โจ๋ซ่ายกเพื่อนตื๊บอริคาโรงพยาบาลกบินทร์บุรี

โจ๋ซ่ายกเพื่อนตื๊บอริคาโรงพยาบาลกบินทร์บุรี
สยามรัฐออนไลน์  14 กุมภาพันธ์ 2562 14:32      

14 ก.พ.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้ากรณีเหตุกลุ่มวัยรุ่นได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย ภายในบริเวณโรงพยาบาลกบินทร์บุรี ว่าเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 เวลาประมาณ 20.00 น. รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 ราย ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ภายในบริเวณโรงพยาบาลกบินทร์บุรี ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ฉะเชิงเทรา

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายภัทรกร สมศรี อายุ 17 ปี ถูกทำร้ายตามบริเวณร่างกายได้รับบาดเจ็บ โดยจากการสอบสวนนายภัทรกรฯ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุตนได้เดินทางมาเยี่ยมนาย วสันต์ จันทรา อายุ 17 ปี ซึ่งแพทย์กำลังทำการรักษาภายในบริเวณห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เนื่องจากทราบมาว่านายวสันต์ ถูกทำร้าย ที่บริเวณริมถนนหน้าร้านขายอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แล้วถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อตนเดินทางมาถึงโรงพยาบาลพบกับกลุ่มผู้ต้องหาเป็นชายจำนวน 2 ราย ซึ่งตนทราบว่าเป็นกลุ่มผู้ต้องหาที่ได้ทำร้ายนายวสันต์ เมื่อกลุ่มผู้ต้องหาทั้งสองเห็นตนจึงได้เข้ามาชกต่อย ได้รับบาดเจ็บแล้วได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากนึ้นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนั้นได้ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ รวมถึงตรวจสอบรวบรวมข้อมูลกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้เบื้องต้นได้ทราบถึงตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองแล้ว ทั้งนี้หลังจากการรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญทั้งหมดในคดี พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้าย

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้อยู่ระหว่าง สืบสวนสอบสวนส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้สันนิษฐานว่าเกิดจากเหตุความขัดแย้ง ส่วนตัว คงต้องใช้เวลาเจ้ในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ขอฝากเตือนไปยังกลุ่มวัยรุ่นที่มักใช้ความคึกคะนองและอารมณ์ในการตัดสินแก้ไขปัญหา ไม่เคารพต่อกฎหมายบ้านเมือง และฝากผู้ปกครองช่วยใส่ใจดูแลอบรมบุตรหลาน ปลูกฝังการตระหนักคิดให้รอบคอบและหาทางออกอย่างสันติวิธี เพราะหากได้กระทำลงไปโดยไม่ทันยั้งคิดแล้วย่อมมีความผิดและต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ให้กำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก โดยหากเกิดเหตุต้องติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน

http://www.siamrath.co.th/n/65428
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่