เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักหมู่บ้านฮัลล์สตัท ชื่อเสียงเรื่องชื่อลือนามมากสำหรับชาวเอเชีย ใครมาทัวร์ยุโรปต้องไม่พลาดเมืองนี้แน่นอน และ Mai’s travelling ก็ไม่พลาดเช่นกัน
ก่อนที่จะพาไปฟินกับเมืองที่เขาว่ากันว่าสุดโรแมนติกนั้น อยากจะขอฝากตัวกับContentแรกนี้ของใหม่ด้วยนะคะ เที่ยวเองประสบการณ์เอง อะไรดีก็ว่าดีอะไรไม่ฟินก็ว่าไปตามเนื้อผ้า เผื่อไว้เป็นข้อมูลและแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่แพลนจะมาเที่ยวยุโรป
ติดตามใหม่ได้ ที่ Facebook page :
https://www.facebook.com/maitravelling/
Instagram :
https://www.instagram.com/maitravelling
ขอพูดเรื่องการเดินทางก่อนเลย ใหม่มาตามรูทยอดฮิต เริ่มจาก Prague > Cesky Krumlov > Hallstatt > Vienna
จาก Cesky Krumlov ไป Hallstatt ใหม่เดินทางด้วยมินิแวนของบริษัท Ck Shuttle ราคาอยู่ประมาณ 70€ / 2 คน เป็นแชร์มินิแวน ซึ่งรถจะมารับที่โรงแรมตามเวลาที่ระบุแล้วจะวนไปรับคนอื่นๆอีก รถมารับตรงเวลามากเพราฉะนั้นทำเวลาให้ดีนะคะ ถ้านั่งแบบแชร์ต้องเกรงใจผู้โดยสารคนอื่นๆค่ะ หรือจะเลือกแบบส่วนตัวก็ได้ราคาจะอัพไปอีกราคานึง ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.
จองได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ
https://www.ckshuttle.cz/transports/transfer-from-cesky-krumlov-to-hallstatt/?aw=1&gclid=CjwKCAiA45njBRBwEiwASnZT5-OC3KO4kDz4e7vrntS7KsUciIHQ6Q1KjUXcankWqTJKpBw5PqT6HBoCYoYQAvD_BwE
แน่นอน.. มุมมหาชนใครมาเมืองนี้แล้วไม่มีรูปมุมนี้ คือ มาไม่ถึงฮัลล์สตัท นะค่า
ทริปนี้เราไปกันประมาณกลางเดือนธันวาคม เพิ่งจะเริ่มต้นเข้าฤดูหนาวแต่หิมะก็ตกแล้ว เมืองทั้งเมืองปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวมองแล้วสวยสบายตามาก ช่วงที่หิมะตกเยอะๆจะเป็นเดือนมกราคมเป็นต้นไป (อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปีด้วยค่ะ)
ประเทศออสเตรีย เป็นหนึ่งประเทศที่ผู้คนนิยมมาเล่นWinter sportsกัน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปลองเล่นสโนว์บอร์ดสักครั้งในชีวิต แต่สไตล์ท่องเที่ยวของเราเน้นเดินชิวถ่ายรูปสวยๆสปอร์ตไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ หรือเรียกว่าไม่ชอบเลยก็ได้
Viewpoint ของเมืองนี้สวยสมคำร่ำลือ ยืนดูวิวทะเลสาบไกลสุดลูกหูลูกตา ภูเขาล้อมเมือง ฟินเว่อ! อยากจะยืนโง่ๆดูวิวสัก 3 ชม. แต่ไม่ไหวค่ะ หนาวเว่อ!
ฮัลล์สตัท เป็นหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่สูงชัน หน้าติดน้ำหลังติดเขาเป็นLandscape ที่สวยมากๆ สมกับที่ได้รับการประกาศเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์กรUnesco ประเภท Historic Cultural Landscape ในปี 1997 อีกด้วย
ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ตรงนี้เป็นทางเดินขึ้นไปจุดTop view สามารถเดินหรือนั่งรถรางขึ้นไปก็ได้ แต่ฤดูหนาวรถรางปิดให้บริการ เราก็เลยต้องใช้บริการขาทั้ง2ข้างของเราเอง
เดินตามทางเดินขึ้นมาเรื่อยๆก็จะได้วิวนี้ มองจากข้างบนลงไปข้างล่างจะเห็นตัวเมืองฮัลล์สตัททั้งเมือง ซึ่งจะเห็นได้ว่าฮัลล์สตัทเป็นเมืองที่เล็กมาก เหนือจดใต้เดินแค่10กว่านาที เราพักกันที่นี่แค่คืนเดียว สำหรับใหม่คิดว่าถ้ามาหน้าหนาวพัก 1 คืน ก็เพียงพอแล้ว เพราะเป็นช่วงLow season นอกจากเดินเล่นถ่ายรูป ยังพอมีร้านขายของที่ระลึกเปิดบ้างประปราย
โบสถ์กลางเมือง Lutheran Church กับวิวทะเลสาบ ใครบ้างไม่ฟินเว่อกับรูปนี้!! เที่ยวหน้าหนาวแล้วมาเจอช่วงที่หิมะตกสวยมากจริงๆค่ะขอบอก หิมะคือฮีโร่ที่ทำให้ทริปนี้ของเราไม่น่าเบื่อ มาฮัลล์สตัทอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องไม่พลาด คือ ไปทัวร์เหมืองเกลือ แต่! ฤดูหนาวเหมืองเกลือปิดค่ะ!! ถึงบอกว่าพักคืนเดียวก็พอ ไม่มีอะไรให้ทำเลยจริงๆ ไม่มีเลยค่ะ! TT
แวะเล่นหิมะบนภูเขา จุดหมายเราจะเดินไปให้ถึงTop view แต่ก็ไปไม่ถึงค่ะ เพราะทางเดินทั้งลื่นทั้งแคบ และต้องเดินไกลพอสมควร เลยต้องหยุดอยู่แค่นี้ หากใครจะเดินขึ้นไปต้องระวังมากๆอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เดินขึ้นแต่อย่ากลับทางลัดนะคะมันอันตราย
เดินเหนื่อยๆก็หยุดพักชมวิวระหว่างทาง จินตนาการว่าถ้ามาช่วงSummerก็คงจะสวยไม่เบา ภูเขาเขียวขจี ดอกไม้บานเต็มทุ่ง ฝูงหงส์ว่ายน้ำเล่นในทะเลสาบ แค่คิดก็ฟินสุด
กลางเดือนธันวาคม เพิ่งจะเริ่มเข้าฤดูหนาวแต่อุณหภูมิก็ต่ำมากจนเกือบติดลบ เพราะฉะนั้นเครื่องกันหนาวต้องพร้อมมีมากดีกว่าขาด Heattechชุดรองกันหนาว, หมวก, ถุงมือ, ถุงเท้าหนาๆ และรองเท้าที่ใส่สำหรับเดินบนหิมะคุณสมบัติไม่ลื่นและไม่เปียก อันนี้สำคัญมากจริงๆ ถ้ารองเท้าเปียกจะทำให้นิ้วเท้าเย็นและแข็ง ทรมานมากอาจะทำให้ทริปนั้นหมดสนุกไปเลยก็ได้ค่ะ
กลับลงมาถ่ายรูปข้างล่างกันต่อ รูปอีแบบก็จะเยอะกว่ารูปวิวหน่อยๆ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะค่า! ยุโรปในฤดูหนาวพระอาทิตย์จะตกตอนประมาณ4โมงเย็น ซึ่งเร็วกว่าเวลาปกติ และขึ้นอีกทีประมาณ8โมงเช้า ช่วงเวลากลางคืนจึงยาวนานกว่าช่วงกลางวัน เพราฉะนั้นแพลนต้องดีและต้องทำเวลาก่อนที่แสงจะหมดจะได้เก็บภาพสวยๆได้ครบทุกที่ จะได้ไม่มาเสียดายทีหลังนะค่า!
เดินเล่นวนไป หนาวๆก็ต้องเดินมาถึงที่นี่แล้วต้องไปทุกซอกทุกมุม ตอนกลางวันทัวร์ค่อนข้างเยอะ
พอตกเย็นคนเงียบกริบ
บ้านเรือนสร้างเรียงเป็นชั้นๆขึ้นไปตามแนวเขา สวยและมีเสน่ห์ ชอบมากกกก
เจ้าถิ่นออกมาตอนรับด้วยตัวเอง แก๊งน้องหงส์ไม่กลัวคนเลย นางรู้งานว่ามีคนจะถ่ายรูปนางก็จะว่ายมาใกล้ๆ แต่จริงๆแล้วนางคงคิดว่าคนจะมาให้อาหารนางมากกว่า
ได้เห็นน้องหงส์พลอดรักกันด้วย สวีทเว่อ คนอายเลยค่ะ
ริมทะเลสาบแบบนี้จริงๆมันควรจะเป็นรูปที่โรแมนติก แต่ก็นะตามภาพมาเที่ยวกัน2คน รูปคู่ก็จะไม่มี เราไม่กล้าเสี่ยงให้คนอื่นถ่ายรูปให้กลัวจะเจอมิจฉาชีพแอบแฝง ทำทีอาสาถ่ายรูปให้แล้ววิ่งเชิดกล้องไป ใครมาเที่ยวกันเป็นCouples ก็ต้องระวังในจุดนี้ด้วยนะคะ ถ้าจะวานให้คนอื่นถ่ายรูปให้ก็ต้องดูให้ดีๆดูคนที่น่าไว้ใจได้
(รูปนี้ 18+) เดินเหนื่อยๆ แวะนั่งจิบเบียร์แก้หนาว
นั่งๆอยู่มีเพื่อนตัวน้อยมาSay hello
หิวแล้วก็หาของกินกัน ที่หน้าร้านอาหารจะมีเมนูวางไว้ให้เราได้เช็คก่อนทั้งเรื่องราคาและอาหาร เลือกไปตามใจชอบและมั่นใจได้เลยว่าร้านนั้นเราจะไม่โดนชาร์จราคานักท่องเที่ยวแน่นอน
วิวจากระเบียงห้อง พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า... เมืองฮัลล์สตัทค่าครองชีพค่อนข้างสูง ราคาโรงแรมอยู่ราวๆ 100€ อัพ ถูกลงหน่อยก็จะเป็นGuesthouse ส่วนตัวคิดว่าGuesthouseน่าอยู่มากกว่าโรงแรมอีก แต่Guesthouseส่วนใหญ่จะปิดช่วนหน้าหนาว ใหม่ก็เลยเลือกโรงแรมGasthof Weißes Lamm ซึ่งโรงแรมนี้เพิ่งรีโนเวทห้องพักใหม่ (ขอโทษทีนะคะไม่ได้ถ่ายรูปภายในห้องพักมาให้ชมกัน) ห้องสะอาด เตียงนอนนุ่มสบาย ห้องน้ำใหญ่มาก เสียแค่ไม่มีBathtubไม่งั้นเพอร์เฟคเลย
https://www.weisses-lamm.at/en/ ใหม่จ่าย 100€ / คืน และอยู่ใจกลางเมือง
เอาเบียร์แช่หิมะเย็นชื่นใจเหมือนแช่ช่องฟีซเลย
ไม่มีตู้เย็นไม่ใช่ปัญหา แต่ไม่มีที่เปิดขวดเนี่ยเรื่องใหญ่
อีกมุมของเมืองถ่ายไว้ตอนกำลังนั่งเรือข้ามไปอีกฝากเพื่อไปขึ้นรถไฟต่อไปเวียนนา ค่าเรือข้ามฝาก 2.5€/คน ซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือเลย เรือจะข้ามฝากไปทันกับเวลารถไฟพอดีไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาเลยค่ะ แนะนำใครจะต้องเดินทางต่อด้วยรถไฟให้ซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้ามาก่อนเลย ตู้ซื้อตั๋วมีแค่ตู้เดียวเผื่อมีคนต่อคิวซื้อตั๋วหลายคน กลัวจะตกรถไฟเพราะรถไฟจอดแค่แป้บเดียว
หมู่บ้านHallstatt ถ้าจะExpectเรื่องความโรแมนติกแล้ว ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้โรแมนติกสักเท่าไหร่ เพราะทัวร์เยอะมากและยิ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆแล้วด้วยค่อนข้างจะแออัด แต่เสน่ห์ของเมืองนี้ก็ยังสวยและประทับใจอยู่ ที่นี่คิดว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนจริงๆ แบบมานั่งโง่ๆไม่ต้องทำอะไรดื่มด่ำกับวิวก็พอ ใครพอมีเวลาหรือต้องผ่านเมืองนี้อยู่แล้วก็แวะพักสักคืน หรือจะOne day trip ก็ได้ ถ้าหากไม่เหนื่อยเกินไป สุดท้ายนี้จะบอกว่าก็ไม่ผิดหวังที่ได้มาที่นี่ ถ้าถามว่าจะกลับไปอีกมั้ย? กลับไปซ้ำอีกแน่นอน อยากเห็นเมืองHallstatt in Summer จะไปนั่งโง่ๆอยู่ริมทะสาบ...
[CR] รีวิว เที่ยวHallstatt in winter
ก่อนที่จะพาไปฟินกับเมืองที่เขาว่ากันว่าสุดโรแมนติกนั้น อยากจะขอฝากตัวกับContentแรกนี้ของใหม่ด้วยนะคะ เที่ยวเองประสบการณ์เอง อะไรดีก็ว่าดีอะไรไม่ฟินก็ว่าไปตามเนื้อผ้า เผื่อไว้เป็นข้อมูลและแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่แพลนจะมาเที่ยวยุโรป
ติดตามใหม่ได้ ที่ Facebook page : https://www.facebook.com/maitravelling/
Instagram : https://www.instagram.com/maitravelling
ขอพูดเรื่องการเดินทางก่อนเลย ใหม่มาตามรูทยอดฮิต เริ่มจาก Prague > Cesky Krumlov > Hallstatt > Vienna
จาก Cesky Krumlov ไป Hallstatt ใหม่เดินทางด้วยมินิแวนของบริษัท Ck Shuttle ราคาอยู่ประมาณ 70€ / 2 คน เป็นแชร์มินิแวน ซึ่งรถจะมารับที่โรงแรมตามเวลาที่ระบุแล้วจะวนไปรับคนอื่นๆอีก รถมารับตรงเวลามากเพราฉะนั้นทำเวลาให้ดีนะคะ ถ้านั่งแบบแชร์ต้องเกรงใจผู้โดยสารคนอื่นๆค่ะ หรือจะเลือกแบบส่วนตัวก็ได้ราคาจะอัพไปอีกราคานึง ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.
จองได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ https://www.ckshuttle.cz/transports/transfer-from-cesky-krumlov-to-hallstatt/?aw=1&gclid=CjwKCAiA45njBRBwEiwASnZT5-OC3KO4kDz4e7vrntS7KsUciIHQ6Q1KjUXcankWqTJKpBw5PqT6HBoCYoYQAvD_BwE
แน่นอน.. มุมมหาชนใครมาเมืองนี้แล้วไม่มีรูปมุมนี้ คือ มาไม่ถึงฮัลล์สตัท นะค่า
ทริปนี้เราไปกันประมาณกลางเดือนธันวาคม เพิ่งจะเริ่มต้นเข้าฤดูหนาวแต่หิมะก็ตกแล้ว เมืองทั้งเมืองปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวมองแล้วสวยสบายตามาก ช่วงที่หิมะตกเยอะๆจะเป็นเดือนมกราคมเป็นต้นไป (อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปีด้วยค่ะ)
ประเทศออสเตรีย เป็นหนึ่งประเทศที่ผู้คนนิยมมาเล่นWinter sportsกัน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปลองเล่นสโนว์บอร์ดสักครั้งในชีวิต แต่สไตล์ท่องเที่ยวของเราเน้นเดินชิวถ่ายรูปสวยๆสปอร์ตไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ หรือเรียกว่าไม่ชอบเลยก็ได้
Viewpoint ของเมืองนี้สวยสมคำร่ำลือ ยืนดูวิวทะเลสาบไกลสุดลูกหูลูกตา ภูเขาล้อมเมือง ฟินเว่อ! อยากจะยืนโง่ๆดูวิวสัก 3 ชม. แต่ไม่ไหวค่ะ หนาวเว่อ!
ฮัลล์สตัท เป็นหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่สูงชัน หน้าติดน้ำหลังติดเขาเป็นLandscape ที่สวยมากๆ สมกับที่ได้รับการประกาศเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์กรUnesco ประเภท Historic Cultural Landscape ในปี 1997 อีกด้วย
ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ตรงนี้เป็นทางเดินขึ้นไปจุดTop view สามารถเดินหรือนั่งรถรางขึ้นไปก็ได้ แต่ฤดูหนาวรถรางปิดให้บริการ เราก็เลยต้องใช้บริการขาทั้ง2ข้างของเราเอง
เดินตามทางเดินขึ้นมาเรื่อยๆก็จะได้วิวนี้ มองจากข้างบนลงไปข้างล่างจะเห็นตัวเมืองฮัลล์สตัททั้งเมือง ซึ่งจะเห็นได้ว่าฮัลล์สตัทเป็นเมืองที่เล็กมาก เหนือจดใต้เดินแค่10กว่านาที เราพักกันที่นี่แค่คืนเดียว สำหรับใหม่คิดว่าถ้ามาหน้าหนาวพัก 1 คืน ก็เพียงพอแล้ว เพราะเป็นช่วงLow season นอกจากเดินเล่นถ่ายรูป ยังพอมีร้านขายของที่ระลึกเปิดบ้างประปราย
โบสถ์กลางเมือง Lutheran Church กับวิวทะเลสาบ ใครบ้างไม่ฟินเว่อกับรูปนี้!! เที่ยวหน้าหนาวแล้วมาเจอช่วงที่หิมะตกสวยมากจริงๆค่ะขอบอก หิมะคือฮีโร่ที่ทำให้ทริปนี้ของเราไม่น่าเบื่อ มาฮัลล์สตัทอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องไม่พลาด คือ ไปทัวร์เหมืองเกลือ แต่! ฤดูหนาวเหมืองเกลือปิดค่ะ!! ถึงบอกว่าพักคืนเดียวก็พอ ไม่มีอะไรให้ทำเลยจริงๆ ไม่มีเลยค่ะ! TT
แวะเล่นหิมะบนภูเขา จุดหมายเราจะเดินไปให้ถึงTop view แต่ก็ไปไม่ถึงค่ะ เพราะทางเดินทั้งลื่นทั้งแคบ และต้องเดินไกลพอสมควร เลยต้องหยุดอยู่แค่นี้ หากใครจะเดินขึ้นไปต้องระวังมากๆอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เดินขึ้นแต่อย่ากลับทางลัดนะคะมันอันตราย
เดินเหนื่อยๆก็หยุดพักชมวิวระหว่างทาง จินตนาการว่าถ้ามาช่วงSummerก็คงจะสวยไม่เบา ภูเขาเขียวขจี ดอกไม้บานเต็มทุ่ง ฝูงหงส์ว่ายน้ำเล่นในทะเลสาบ แค่คิดก็ฟินสุด
กลางเดือนธันวาคม เพิ่งจะเริ่มเข้าฤดูหนาวแต่อุณหภูมิก็ต่ำมากจนเกือบติดลบ เพราะฉะนั้นเครื่องกันหนาวต้องพร้อมมีมากดีกว่าขาด Heattechชุดรองกันหนาว, หมวก, ถุงมือ, ถุงเท้าหนาๆ และรองเท้าที่ใส่สำหรับเดินบนหิมะคุณสมบัติไม่ลื่นและไม่เปียก อันนี้สำคัญมากจริงๆ ถ้ารองเท้าเปียกจะทำให้นิ้วเท้าเย็นและแข็ง ทรมานมากอาจะทำให้ทริปนั้นหมดสนุกไปเลยก็ได้ค่ะ
กลับลงมาถ่ายรูปข้างล่างกันต่อ รูปอีแบบก็จะเยอะกว่ารูปวิวหน่อยๆ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะค่า! ยุโรปในฤดูหนาวพระอาทิตย์จะตกตอนประมาณ4โมงเย็น ซึ่งเร็วกว่าเวลาปกติ และขึ้นอีกทีประมาณ8โมงเช้า ช่วงเวลากลางคืนจึงยาวนานกว่าช่วงกลางวัน เพราฉะนั้นแพลนต้องดีและต้องทำเวลาก่อนที่แสงจะหมดจะได้เก็บภาพสวยๆได้ครบทุกที่ จะได้ไม่มาเสียดายทีหลังนะค่า!
เดินเล่นวนไป หนาวๆก็ต้องเดินมาถึงที่นี่แล้วต้องไปทุกซอกทุกมุม ตอนกลางวันทัวร์ค่อนข้างเยอะ
พอตกเย็นคนเงียบกริบ
บ้านเรือนสร้างเรียงเป็นชั้นๆขึ้นไปตามแนวเขา สวยและมีเสน่ห์ ชอบมากกกก
เจ้าถิ่นออกมาตอนรับด้วยตัวเอง แก๊งน้องหงส์ไม่กลัวคนเลย นางรู้งานว่ามีคนจะถ่ายรูปนางก็จะว่ายมาใกล้ๆ แต่จริงๆแล้วนางคงคิดว่าคนจะมาให้อาหารนางมากกว่า
ได้เห็นน้องหงส์พลอดรักกันด้วย สวีทเว่อ คนอายเลยค่ะ
ริมทะเลสาบแบบนี้จริงๆมันควรจะเป็นรูปที่โรแมนติก แต่ก็นะตามภาพมาเที่ยวกัน2คน รูปคู่ก็จะไม่มี เราไม่กล้าเสี่ยงให้คนอื่นถ่ายรูปให้กลัวจะเจอมิจฉาชีพแอบแฝง ทำทีอาสาถ่ายรูปให้แล้ววิ่งเชิดกล้องไป ใครมาเที่ยวกันเป็นCouples ก็ต้องระวังในจุดนี้ด้วยนะคะ ถ้าจะวานให้คนอื่นถ่ายรูปให้ก็ต้องดูให้ดีๆดูคนที่น่าไว้ใจได้
(รูปนี้ 18+) เดินเหนื่อยๆ แวะนั่งจิบเบียร์แก้หนาว
นั่งๆอยู่มีเพื่อนตัวน้อยมาSay hello
หิวแล้วก็หาของกินกัน ที่หน้าร้านอาหารจะมีเมนูวางไว้ให้เราได้เช็คก่อนทั้งเรื่องราคาและอาหาร เลือกไปตามใจชอบและมั่นใจได้เลยว่าร้านนั้นเราจะไม่โดนชาร์จราคานักท่องเที่ยวแน่นอน
วิวจากระเบียงห้อง พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า... เมืองฮัลล์สตัทค่าครองชีพค่อนข้างสูง ราคาโรงแรมอยู่ราวๆ 100€ อัพ ถูกลงหน่อยก็จะเป็นGuesthouse ส่วนตัวคิดว่าGuesthouseน่าอยู่มากกว่าโรงแรมอีก แต่Guesthouseส่วนใหญ่จะปิดช่วนหน้าหนาว ใหม่ก็เลยเลือกโรงแรมGasthof Weißes Lamm ซึ่งโรงแรมนี้เพิ่งรีโนเวทห้องพักใหม่ (ขอโทษทีนะคะไม่ได้ถ่ายรูปภายในห้องพักมาให้ชมกัน) ห้องสะอาด เตียงนอนนุ่มสบาย ห้องน้ำใหญ่มาก เสียแค่ไม่มีBathtubไม่งั้นเพอร์เฟคเลย https://www.weisses-lamm.at/en/ ใหม่จ่าย 100€ / คืน และอยู่ใจกลางเมือง
เอาเบียร์แช่หิมะเย็นชื่นใจเหมือนแช่ช่องฟีซเลย
ไม่มีตู้เย็นไม่ใช่ปัญหา แต่ไม่มีที่เปิดขวดเนี่ยเรื่องใหญ่
อีกมุมของเมืองถ่ายไว้ตอนกำลังนั่งเรือข้ามไปอีกฝากเพื่อไปขึ้นรถไฟต่อไปเวียนนา ค่าเรือข้ามฝาก 2.5€/คน ซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือเลย เรือจะข้ามฝากไปทันกับเวลารถไฟพอดีไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาเลยค่ะ แนะนำใครจะต้องเดินทางต่อด้วยรถไฟให้ซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้ามาก่อนเลย ตู้ซื้อตั๋วมีแค่ตู้เดียวเผื่อมีคนต่อคิวซื้อตั๋วหลายคน กลัวจะตกรถไฟเพราะรถไฟจอดแค่แป้บเดียว
หมู่บ้านHallstatt ถ้าจะExpectเรื่องความโรแมนติกแล้ว ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้โรแมนติกสักเท่าไหร่ เพราะทัวร์เยอะมากและยิ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆแล้วด้วยค่อนข้างจะแออัด แต่เสน่ห์ของเมืองนี้ก็ยังสวยและประทับใจอยู่ ที่นี่คิดว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนจริงๆ แบบมานั่งโง่ๆไม่ต้องทำอะไรดื่มด่ำกับวิวก็พอ ใครพอมีเวลาหรือต้องผ่านเมืองนี้อยู่แล้วก็แวะพักสักคืน หรือจะOne day trip ก็ได้ ถ้าหากไม่เหนื่อยเกินไป สุดท้ายนี้จะบอกว่าก็ไม่ผิดหวังที่ได้มาที่นี่ ถ้าถามว่าจะกลับไปอีกมั้ย? กลับไปซ้ำอีกแน่นอน อยากเห็นเมืองHallstatt in Summer จะไปนั่งโง่ๆอยู่ริมทะสาบ...
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้