[หนังโรงเรื่องที่ 255] Alita: Battle Angel - หนุ่มสาวได้มาพบกันในคืนร้าวราน
คะแนนความชอบ : A- (จากสเกล D-A)
(Robert Rodriguez, 2019)
by ตั๋วหนังมันแพง
👍 จุดที่ชอบ 👍
1.ที่เห็นชัดๆ เลยคืองานภาพและกราฟิกที่สวยมาก ดูแล้วรู้เลยว่างบต้องหนาจริงๆ งานถึงเนี้ยบได้ขนาดนี้ ขนาดฉากแอคชั่นที่มีความรวดเร็วผาดโผนก็ยังมีร่องรอยของความสวยงามอยู่ พูดได้เลยว่าเป็นแต้มต่อจากโปรดักชั่นได้เลย
2.คิวบู๊ค่อนข้างถึง คือด้วยความที่หนังมันเป็นมนุษย์ไซบอร์กต่อยตีกัน ดังนั้นมันเลยฉีกข้อจำกัดของเรตติ้ง 15 ได้ (ไม่มีเลือด ไม่มีบาดแผลมนุษย์) ผลที่ได้ก็คือฉากต่อสู้ที่ดิบเถื่อน น้ำมันเครื่องกระจาย ตัวขาดครึ่ง คือเป็นการต่อสู้ที่สมบุกสมบันสะใจน่าดู
3.ฉากแข่งกีฬา Motorball ก็ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจ มันมีความฉับไวและป่าเถื่อนถึงใจ เอาง่ายๆ คือเป็นหนังดูเพลินๆ ได้นะ มีช่วงให้ลุ้น มีช่วงให้ตื่นเต้นบ้าง แต่ก็น่าเสียดายที่ฉากลุ้นๆ แบบนี้มีไม่เยอะมากเท่าที่ควร
👎 จุดที่ไม่ชอบ 👎
1.อุปนิสัยของนางเอกมันล้ำเส้นจนดู "บ้าผู้ชาย" ไปนิดนึง คือส่วนตัวผมเข้าใจนะว่าความรักในมุมมองของตัวละครอลิตามันจะเป็นยังไง และอะไรที่เป็นสาเหตุให้เธอเทใจให้รักขนาดนั้น แต่ปัญหามันอยู่ที่การนำเสนอมากกว่า มันดูประดักประเดิดเกินกว่าที่จะนิยามได้ว่า "โรแมนติก" ไปโข
2.ด้วยความที่หนังมันถอดใจความออกมาจาก "มังงะต้นฉบับ" ที่ตีพิมพ์ในต้นยุค 90s ทำให้หลายๆ อย่างมันดูเชยระเบิดระเบ้ออย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเส้นเรื้อง ปมตัวละคร หรือแม้แต่บทพูดบางอย่างที่เห็นชัดเลยว่ามัน outdated ได้แล้ว ผลคือหนังมันออกมาไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไร (ออกมาจากโรงก็เริ่มลืมแล้ว)
3.การที่หนังเลือกเล่าเรื่องหลวมๆ แบบไม่จบในเรื่องเพื่อหวังจะทำภาคต่อจนตัวสั่นแบบนี้ทำให้เป็นผลเสียกับหนังมากกว่าผลดี คือลำพังบทหนังมันก็ไม่ได้แข็งแรงพอที่จะแบกตัวเองให้รอดทั้งเรื่องอยู่แล้ว พอมาทำตัวกั๊กๆ แบบนี้เราก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้ดูภาคต่ออยู่ไหม
💡 จิปาถะ 💡
1.ฉากตะลุมบอนในผับนี่ได้แรงบันดาลใจมาก Kingsman ใช่มั้ย? แต่ก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะหนังก็ทำไม่สุดอยู่ดี
2.การใช้ CG เป็นตัวละครหลักไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ใช้ให้ดีกว่านี้คงจะดีกว่า
3.คนข้างหน้าผมหลับกรนยาวตลอดเรื่อง ซึ่งดูจากเนื้อเรื่องหนังแล้วก็พอเข้าใจได้
#ตั๋วหนังมันแพง
[หนังโรงเรื่องที่ 255] Alita: Battle Angel - หนุ่มสาวได้มาพบกันในคืนร้าวราน by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : A- (จากสเกล D-A)
(Robert Rodriguez, 2019)
by ตั๋วหนังมันแพง
1.ที่เห็นชัดๆ เลยคืองานภาพและกราฟิกที่สวยมาก ดูแล้วรู้เลยว่างบต้องหนาจริงๆ งานถึงเนี้ยบได้ขนาดนี้ ขนาดฉากแอคชั่นที่มีความรวดเร็วผาดโผนก็ยังมีร่องรอยของความสวยงามอยู่ พูดได้เลยว่าเป็นแต้มต่อจากโปรดักชั่นได้เลย
2.คิวบู๊ค่อนข้างถึง คือด้วยความที่หนังมันเป็นมนุษย์ไซบอร์กต่อยตีกัน ดังนั้นมันเลยฉีกข้อจำกัดของเรตติ้ง 15 ได้ (ไม่มีเลือด ไม่มีบาดแผลมนุษย์) ผลที่ได้ก็คือฉากต่อสู้ที่ดิบเถื่อน น้ำมันเครื่องกระจาย ตัวขาดครึ่ง คือเป็นการต่อสู้ที่สมบุกสมบันสะใจน่าดู
3.ฉากแข่งกีฬา Motorball ก็ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจ มันมีความฉับไวและป่าเถื่อนถึงใจ เอาง่ายๆ คือเป็นหนังดูเพลินๆ ได้นะ มีช่วงให้ลุ้น มีช่วงให้ตื่นเต้นบ้าง แต่ก็น่าเสียดายที่ฉากลุ้นๆ แบบนี้มีไม่เยอะมากเท่าที่ควร
1.อุปนิสัยของนางเอกมันล้ำเส้นจนดู "บ้าผู้ชาย" ไปนิดนึง คือส่วนตัวผมเข้าใจนะว่าความรักในมุมมองของตัวละครอลิตามันจะเป็นยังไง และอะไรที่เป็นสาเหตุให้เธอเทใจให้รักขนาดนั้น แต่ปัญหามันอยู่ที่การนำเสนอมากกว่า มันดูประดักประเดิดเกินกว่าที่จะนิยามได้ว่า "โรแมนติก" ไปโข
2.ด้วยความที่หนังมันถอดใจความออกมาจาก "มังงะต้นฉบับ" ที่ตีพิมพ์ในต้นยุค 90s ทำให้หลายๆ อย่างมันดูเชยระเบิดระเบ้ออย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเส้นเรื้อง ปมตัวละคร หรือแม้แต่บทพูดบางอย่างที่เห็นชัดเลยว่ามัน outdated ได้แล้ว ผลคือหนังมันออกมาไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไร (ออกมาจากโรงก็เริ่มลืมแล้ว)
3.การที่หนังเลือกเล่าเรื่องหลวมๆ แบบไม่จบในเรื่องเพื่อหวังจะทำภาคต่อจนตัวสั่นแบบนี้ทำให้เป็นผลเสียกับหนังมากกว่าผลดี คือลำพังบทหนังมันก็ไม่ได้แข็งแรงพอที่จะแบกตัวเองให้รอดทั้งเรื่องอยู่แล้ว พอมาทำตัวกั๊กๆ แบบนี้เราก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้ดูภาคต่ออยู่ไหม
1.ฉากตะลุมบอนในผับนี่ได้แรงบันดาลใจมาก Kingsman ใช่มั้ย? แต่ก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะหนังก็ทำไม่สุดอยู่ดี
2.การใช้ CG เป็นตัวละครหลักไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ใช้ให้ดีกว่านี้คงจะดีกว่า
3.คนข้างหน้าผมหลับกรนยาวตลอดเรื่อง ซึ่งดูจากเนื้อเรื่องหนังแล้วก็พอเข้าใจได้
#ตั๋วหนังมันแพง