"ญี่ปุ่นเที่ยวได้ทุกฤดู"... คำพูดคุ้นหูที่มักได้ยินเสมอๆ ... และทริปนี้เราก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ทริปนี้เราเลือกที่จะไปเยือนญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาว ใจก็ภาวนาขอให้ได้เจอหิมะโปรยปรายกับเค้าบ้าง
แต่โชคไม่เข้าข้าง...ดั๊นนนนนเจอฝนให้ได้ชุ่มฉ่ำแทน >< จะสนุกสนานสั่นสะท้านขนาดไหนไปดูกันเล้ยยยยยยยยยยยยย
.........✍️✍️✍️............
พิกัด📌 : ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น
ช่วงเดินทาง : 2-5 กุมภาพันธ์ 2562
..........✍️✍️✍️............
บางคนอาจคิดว่าพิมพ์วันที่ผิดรึเปล่า 2-5 ก.พ. ทำไมน้อยจัง จะบอกว่าเรากดเลือกวันกลับผิดเองจ้า 555 (ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่ T_T) ด้วยความที่เสียดายค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยน ก็ปล่อยเลยตามเลย เอาน่ะ 3 วันก็ 3 วัน จะเที่ยวให้คุ้ม จะเก็บทุกไฮไลท์ให้ได้เลยคอยดู!!!
---- Day 1: วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 ----
เดินทางไปท่าอากาศยานดอนเมือง จัดแจงหาข้าวกินกันก่อน เราเลือกฝากท้องกันที่ Magic Food Park ศูนย์อาหารที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 อาคารจอดรถ 7 ชั้น Terminal 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศแห่งใหม่
มาถึงชั้น 2 แล้ว ให้มองหา 7-11 เดินไปทางนั้นเลยจ้า
มีป้าย Magic Food Park ชัดเจน เลี้ยวซ้ายตรง 7-11 เดินตรงไปจะผ่านร้านขายยา ถัดไปเป็นศูนย์อาหารอยู่ติดๆ กันเลย
ศูนย์อาหารเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 6.00-22.00 น. แวะมาฝากท้องก่อนขึ้นเครื่องกันได้นะจ๊ะ
แลกคูปองตรงนี้เลย คูปองเป็นแบบวันต่อวัน และต้องคืนภายในวันที่ใช้เท่านั้น
ตรงข้ามเคานท์เตอร์แลกคูปอง เป็นร้านขายเครื่องดื่ม
มีที่นั่งพอสมควร จัดแจงวางกระเป๋า แล้วไปสำรวจเมนูอาหารกันดีกว่า
ศูนย์อาหารที่นี่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งข้าวแกง ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ส้มตำ อาหารตามสั่ง และขนมหวาน
อาหารตามสั่งนี่แหละ ง่ายดี "ผัดพริกแกงไก่+ไข่ดาว" จานนี้ 55 บาท รสชาติใช้ได้
จานนี้ของคุณสา "ข้าวมันไก่ต้ม+ไก่ย่าง" 60 บาท รสชาติกลางๆ น้ำจิ้มยังไม่โดนใจเท่าไหร่ แต่คุณสากลับชอบ
สำหรับใครที่มองหาของกินราคาไม่แพงในดอนเมือง ที่นี่ถือเป็นทางเลือกที่ดี ประหยัดไปได้เยอะเลย
อิ่มท้องแล้ว ยังมีเวลาเหลือๆ เดินสำรวจเซเว่นซะหน่อย ราคาบวกๆ จากสาขาทั่วไปมากบ้างน้อยบ้าง
เดินเล่นนั่งเล่นกันอยู่พักใหญ่ ใกล้จะได้เวลาเช็คอินแล้ว เดินกลับไป Terminal 2 กันดีกว่า
ทริปนี้เราใช้บริการหางแดง ไฟลท์ XJ 610 เครื่องออก 14.15 น. ถึงคันไซ (ตามกำหนดการ) 21.40 น. กดจองไว้ล่วงหน้านานมากกกกกตั้งแต่เดือนมีนา 61 ตอนที่เราจองมีให้เลือกแค่ 1 เที่ยวบินเท่านั้น พอผ่านไป 1 เดือน คุณหางแดงก็เปิดเที่ยวบินเพิ่มจ้า แถมเวลาดีงามมากมาย T_T เครื่องออก 01.15 ถึงคันไซ 8.40 น. รู้งี้ไม่น่ารีบจองเลยเรา ><" ตอนจองไฟลท์นี้ก็แอบกังวลว่าจะต่อรถไฟเข้าเมืองทันมั้ย เลยลองหาข้อมูลจากอากู๋ ส่วนใหญ่จะบอกว่าทัน ถ้าไม่ดีเลย์ !!! คำว่า "ดีเลย์" เนี่ยแหละตัวแปรสำคัญ!!! แล้วเราก็เจอกับตัวจนได้ 555 (ในเลข 5 มักจะมีน้ำตาซ่อนอยู่ T_T)
ประกาศขึ้นเครื่องเลทไป 10 นาที ไม่เป็นไร ขอให้ออกตรงเวลาเป็นพอ รอจนผู้โดยสารนั่งประจำที่เรียบร้อยหมดแล้ว เอ๊ะ! ทำไมยังไม่ Take off ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่คิด...
แล้วเสียงประกาศก็ดังขึ้น "โปรดทราบขณะนี้เครื่องบินอยู่ระหว่างเติมน้ำมัน คาดว่าจะออกเดินทางได้ในอีก 15 นาทีข้างหน้า" โอเค 15 นาที รอได้ๆ จนได้ยินประกาศแบบเดิมอีก 2-3 รอบ เบ็ดเสร็จเติมน้ำมันไป 1 ชั่วโมงกว่าๆ ดีเลย์กันไปจ้า ตอนนั้นกระวนกระวายน่าดู เพราะไม่ได้เตรียมแผน 2 ที่จะนั่งรถบัสเข้าเมือง ต้องขึ้นตรงไหน ซื้อบัตรยังไง บลาๆๆๆ >< เครียดไปหมด
ในที่สุดก็ Take off เกือบบ่าย 3 โมงครึ่ง T_T จากนั้นแอร์โฮสเตสก็เดินแจกใบตม.เข้าประเทศญี่ปุ่นและใบศุลกากร เราก็จัดการกรอกทันที
สักพักอาหารที่สั่งไว้ล่วงหน้าก็มาเสิร์ฟ (เราซื้อเป็นแพ็คสุดคุ้ม รวมอาหารร้อน 1 ที่, เลือกที่นั่ง, โหลดกระเป๋า 20 กก., ประกันการเดินทาง)
ได้เป็น "ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ สไตล์ญี่ปุ่น"
ในส่วนของรสชาตินั้น ก็...กลางๆ พอแก้หิวไปได้บ้าง
จากนั้นก็งีบกันยาวๆ ลืมเรื่องต่อรถไฟ-รถบัสไปสักพัก ไว้ค่อยแก้ไขกันหน้างาน
ถึงสนามบินคันไซ ตอนประมาณ 4 ทุ่ม 45 นาที ก็รีบจ้ำตามป้าย Arrival ไปขึ้นรถไฟฟ้าในสนามบินมาที่อาคารหลักเพื่อต่อแถวผ่าน ตม. ระหว่างต่อแถวไปก็ดูนาฬิกาไป ลุ้นกันน่าดูว่าจะทันรถไฟมั้ย ขนาดปวด...ยังต้องอั้น ไม่กล้าเข้าห้องน้ำ 555 ซึ่งรถไฟรอบสุดท้ายที่เราจะไปยังที่พักได้คือรอบ 23.34 น.
เหมือนเจ้าหน้าที่เค้าจะรู้ว่าทุกคนรีบ ทำงานกันเร็วมาก ต้องขอชมจริงๆ จากนั้นรีบลงไปรับกระเป๋า คว้าได้ปุ๊บวิ่งปั๊บไปหาที่เติมเงินบัตร Suica (เก็บไว้จากทริปโตเกียวคราวที่แล้ว) จัดการเติมเงินเรียบร้อย รีบพุ่งตัวไปที่รถไฟทันที เย้ๆๆ ในที่สุดเราก็ทันจ้า ความรู้สึกตอนนั้นคือเหมือนยกภูเขาออกจากอก โล่งมากกกกกกก นี่คือรถไฟ Nankai Airport Exp. for NAMBA ไม่ต้องกลัวเหงา มีเพื่อนร่วมขบวนเพียบ
นั่งไปลงสถานี Tengachaya แล้วเปลี่ยนไปขึ้น Subway สาย Sakaisuji for Shojaku ภายในรถไฟดูดีสะอาดสะอ้านสมกับเป็นญี่ปุ่นจริงๆ (ลืมถ่ายหน้าขบวนมาจ้า รีบจัด><)
00.23 น. เราก็มาถึงสถานี Nippombashi ตามเวลาในตารางเป๊ะๆ ตามจริงต้องใช้ทางออก Exit 6 เพื่อจะเดินไปโรงแรม ปรากฎว่าปิดจ้า เจ้าหน้าที่ให้ไปออก Exit 5 แทน ตอนนี้แหละได้สัมผัสความหนาวอย่างแท้จริง อุณหภูมิตอนนั้นประมาณ 7 องศาได้ สั่นกันเลยทีเดียว ในที่สุดเราก็มาถึงโรงแรม Welina Hotel Dotonbori จัดการเช็คอินอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มต้อนรับดีมากๆ อธิบายทุกอย่างชัดเจนภายในเวลาอันรวดเร็ว
ได้คีย์การ์ดมา 2 ใบ พร้อมเอกสารแจ้งกฎระเบียบต่างๆ และรหัส Wi-Fi
ต้องแตะคีย์การ์ดก่อนถึงจะขึ้นไปยังชั้นที่เราพักได้ เราได้ชั้น 3 ห้อง 312
แท่นแทนแท๊นนนนน ที่นอนนุ่มๆ จ๋า ในที่สุดเราก็ได้เจอกันซะที *_*
มีชาเขียว กาแฟ และกระติกน้ำร้อนไว้ให้พร้อม
ทีวี ที่แขวนเสื้อพร้อมไม้แขวน กระจกแต่งตัว สเปรย์ดับกลิ่นรองเท้า และ Shoe Horn
มีไฟฉายให้ด้วย แปะอยู่ข้างๆ ทีวี
สำรวจห้องน้ำกันดีกว่า
ชอบๆ ห้องน้ำญี่ปุ่น มีปุ่มให้เล่นเยอะดี 555 แค่นั่งเฉยๆ จัดการให้หมดเลยจ้า เลิศศศศศ
ที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ DHC ใช้ดีมาก หอมมาก
ส่วนโฟมล้างหน้ากับโฟมล้างมือเป็นตัวเดียวกัน ยี่ห้อ Fiesta
แปรงสีฟัน หวี หมวกอาบน้ำ ที่โกนหนวด ไม้แคะ-ปั่นหู มีให้ครบ อ้อ มีไดร์เป่าผมให้ด้วยนะ (เป่าแรงดีมาก) มีตู้เย็นด้วยจ้า แต่ไม่มีน้ำเปล่าฟรีให้นะ
ออกไปหาอะไรกินดีกว่า สำรวจเซเว่นแถวที่พัก ได้ขนมปังมากินแก้หิว จากนั้นก็อาบน้ำเข้านอนตอนตี 2
วันรุ่งขึ้นเราจะไปเที่ยวเกียวโตกัน โปรดติดตามต่อใน Ep. 2 จ้า 😆
------------------------------------------------------------------------
รับชม Ep. 2 ได้ที่นี่เลยจ้า >>>
https://ppantip.com/topic/38574887 (เที่ยวเกียวโต-Dotonbori)
[CR] รีวิวเที่ยวคันไซกุมภา 2019 ไม่เจอหิมะขาวๆ แต่เจอฝน!! ตะลุยเกียวโต-USJ-Dotonbori-ปราสาทโอซาก้า-นาระ-ตลาดคุโรมง (Ep.1)
"ญี่ปุ่นเที่ยวได้ทุกฤดู"... คำพูดคุ้นหูที่มักได้ยินเสมอๆ ... และทริปนี้เราก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ทริปนี้เราเลือกที่จะไปเยือนญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาว ใจก็ภาวนาขอให้ได้เจอหิมะโปรยปรายกับเค้าบ้าง
แต่โชคไม่เข้าข้าง...ดั๊นนนนนเจอฝนให้ได้ชุ่มฉ่ำแทน >< จะสนุกสนานสั่นสะท้านขนาดไหนไปดูกันเล้ยยยยยยยยยยยยย
.........✍️✍️✍️............
พิกัด📌 : ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น
ช่วงเดินทาง : 2-5 กุมภาพันธ์ 2562
..........✍️✍️✍️............
บางคนอาจคิดว่าพิมพ์วันที่ผิดรึเปล่า 2-5 ก.พ. ทำไมน้อยจัง จะบอกว่าเรากดเลือกวันกลับผิดเองจ้า 555 (ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่ T_T) ด้วยความที่เสียดายค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยน ก็ปล่อยเลยตามเลย เอาน่ะ 3 วันก็ 3 วัน จะเที่ยวให้คุ้ม จะเก็บทุกไฮไลท์ให้ได้เลยคอยดู!!!
---- Day 1: วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 ----
เดินทางไปท่าอากาศยานดอนเมือง จัดแจงหาข้าวกินกันก่อน เราเลือกฝากท้องกันที่ Magic Food Park ศูนย์อาหารที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 อาคารจอดรถ 7 ชั้น Terminal 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศแห่งใหม่
มาถึงชั้น 2 แล้ว ให้มองหา 7-11 เดินไปทางนั้นเลยจ้า
มีป้าย Magic Food Park ชัดเจน เลี้ยวซ้ายตรง 7-11 เดินตรงไปจะผ่านร้านขายยา ถัดไปเป็นศูนย์อาหารอยู่ติดๆ กันเลย
ศูนย์อาหารเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 6.00-22.00 น. แวะมาฝากท้องก่อนขึ้นเครื่องกันได้นะจ๊ะ
แลกคูปองตรงนี้เลย คูปองเป็นแบบวันต่อวัน และต้องคืนภายในวันที่ใช้เท่านั้น
ตรงข้ามเคานท์เตอร์แลกคูปอง เป็นร้านขายเครื่องดื่ม
มีที่นั่งพอสมควร จัดแจงวางกระเป๋า แล้วไปสำรวจเมนูอาหารกันดีกว่า
ศูนย์อาหารที่นี่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งข้าวแกง ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ส้มตำ อาหารตามสั่ง และขนมหวาน
อาหารตามสั่งนี่แหละ ง่ายดี "ผัดพริกแกงไก่+ไข่ดาว" จานนี้ 55 บาท รสชาติใช้ได้
จานนี้ของคุณสา "ข้าวมันไก่ต้ม+ไก่ย่าง" 60 บาท รสชาติกลางๆ น้ำจิ้มยังไม่โดนใจเท่าไหร่ แต่คุณสากลับชอบ
สำหรับใครที่มองหาของกินราคาไม่แพงในดอนเมือง ที่นี่ถือเป็นทางเลือกที่ดี ประหยัดไปได้เยอะเลย
อิ่มท้องแล้ว ยังมีเวลาเหลือๆ เดินสำรวจเซเว่นซะหน่อย ราคาบวกๆ จากสาขาทั่วไปมากบ้างน้อยบ้าง
เดินเล่นนั่งเล่นกันอยู่พักใหญ่ ใกล้จะได้เวลาเช็คอินแล้ว เดินกลับไป Terminal 2 กันดีกว่า
ทริปนี้เราใช้บริการหางแดง ไฟลท์ XJ 610 เครื่องออก 14.15 น. ถึงคันไซ (ตามกำหนดการ) 21.40 น. กดจองไว้ล่วงหน้านานมากกกกกตั้งแต่เดือนมีนา 61 ตอนที่เราจองมีให้เลือกแค่ 1 เที่ยวบินเท่านั้น พอผ่านไป 1 เดือน คุณหางแดงก็เปิดเที่ยวบินเพิ่มจ้า แถมเวลาดีงามมากมาย T_T เครื่องออก 01.15 ถึงคันไซ 8.40 น. รู้งี้ไม่น่ารีบจองเลยเรา ><" ตอนจองไฟลท์นี้ก็แอบกังวลว่าจะต่อรถไฟเข้าเมืองทันมั้ย เลยลองหาข้อมูลจากอากู๋ ส่วนใหญ่จะบอกว่าทัน ถ้าไม่ดีเลย์ !!! คำว่า "ดีเลย์" เนี่ยแหละตัวแปรสำคัญ!!! แล้วเราก็เจอกับตัวจนได้ 555 (ในเลข 5 มักจะมีน้ำตาซ่อนอยู่ T_T)
ประกาศขึ้นเครื่องเลทไป 10 นาที ไม่เป็นไร ขอให้ออกตรงเวลาเป็นพอ รอจนผู้โดยสารนั่งประจำที่เรียบร้อยหมดแล้ว เอ๊ะ! ทำไมยังไม่ Take off ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่คิด...
แล้วเสียงประกาศก็ดังขึ้น "โปรดทราบขณะนี้เครื่องบินอยู่ระหว่างเติมน้ำมัน คาดว่าจะออกเดินทางได้ในอีก 15 นาทีข้างหน้า" โอเค 15 นาที รอได้ๆ จนได้ยินประกาศแบบเดิมอีก 2-3 รอบ เบ็ดเสร็จเติมน้ำมันไป 1 ชั่วโมงกว่าๆ ดีเลย์กันไปจ้า ตอนนั้นกระวนกระวายน่าดู เพราะไม่ได้เตรียมแผน 2 ที่จะนั่งรถบัสเข้าเมือง ต้องขึ้นตรงไหน ซื้อบัตรยังไง บลาๆๆๆ >< เครียดไปหมด
ในที่สุดก็ Take off เกือบบ่าย 3 โมงครึ่ง T_T จากนั้นแอร์โฮสเตสก็เดินแจกใบตม.เข้าประเทศญี่ปุ่นและใบศุลกากร เราก็จัดการกรอกทันที
สักพักอาหารที่สั่งไว้ล่วงหน้าก็มาเสิร์ฟ (เราซื้อเป็นแพ็คสุดคุ้ม รวมอาหารร้อน 1 ที่, เลือกที่นั่ง, โหลดกระเป๋า 20 กก., ประกันการเดินทาง)
ได้เป็น "ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ สไตล์ญี่ปุ่น"
ในส่วนของรสชาตินั้น ก็...กลางๆ พอแก้หิวไปได้บ้าง
จากนั้นก็งีบกันยาวๆ ลืมเรื่องต่อรถไฟ-รถบัสไปสักพัก ไว้ค่อยแก้ไขกันหน้างาน
ถึงสนามบินคันไซ ตอนประมาณ 4 ทุ่ม 45 นาที ก็รีบจ้ำตามป้าย Arrival ไปขึ้นรถไฟฟ้าในสนามบินมาที่อาคารหลักเพื่อต่อแถวผ่าน ตม. ระหว่างต่อแถวไปก็ดูนาฬิกาไป ลุ้นกันน่าดูว่าจะทันรถไฟมั้ย ขนาดปวด...ยังต้องอั้น ไม่กล้าเข้าห้องน้ำ 555 ซึ่งรถไฟรอบสุดท้ายที่เราจะไปยังที่พักได้คือรอบ 23.34 น.
เหมือนเจ้าหน้าที่เค้าจะรู้ว่าทุกคนรีบ ทำงานกันเร็วมาก ต้องขอชมจริงๆ จากนั้นรีบลงไปรับกระเป๋า คว้าได้ปุ๊บวิ่งปั๊บไปหาที่เติมเงินบัตร Suica (เก็บไว้จากทริปโตเกียวคราวที่แล้ว) จัดการเติมเงินเรียบร้อย รีบพุ่งตัวไปที่รถไฟทันที เย้ๆๆ ในที่สุดเราก็ทันจ้า ความรู้สึกตอนนั้นคือเหมือนยกภูเขาออกจากอก โล่งมากกกกกกก นี่คือรถไฟ Nankai Airport Exp. for NAMBA ไม่ต้องกลัวเหงา มีเพื่อนร่วมขบวนเพียบ
นั่งไปลงสถานี Tengachaya แล้วเปลี่ยนไปขึ้น Subway สาย Sakaisuji for Shojaku ภายในรถไฟดูดีสะอาดสะอ้านสมกับเป็นญี่ปุ่นจริงๆ (ลืมถ่ายหน้าขบวนมาจ้า รีบจัด><)
00.23 น. เราก็มาถึงสถานี Nippombashi ตามเวลาในตารางเป๊ะๆ ตามจริงต้องใช้ทางออก Exit 6 เพื่อจะเดินไปโรงแรม ปรากฎว่าปิดจ้า เจ้าหน้าที่ให้ไปออก Exit 5 แทน ตอนนี้แหละได้สัมผัสความหนาวอย่างแท้จริง อุณหภูมิตอนนั้นประมาณ 7 องศาได้ สั่นกันเลยทีเดียว ในที่สุดเราก็มาถึงโรงแรม Welina Hotel Dotonbori จัดการเช็คอินอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มต้อนรับดีมากๆ อธิบายทุกอย่างชัดเจนภายในเวลาอันรวดเร็ว
ได้คีย์การ์ดมา 2 ใบ พร้อมเอกสารแจ้งกฎระเบียบต่างๆ และรหัส Wi-Fi
ต้องแตะคีย์การ์ดก่อนถึงจะขึ้นไปยังชั้นที่เราพักได้ เราได้ชั้น 3 ห้อง 312
แท่นแทนแท๊นนนนน ที่นอนนุ่มๆ จ๋า ในที่สุดเราก็ได้เจอกันซะที *_*
มีชาเขียว กาแฟ และกระติกน้ำร้อนไว้ให้พร้อม
ทีวี ที่แขวนเสื้อพร้อมไม้แขวน กระจกแต่งตัว สเปรย์ดับกลิ่นรองเท้า และ Shoe Horn
มีไฟฉายให้ด้วย แปะอยู่ข้างๆ ทีวี
สำรวจห้องน้ำกันดีกว่า
ชอบๆ ห้องน้ำญี่ปุ่น มีปุ่มให้เล่นเยอะดี 555 แค่นั่งเฉยๆ จัดการให้หมดเลยจ้า เลิศศศศศ
ที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ DHC ใช้ดีมาก หอมมาก
ส่วนโฟมล้างหน้ากับโฟมล้างมือเป็นตัวเดียวกัน ยี่ห้อ Fiesta
แปรงสีฟัน หวี หมวกอาบน้ำ ที่โกนหนวด ไม้แคะ-ปั่นหู มีให้ครบ อ้อ มีไดร์เป่าผมให้ด้วยนะ (เป่าแรงดีมาก) มีตู้เย็นด้วยจ้า แต่ไม่มีน้ำเปล่าฟรีให้นะ
ออกไปหาอะไรกินดีกว่า สำรวจเซเว่นแถวที่พัก ได้ขนมปังมากินแก้หิว จากนั้นก็อาบน้ำเข้านอนตอนตี 2
วันรุ่งขึ้นเราจะไปเที่ยวเกียวโตกัน โปรดติดตามต่อใน Ep. 2 จ้า 😆
------------------------------------------------------------------------
รับชม Ep. 2 ได้ที่นี่เลยจ้า >>> https://ppantip.com/topic/38574887 (เที่ยวเกียวโต-Dotonbori)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้