ตรุษจีน การไหว้เจ้าที่สืบต่อกันมานาน ?

เวลาเราใส่บาตรพระ เราก็น้อมจิตส่งใจที่เป็นบุญส่งไปให้ผู้ล่วงลับขณะนั้น จิตที่ได้ทำจะมีพลังและส่งไปถึง ถ้าผู้ล่วงลับได้รับรู้ถึงกำลังจิตที่ส่งมา ก็จะมีความยินดี ( โมทนา ) และได้รับกำลังจิตนั้น ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นอาหารที่ใส่บาตร เพราะตอนที่ส่งจิตอุทิศ เราก็นึกถึงความดีคือการสละอาหารให้กับสมณะนักบวช ซึ่งเป็นอาหารชนิดใด ผู้ล่วงลับก็จะได้อาหารชนิดนั้น

เช่นเดียวกันกับการไหว้เจ้าที่สืบทอดกันมายาวนาน เรายอมสละเงินไปซื้อของต่างๆมา เพื่อไม่ได้เอามากินเอง แต่เรายินดีสละให้ทานของเหล่านั้นแก่ทวยเทพหรือบรรพบุรุษ เราซื้ออะไรมาและถวายอะไร จิตเราก็จะมีกำลังนึกถึงสิ่งที่กำลังทำคือถวายอาหาร เป็นการให้ทานกับทวยเทพ ด้วยใจที่สละในตอนนั้นก็จะส่งกำลังจิตของเราไปหาทวยเทพ ถ้าทวยเทพมีความยินดีกับกำลังจิตของเรา อาหารก็จะไปปรากฎตรงหน้า ซึ่งก็เป็นอาหารที่เราซื้อมาและตั้งใจถวาย

แต่ถ้าเราไม่ได้ซื้อ ไม่ได้ทำ ไม่ได้ถวาย จิตไม่เกิดกำลังเลย จะนึกส่งอะไรไปก็ไม่ได้ สาเหตุเพราะยังไม่ได้ทำ แต่ถ้าเราทำลงไปแล้ว จิตจะเกิดกำลังจากการกระทำและระลึกถึงความดีนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำความดีแบบไหนก็ตาม บุญย่อมเกิดและส่งไปได้ แต่ก็อยู่ที่ผู้รับด้วยว่าจะอยู่ในสถานะที่สามารถรับรู้และยินดีกับบุญนั้นรึเปล่า ซึ่งเทพบางตนหรือวิญญาณบางตนมีทิฏฐิ ถ้าไม่ชอบ ต่อให้เป็นความดี เขาก็ไม่ยินดี อดยากไปโดยปริยาย บางตนถึงขั้นต้องเลือกเฉพาะบุญของลูกหลานหรือคนรัก ถ้าคนอื่นแผ่บุญส่งกำลังจิตไป เขาไม่เอา เขาจะรอแต่ลูกเขาประมาณนี้ ซึ่งก็แปลกและน่าพิศวง อย่างว่าแหละ เทพและวิญญาณก็มีสมองมีความคิดความเห็นและมีนิสัยเฉพาะตน ต่างคนต่างใจจริงๆ ไม่ว่าจะคนหรือเทพเทวา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่