จขกท เพิ่งบินไปมาเมื่อ 21-23 มกราคม 2562
เลยอยากแชร์แผนเที่ยว ที่ไม่ต้องเช่ารถ แต่ยังไปเที่ยวได้หลายที่
เผื่อใครจะตามรอยก่อน (ส่วนนึงก่อนไปเราก็ได้ข้อมูลจากเพื่อนๆในพันทิปเนี่ยล่ะ)
เริ่มจาก สายการบืนพีชแอร์ ที่มีโปรไปกลับ 3,800 บาท
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่กล้าจอง เพราะชื่อเสียงสายการบินค่อนไปทางแย่เลยทีเดียว
มาตอนนี้ เห็นเพื่อนๆบินกัน ก็ไม่มีเท ไม่ดีเลย์อะไรเท่าไร ก็อุ่นใจขึ้น จองโล้ดด
(ปล. ทำประกันเดินทางแบบดีนิดนึง ให้ครอบคลุมเรื่องการเลื่อนบินต่างๆ)
วันที่1
8โมงเช้า เครื่องลงที่เมืองนาฮะ,โอกินาว่า สายการบิน Peach Aviation จะลงจอดที่อาคาร LCC ซึ่งอยู่คนละจุดกับ อาคารในประเทศ และ ต่างประเทศ ท่าอากาศยานนะฮะ พอลงเครื่องและเดินเข้าอาคาร LCC รับของ ผ่าน ตม. เดินมาตามทางเรื่อยๆ จนถึงจุดด้านหน้าอาคาร LCC จะมีรถบริการสำหรับไปที่ อาคาร ท่าอากาศยานนะฮะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-5 นาที
ลงมาจากเครื่อง ทุกคนก็ต่างหิว ให้เริ่มต้นมื้อแรกที่สนามบินเลย ขึ้นไปที่ชั้น4 มีร้านให้เลือกอยู่พอสมควร
กินอิ่มแล้ว ทุกคนจะได้อารมณ์ดี // อันนี้เป็นราเมงหมูสามชั้น ของกินขึ้นชื่อของที่นี่
ทานเสร็จแล้ว ก็นั่งรถไฟโมโนเรล จากสนามบิน เข้าตัวเมือง เพื่อไปฝากกระเป๋าที่ โรงแรมกัน
จขกท พักอยู่ใจกลางเมือง เอาสะดวกเวลาท่องเที่ยว แนะนำ โรงแรมนี้นะ สะดวกจริงๆ คืนล่ะ 2พันบาท เท่านั้น
โรงแรมมารุกิ (Hotel Maruki) จากสนามบิน นั่งรถไฟโมโนเรล ลงสถานี Kancho-mae แล้วเดินมาทางทิศเหนือเพียงแค่ 70 เมตร
เที่ยว หาดนามิโนะอุเอะและ ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ จากหน้าโรงแรม เดินประมาณ 20 นาทีไปตามเส้นทางมุ่งสู่ทะล
ศาลเจ้าดูเรียบง่าย มีเครื่องรางราคาไม่แพง ให้เลือกซื้อหากัน
อันนี้ชายหาด หาดนามิโนะอุเอะ ที่ปกติจะมีคนมาเล่นน้ำกัน แต่ช่วงที่ไปค่อนข้างหนาว อากาศประมาณ 10 องศา จึงไร้ผู้คน
ต่อจากที่นี้ ชาวคณะเริ่มเมื่อยขา อย่ากระนั้นเลย มากันตั้ง 4คน หารค่าแท๊กซี่ ก็ตกไม่กี่บาท
จึงโบกรถไปที่ต่อไปคือ ร้านราเมงชื่อดัง (จากโรงแรมไป1ป้ายรถไฟ)
Ramen Danbo Naha Makishi ที่ต้องต่อคิวยาวยาว ก็อร่อยใช้ได้
บ่าย3 ได้เวลาเช็คอิน เข้าโรงแรม ได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า จน5โมงเย็น
ก็ถึงช่วงไปเดินช้อปปิ่งที่ถนนคนเดิน ของที่นี้ ถนนโคคุไซโดริ Kokusaidori Street อยู่ติดกับโรงแรม
คึกคักดีแท้ เดินไปจนกลางทาง จนถึงร้านดองกี้ เราก็ปักหลัก 55555+
(จะบอกว่า อยู่ที่นั่น 3วัน เข้าร้านดองกี้ ทั้ง3วัน)
ซื้อของแร์ไอเทมช่วงนี้สุดสุด คือผ้าปิดจมูก เอากลับไปใช้ที่ไทย
ปิดท้ายคืนแรก ที่ร้านบุพเฟ่ปิ้งย่าง ร้านนี้ / อยู่ตรงข้าม ดองกี้
ของเยอะ เนื้อก็อร่อย ในราคาหัวล่ะ 600 บาท (ที่ญี่ปุ่นถือว่าถูกแล้ว)
เดี๋ยวมาต่อ
แชร์แผนการท่องเที่ยวโอกินาว่า ที่รวมทั้งเที่ยวเอง + ใช้ทัวร์ ... 3วัน2คืน บินพีชแอร์
เลยอยากแชร์แผนเที่ยว ที่ไม่ต้องเช่ารถ แต่ยังไปเที่ยวได้หลายที่
เผื่อใครจะตามรอยก่อน (ส่วนนึงก่อนไปเราก็ได้ข้อมูลจากเพื่อนๆในพันทิปเนี่ยล่ะ)
เริ่มจาก สายการบืนพีชแอร์ ที่มีโปรไปกลับ 3,800 บาท
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่กล้าจอง เพราะชื่อเสียงสายการบินค่อนไปทางแย่เลยทีเดียว
มาตอนนี้ เห็นเพื่อนๆบินกัน ก็ไม่มีเท ไม่ดีเลย์อะไรเท่าไร ก็อุ่นใจขึ้น จองโล้ดด
(ปล. ทำประกันเดินทางแบบดีนิดนึง ให้ครอบคลุมเรื่องการเลื่อนบินต่างๆ)
วันที่1
8โมงเช้า เครื่องลงที่เมืองนาฮะ,โอกินาว่า สายการบิน Peach Aviation จะลงจอดที่อาคาร LCC ซึ่งอยู่คนละจุดกับ อาคารในประเทศ และ ต่างประเทศ ท่าอากาศยานนะฮะ พอลงเครื่องและเดินเข้าอาคาร LCC รับของ ผ่าน ตม. เดินมาตามทางเรื่อยๆ จนถึงจุดด้านหน้าอาคาร LCC จะมีรถบริการสำหรับไปที่ อาคาร ท่าอากาศยานนะฮะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-5 นาที
ลงมาจากเครื่อง ทุกคนก็ต่างหิว ให้เริ่มต้นมื้อแรกที่สนามบินเลย ขึ้นไปที่ชั้น4 มีร้านให้เลือกอยู่พอสมควร
กินอิ่มแล้ว ทุกคนจะได้อารมณ์ดี // อันนี้เป็นราเมงหมูสามชั้น ของกินขึ้นชื่อของที่นี่
ทานเสร็จแล้ว ก็นั่งรถไฟโมโนเรล จากสนามบิน เข้าตัวเมือง เพื่อไปฝากกระเป๋าที่ โรงแรมกัน
จขกท พักอยู่ใจกลางเมือง เอาสะดวกเวลาท่องเที่ยว แนะนำ โรงแรมนี้นะ สะดวกจริงๆ คืนล่ะ 2พันบาท เท่านั้น
โรงแรมมารุกิ (Hotel Maruki) จากสนามบิน นั่งรถไฟโมโนเรล ลงสถานี Kancho-mae แล้วเดินมาทางทิศเหนือเพียงแค่ 70 เมตร
เที่ยว หาดนามิโนะอุเอะและ ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ จากหน้าโรงแรม เดินประมาณ 20 นาทีไปตามเส้นทางมุ่งสู่ทะล
ศาลเจ้าดูเรียบง่าย มีเครื่องรางราคาไม่แพง ให้เลือกซื้อหากัน
อันนี้ชายหาด หาดนามิโนะอุเอะ ที่ปกติจะมีคนมาเล่นน้ำกัน แต่ช่วงที่ไปค่อนข้างหนาว อากาศประมาณ 10 องศา จึงไร้ผู้คน
ต่อจากที่นี้ ชาวคณะเริ่มเมื่อยขา อย่ากระนั้นเลย มากันตั้ง 4คน หารค่าแท๊กซี่ ก็ตกไม่กี่บาท
จึงโบกรถไปที่ต่อไปคือ ร้านราเมงชื่อดัง (จากโรงแรมไป1ป้ายรถไฟ)
Ramen Danbo Naha Makishi ที่ต้องต่อคิวยาวยาว ก็อร่อยใช้ได้
บ่าย3 ได้เวลาเช็คอิน เข้าโรงแรม ได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า จน5โมงเย็น
ก็ถึงช่วงไปเดินช้อปปิ่งที่ถนนคนเดิน ของที่นี้ ถนนโคคุไซโดริ Kokusaidori Street อยู่ติดกับโรงแรม
คึกคักดีแท้ เดินไปจนกลางทาง จนถึงร้านดองกี้ เราก็ปักหลัก 55555+
(จะบอกว่า อยู่ที่นั่น 3วัน เข้าร้านดองกี้ ทั้ง3วัน)
ซื้อของแร์ไอเทมช่วงนี้สุดสุด คือผ้าปิดจมูก เอากลับไปใช้ที่ไทย
ปิดท้ายคืนแรก ที่ร้านบุพเฟ่ปิ้งย่าง ร้านนี้ / อยู่ตรงข้าม ดองกี้
ของเยอะ เนื้อก็อร่อย ในราคาหัวล่ะ 600 บาท (ที่ญี่ปุ่นถือว่าถูกแล้ว)
เดี๋ยวมาต่อ