สวัสดีเพื่อนๆ ชาวบลูแพลนแนตค่ะ
โปรตุเกส ในสายของคนทั่วไป อาจจะมีความคิดว่า เป็นประเทศยุโรป รสชาติอาหารก็น่าจะเป็นแนวฝรั่ง ชีสเยอะๆ เลี่ยนๆ แน่นอน (เราก็เป็นหนึ่งในนั้น) จริงๆ แล้วอาหารโปรตุเกสได้ชื่อว่าเป็นอาหารที่คล้ายกับอาหารเอเชียมากที่สุดที่นึงเลยก็ว่าได้ ดังจะเห็นได้จากอาหารหลายอย่าง เช่น ทาร์ตไข่และ Pork Chop Bun ที่กลับกลายเป็นของดังที่มาเก๊า หรือจะเป็นฝอยทอง บ้าบิ่น สังขยาและขนมไทยอื่นๆ ล้วนแล้วแต่กำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกสทั้งสิ้น (อันนี้ไปถึงแล้วเพิ่งรู้จะเนี่ยะ! พอดีไม่ได้ดูบุพเพสันนิวาสค่าาา ^^”) ดังนั้น ภาระกิจคราวนี้ของเรา เมื่อมาเที่ยวโปรตุเกสทั้งที เราก็ไม่พลาดที่จะสรรหาร้านอาหารขึ้นชื่อที่ประเทศนี้ พร้อมกับมาเล่าเรื่องราวอันน่าสนใจของแต่ละร้านที่เราศึกษามาอย่างดี (รึเปล่า?)
การเดินทางไปโปรตุเกสครั้งนี้ เราไปกัน 3 เมืองด้วยกันคือ Lisbon (Lisboa), Sintra, และ Porto โดยกระทู้นี้เราจะโฟกัสเรื่องกินอย่างเดียว!!! และจะพาเพื่อนๆชาวบลูแพลนเนตไปตะลอนกินด้วยกัน!! (ดูเหมือนเป็นภาระกิจแห่งชาติ^^') พร้อมจะกินจนพุงกางไปกันเราแล้วรึยังเอ่ย? กิกิ
หมายเหตุ: Rating และ Budget ที่เราให้นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
=======================================
CASA PIRIQUITA
[SINTRA]
=======================================
Rating: 3/5 ดาว
Budget: $
ร้านเบเกอรี่สัญชาติโปรตุเกต ต้นกำเนิดขนม Queijadas หรือมันคือขนมบ้าบิ่นของไทยเรานี่เอง!! ถือกำเนิดที่เมือง Sintra ในปี 1862 (160 ปีที่แล้ว) โดยนาย Amaro dos Santos และภรรยาของเค้า Constância Gomes ซึ่งชื่อร้าน Piriquita นี้เอง King Carlos เป็นคนประทานให้แก่นาง Constância Gomes เป็นชื่อเล่นตามลักษณะของเธอที่เป็นคนตัวเล็ก จริงๆ แล้วเป็น King Carlos เองนั่นแหละที่ได้ลองชิ้มขนมของสองสามีภรรยาแล้วติดใจว่ามันอร่อย จนกระทั่ง encourage ให้เค้าทั้งสองเปิดร้านเบเกอรี่
Queijadas
ต่อมาลูกสาว Constância Cunha ก็ได้คิดค้นขนมอีกชนิดนึงนั่นคือ Travesseiro เป็นลักษณะคล้ายๆ พายทำเป็นรูปทรงหมอน ไส้ข้างในเป็นไข่หวานกลิ่นอัลมอนต์ ซึ่งแน่นอนว่าสูตรนี้จะมีการถ่ายทอดให้กับคนในครอบครัวเท่านั้น
Travesseiro
ปัจจุบัน ร้าน Piriquita ดำเนินกิจการมาถึง generation ที่ 5 และได้กลายเป็น landmark สำคัญสำหรับเมือง Sintra ไปแล้วเรียบร้อย ทางโรงแรมของเราก็ได้แนะนำร้านนี้ให้เราเหมือนกัน ร้าน Piriquita ปัจจุบันมี 2 สาขา สาขาแรกอยู่ตัวหัวมุมทางเข้าซอย R. Padarias อีกสาขาก็เดินเลยเข้าไปในซอยเดียวกัน ภายในตัวร้านประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือส่วนสั่งกลับบ้านและส่วนที่นั่งทานที่ร้าน ขนาดภายในร้านไม่ได้ใหญ่เลย เอาจริงๆ ถือว่าเล็กด้วยซ้ำ มีโต๊ะนั่งไม่ถึง 10 โต๊ะ จึงไม่แปลกที่คุณอาจจะต้องต่อคิวหน้าร้านเพื่อรอโต๊ะว่าง
เราสั่งขนมมาทาน 4-5 อย่าง พร้อมกับเครื่องดื่ม ตัว Queijadas นี่อร่อยมาก กรอบนอก ข้างในเป็นไส้มะพร้าว รสชาติคล้ายกับขนมบ้าบิ่นบ้านเราเปี๊ยบ ส่วน อีขนมหมอน Travesseiro นี่ก้ออร่อยมากเช่นกัน ไม่แปลกที่มันจะดังข้ามศตวรรษ ขนมอื่นๆ รสชาติหวาน จนเรารู้สึกมันหวานเกินไป ต้องทานกะชา สุดท้าย เก็บตังค์ทั้งหมดก็แค่ 8 ยูโรเท่านั้น ปิดท้ายด้วยการซื้อขนม Queijadas กลับไปกินบ้านอีก 1 ห่อ (1 pack มี 6 ชิ้น) ตอนแรกว่าจะซื้อกลับบ้านแต่เค้าบอกว่าอยู่ได้ 2 อาทิตย์ กลัวว่าจะเสียก่อนเลยไม่ได้ซื้อกลับบ้าน
พิกัดความอร่อย:
https://goo.gl/maps/W25g1e8Fg1m
=======================================
TABERNA SAL GROSSO
[LISBOA]
=======================================
Rating: 5/5 ดาว
Budget: $$
ร้านอาหาร Home Cook สัญชาติโปรตุเกสจ๋า เจ้าของร้านเคยเป็น Executive Chef ที่โรงแรม 5 ดาวมาก่อน ปัจจุบันร้านนี้ขายดีมากกกก เรียกกันว่า ติดโผของทุกเวบรีวิวอาหารเลยทีเดียว นั่งกันแน่นทุกวัน แต่นางไม่อยากขยายใหญ่กว่านี้ เพราะเมนูของเค้าแต่วันจะไม่เหมือนกัน ตามใจอารมณ์ของ Chef และขึ้นอยู่กับว่าไปจ่ายตลาดแล้วได้อะไรมา นอกจากนั้นนางต้องการควบคุม Quality ของอาหารด้วยเช่นกัน
ร้านนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ Santa Apolonia ของเมือง Lisbon ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักคล้ายๆ กับหัวลำโพงที่ใช้เดินทางระหว่างเมือง เป็นร้านขนาดเล็กมว๊ากกกก ทางเข้าก็เป็นประตูแคบๆ จะเข้าทีต้องเคาะกระจกให้พนักงานเสริฟมาเปิดให้ ด้านในมีโต๊ะไม่ถึง 10 โต๊ะ เราไม่ได้จองมาก่อนแต่เราโชคดีมาก ได้โต๊ะสุดท้ายนั่งใต้บันไดนั่งได้สองคนพอดี อ้อ! ร้านนี้ไม่มีเมนูนะคะ ทุกวันเค้าจะเขียนรายการอาหารไว้บนกระดานดำซึ่งจะมีติดไว้ทั้งในร้านและนอกร้าน ว่าวันนี้มีเมนูอะไร เวลาสั่งจะต้องดูจากกระดานดำ มาดูกันค่ะว่าเมนูที่เราสั่งวันนี้มีอะไรบ้าง…
เริ่มต้นที่ Orange Salad ซึ่งเค้าเอาเนื้อส้มกะผัก Rocket มาผสมกันน้ำสลัดแนว Olive oil อร่อยมากกกก ไม่น่าเชื่อว่า ingredient แค่นี้ก้อได้สลัดอร่อยๆ ออกมาได้ จานต่อไปเป็น Lamb Stew กลิ่นแรงใช้ได้ รสชาติเค็มนำ เอาไปต้มจนเนื้อเปื่อยมาก เนื้อนี่เปื่อยแบบลอกออกจากกระดูกสบายบรื๋อ จานต่อไป Duck Liver เป็นตับเป็ดในไวน์ขาว ใส่ไวน์เยอะมาก กินไปกินมาเริ่มเมา เอาเป็นว่าจานนี้ไม่ค่อยถูกใจเราสองคนเท่าไหร่ ส่วนจานสุดท้ายเป็น Roasted Chicken มันคือไก่อบกระเทียมพริกไทยนี่เอง หอมพริกไทย รสชาติก็ออกเค็มๆ แนวไก่อบพริกไทยดำ อร่อยมว๊ากกกก
สำหรับเครื่องดื่ม ร้านนี้ไม่มีพวก coke, pepsi ขายนะคะ Drinks ของเค้าก็เป็น Homemade เช่นกัน เด็กเสริฟบอกว่า วันนี้มี Cherry Soda รสชาติประทับใจจอร์ชมาก หวานนิดเปรี้ยวหน่อย กินแล้วสดชื่น สุดท้ายเก็บเงินแค่ 30.50 Euro (2 คนประมาณ 1 พัน) เปรียบเทียบราคาแล้ว ไม่แพงเลยจ้า ใครจะไปทานที่ร้านนี้ แนะนำว่าให้ทำการจองไปก่อนจะดีกว่านะคะ
พิกัดความอร่อย:
https://goo.gl/maps/XkozzpFaBe72
=======================================
PASTÉIS DE BELÉM
[LISBOA]
=======================================
Rating: 5/5 ดาว
Budget: $
ร้านนี้คือต้นกำเนิด Egg Tart (Nata) ของโลก ถือกำเนิดมาจากคนงานและพระที่ทำงานอยู่ใน Jerónimos Monastery (ปัจจุบันอารามแห่งนี้เป็นหนึ่งใน UNESCO World Heritage ด้วยนะ) ด้วยเหตุที่สมัยก่อน เสื้อผ้าที่ใส่ในอารามจะต้องดูเนี๊ยบ ดังนั้นการรีดเสื้อผ้าให้ขึ้นเป็นจีบจึงต้องการความปราณีตเป็นพิเศษ ซึ่งตามภูมิปัญญาชาวบ้านโปรตุเกสมัยก่อนจะใช้ไข่ขาวทาบางๆ บนผ้า เวลารีด เสื้อผ้าจะขึ้นจีบง่าย อยู่ได้นาน และเนื้อผ้าดูเต่งตึง ส่วนไข่แดงก็จะทิ้งไป ต่อมาก็มีคนต้นคิดที่จะเอาไข่แดงที่เหลือมาทำเป็นขนมซะ จะได้ไม่ต้องทิ้งให้เสียของ เกิดเป็น Egg Tart ในที่สุด ต่อมาในปี 1820 ประเทศเกิดการปฏิวัติเสรีนิยมทำให้ convent และ monastery ทั้งหลายถูกปิดลง คนงานและพระที่เคยทำงานอยู่ใน Jerónimos Monastery อยู่ๆ ก้อไม่มีงานทำซะงั้น จึงได้นำ Egg Tart ที่เคยทำอยู่ใน Monastery ไปขายที่ร้านขายของชำที่ตั้งอยู่ข้างๆ โรงงานน้ำตาลในบริเวณใกล้ๆ กับอารามนั่นแหละ ต่อมา Egg tart ก็ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันอย่างรวดเร็วในชื่อ “Pastéis de Belém”
ต่อมาในปี 1837 การทำ Egg Tart ของ “Pastéis de Belém” ก็เปลี่ยนมาทำที่ร้านขายของชำแห่งนี้ซะเลย โดยสูตรขนมก็ยังคงใช้สูตรลับโบราณที่สืบต่อกันมาจาก Monastery และสูตรนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในช่วงที่โปรตุเกสเดินเรือไปยังเอเชียก็ได้นำ Egg Tart นี้ไปด้วย ทำให้ Egg Tart กลายเป็นขนมชื่อดังของมาเก๊าและฮ่องกงมาจวบจนปัจจุบัน
ปัจจุบันร้าน Pastéis de Belém แห่งนี้ขาย Egg Tart เป็นหลักเลย ในร้านมีที่นั่งเป็นร้อยๆ โต๊ะ แต่กระนั้น คนยังนั่งกันแน่นขนัด ทั้งคน local และนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ คนที่จะทานที่ร้านก็ต้องต่อคิววนไปค่ะ ด้านหน้ามี counter ขายแบบ togo ซึ่งก็ตามแต่ช่วงเวลา บางช่วงแถวสั้น บางช่วงแถวยาว นอกจากนั้น ด้านในจะมีส่วนที่เป็นห้องอบขนมซึ่งเค้าสร้างเป็นห้องกระจก คุณสามารถเห็นกระบวนการวิธีการเค้าทำ Egg Tart ผ่านกระจกได้เลย
มาพูดถึงรสชาติกันบ้าง Egg Tart ที่นี่ ตัวแป้งข้างนอกกรอบฟู ด้านบนเค้าจะทำให้ไหม้นิดๆ กัดลงไปนี่ของใช้คำว่า caramelize มาก สำหรับไส้ texture ของเค้าออกแนวแบบ custard คือนิ่มๆ นัวๆ กลิ่นไข่แดงหอม รสชาติหวานมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ Egg Tart ของฮ่องกงหรือบ้านเรา ซึ่งจะมีรสหวานน้อยกว่า ส่วนของไส้ก็จะผสมไข่เยอะกว่า เนื้อไส้จึงเฟริมๆ เหมือนไข่ตุ๋น ต่างกับของโปรตุเกสที่จะเหลวๆ เหมือนคัสตาร์ด และด้วยความที่มันหวานมาก จึงเหมาะกับทานกับชาขมๆ เราชอบนะ ทานไป 2 อันกำลังดี ทานมากกว่านี้แอบเลี่ยน…
พิกัดความอร่อย:
https://goo.gl/maps/n5AoazXYUvx
=======================================
CASA DAS BIFANAS
[LISBOA]
=======================================
Rating: 3/5 ดาว
Budget: $
ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่ขาย Bifana หรือเรียกอีกอย่างว่า Pork Chop Bun ตั้งอยู่ที่ Figueira’s square ใจกลางกรุง Lisbon หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า Binafa คืออะไร?
ถ้าอเมริกามีแฮมเบอเกอร์แล้วหล่ะก็ โปรตุเกสก็มี Bifana… มันคือ Steak ที่หมักกระเทียมพริกไทย โปะบนล่างด้วยแผ่นขนมปัง ทานกับซอสพริกหรือ Mustard ตามแต่คนชอบ คนโปรตุเกสนิยมทาน Bifana เป็นอาหารเช้าและกลางวัน แม้แต่ McDonald’s เอง ก็ยังมีเมนู “Mc Bifana” เป็นเมนู exclusive หากินได้ที่โปรตุเกสเท่านั้น เราสัณนิษฐานว่า สมัยก่อนในยุคล่าอานาณิคม Bifana ก็คงเดินทางโดยเรือไปจนถึงมาเก๊าเหมือน Egg Tart นั่นแหละ จึงทำให้ Binafa กลายเป็นเมนูดังที่เรียกว่า Pork Chop Bun ของเมืองมาเก๊าในปัจจุบัน
วันนี้เราก็ได้สั่งมาลองกันคนละอัน ราคาอันละ 2.5 Euro ขนาดที่นี่ใหญ่มากเมื่อเปรียบเทียบกับที่กินที่มาเก๊า รสชาติคล้ายกันมาก ก็หมูต้มซอสกระเทียมพริกไทยทานกับขนมปังดีๆ นี่เอง สำหรับเรา เราว่าของมาเก๊าอร่อยกว่านะ 5555 สงสัยเราจะติดรสชาติแบบเอเชียๆ
พิกัดความอร่อย:
https://goo.gl/maps/LkNRD2RcEYS2
[CR] EAT.ROAM.REPEAT IN PORTUGAL – ตะลอนกิน ฟินเฟร่อที่โปรตุเกส
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวบลูแพลนแนตค่ะ
โปรตุเกส ในสายของคนทั่วไป อาจจะมีความคิดว่า เป็นประเทศยุโรป รสชาติอาหารก็น่าจะเป็นแนวฝรั่ง ชีสเยอะๆ เลี่ยนๆ แน่นอน (เราก็เป็นหนึ่งในนั้น) จริงๆ แล้วอาหารโปรตุเกสได้ชื่อว่าเป็นอาหารที่คล้ายกับอาหารเอเชียมากที่สุดที่นึงเลยก็ว่าได้ ดังจะเห็นได้จากอาหารหลายอย่าง เช่น ทาร์ตไข่และ Pork Chop Bun ที่กลับกลายเป็นของดังที่มาเก๊า หรือจะเป็นฝอยทอง บ้าบิ่น สังขยาและขนมไทยอื่นๆ ล้วนแล้วแต่กำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกสทั้งสิ้น (อันนี้ไปถึงแล้วเพิ่งรู้จะเนี่ยะ! พอดีไม่ได้ดูบุพเพสันนิวาสค่าาา ^^”) ดังนั้น ภาระกิจคราวนี้ของเรา เมื่อมาเที่ยวโปรตุเกสทั้งที เราก็ไม่พลาดที่จะสรรหาร้านอาหารขึ้นชื่อที่ประเทศนี้ พร้อมกับมาเล่าเรื่องราวอันน่าสนใจของแต่ละร้านที่เราศึกษามาอย่างดี (รึเปล่า?)
การเดินทางไปโปรตุเกสครั้งนี้ เราไปกัน 3 เมืองด้วยกันคือ Lisbon (Lisboa), Sintra, และ Porto โดยกระทู้นี้เราจะโฟกัสเรื่องกินอย่างเดียว!!! และจะพาเพื่อนๆชาวบลูแพลนเนตไปตะลอนกินด้วยกัน!! (ดูเหมือนเป็นภาระกิจแห่งชาติ^^') พร้อมจะกินจนพุงกางไปกันเราแล้วรึยังเอ่ย? กิกิ
หมายเหตุ: Rating และ Budget ที่เราให้นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
CASA PIRIQUITA
[SINTRA]
=======================================
Rating: 3/5 ดาว
Budget: $
ร้านเบเกอรี่สัญชาติโปรตุเกต ต้นกำเนิดขนม Queijadas หรือมันคือขนมบ้าบิ่นของไทยเรานี่เอง!! ถือกำเนิดที่เมือง Sintra ในปี 1862 (160 ปีที่แล้ว) โดยนาย Amaro dos Santos และภรรยาของเค้า Constância Gomes ซึ่งชื่อร้าน Piriquita นี้เอง King Carlos เป็นคนประทานให้แก่นาง Constância Gomes เป็นชื่อเล่นตามลักษณะของเธอที่เป็นคนตัวเล็ก จริงๆ แล้วเป็น King Carlos เองนั่นแหละที่ได้ลองชิ้มขนมของสองสามีภรรยาแล้วติดใจว่ามันอร่อย จนกระทั่ง encourage ให้เค้าทั้งสองเปิดร้านเบเกอรี่
ต่อมาลูกสาว Constância Cunha ก็ได้คิดค้นขนมอีกชนิดนึงนั่นคือ Travesseiro เป็นลักษณะคล้ายๆ พายทำเป็นรูปทรงหมอน ไส้ข้างในเป็นไข่หวานกลิ่นอัลมอนต์ ซึ่งแน่นอนว่าสูตรนี้จะมีการถ่ายทอดให้กับคนในครอบครัวเท่านั้น
ปัจจุบัน ร้าน Piriquita ดำเนินกิจการมาถึง generation ที่ 5 และได้กลายเป็น landmark สำคัญสำหรับเมือง Sintra ไปแล้วเรียบร้อย ทางโรงแรมของเราก็ได้แนะนำร้านนี้ให้เราเหมือนกัน ร้าน Piriquita ปัจจุบันมี 2 สาขา สาขาแรกอยู่ตัวหัวมุมทางเข้าซอย R. Padarias อีกสาขาก็เดินเลยเข้าไปในซอยเดียวกัน ภายในตัวร้านประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือส่วนสั่งกลับบ้านและส่วนที่นั่งทานที่ร้าน ขนาดภายในร้านไม่ได้ใหญ่เลย เอาจริงๆ ถือว่าเล็กด้วยซ้ำ มีโต๊ะนั่งไม่ถึง 10 โต๊ะ จึงไม่แปลกที่คุณอาจจะต้องต่อคิวหน้าร้านเพื่อรอโต๊ะว่าง
เราสั่งขนมมาทาน 4-5 อย่าง พร้อมกับเครื่องดื่ม ตัว Queijadas นี่อร่อยมาก กรอบนอก ข้างในเป็นไส้มะพร้าว รสชาติคล้ายกับขนมบ้าบิ่นบ้านเราเปี๊ยบ ส่วน อีขนมหมอน Travesseiro นี่ก้ออร่อยมากเช่นกัน ไม่แปลกที่มันจะดังข้ามศตวรรษ ขนมอื่นๆ รสชาติหวาน จนเรารู้สึกมันหวานเกินไป ต้องทานกะชา สุดท้าย เก็บตังค์ทั้งหมดก็แค่ 8 ยูโรเท่านั้น ปิดท้ายด้วยการซื้อขนม Queijadas กลับไปกินบ้านอีก 1 ห่อ (1 pack มี 6 ชิ้น) ตอนแรกว่าจะซื้อกลับบ้านแต่เค้าบอกว่าอยู่ได้ 2 อาทิตย์ กลัวว่าจะเสียก่อนเลยไม่ได้ซื้อกลับบ้าน
พิกัดความอร่อย: https://goo.gl/maps/W25g1e8Fg1m
TABERNA SAL GROSSO
[LISBOA]
=======================================
Rating: 5/5 ดาว
Budget: $$
ร้านอาหาร Home Cook สัญชาติโปรตุเกสจ๋า เจ้าของร้านเคยเป็น Executive Chef ที่โรงแรม 5 ดาวมาก่อน ปัจจุบันร้านนี้ขายดีมากกกก เรียกกันว่า ติดโผของทุกเวบรีวิวอาหารเลยทีเดียว นั่งกันแน่นทุกวัน แต่นางไม่อยากขยายใหญ่กว่านี้ เพราะเมนูของเค้าแต่วันจะไม่เหมือนกัน ตามใจอารมณ์ของ Chef และขึ้นอยู่กับว่าไปจ่ายตลาดแล้วได้อะไรมา นอกจากนั้นนางต้องการควบคุม Quality ของอาหารด้วยเช่นกัน
ร้านนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ Santa Apolonia ของเมือง Lisbon ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักคล้ายๆ กับหัวลำโพงที่ใช้เดินทางระหว่างเมือง เป็นร้านขนาดเล็กมว๊ากกกก ทางเข้าก็เป็นประตูแคบๆ จะเข้าทีต้องเคาะกระจกให้พนักงานเสริฟมาเปิดให้ ด้านในมีโต๊ะไม่ถึง 10 โต๊ะ เราไม่ได้จองมาก่อนแต่เราโชคดีมาก ได้โต๊ะสุดท้ายนั่งใต้บันไดนั่งได้สองคนพอดี อ้อ! ร้านนี้ไม่มีเมนูนะคะ ทุกวันเค้าจะเขียนรายการอาหารไว้บนกระดานดำซึ่งจะมีติดไว้ทั้งในร้านและนอกร้าน ว่าวันนี้มีเมนูอะไร เวลาสั่งจะต้องดูจากกระดานดำ มาดูกันค่ะว่าเมนูที่เราสั่งวันนี้มีอะไรบ้าง…
เริ่มต้นที่ Orange Salad ซึ่งเค้าเอาเนื้อส้มกะผัก Rocket มาผสมกันน้ำสลัดแนว Olive oil อร่อยมากกกก ไม่น่าเชื่อว่า ingredient แค่นี้ก้อได้สลัดอร่อยๆ ออกมาได้ จานต่อไปเป็น Lamb Stew กลิ่นแรงใช้ได้ รสชาติเค็มนำ เอาไปต้มจนเนื้อเปื่อยมาก เนื้อนี่เปื่อยแบบลอกออกจากกระดูกสบายบรื๋อ จานต่อไป Duck Liver เป็นตับเป็ดในไวน์ขาว ใส่ไวน์เยอะมาก กินไปกินมาเริ่มเมา เอาเป็นว่าจานนี้ไม่ค่อยถูกใจเราสองคนเท่าไหร่ ส่วนจานสุดท้ายเป็น Roasted Chicken มันคือไก่อบกระเทียมพริกไทยนี่เอง หอมพริกไทย รสชาติก็ออกเค็มๆ แนวไก่อบพริกไทยดำ อร่อยมว๊ากกกก
สำหรับเครื่องดื่ม ร้านนี้ไม่มีพวก coke, pepsi ขายนะคะ Drinks ของเค้าก็เป็น Homemade เช่นกัน เด็กเสริฟบอกว่า วันนี้มี Cherry Soda รสชาติประทับใจจอร์ชมาก หวานนิดเปรี้ยวหน่อย กินแล้วสดชื่น สุดท้ายเก็บเงินแค่ 30.50 Euro (2 คนประมาณ 1 พัน) เปรียบเทียบราคาแล้ว ไม่แพงเลยจ้า ใครจะไปทานที่ร้านนี้ แนะนำว่าให้ทำการจองไปก่อนจะดีกว่านะคะ
พิกัดความอร่อย: https://goo.gl/maps/XkozzpFaBe72
PASTÉIS DE BELÉM
[LISBOA]
=======================================
Rating: 5/5 ดาว
Budget: $
ร้านนี้คือต้นกำเนิด Egg Tart (Nata) ของโลก ถือกำเนิดมาจากคนงานและพระที่ทำงานอยู่ใน Jerónimos Monastery (ปัจจุบันอารามแห่งนี้เป็นหนึ่งใน UNESCO World Heritage ด้วยนะ) ด้วยเหตุที่สมัยก่อน เสื้อผ้าที่ใส่ในอารามจะต้องดูเนี๊ยบ ดังนั้นการรีดเสื้อผ้าให้ขึ้นเป็นจีบจึงต้องการความปราณีตเป็นพิเศษ ซึ่งตามภูมิปัญญาชาวบ้านโปรตุเกสมัยก่อนจะใช้ไข่ขาวทาบางๆ บนผ้า เวลารีด เสื้อผ้าจะขึ้นจีบง่าย อยู่ได้นาน และเนื้อผ้าดูเต่งตึง ส่วนไข่แดงก็จะทิ้งไป ต่อมาก็มีคนต้นคิดที่จะเอาไข่แดงที่เหลือมาทำเป็นขนมซะ จะได้ไม่ต้องทิ้งให้เสียของ เกิดเป็น Egg Tart ในที่สุด ต่อมาในปี 1820 ประเทศเกิดการปฏิวัติเสรีนิยมทำให้ convent และ monastery ทั้งหลายถูกปิดลง คนงานและพระที่เคยทำงานอยู่ใน Jerónimos Monastery อยู่ๆ ก้อไม่มีงานทำซะงั้น จึงได้นำ Egg Tart ที่เคยทำอยู่ใน Monastery ไปขายที่ร้านขายของชำที่ตั้งอยู่ข้างๆ โรงงานน้ำตาลในบริเวณใกล้ๆ กับอารามนั่นแหละ ต่อมา Egg tart ก็ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันอย่างรวดเร็วในชื่อ “Pastéis de Belém”
ต่อมาในปี 1837 การทำ Egg Tart ของ “Pastéis de Belém” ก็เปลี่ยนมาทำที่ร้านขายของชำแห่งนี้ซะเลย โดยสูตรขนมก็ยังคงใช้สูตรลับโบราณที่สืบต่อกันมาจาก Monastery และสูตรนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในช่วงที่โปรตุเกสเดินเรือไปยังเอเชียก็ได้นำ Egg Tart นี้ไปด้วย ทำให้ Egg Tart กลายเป็นขนมชื่อดังของมาเก๊าและฮ่องกงมาจวบจนปัจจุบัน
ปัจจุบันร้าน Pastéis de Belém แห่งนี้ขาย Egg Tart เป็นหลักเลย ในร้านมีที่นั่งเป็นร้อยๆ โต๊ะ แต่กระนั้น คนยังนั่งกันแน่นขนัด ทั้งคน local และนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ คนที่จะทานที่ร้านก็ต้องต่อคิววนไปค่ะ ด้านหน้ามี counter ขายแบบ togo ซึ่งก็ตามแต่ช่วงเวลา บางช่วงแถวสั้น บางช่วงแถวยาว นอกจากนั้น ด้านในจะมีส่วนที่เป็นห้องอบขนมซึ่งเค้าสร้างเป็นห้องกระจก คุณสามารถเห็นกระบวนการวิธีการเค้าทำ Egg Tart ผ่านกระจกได้เลย
มาพูดถึงรสชาติกันบ้าง Egg Tart ที่นี่ ตัวแป้งข้างนอกกรอบฟู ด้านบนเค้าจะทำให้ไหม้นิดๆ กัดลงไปนี่ของใช้คำว่า caramelize มาก สำหรับไส้ texture ของเค้าออกแนวแบบ custard คือนิ่มๆ นัวๆ กลิ่นไข่แดงหอม รสชาติหวานมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ Egg Tart ของฮ่องกงหรือบ้านเรา ซึ่งจะมีรสหวานน้อยกว่า ส่วนของไส้ก็จะผสมไข่เยอะกว่า เนื้อไส้จึงเฟริมๆ เหมือนไข่ตุ๋น ต่างกับของโปรตุเกสที่จะเหลวๆ เหมือนคัสตาร์ด และด้วยความที่มันหวานมาก จึงเหมาะกับทานกับชาขมๆ เราชอบนะ ทานไป 2 อันกำลังดี ทานมากกว่านี้แอบเลี่ยน…
พิกัดความอร่อย: https://goo.gl/maps/n5AoazXYUvx
CASA DAS BIFANAS
[LISBOA]
=======================================
Rating: 3/5 ดาว
Budget: $
ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่ขาย Bifana หรือเรียกอีกอย่างว่า Pork Chop Bun ตั้งอยู่ที่ Figueira’s square ใจกลางกรุง Lisbon หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า Binafa คืออะไร?
ถ้าอเมริกามีแฮมเบอเกอร์แล้วหล่ะก็ โปรตุเกสก็มี Bifana… มันคือ Steak ที่หมักกระเทียมพริกไทย โปะบนล่างด้วยแผ่นขนมปัง ทานกับซอสพริกหรือ Mustard ตามแต่คนชอบ คนโปรตุเกสนิยมทาน Bifana เป็นอาหารเช้าและกลางวัน แม้แต่ McDonald’s เอง ก็ยังมีเมนู “Mc Bifana” เป็นเมนู exclusive หากินได้ที่โปรตุเกสเท่านั้น เราสัณนิษฐานว่า สมัยก่อนในยุคล่าอานาณิคม Bifana ก็คงเดินทางโดยเรือไปจนถึงมาเก๊าเหมือน Egg Tart นั่นแหละ จึงทำให้ Binafa กลายเป็นเมนูดังที่เรียกว่า Pork Chop Bun ของเมืองมาเก๊าในปัจจุบัน
วันนี้เราก็ได้สั่งมาลองกันคนละอัน ราคาอันละ 2.5 Euro ขนาดที่นี่ใหญ่มากเมื่อเปรียบเทียบกับที่กินที่มาเก๊า รสชาติคล้ายกันมาก ก็หมูต้มซอสกระเทียมพริกไทยทานกับขนมปังดีๆ นี่เอง สำหรับเรา เราว่าของมาเก๊าอร่อยกว่านะ 5555 สงสัยเราจะติดรสชาติแบบเอเชียๆ
พิกัดความอร่อย: https://goo.gl/maps/LkNRD2RcEYS2
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น