เราเป็นคนนึงเลย เวลาไปเที่ยว ไม่ว่าจะต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ เราขอที่พักดีนิดนึง ไม่ต้องหรูเว่อร์ แต่อย่างน้อยขอสะอาดสะอ้าน มีแอร์ ห้องน้ำส่วนตัว สะดวกสบาย เหมาะแก่การไปพักผ่อน ยิ่งเวลาที่เราไปเที่ยวต่างประเทศต้องเดินเยอะๆ การพักผ่อนหลังจากการเดินอันแสนยาวนาน (จนปวดน่อง) จะเอาขาไปก่ายกำแพงเพื่อยกเท้าสูงๆก็ไม่มีใครว่า......
แต่!!!! เมื่อต้องจัดทริปแสนประหยัด คราวนี้ก็ต้องยอมเชื่อใจน้อง เพื่อนร่วมทริป ที่สัญญาอย่างมั่นเหมาะว่า เจ๊!! ต้องลอง มันดีนะเจ๊!! มันถูกมากด้วย!!! ... เอาวะ!!!! ลองก็ได้!!! เอ้อ... มันก็พอได้นะ ไม่เลวร้ายเท่าไหร่ พอละ เกริ่นเยอะไปละ ไปดูกันเลยเหอะ 55555
ทริปนี้เราไปเที่ยวไทเป แดนของชานมไข่มุก เราเลือกที่พักที่นี่ Hey Bear Capsule Hotel ข้อดีคือตัวแคปซูลค่อนข้างใหญ่ ล็อคได้ มีแอร์ภายในแคปซูล มีอุปกรณ์ค่อนข้างหลากหลาย มาดูทางเข้าก่อนเลยดีกว่า
ตัวโรงแรมจะอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ MRT “Taipei Bridge Station” ขึ้นมาจากสถานี ก็จะเห็นตึกเทาๆตามรูปเลยจ๊ะ แค่ข้ามถนนมา ทางเข้าจะอยู่ด้านข้างนะคะ เป็นลิฟท์เล็กๆ สังเกตจะมีสติกเกอร์หมีของโรงแรมแปะ เห็นเด่นชัด เข้าลิฟท์ไปกดชั้น 8 เลยจ้า จะเป็นล็อบบี้ของโรงแรมค่ะ (ขอยืมรูปจาก อากู๋ map มาหน่อยนะคะ)
เปิดลิฟท์มาจะมีตัวการ์ตูนมาต้อนรับแบบนี้ เค้าทำเป็นมุมถ่ายรูปน่ารักๆก็ถ่ายกันไป
เราจะเช็คอินกะตู้ก็ได้ หรือจะเช็คอินที่ เคาน์เตอร์ก็ได้ ที่นี่จะใช้คีย์การ์ดตลอดกับทุกๆอย่าง ฉะนั้น คีย์การ์ด นี้จะต้องติดตัวตลอดนะคะ จะเข้าห้องน้ำ จะเปิดล็อคเกอร์เก็บของ หรือแม้แต่การเข้าออกตัวแคปซูล ต้องใช้คีย์การ์ดตลอดจ้า
ในล๊อบบี้ก็จะมีสิ่งอำนายความสะดวก ครบ ทีวี ตู้เกมส์ ที่นั่งทานอาหาร สังสรรค์ มี wifi น้ำดื่ม กาแฟ มาม่าคัฟ รวมไปถึงพวกสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว รองเท้าสลิปเปอร์ (ทุกอย่างเสียตังค์นะจ๊ะ) แต่ราคาก็ไม่แพงมาก อ้อ มีปลั๊กให้ชาร์ทโทรศัพท์มากมาย สบายแฮ...
ที่นี่จะไม่มีผ้าเช็ดตัวให้นะจ๊ะ จะต้องเตรียมมาเอง หรือไม่ก็ซื้อที่เคาน์เตอร์เอาจ๊ะ สิ่งที่มีก็จะเป็น สบู่ แชมพู ไดร์ทเป่าผม ทิชชู่แผ่น (ในห้องน้ำ) น้ำดื่มให้ 1 ขวดเล็ก ตู้กดน้ำร้อน น้ำเย็นจ้า
มาถึงตัวที่พักกันบ้าง ที่นี่จะมีทั้งหมด 3 ชั้น ที่พักที่อยู่ในชั้นเดียวกับล๊อบบี้นี้จะเป็น ชั้นผู้หญิงล้วนจ๊ะ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าทุกอย่างจะเป็นสีชมพูววววววววว อีก 2 ชั้นจะเป็นชั้นชายล้วน และชั้นรวมชายหญิง เลือกได้ตั้งแต่ตอนจองค่ะ
พอเราเช็คอินได้คีย์การ์ดมาเรียบร้อยแล้ว เอ้อ!!! ตอนเราจองถ้าใช้บัตรเครดิตจอง (แบบยังไม่จ่ายตังค์) ต้องนำบัตรเครดิตใบนั้นมาทำการรูดจ่ายด้วยนะคะ ตอนเราไปเราเอาบัตรเครดิตอีกใบไป มันก็รูดจ่ายได้ค่ะ แต่ยอดเงินที่เค้ากันเอาไว้ในบัตรเครดิตที่ทำจองไว้ จะถูกยกเลิกหลังจากวันเข้าพักไปอีก 3 เดือนค่ะ
พอได้คีย์การ์ด เราเข้าไปก็จะผ่านห้องล็อคเกอร์ และห้องน้ำค่ะ ถัดจากนั้นจะเป็นห้องๆ เปิดประตูเข้าไปก็จะเจอแคปซูล ห้องของเราจะมีทั้งหมด 10 แคปซูล (เราได้อยู่แคปซูลอันข้างบน) ต้องมีการปีนบันไดเล็กน้อย ใช้ คีย์การ์ดทาบ (ตรงหมายเลขของแคปซูล) แคปซูลก็จะเปิด แล้วเอาคีย์การ์ดเสียบตรงแถวๆกระจก (ช่องแดงๆ) ไฟก็จะติด เหมือน โรงแรมทั่วไปค่ะ
ในตัวแคปซูล มีทีวี (ช่องเสียบหูฟัง ต้องเอาหูฟังไปด้วยนะเออ ไม่งั้นเปิดทีวีมาก็ไม่ได้ยินเสียงจ๊ะ) ช่องแอร์ (ปรับอุณหภูมิไม่ได้ อยากลด อยากเพิ่มก็แจ้งที่เคาน์เตอร์เอาจ๊ะ) กระจกแต่งหน้า ตู้เซฟ ตะขอแขวนผ้า ในตะกร้าชมพูนั่นจะมีน้ำให้ 1 ขวด และรีโมตทีวี
มาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง แยกห้องสุขา กับห้องอาบน้ำ (แยกส่วนเปียกกับส่วนแต่งตัว มีที่แขวน ชั้นวาง เราชอบตรงนี้มากเลยจ๊ะ) กระจกแต่งหน้า ไดร์ทเป่าผมพร้อม
ก่อนกลับเค้าจะมีที่ให้เราลงชื่อ มีที่แสตมป์เป็นที่ระลึกน่ารักดี จะลองมาเล่นกันดูได้จ๊ะ
สำหรับเรา ผู้ไม่เคยยอมนอน โรงแรมแคปซูลมาก่อน เราว่าก็เป็นทางเลือกที่โอเคนะ เพราะราคาถูกมาก เราได้คืนละ สี่ร้อยกว่าบาท เราพัก 2 คืน ก็ยังไม่เกินพัน ติดรถไฟฟ้า สำหรับใครที่กำลังมองที่พักแบบนี้อยู่ และอยากจะประหยัดงบ ที่นี่ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกที่นึงจ๊ะ
หวังว่า รีวิวนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ ^^
ขอบคุณจ๊ะ
แก้ไข: เรื่องที่นี่ มีสบู่ กะแชมพู ให้บริการจ้า
[CR] รีวิวการเข้าพัก โรงแรมแคปซูล ครั้งแรกในชีวิต (Hey Bear Capsule Hotel, Taipei)
แต่!!!! เมื่อต้องจัดทริปแสนประหยัด คราวนี้ก็ต้องยอมเชื่อใจน้อง เพื่อนร่วมทริป ที่สัญญาอย่างมั่นเหมาะว่า เจ๊!! ต้องลอง มันดีนะเจ๊!! มันถูกมากด้วย!!! ... เอาวะ!!!! ลองก็ได้!!! เอ้อ... มันก็พอได้นะ ไม่เลวร้ายเท่าไหร่ พอละ เกริ่นเยอะไปละ ไปดูกันเลยเหอะ 55555
ทริปนี้เราไปเที่ยวไทเป แดนของชานมไข่มุก เราเลือกที่พักที่นี่ Hey Bear Capsule Hotel ข้อดีคือตัวแคปซูลค่อนข้างใหญ่ ล็อคได้ มีแอร์ภายในแคปซูล มีอุปกรณ์ค่อนข้างหลากหลาย มาดูทางเข้าก่อนเลยดีกว่า
ตัวโรงแรมจะอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ MRT “Taipei Bridge Station” ขึ้นมาจากสถานี ก็จะเห็นตึกเทาๆตามรูปเลยจ๊ะ แค่ข้ามถนนมา ทางเข้าจะอยู่ด้านข้างนะคะ เป็นลิฟท์เล็กๆ สังเกตจะมีสติกเกอร์หมีของโรงแรมแปะ เห็นเด่นชัด เข้าลิฟท์ไปกดชั้น 8 เลยจ้า จะเป็นล็อบบี้ของโรงแรมค่ะ (ขอยืมรูปจาก อากู๋ map มาหน่อยนะคะ)
เปิดลิฟท์มาจะมีตัวการ์ตูนมาต้อนรับแบบนี้ เค้าทำเป็นมุมถ่ายรูปน่ารักๆก็ถ่ายกันไป
เราจะเช็คอินกะตู้ก็ได้ หรือจะเช็คอินที่ เคาน์เตอร์ก็ได้ ที่นี่จะใช้คีย์การ์ดตลอดกับทุกๆอย่าง ฉะนั้น คีย์การ์ด นี้จะต้องติดตัวตลอดนะคะ จะเข้าห้องน้ำ จะเปิดล็อคเกอร์เก็บของ หรือแม้แต่การเข้าออกตัวแคปซูล ต้องใช้คีย์การ์ดตลอดจ้า
ในล๊อบบี้ก็จะมีสิ่งอำนายความสะดวก ครบ ทีวี ตู้เกมส์ ที่นั่งทานอาหาร สังสรรค์ มี wifi น้ำดื่ม กาแฟ มาม่าคัฟ รวมไปถึงพวกสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว รองเท้าสลิปเปอร์ (ทุกอย่างเสียตังค์นะจ๊ะ) แต่ราคาก็ไม่แพงมาก อ้อ มีปลั๊กให้ชาร์ทโทรศัพท์มากมาย สบายแฮ...
ที่นี่จะไม่มีผ้าเช็ดตัวให้นะจ๊ะ จะต้องเตรียมมาเอง หรือไม่ก็ซื้อที่เคาน์เตอร์เอาจ๊ะ สิ่งที่มีก็จะเป็น สบู่ แชมพู ไดร์ทเป่าผม ทิชชู่แผ่น (ในห้องน้ำ) น้ำดื่มให้ 1 ขวดเล็ก ตู้กดน้ำร้อน น้ำเย็นจ้า
มาถึงตัวที่พักกันบ้าง ที่นี่จะมีทั้งหมด 3 ชั้น ที่พักที่อยู่ในชั้นเดียวกับล๊อบบี้นี้จะเป็น ชั้นผู้หญิงล้วนจ๊ะ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าทุกอย่างจะเป็นสีชมพูววววววววว อีก 2 ชั้นจะเป็นชั้นชายล้วน และชั้นรวมชายหญิง เลือกได้ตั้งแต่ตอนจองค่ะ
พอเราเช็คอินได้คีย์การ์ดมาเรียบร้อยแล้ว เอ้อ!!! ตอนเราจองถ้าใช้บัตรเครดิตจอง (แบบยังไม่จ่ายตังค์) ต้องนำบัตรเครดิตใบนั้นมาทำการรูดจ่ายด้วยนะคะ ตอนเราไปเราเอาบัตรเครดิตอีกใบไป มันก็รูดจ่ายได้ค่ะ แต่ยอดเงินที่เค้ากันเอาไว้ในบัตรเครดิตที่ทำจองไว้ จะถูกยกเลิกหลังจากวันเข้าพักไปอีก 3 เดือนค่ะ
พอได้คีย์การ์ด เราเข้าไปก็จะผ่านห้องล็อคเกอร์ และห้องน้ำค่ะ ถัดจากนั้นจะเป็นห้องๆ เปิดประตูเข้าไปก็จะเจอแคปซูล ห้องของเราจะมีทั้งหมด 10 แคปซูล (เราได้อยู่แคปซูลอันข้างบน) ต้องมีการปีนบันไดเล็กน้อย ใช้ คีย์การ์ดทาบ (ตรงหมายเลขของแคปซูล) แคปซูลก็จะเปิด แล้วเอาคีย์การ์ดเสียบตรงแถวๆกระจก (ช่องแดงๆ) ไฟก็จะติด เหมือน โรงแรมทั่วไปค่ะ
ในตัวแคปซูล มีทีวี (ช่องเสียบหูฟัง ต้องเอาหูฟังไปด้วยนะเออ ไม่งั้นเปิดทีวีมาก็ไม่ได้ยินเสียงจ๊ะ) ช่องแอร์ (ปรับอุณหภูมิไม่ได้ อยากลด อยากเพิ่มก็แจ้งที่เคาน์เตอร์เอาจ๊ะ) กระจกแต่งหน้า ตู้เซฟ ตะขอแขวนผ้า ในตะกร้าชมพูนั่นจะมีน้ำให้ 1 ขวด และรีโมตทีวี
มาดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง แยกห้องสุขา กับห้องอาบน้ำ (แยกส่วนเปียกกับส่วนแต่งตัว มีที่แขวน ชั้นวาง เราชอบตรงนี้มากเลยจ๊ะ) กระจกแต่งหน้า ไดร์ทเป่าผมพร้อม
ก่อนกลับเค้าจะมีที่ให้เราลงชื่อ มีที่แสตมป์เป็นที่ระลึกน่ารักดี จะลองมาเล่นกันดูได้จ๊ะ
สำหรับเรา ผู้ไม่เคยยอมนอน โรงแรมแคปซูลมาก่อน เราว่าก็เป็นทางเลือกที่โอเคนะ เพราะราคาถูกมาก เราได้คืนละ สี่ร้อยกว่าบาท เราพัก 2 คืน ก็ยังไม่เกินพัน ติดรถไฟฟ้า สำหรับใครที่กำลังมองที่พักแบบนี้อยู่ และอยากจะประหยัดงบ ที่นี่ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกที่นึงจ๊ะ
หวังว่า รีวิวนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ ^^
ขอบคุณจ๊ะ
แก้ไข: เรื่องที่นี่ มีสบู่ กะแชมพู ให้บริการจ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้