๓ ฤดูที่ Hallstatt

ผมรู้จัก Hallstatt (อ่านว่า ฮัลล์-ชตั้ต ไม่ใช่ สตั๊ต) ระหว่างมาแข่งว่าความอนุญาโตตุลการการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา สมัยเรียนอยู่ปีที่ ๓ ที่คณะนิติฯ จุฬาฯ เมื่อปี ๒๕๕๓ หรือเมื่อ ๗ ปีที่แล้ว แต่ครั้งนั้นผมไม่มีเวลามา Hallstatt หลังจากเที่ยว Salzburg เสร็จ ก็ได้แต่หวังไว้ในใจว่าจะได้กลับมาเยือนในวันใดวันหนึ่ง โดยที่ตอนนั้นไม่รู้เลยว่า ผมจะได้มาเหยีบ Hallstatt ๓ ครั้ง ๓ ฤดูด้วยกัน

และแล้วฝันของผมก็เป็นจริง ระหว่างที่เรียนอยู่ที่สาธารณรัฐเช็ก ผมรีบเคลียร์การบ้านให้เสร็จ แล้วแอบมาเที่ยว Hallstatt จนได้ที่สุด

Hallstatt ในวันนั้น ไม่เหมือนกับ Hallstatt ในวันนี้ ตอนนั้น Hallstatt ยังคงเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ ซึ่งความสงบนี่เอง ผมคิดว่า เป็นเสน่ห์ที่แท้จริงของหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้

ตอนนั้นเป็นฤดูใบไม้ร่วง ตอนที่ไป ใบไม้ร่วงเกือบหมดแล้ว แต่ได้สายหมอกมาเติมเต็มบรรยากาศให้ดูลึกลับ น่าค้นหาไปอีกแบบ

ต่อมาเมื่อผมย้ายไปเรียนที่เนเธอร์แลนด์ ก็พยายามหาทางกลับมาให้ได้ เพื่อจะได้มาสัมผัสกับหมู่บ้านแห่งนี้ในฤดูหนาวที่มีหิมะตก

การมาเยือนครั้งนี้เป็นการมาเยือนที่ผมรู้สึกได้เติมเต็มมากที่สุด

ผมนั่งเรือข้ามฟากจากสถานีรถไฟผ่านสายหมอกหิมะ บนทะเลสาบสีดำทะมึน Hallstatt ดูราวกับหมู่บ้านเทพนิยายก็ไม่ปาน ผมมาถูกจังหวะที่หิมะตกหนัก หิมะสีขาวปกคลุมหมู่บ้านและสุสาน ยังไม่ถูกคนเหยียบย่ำ ไม่มีนักท่องเที่ยวมารบกวน ผมพักแบบ homestay ใจกลางหมู่บ้าน เห็นวิวทะเลสาบและบ้านผู้คนที่ลดหลั่นกันมาบนเชิงเขา

และสิ่งที่ผมไม่มีวันลืมเลย คือ ผมได้ countdown ที่นี่ มองเห็นดอกไม้ไฟนอกหน้าต่างห้อง สะท้อนแสงสวยงามบนทะเลสาบที่มืดสนิท

ต่อมา ผมย้ายไปอยู่เวียนนา ๑ เดือนในช่วงเดือนกรกฎาคม เป็นหน้าร้อน ด้วยความอยากเห็น Hallstatt ในบรรยากาศเขียวชอุ่ม ก็ไม่มีสิ่งใดขัดขวางผมได้
แต่แล้ว ผมก็เจอกับสิ่งที่ผมกลัวที่สุด นั่นคือ นักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่ล้นทะลักเข้ามาในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้
.
.
.
Hallstatt ไม่หลงเหลือเสน่ห์ที่ผมเคยหลงใหลอีกแล้ว...
----------------------------------------------
ใครสนใจการเรียน การทำงาน และการท่องเที่ยวแนว hidden gems ในยุโรป ก็ขอเชิญไปเยี่ยมชมหรือพูดคุยกันได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจครับ https://www.facebook.com/IRememberEurope/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่