๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ประมาทแต่ยังมีสติ จากเกือบหน้าแตกก็.....ปิดท้ายด้วย สุดท้ายก็มาวัด

.



หัวข้อกระทู้ ไม่พอให้เขียนข้อความเต็มดังนี้

ประมาทแต่ยังมีสติ  จากเกือบหน้าแตก ก็กลายเป็นมีตติ้งกันแบบเฮฮาปาร์ตี้  แล้วลงท้ายด้วย...สุดท้ายก็มาวัด อมยิ้ม01



1 ประมาทแต่ยังมีสติ จากเกือบหน้าแตก




เคยโพสต์ไว้ว่า  ผลพวงจากช่วงที่ห้องสินธรให้โพสต์ข้อความได้เฉพาะ

สมาชิกที่สมัครขอชื่อเฉพาะด้วยบัตรประชาชน
ทำให้ผมได้ กัลยาณมิตรมานับสิบคน   ซึ่งได้ออกมาเจอกันนอกเวบมานานมากแล้ว
น่าจะนานเป็นสิบปี  เพราะเมื่อแปดปีก่อน มีเพื่อนสมาชิกบางท่าน มาร่วมงานเผาศพพ่อผมด้วย

ส่วนใหญ่ผมจะนัดเจอเพื่อนสมาชิกในช่วงที่  กัลยาณมิตรรุ่นน้องในตลาดหุ้น ที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่ไม่เคยเจอกันในโรงเรียน
ซึ่งใช้นามแฝงว่า  "ธราธิป" จะปิดร้านขายส่งอุปกรณ์รายใหญ่ชุมพร
ขึ้นมาพักผ่อนที่บ้านพักในกรุงเทพ ตอนช่วงตรุษจีน

พอเริ่มนัดหมาย  ก็แจ้งข่าวไว้ในกระทู้  "คุยโขมงห้องค้าหุ้นไทยในสินธร" เป็นระยะๆ
กับแจ้งเชิญคนที่เคยคุ้นเคยตัวจริงกัน   ไว้ในตอบกระทู้ที่ผมตั้ง
ไม่กล้าขึ้นเป็นกระทู้ในห้องสินธร    เพราะไม่อยากให้ใครผิดหวัง  

ที่มามีตติ้งห้องหุ้นแล้ว ไม่มีสอนเรื่องหุ้น  ไม่มีแจกเคล็ดวิขา ไม่มีหุ้นเด็ด  หุ้นวงใน อมยิ้ม06

สถานที่แรกที่นึกถึงคือตามภาพประกอบ  เพราะจัดได้ง่ายที่สุด  
แค่นับๆรายชื่อคนที่ว่างมามีตติ้งไว้คร่าวๆ  แล้วก็โทรจองโต๊ะกับทางร้าน



พอนัดหมายวันเวลา สถานที่ครบ  ก็เริ่มบอกเป็นระยะๆ
แต่เพื่อความไม่ประมาท  ก็เริ่มหาข้อมูล  บ้านใร่กาแฟสาขาเอกมัย จากกู่เกิ้ล
เริ่มเอะใจ ที่มีแจ้งขายที่ดินของ บ้านใร่กาแฟสาขาเอกมัยในเวบ
เพื่อความแน่ใจ ตอนกลางเดือนมกราคม  ก็เลยโทรไปถามกับทางร้านว่า

ร้านยังเปิดขายอยู่หรือเปล่า  คำตอบคือ  ยังขายอยู่
ถ้าจะจองโต๊ะ  ให้โทรบอกล่วงหน้า 1 วัน !!!!!!!
ก็เลยชะล่าใจ  ไม่ได้ตามอะไรต่อ   กะไว้ว่า เดี๋ยววันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์จะโทรจองโต๊ะแบบสบายๆ

แต่เนื่องจากเพื่อนสมาขิกบางส่วน  ไม่ค่อยได้เข้าห้องสินธรแล้ว เน้นเล่นแต่เฟซบุค
เพื่อความแน่ใจว่า  จะรู้กันทั่วถึง  ในวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์  ได้ตั้งโพสต์ข้อความไว้ในเฟซบุค  โดยตั้งค่าเป็น "สาธารณะ"

วันต่อมา  คุณ "akkarin young"  ได้เข้ามาให้ข้อมูลพร้อมภาพถ่ายว่า  

บ้านใร่กาแฟ  เฉพาะสาขาเอกมัย   ปิดกิจการแล้ว !!!!!!!!

อ่านแล้ว เริ่มรวบรวมสติ   สิ่งแรกที่ทำคือขึ้นบีทีเอสไปดูด้วยตาตัวเองในวันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์

ไม่ต้องลงไปจากสถานีบีทีเอสเอกมัย  มองลงไปก็รู้แล้ว   กำลังจะต้องเอาปี๊บคลุมหัว อมยิ้ม06



รีบขึ้นบีทีเอสกลับมาที่สถานีสยาม  เดินเข้าไปที่ ฮั่วเซ่งฮง  สาขาอาคารสยามวันชั้น 4

กะจะจองโต๊ะกินกันที่นี้  น่าจะสะดวกในการเดินทางมากที่สุด
คำตอบคือ   เสาร์อาทิตย์ ไม่รับจองโต๊ะ  จะรับแต่วอล์คอินเท่านั้น  ใครมาก่อนได้โต๊ะก่อน
อีกปัญหาก็คือ  พื้นที่ร้านคับแคบมาก ไม่เหมาะจะให้คุยกันดังๆ จนไปรบกวนคนอื่นๆ ที่กินอาหารในที่นั่งที่ติดกันมาก

กลัวพลาดซ้ำสอง  กลับบ้านเลยรีบโทรจองโต๊ะกับฮั่วเซ่งฮง สาขาใกล้บีทีเอส ปุณณวิถีแทน

แล้วกลับไปแก้ไขข้อความสถานที่นัดหมายในทันที    บอกซ้ำอีกหลายครั้งทั้งในสินธรและเฟซบุค






2  กลายเป็นมีตติ้งแบบเฮฮาปนสาระบ้าง (แต่ไม่มีหุ้นเด็ดชีพแจก อมยิ้ม01)



*ภาพถ่ายส่วนใหญ่  ถ่ายจากกล้องของคุณ restart

น่าเสียดายคุณกระต่ายป่า ติดเที่ยวเมืองจีน  เลยขาดเซียน dca  มาให้ความรู้กับคนที่สนใจแนวทางนี้


เพื่อนสมาขิกห้องสินธร  ซึ่งมีอมยิ้มเป็นชื่อเฉพาะทุกคน  มาทั้งหมด 15 คน แต่บางคนต้องกลับก่อน บางคนมาทีหลัง
ส่วนคุณ อควา  ที่เคยมีพอร์ตหุ้นสูงสุด พันแปดร้อยล้านบาท ตอนนี้ถือเงินสดเกือบหมด และขออยู่นอกกล้อง
ทราบภายหลังว่า   กลัวโจทก์ในห้องอื่นของพันทิพ  ที่มีความขัดแย้งทางความคิดสูงมาก จะรู้จักตัวจริง อมยิ้ม16


ยื่นแบงค์ร้อยให้น้องพนักงานทางซ้ายมือ  เพราะบริการถ่ายภาพให้อย่างตั้งใจ
ไม่ใช่ทิบเพื่อโชว์ ป๋า หรอก   นึกไปถึงลูกชายที่อยู่ในภาคบริการของโรงแรมเหมือนกัน อมยิ้ม16


ถ่ายกับเพื่อนรุ่นน้องที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน  
เป็นเสี่ยขายส่งอุปกรณ์ประมงและเครื่องครัวรายใหญ่ของชุมพร  เจ้าของพอร์ตหุ้นเกินร้อยล้าน อมยิ้ม05



คนซ้าย เซียนกราฟแท่งเทียน  คนขวา หมอหน้าเด็กนักวิ่งมาราธร ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรรมข้อกระดูก
และเป็นเพื่อนร่วมทีมขับซุปเปอร์คาร์ของคุณอควา




สามสาวสามสไตล์ในการแสวงเงินในตลาดหุ้น   คนขวาเน้นปัจจัยพื้นฐาน คนกลางเน้นข่าว คนซ้ายเล่นกราฟล้วนๆ อมยิ้ม01


คุณ pleum  นักลงทุนแนวไฮบริด  เลือกหุ้นจากปัจจัยพื้นฐานและคอมปานีวิซิท  มีจุดเข้าออกหุ้นด้วยกราฟ
ใครอยากได้ความเห็นของคนที่ซื้อ EA  ที่ 20 บาทและยังถืออยู่  หลังไมค์ไปถามเป็นการส่วนตัวได้ครับ อมยิ้ม01







.
คนซ้าย มังกรหนุ่มจากทรงวาด  คนขวา ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจเดินเรือมาสามสิบกว่าปี  ได้ไอพีโอหุ้น kye  จากเพื่อนสมัยเรียน







มีธรรมเนียมปฏิบัติในแวดวงหมอด้วยกันคือ จะไม่คิดค่าตรวจญาติสนิทกันและกัน
คนซ้ายมือ  เสี่ยค้าวัสดุก่อสร้างจากสิงห์บุรี  มีภรรยาเป็นหมอเด็ก  



เอาไข่ทาสีอาหารสีทอง ไปให้เพื่อนๆสมาชิกกินเล่นของ ฉลองตรุษจีน อมยิ้ม16


มังกรหนุ่มจากทรงวาด  กินเล่นของไปหนึ่งฟอง  เผื่อ เอ็มเคสุกี้ที่ซื้อไว้ตอน 40 บาท จะทะลุหลักร้อย อมยิ้ม05





เพื่อนรุ่นน้องคนสวย  มาในสภาพที่ไม่กล้าทักว่า  วันนี้ดูสีหน้าไม่สดใสเท่าที่ควร(เลือกภาพที่ดูดีที่สุดมาโพสต์ อมยิ้ม16)
ในที่สุด เธอก็ทนปวดลำคอ กลืนอะไรไม่ได้ไม่ไหว  ขอตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศิครินทร์
เมื่อวานผมโทรไปถามอาการ  เริ่มต้นจากที่เจ้าตัวเข้าใจว่า ทอนซิลอักเสบ หลังจากการตรวจเพาะเชื้อจากโพรงจมูกกับตรวจเลือด
กลายเป็นว่า  มีอาการ "ปอดติดเชื้อ"   นึกแล้วใจหาย ยังดีที่อาการไม่ได้สาหัสจนต้องนอนโรงพยาบาล แต่ต้องกินยาฆ่าเชื้อ  

ยอมพาร่างกายที่ปวดมากๆแล้ว มาร่วมงานมีตติ้งเพื่อไม่ได้เสียคำพูดเยี่ยม



หญิงสาวในภาพ   คือกัลยาณมิตรที่ช่วยคิดและช่วยยื่นเครติดภาษีมาให้ น่าจะห้าปีแล้ว
ซึ่งผมก็รับปากมาทุกปีว่า  จะทำเอง  อมยิ้ม06  
เอาว่ะ เอ๊ยเอาครับ ต้นปีหน้าเป็นไงเป็นกัน  จะไม่รบกวนคุณมะลิมือบัญชี cpa แล้ว
จะพยายามคิดเอง  ยื่นขอคืนภาษีเองให้ได้









เซียนกราฟแท่งเทียน คนนั่งกลาง ยืนยันว่า set index เป็นขาขึ้นในระยะกลางแล้ว อมยิ้ม16





ขอบคุณของฝากจากกัลยาณมิตรในห้องสินธร [:อมยิ้ม17:]






3 สุดท้ายก็มาวัด


ก็ไปวัดตรีทศเทพแถวบางลำภู   

หลังจากนัดหมายมีตติ้งกันแล้ว  เพื่อนที่สนิทกันมากขนาดเคยสั่งซื้อขายหุ้นให้ (เงินต้น 1 ล้าน ตอนหยุดซื้อขายให้ ได้กำไร 3.9 ล้าน)
ได้เอาการ์ดมาแจก  เชิญร่วมงานพระราชทานเพลิงศพน้องชายซึ่งคุ้นเคยกันดี ตอนเวลา 15.30 น.

ก็เลยต้องไม่ประมาทเรื่องเวลาในการเดินทาง  โดยเฉพาะวันเสาร์ที่รถติดตั้งแต่สายจรดเย็น อมยิ้ม06

ขับรถไปจอดไว้ที่มาบุญครอง  แล้วขึ้นบีทีเอสไปมีตติ้ง
กะไว้ว่า  จะออกจากมีตติ้งประมาณ  14.00 น.

จะกลับถึงมาบุญครองประมาณ 14.30 น.

เอาเข้าจริง   ขับรถออกจากมาบุญครองประมาณ 14.50 น.

น่าแปลกใจมาก   วันเสาร์ที่แล้วรถแถวมาบุญครองไม่ติด  
น่าจะเป็นเพราะ  คนที่เอารถมาจอดส่วนใหญ่  เข้าไปชมฟุตบอลประเพณี จุฬา ธรรมศาสตร์กันเกือบหมดแล้ว

มาถึงวัดตรีทศเทพ  ประมาณแค่ 15.20 น. เท่านั้น อมยิ้ม01


สุดท้ายก็มาวัด  ซึ่งเป็นคำพูดที่ผมชอบพูดเตือนสติตัวเอง

ผมชอบไปงานศพในวันเผา  มากกว่าวันสวด  ที่ยอมรับว่า ส่วนใหญ่ฟังไม่รู้เรื่อง
ชอบไปวันเผา   เพื่อเตือนสติตัวเองว่า

ไม่มีใครรู้หรอกว่า  เราจะได้ขึ้นไปยืนบนนั้นกันคนละกี่ครั้ง

แต่ทุกคน  ได้ขึ้นไปนอนบนนั้นกันแค่คนละครั้ง

ท้ายสุดของชีวิตเกือบทุกคนที่นับถือพุทธ  สุดท้ายก็ต้องมาวัดกันทุกคน

ใช้ชีวิตไม่ประมาท  มีสติ  หลังจากนั้น  อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด


ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  จะได้ขึ้นไปนอนบนนั้นเมื่อไร   ไม่มีใครรู้อนาคต
ได้แต่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดครับ












++++++++++++++++++++++++++++++++

น่าเสียดาย ไม่มีเวลาไปนั่งเม้าท์ต่อที่ร้านกาแฟหน้าฮั่วเซ่งฮง  




ขอเพิ่มเติมภาพจากกล้องของหมอนัมซันครับ



แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่