การโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ระหว่างผู้โอนและผู้รับโอนมีฐานะเป็นพี่น้องกัน จะเสียค่าโอนเหมือนกรณีบุคคลธรรมดาทั่ว ๆ ไปโอนฯให้แก่กัน ถึงแม้จะทำเป็นโอนให้ก็ตาม ไม่เหมือนกรณีบิดามารดากับบุตรทีชอบด้วยกฎหมาย หรือระหว่างคู่สมรส จะได้รับการยกเว้นค่าโอนในบางตัว สำหรับกรณีของ จขกท. ค่าโอนจะมีดังนี้
  ๑. ค่าธรรมเนียม ร้อยละ ๒ ของราคาประเมินฯ
  ๒. ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย คิดจากราคาประเมินฯ ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
  ๓. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะร้อยละ ๓.๓ (รวมภาษีท้องถิ่น) ของราคาประเมินทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่ผู้ขอแสดง แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า ก็ให้คิดจากตัวที่สูงกว่า  
  ๔. ค่าอากรฯ ร้อยละ ๐.๕ ของราคาประเมินทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่ผู้ขอแสดง แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า ก็ให้คิดจากตัวที่าสูงกว่า  
  หากต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ก็จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าอากรฯ แต่ถ้าได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ก็ให้ไปเสียค่าอากรฯ แทน (ข้อ ๓. หรือ ข้อ ๔. จะเสียเพียงตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น)

การคำนวณค่าใช้จ่ายในการโอนจะต้องอาศัยข้อมูลอื่นเกี่ยวกับตัวทรัพย์ และตัวผู้โอนประกอบกัน จึงจะคำนวณค่าโอนได้ถูกต้อง จขกท.ทราบข้อมูลดีอยู่แล้ว เข้าไปใช้โปรแกรมให้ช่วยคำนวณเลยครับ  http://lecs.dol.go.th/rcal/index.html#/

ส่วนคำถามว่า " หรือว่าควรให้พี่ถือเกิน 1 ปีก่อน แล้วค่อยโอนให้น้อง ค่าโอนจะถูกกว่ารึเปล่าครับ " ตรงนี้จะหมายถึงภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ ถ้าใช่ การที่จะได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ได้ขายอสังหาริมทรัพย์เมื่อพ้นระยะเวลา ห้า ปี นับตั้งแต่วันได้มา คือ วันที่รับโอนมา เช่น การซื้อมา (ถ้าได้รับโอนมาโดยทางมรดก ไม่ต้องสนใจเวลาถือครอง สามารถนำไปขายได้เลย) ไม่ใช่นับตั้งแต่วันที่ไถ่ถอนจำนองจากธนาคาร หรือกรณีถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินคนเดียวและมีชื่ออยู่ในทะเบียนไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันได้มา ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะเช่นกัน