ขอแชร์ประสบการณ์ที่ตัวเองเพิ่งเจอมาครับ คือตัวเองได้มาถึงสนามบินดอนเมือง จะไปเชียงราย ตัวเองได้มาถึงสนามบินล่วงหน้าประมาณสองชั่วโมง
ได้เช็คอินกับสายการบินสีเหลือง โหลดกระเป๋าและผ่านเข้ามาที่ตม. ตรวจผ่านเรียบร้อย แต่ตอนขาออกได้เดินมาที่เกทเลทก่อนประตูปิดไปสองนาที เพราะกำลังเข้าห้องน้ำ กลับมาอีกทีที่หน้าเกท พบว่าเกทปิดไปแล้ว และได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่สามารถเลื่อนไฟลท์ได้ และให้ติดต่อที่เคาวเตอร์เพื่อซื้อตั๋วใหม่เองซึ่งระหส่างก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่แจ้งตามสายเลย แต้จ้าหน้าที่บอกว่าได้ตามทุกๆ ห้านาทีแล้ว
เราก็ไม่คิดอะไร จึงเดินออกมาที่ด้านนอกช่องตรวจค้นและติดต่อที่เคาวเตอร์สายการบินเดิม เพื่อขอเลื่อนตั๋ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถเลื่อนได้ และต้องซื้อตั๋วใหม่ ซึ่งราคาคิดเป็นสองเท่ากว่าจากราคาที่ซื้อเดิม ก็พอเข้าใจได้ และก็ไม่มีส่วนลดใดๆให้ เราก็พยายามไปเปรียเทียบราคาสายการบินสีแดงอีกสองแห่ง ก็พบว่าราคาแพงกว่าและไฟลท์ไกลจากเดิมไปเกือบหกชั่วโมง เลยกลับมาซื้อที่สายการบินเดิม เจ้าหน้าที่ถามว่า มีกระเป๋าโหลดอีกมั้ย เราก็บอกว่าโหลดไปตั้งแต่รอบแรกแล้ว
ตอนที่เช็คอินรอบสอง ก็ได้ถามเจ้าหน้าที่หน้าเกทอีกทีว่า กระเป๋าใบที่โหลดไปไฟลท์ก่อนหน้าถึงแล้วหรือยัง เพราะ ไฟลท์ถึงก่อนรอบหลังสองชั่วโมง
ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่บอกว่ากระเป๋ายังอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ยังไม่ได้ไปที่เชียงใหม่เลย เพราะว่าผู้โดยสารที่ไม่ได้เดินทางไปกับเครื่องบิน จะเอาของออก และจะต้องไปติดต่อรับของเอง เราก็เฮ้ย เจ้าหน้าที่หน้าเกทบอกแค่ว่าให้ไปซื้อตั๋วใหม่ ไม่ได้มีการแนะนำเรื่องสัมภาระหลังจากที่เราตกเครื่องเลยว่าจะต้องกลับไปเอาเองใหม่
พอเจ้าหน้าที่หน้าเกทรอบหลังยิ้มๆแล้วก็บอกว่าจะประสานงานให้ เราก็ค่อยสบายใจขึ้นหน่อยว่าจะพยายามนำกระเป๋ามาขึ้นภายในสายการบินรอบนี้
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมได้บทเรียนมาคือ
- ประตูปิด ก่อนเครื่องออก 10 นาที สายการบินไม่รอ เพราะฉะนั้น จะปวดท้องหรืออะไรก็ต้องเอาตัวเองขึ้นเครื่องให้ได้ก่อน เมื่ก่อนเคยเจอว่าเครื่องดีเลย์เพราะรอผู้โดยสาร แต่เข้าใจว่าตอนนี้การแข่งขันสูง อาจจะทำให้สายการบินต้องเร่งรีบให้ทันกำหนดการน่ะครับ
- ถ้ารู้ตัวว่าตกเครื่อง ทำใจเลยว่าราคาตั๋วแพงหนักมาก
- ต้องรีบติดต่อเรื่องกระเป๋าเดินทางว่าสรุปได้ไปกับไฟลท์นั้น แล้วหรือยัง โดยควรเช็คให้เคลียร์ตอนเช็คอินรอบใหม่ครับ
ที่มาแชร์ ก็อย่าไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครนะครับ แต่ถ้าเกิดแล้ว จะได้หาแนวทางแก้ไขได้ทันท่วงทีนะครับ
ขอให้ทุกคนเดินทางอย่างปลอดภัยครับ
#ด่าได้แต่อย่าแรง
ประสบการณ์ตกเครื่องบินสีเหลือง low costในประเทศครับ
ได้เช็คอินกับสายการบินสีเหลือง โหลดกระเป๋าและผ่านเข้ามาที่ตม. ตรวจผ่านเรียบร้อย แต่ตอนขาออกได้เดินมาที่เกทเลทก่อนประตูปิดไปสองนาที เพราะกำลังเข้าห้องน้ำ กลับมาอีกทีที่หน้าเกท พบว่าเกทปิดไปแล้ว และได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่สามารถเลื่อนไฟลท์ได้ และให้ติดต่อที่เคาวเตอร์เพื่อซื้อตั๋วใหม่เองซึ่งระหส่างก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่แจ้งตามสายเลย แต้จ้าหน้าที่บอกว่าได้ตามทุกๆ ห้านาทีแล้ว
เราก็ไม่คิดอะไร จึงเดินออกมาที่ด้านนอกช่องตรวจค้นและติดต่อที่เคาวเตอร์สายการบินเดิม เพื่อขอเลื่อนตั๋ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถเลื่อนได้ และต้องซื้อตั๋วใหม่ ซึ่งราคาคิดเป็นสองเท่ากว่าจากราคาที่ซื้อเดิม ก็พอเข้าใจได้ และก็ไม่มีส่วนลดใดๆให้ เราก็พยายามไปเปรียเทียบราคาสายการบินสีแดงอีกสองแห่ง ก็พบว่าราคาแพงกว่าและไฟลท์ไกลจากเดิมไปเกือบหกชั่วโมง เลยกลับมาซื้อที่สายการบินเดิม เจ้าหน้าที่ถามว่า มีกระเป๋าโหลดอีกมั้ย เราก็บอกว่าโหลดไปตั้งแต่รอบแรกแล้ว
ตอนที่เช็คอินรอบสอง ก็ได้ถามเจ้าหน้าที่หน้าเกทอีกทีว่า กระเป๋าใบที่โหลดไปไฟลท์ก่อนหน้าถึงแล้วหรือยัง เพราะ ไฟลท์ถึงก่อนรอบหลังสองชั่วโมง
ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่บอกว่ากระเป๋ายังอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ยังไม่ได้ไปที่เชียงใหม่เลย เพราะว่าผู้โดยสารที่ไม่ได้เดินทางไปกับเครื่องบิน จะเอาของออก และจะต้องไปติดต่อรับของเอง เราก็เฮ้ย เจ้าหน้าที่หน้าเกทบอกแค่ว่าให้ไปซื้อตั๋วใหม่ ไม่ได้มีการแนะนำเรื่องสัมภาระหลังจากที่เราตกเครื่องเลยว่าจะต้องกลับไปเอาเองใหม่
พอเจ้าหน้าที่หน้าเกทรอบหลังยิ้มๆแล้วก็บอกว่าจะประสานงานให้ เราก็ค่อยสบายใจขึ้นหน่อยว่าจะพยายามนำกระเป๋ามาขึ้นภายในสายการบินรอบนี้
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมได้บทเรียนมาคือ
- ประตูปิด ก่อนเครื่องออก 10 นาที สายการบินไม่รอ เพราะฉะนั้น จะปวดท้องหรืออะไรก็ต้องเอาตัวเองขึ้นเครื่องให้ได้ก่อน เมื่ก่อนเคยเจอว่าเครื่องดีเลย์เพราะรอผู้โดยสาร แต่เข้าใจว่าตอนนี้การแข่งขันสูง อาจจะทำให้สายการบินต้องเร่งรีบให้ทันกำหนดการน่ะครับ
- ถ้ารู้ตัวว่าตกเครื่อง ทำใจเลยว่าราคาตั๋วแพงหนักมาก
- ต้องรีบติดต่อเรื่องกระเป๋าเดินทางว่าสรุปได้ไปกับไฟลท์นั้น แล้วหรือยัง โดยควรเช็คให้เคลียร์ตอนเช็คอินรอบใหม่ครับ
ที่มาแชร์ ก็อย่าไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครนะครับ แต่ถ้าเกิดแล้ว จะได้หาแนวทางแก้ไขได้ทันท่วงทีนะครับ
ขอให้ทุกคนเดินทางอย่างปลอดภัยครับ
#ด่าได้แต่อย่าแรง