศนั้น) และถ้าเหลือทอนผมจะคืนให้ตามจำนวนที่ทอน(ผมเก็บใบเสร็จให้หมด)
2.ชื่อสินค้า รุ่น สี ฯลฯ ต้องชัดเจน มีรูปส่งมาให้ยิ่งดี
เพราะผมจะไม่เสียเวลางมเข็มในมหาสมุทร ถ้าหากมีการซื้อของผิดพลาด ผมจะไม่คืนเงินให้แม้แต่บาทเดียว
3.ถ้าอยู่นอกเส้นทางที่จะเที่ยวมากไป/พิกัดไม่ชัดเจน/ของหมด/หาไม่เจอ ผมจะไม่เสียเวลาเดินหาให้ต่อครับ
เราแพลนเที่ยวมาแล้ว ก็คงไม่อยากให้เสียแพลนด้วยการไปโยนหินถามทางซื้อของให้คนอื่นใช่ไหมครับ ประเด็นตรงนี้ผมจะบอกคนฝากเสมอ ว่าผมยินดีรับฝากนะ แต่ว่าต่อให้เอาเงินมาให้ก่อนมีของที่จะฝากชัดเจน ต้องเผื่อใจไว้ส่วนนึงด้วยนะครับว่าโอกาสจะไม่ได้ของ 50/50 แต่ก็จะทำให้ดีที่สุดครับ และถ้าไม่ได้ของจริงๆผมจะคืนเงินให้เต็มจำนวน
4.ถ้าน้ำหนักโหลดกระเป๋าบนเครื่องบินเกิน ต้องจ่ายเอง
ผมเองจะพกเรื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าไปแต่อยู่แล้ว ฉะนั้นหากของที่ฝากซื้อมันทำให้น้ำหนักกระเป๋าที่โหลดเกินโควต้าของผม ผมจะให้คนฝากโอนเงินค่าปรับน้ำหนักเกินมาให้เต็มจำนวน (ยกเว้นของผมเองมีส่วนที่เกินด้วยผมจะร่วมแชร์) ถ้าไม่ยอมโอนมาให้ก่อนผมจะเช็คอินโหลดกระเป๋า ผมจะขออนุญาติเอาของตรงนั้นฝากไว้ที่สนามบิน และมาเอาไปเองที่สนามบินของประเทศนั้นๆครับ
ผมอาจจะดูใจร้ายหรือแล้งน้ำใจไปบ้าง แต่ผมคิดว่าเราเองมาเที่ยว มาให้ความสุขใส่ตัว โดยส่วนตัวคนที่ผมรักผมแคร์ผมจะซื้อของฝากเค้าโดยที่เค้าไม่ต้องมาเอ่ยปากขอผมแต่แรกอยู่แล้วครับ แต่เราเองก็ไม่ใช่ไปรษณีย์ รับส่งของเนอะ เพื่อนกันญาติกันเกื้อกูลกันได้อยู่แล้วแต่จะต้องไม่เกินขอบเขตที่เราจะรับได้....
อยากให้ช่วยกันแชร์ไอเดียดีๆ ขอแบบสร้างสรรค์และไม่หยาบคายนะครับ