จากกรณีที่เกิดเหตุผู้ไม่หวังดีบุกเข้าไปทุบทำลายเจดีย์บรรจุอัฐิของ “ปอ"ทฤษฎี สหวงษ์” พระเอกหนุ่มชื่อดังผู้ล่วงลับ ที่ตั้งอยู่ภายในวัดธรรมธีราราม หรือวัดป่าหลังโรงเรื่อย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จนแผ่นแกรนิตที่แกะสลักป้ายชื่อและรูปถ่ายของ"ปอ"ทฤษฎี ที่ติดไว้บริเวณด้านหน้าเจดีย์แตกเสียหาย โดยในที่เกิดเหตุพบเศษชิ้นส่วนปูนและหินแกรนิตตกเกลื่อนรอบเจดีย์ ทั้งยังพบเหล็กแหลมขนาด 4 หุน และ 2 หุนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุทุบเจดีย์และรูปของ "ปอ" ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุด้วย
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคราบเลือดติดอยู่บริเวณเจดีย์และรั้วกำแพงวัด คาดว่าน่าจะเป็นคราบเลือดของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผบก.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยมีพยานระบุว่าเมื่อกลางดึกเห็นวัยรุ่นเป็นชาย 2 คนปีนรั้วออกมาจากวัด โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตามตัวมาสอบปากคำ
เบื้องต้นยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าผู้ก่อเหตุมีเจตนาอะไรหรือเป็นฝีมือของใคร เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุทุบทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมือง สวนสาธารณะ และวัดอีกหลายแห่ง โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุและยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้
ผศ.สงวน สหวงษ์ พ่อของ"ปอ"ทฤษฎี กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสงสารลูกชาย เพราะเขาได้จากไปในภพภูมิที่ดีแล้ว และก็ไม่เคยทำร้ายใคร แต่กลับมีผู้ไม่หวังดีมาทุบทำลายเจดีย์ของปอแบบนี้ ซึ่งไม่ว่าผู้ก่อเหตุจะมีเจตนาอะไรก็ไม่ควรจะกระทำ เพราะเป็นการทำร้ายจิตใจทั้งปอและครอบครัว ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเร่งซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนวิธีการจะป้องกันดูแลไม่ให้คนมาทุบทำลายอีกนั้นก็คงจะยาก เพราะเป็นสถานที่ที่คนสามารถเข้า-ออกได้ ทำได้เพียงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับตัวคนร้ายมาให้ได้โดยเร็วเท่านั้น
"ฝากขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่รักและห่วงใยพี่ปอ ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่หากแฟนคลับหรือผู้ที่รักปอ อยากจะมาวางดอกไม้หรือมาพูดคุยกับปอ ก็ยังมาได้เหมือนเดิม แต่ช่วงนี้ก็อาจจะไม่เห็นรูปพี่ปออยู่หน้าเจดีย์ แต่ก็อยากให้คิดว่าพี่ปอยังอยู่ข้างใน"ผศ.สงวนกล่าว
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1473399959
ตร.ล่ามือทุบเจดีย์อัฐิ"ปอ-ทฤษฎี" พ่อเผยเสียใจมาก สงสารลูกจากไปแล้วยังถูกทำร้ายซ้ำ
จากกรณีที่เกิดเหตุผู้ไม่หวังดีบุกเข้าไปทุบทำลายเจดีย์บรรจุอัฐิของ “ปอ"ทฤษฎี สหวงษ์” พระเอกหนุ่มชื่อดังผู้ล่วงลับ ที่ตั้งอยู่ภายในวัดธรรมธีราราม หรือวัดป่าหลังโรงเรื่อย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จนแผ่นแกรนิตที่แกะสลักป้ายชื่อและรูปถ่ายของ"ปอ"ทฤษฎี ที่ติดไว้บริเวณด้านหน้าเจดีย์แตกเสียหาย โดยในที่เกิดเหตุพบเศษชิ้นส่วนปูนและหินแกรนิตตกเกลื่อนรอบเจดีย์ ทั้งยังพบเหล็กแหลมขนาด 4 หุน และ 2 หุนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุทุบเจดีย์และรูปของ "ปอ" ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุด้วย
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคราบเลือดติดอยู่บริเวณเจดีย์และรั้วกำแพงวัด คาดว่าน่าจะเป็นคราบเลือดของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผบก.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยมีพยานระบุว่าเมื่อกลางดึกเห็นวัยรุ่นเป็นชาย 2 คนปีนรั้วออกมาจากวัด โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตามตัวมาสอบปากคำ
เบื้องต้นยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าผู้ก่อเหตุมีเจตนาอะไรหรือเป็นฝีมือของใคร เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุทุบทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมือง สวนสาธารณะ และวัดอีกหลายแห่ง โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุและยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้
ผศ.สงวน สหวงษ์ พ่อของ"ปอ"ทฤษฎี กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสงสารลูกชาย เพราะเขาได้จากไปในภพภูมิที่ดีแล้ว และก็ไม่เคยทำร้ายใคร แต่กลับมีผู้ไม่หวังดีมาทุบทำลายเจดีย์ของปอแบบนี้ ซึ่งไม่ว่าผู้ก่อเหตุจะมีเจตนาอะไรก็ไม่ควรจะกระทำ เพราะเป็นการทำร้ายจิตใจทั้งปอและครอบครัว ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเร่งซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนวิธีการจะป้องกันดูแลไม่ให้คนมาทุบทำลายอีกนั้นก็คงจะยาก เพราะเป็นสถานที่ที่คนสามารถเข้า-ออกได้ ทำได้เพียงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับตัวคนร้ายมาให้ได้โดยเร็วเท่านั้น
"ฝากขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่รักและห่วงใยพี่ปอ ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่หากแฟนคลับหรือผู้ที่รักปอ อยากจะมาวางดอกไม้หรือมาพูดคุยกับปอ ก็ยังมาได้เหมือนเดิม แต่ช่วงนี้ก็อาจจะไม่เห็นรูปพี่ปออยู่หน้าเจดีย์ แต่ก็อยากให้คิดว่าพี่ปอยังอยู่ข้างใน"ผศ.สงวนกล่าว
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1473399959