ตอนนี้มีบางบริษัทเลือกประกาศงบรายปี แทนการประกาศงบไตรมาสที่ 4
อาจจะต้องการให้นักลงทุนรายย่อยขยันบวกลบเลขมากขึ้น
หรือไม่ก็ ปกปิดกำไรหรือไม่ก็ขาดทุนของไตรมาส 4 เอาไว้ซักสองสามวันก็ยังดี
เดี๋ยวนี้คงหาผลประโยชน์จากการนับเลขแบบนั้นไม่ได้แล้ว
เพราะรู้กันอย่างทั่วถึงด้วยสารพัดสื่อออนไลน์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ผมเคยใช้ประโยชน์ง่ายๆ จากการที่บริษัทไม่ประกาศงบไตรมาส 4 และเลือกประกาศแบบรายปีแทน
ตัวที่จำแม่นที่สุดคือ uni ยูไนเต็ดฟูดส์ เจ้าของยูโรเค๊ก ซึ่งออกจากตลาดไปนานเกือบจะยี่สิบปี
ตอนที่เขาประกาศงบรายปีออกมา ผมลองเอาไปหักกับงบ 9 เดือนของปีนั้น
ปรากฏว่า เฉพาะไตรมาสสี่ กำไรดีกว่าไตรมาสสามมากๆ
ตอนนั้นหุ้นมีราคา 11 บาทกว่า
จำได้ว่าซื้อไปสองหมื่นหุ้นเพื่อหวังเงินปันผล ?
งบไตรมาสที่ 1 ในปีต่อมา เริ่มดีต่อเนือง ก็เลยถือต่อเนื่อง
ในที่สุด เจ้าของก็ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เอาหุ้นออกจากตลาดที่ราคาตามภาพประกอบ
ทิ้ง aj ไว้ในตลาดตัวเดียว ซึ่งต่อมามีการปั่นราคาขึ้นไปนับสิบเท่า
เพิ่งมาสังเกตเห็นบริษัทที่จัดทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์
บีฟิทในช่วงนั้น ถือว่ามีธรรมาภิบาลค่อนข้างสูง
uni มีข่าวรั่วออกมาแค่สิบนาทีสุดท้ายก่อนปิดตลาด ก่อนจะมีประกาศเทนเดอร์ออฟเฟอร์วันรุ่งขี้น
เลยงงๆ ไม่มีเวลาตัดสินใจขาย
ส่วน foremost ซึ่งบีฟิทก็ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ให้เหมือนกัน ไม่มีอินไซด์เข้ามาเลย
พอประกาศเทนเดอร์ออฟเฟอร์ หุ้นขึ้นร้อยเปอร์เซนต์ในทันที จากราคาที่ซื้อขายกันวันละไม่เกินพันหุ้น
เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน วิธีการก็เปลี่ยน สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนก็คือ
นักลงทุนรายย่อย ก็ยังขาดทุน จากการโลภเกินความรู้ ความสามารถของตัวเอง
* ข้อมูลในภาพประกอบ เอามาจากสุดยอดคลังข้อมูลของ poems
ขนาดหุ้นออกจากตลาดไปสิบเจ็ดปี ก็ยังมีข้อมูลเหลือให้ค้นได้
๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ งบการเงินรายปีทะยอยประกาศออกมาแล้ว เคยกำไรแบบมวยวัดด้วยการ...
อาจจะต้องการให้นักลงทุนรายย่อยขยันบวกลบเลขมากขึ้น
หรือไม่ก็ ปกปิดกำไรหรือไม่ก็ขาดทุนของไตรมาส 4 เอาไว้ซักสองสามวันก็ยังดี
เพราะรู้กันอย่างทั่วถึงด้วยสารพัดสื่อออนไลน์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ผมเคยใช้ประโยชน์ง่ายๆ จากการที่บริษัทไม่ประกาศงบไตรมาส 4 และเลือกประกาศแบบรายปีแทน
ตัวที่จำแม่นที่สุดคือ uni ยูไนเต็ดฟูดส์ เจ้าของยูโรเค๊ก ซึ่งออกจากตลาดไปนานเกือบจะยี่สิบปี
ตอนที่เขาประกาศงบรายปีออกมา ผมลองเอาไปหักกับงบ 9 เดือนของปีนั้น
ปรากฏว่า เฉพาะไตรมาสสี่ กำไรดีกว่าไตรมาสสามมากๆ
ตอนนั้นหุ้นมีราคา 11 บาทกว่า
จำได้ว่าซื้อไปสองหมื่นหุ้นเพื่อหวังเงินปันผล ?
งบไตรมาสที่ 1 ในปีต่อมา เริ่มดีต่อเนือง ก็เลยถือต่อเนื่อง
ในที่สุด เจ้าของก็ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เอาหุ้นออกจากตลาดที่ราคาตามภาพประกอบ
ทิ้ง aj ไว้ในตลาดตัวเดียว ซึ่งต่อมามีการปั่นราคาขึ้นไปนับสิบเท่า
เพิ่งมาสังเกตเห็นบริษัทที่จัดทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์
บีฟิทในช่วงนั้น ถือว่ามีธรรมาภิบาลค่อนข้างสูง
uni มีข่าวรั่วออกมาแค่สิบนาทีสุดท้ายก่อนปิดตลาด ก่อนจะมีประกาศเทนเดอร์ออฟเฟอร์วันรุ่งขี้น
เลยงงๆ ไม่มีเวลาตัดสินใจขาย
ส่วน foremost ซึ่งบีฟิทก็ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ให้เหมือนกัน ไม่มีอินไซด์เข้ามาเลย
พอประกาศเทนเดอร์ออฟเฟอร์ หุ้นขึ้นร้อยเปอร์เซนต์ในทันที จากราคาที่ซื้อขายกันวันละไม่เกินพันหุ้น
เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน วิธีการก็เปลี่ยน สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนก็คือ
* ข้อมูลในภาพประกอบ เอามาจากสุดยอดคลังข้อมูลของ poems
ขนาดหุ้นออกจากตลาดไปสิบเจ็ดปี ก็ยังมีข้อมูลเหลือให้ค้นได้