A star is born
-ทีมอ่านเรื่องย่อ+ดูตัวอย่างแล้วรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้มีความว้อนอยากดูอะไรขนาดนั้น พอได้มาดูจริงๆ ถึงแม้ว่าจะมีบางสิ่งที่ดีและต่างไปจากที่คาดไว้ แต่ภาพรวมก็ยังคิดว่าไม่น่าถึงขึ้นออสก้าร์ภาพยนต์ยอดเยี่ยมขนาดนั้นอ่ะ ขอโทษนะคะเฮียแบรดลี่ย์5555555
-ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่แค่เราที่คาดหวังว่าหนังจะออกมาในแนวทางหนังเพลงอย่างพวก once, begin again หรือ La La Land อะไรแบบนี้ แต่ไม่เลยคุณ นี่คือหนังดราม่าจริงแท้แน่นอนที่มีดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของหนังเท่านั้น ออกมาเป็นแนวสารคดีให้เห็นถึงการโคจรมาพบเจอกันของแอลลี่ นักร้องสาวในบาร์เกย์และ แจ็ค นักร้องซุปเปอร์สตาร์คนดัง ทั้งคู่ได้รักกัน แจ็คจึงพาแอลลี่ออกทัวร์คอนเสิร์ตจนเธอดังเปรี้ยงปร้าง ในขณะที่ตัวเขาซึ่งติดเหล้าจนทำให้ความสามารถทางการได้ยินค่อยๆถดถอยลงจนถึงจุดที่ตกต่ำมากๆในชีวิต
-ชอบที่ช่วงแรกๆหนังพาเราไปทำความรู้จักกับความรักในเสียงเพลงของคนทั้งคู่ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างโคตรแรแมนติกอ่ะพูดเลย บทเพลงมันเป็นตัวขับเคลื่อนพลังงานและเป็นการเชื่อมสัมพันธ์บางอย่างที่ทำให้เชื่อว่าคนสองคนนี้เขารักกันจริงๆ แล้วหนังก็ค่อยๆพาเราไปพบเจอกับความสั่นคลอน ปัญหาต่างๆ แต่ภายใต้ตรงนั้นอ่ะ เราก็ยังมองเห็นถึงความรักที่ทั้งคู่มีให้กัน รู้สึกว่ามันเป็นอารมณ์ที่วิเศษมากๆ คือถึงแม้เส้นเรื่องมันจะเครียดหรือสถานการณ์มันจะย่ำแย่แค่ไหนแต่เรายังมองเห็นความรักอยู่ในตัวทั้งสองคนจริงๆอ่ะ อัศจรรย์ป่ะ55555
-ขอชื่นชม Bradley Cooper ของน้องก่อน55555 เรียกได้ว่านี่เป็นหนังที่ยืนยันความเป็นนักแสดง (นักร้องด้วยได้มั้ย เรื่องนี้คือโคตรร๊อคสตาร์อ่ะหวีดดดด) และผู้กำกับที่สุดยอดของเฮียออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ ชอบวิธีการถ่ายทอดเรื่องราวออกมา อย่างที่บอกว่าออกแนวสารคดีหน่อยๆ ภาพก็จะมีการโคลสอัพบางส่วนแต่มันทำให้เราเห็นอารมณ์และสิ่งที่นักแสดงถ่ายทอดออกมา ชอบการแสดงของแจ็คและแอลลี่ในเรื่องนี้มากๆ Bradley Cooper สามารถถ่ายทอดความรักออกมาผ่านทางสายตา เป็นผู้ชายเท่ๆถ่อยๆติดเหล้าเมายาชีวิตเริ่มเหลวแหลกที่ดูรักภรรเมียที่สุดแล้วมั้งเนี่ย55555 ส่วนเลดี้ กาก้ากับภาพยนต์ใหญ่เรื่องแรกก็นับว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
-ระหว่างทางหนังเนือยจริง มีบางซีนที่เกือบหลับเหมือนกันแต่พอมาผูกมาถึงฉากจบปุ๊บคือโอเค ตื่นเลย ชอบที่หนังเล่าให้เห็นถึงความcontrastของสถานการณ์ของคนทั้งคู่ สิ่งที่มีพลังมากที่สุดในหนังนอกจากซีนร้องเพลง Shallow ของทั้งคู่แล้วก็คงเป็นซีนร้องเพลงตอนจบนี่แหละ ซีนกาก้าร้องว่าเด็ดแล้วแต่ซีนคูเปอร์ร้องนี่คือ น้องตายค่ะคุณ เป็นการตัดจบที่ทั้งจุกทั้งเจ็บระบมช้ำชอกยันทรวงในขัดกับอารมณ์วี๊ดว๊ายตอนเปิดเรื่องจริงๆ555555 แล้วพอตัดจบคือเห็นคำว่า Direct by Bradley Cooper ใช่ป่ะ คืออยากจะลุกขึ้นมาปรบมือให้ตรงนั้น
-ตลอดสองชั่วโมงที่ผ่านมาหนังทำให้เรารู้จักและผูกพันกับความรักของคนทั้งคู่ที่เชื่อมกันด้วยการร้อยเรียงท่วงทำนองเพลง จนเริ่มเห็นความสั่นคลอนในชีวิตคู่ที่ดึงมาให้ถึงตอนจบที่จุกและเจ็บ เพลง i’ll never love again เป็นซีนจบที่ยอดเยี่ยมและเจ็บปวดมากๆในคราเดียวกัน
-ถึงแม้จะชมกันมาหลายย่อหน้าขนาดนี้แต่จุดที่ไม่ชอบคือบางอย่างเรายังไม่ได้รู้สึกอินหรือรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลขนาดนั้น มันทำให้ช่วงกลางๆเรื่องนอกจากจะเนือยแล้วยังรู้สึกพล็อตมันโหวงๆ งงๆ ยอมรับว่าตอนจบชอบจริงๆ แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดฉากจบแบบนั้นเรายังไม่อินเท่าไหร่ ส่วนเรื่องเพลงคือเพราะจริง แต่จะโดนด่ามั้ยถ้าจะบอกว่ามันไม่ได้ว้าวแล้วก็ติดหูขนาดนั้น ถึงแม้จะไม่ควรแต่ก็อดเอามาเทียบกับหนังเพลงที่เรายกตัวอย่างไปตอนต้นไม่ได้จริงๆ ว่าหนังพวกนั้นยังมีเพลงที่ติดหูกว่าเยอะมากๆ แต่รวมไป แล้วก็ชอบอยู่ดีอ่ะแหละะ แค่คิดว่าต้องใช้ความตั้งใจดูนิสนึง ทีมไม่ชอบหนังเนือยๆช้าๆคงมีหลับกันไปบ้าง
8/10
แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่นี่เลยค่า
https://www.facebook.com/justasuckreviewer/
[CR] A star is born [Review] - เจ็บนี้จำไปจนตายยย
-ทีมอ่านเรื่องย่อ+ดูตัวอย่างแล้วรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้มีความว้อนอยากดูอะไรขนาดนั้น พอได้มาดูจริงๆ ถึงแม้ว่าจะมีบางสิ่งที่ดีและต่างไปจากที่คาดไว้ แต่ภาพรวมก็ยังคิดว่าไม่น่าถึงขึ้นออสก้าร์ภาพยนต์ยอดเยี่ยมขนาดนั้นอ่ะ ขอโทษนะคะเฮียแบรดลี่ย์5555555
-ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่แค่เราที่คาดหวังว่าหนังจะออกมาในแนวทางหนังเพลงอย่างพวก once, begin again หรือ La La Land อะไรแบบนี้ แต่ไม่เลยคุณ นี่คือหนังดราม่าจริงแท้แน่นอนที่มีดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของหนังเท่านั้น ออกมาเป็นแนวสารคดีให้เห็นถึงการโคจรมาพบเจอกันของแอลลี่ นักร้องสาวในบาร์เกย์และ แจ็ค นักร้องซุปเปอร์สตาร์คนดัง ทั้งคู่ได้รักกัน แจ็คจึงพาแอลลี่ออกทัวร์คอนเสิร์ตจนเธอดังเปรี้ยงปร้าง ในขณะที่ตัวเขาซึ่งติดเหล้าจนทำให้ความสามารถทางการได้ยินค่อยๆถดถอยลงจนถึงจุดที่ตกต่ำมากๆในชีวิต
-ชอบที่ช่วงแรกๆหนังพาเราไปทำความรู้จักกับความรักในเสียงเพลงของคนทั้งคู่ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างโคตรแรแมนติกอ่ะพูดเลย บทเพลงมันเป็นตัวขับเคลื่อนพลังงานและเป็นการเชื่อมสัมพันธ์บางอย่างที่ทำให้เชื่อว่าคนสองคนนี้เขารักกันจริงๆ แล้วหนังก็ค่อยๆพาเราไปพบเจอกับความสั่นคลอน ปัญหาต่างๆ แต่ภายใต้ตรงนั้นอ่ะ เราก็ยังมองเห็นถึงความรักที่ทั้งคู่มีให้กัน รู้สึกว่ามันเป็นอารมณ์ที่วิเศษมากๆ คือถึงแม้เส้นเรื่องมันจะเครียดหรือสถานการณ์มันจะย่ำแย่แค่ไหนแต่เรายังมองเห็นความรักอยู่ในตัวทั้งสองคนจริงๆอ่ะ อัศจรรย์ป่ะ55555
-ขอชื่นชม Bradley Cooper ของน้องก่อน55555 เรียกได้ว่านี่เป็นหนังที่ยืนยันความเป็นนักแสดง (นักร้องด้วยได้มั้ย เรื่องนี้คือโคตรร๊อคสตาร์อ่ะหวีดดดด) และผู้กำกับที่สุดยอดของเฮียออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ ชอบวิธีการถ่ายทอดเรื่องราวออกมา อย่างที่บอกว่าออกแนวสารคดีหน่อยๆ ภาพก็จะมีการโคลสอัพบางส่วนแต่มันทำให้เราเห็นอารมณ์และสิ่งที่นักแสดงถ่ายทอดออกมา ชอบการแสดงของแจ็คและแอลลี่ในเรื่องนี้มากๆ Bradley Cooper สามารถถ่ายทอดความรักออกมาผ่านทางสายตา เป็นผู้ชายเท่ๆถ่อยๆติดเหล้าเมายาชีวิตเริ่มเหลวแหลกที่ดูรักภรรเมียที่สุดแล้วมั้งเนี่ย55555 ส่วนเลดี้ กาก้ากับภาพยนต์ใหญ่เรื่องแรกก็นับว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
-ระหว่างทางหนังเนือยจริง มีบางซีนที่เกือบหลับเหมือนกันแต่พอมาผูกมาถึงฉากจบปุ๊บคือโอเค ตื่นเลย ชอบที่หนังเล่าให้เห็นถึงความcontrastของสถานการณ์ของคนทั้งคู่ สิ่งที่มีพลังมากที่สุดในหนังนอกจากซีนร้องเพลง Shallow ของทั้งคู่แล้วก็คงเป็นซีนร้องเพลงตอนจบนี่แหละ ซีนกาก้าร้องว่าเด็ดแล้วแต่ซีนคูเปอร์ร้องนี่คือ น้องตายค่ะคุณ เป็นการตัดจบที่ทั้งจุกทั้งเจ็บระบมช้ำชอกยันทรวงในขัดกับอารมณ์วี๊ดว๊ายตอนเปิดเรื่องจริงๆ555555 แล้วพอตัดจบคือเห็นคำว่า Direct by Bradley Cooper ใช่ป่ะ คืออยากจะลุกขึ้นมาปรบมือให้ตรงนั้น
-ตลอดสองชั่วโมงที่ผ่านมาหนังทำให้เรารู้จักและผูกพันกับความรักของคนทั้งคู่ที่เชื่อมกันด้วยการร้อยเรียงท่วงทำนองเพลง จนเริ่มเห็นความสั่นคลอนในชีวิตคู่ที่ดึงมาให้ถึงตอนจบที่จุกและเจ็บ เพลง i’ll never love again เป็นซีนจบที่ยอดเยี่ยมและเจ็บปวดมากๆในคราเดียวกัน
-ถึงแม้จะชมกันมาหลายย่อหน้าขนาดนี้แต่จุดที่ไม่ชอบคือบางอย่างเรายังไม่ได้รู้สึกอินหรือรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลขนาดนั้น มันทำให้ช่วงกลางๆเรื่องนอกจากจะเนือยแล้วยังรู้สึกพล็อตมันโหวงๆ งงๆ ยอมรับว่าตอนจบชอบจริงๆ แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดฉากจบแบบนั้นเรายังไม่อินเท่าไหร่ ส่วนเรื่องเพลงคือเพราะจริง แต่จะโดนด่ามั้ยถ้าจะบอกว่ามันไม่ได้ว้าวแล้วก็ติดหูขนาดนั้น ถึงแม้จะไม่ควรแต่ก็อดเอามาเทียบกับหนังเพลงที่เรายกตัวอย่างไปตอนต้นไม่ได้จริงๆ ว่าหนังพวกนั้นยังมีเพลงที่ติดหูกว่าเยอะมากๆ แต่รวมไป แล้วก็ชอบอยู่ดีอ่ะแหละะ แค่คิดว่าต้องใช้ความตั้งใจดูนิสนึง ทีมไม่ชอบหนังเนือยๆช้าๆคงมีหลับกันไปบ้าง
8/10
แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่นี่เลยค่า
https://www.facebook.com/justasuckreviewer/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้