[CR] Okinawa l ตามประสาคนชอบทะเล [จงเจอนี่]

ดอกไม้ Okinawa l ตามประสาคนชอบทะเล [จงเจอนี่] ดอกไม้


>>> ถ้าให้พูดถึงโอกินาว่า ที่นี่คือจุดหมายปลายทางในฝันเสมอมา แม้จะไปญี่ปุ่นมาหลายครั้ง หลายเมือง แต่ความอยากไปโอกินาว่า ก็ไม่เคยลดลงสักนิดเดียว แต่การเดินทางก็ยังไม่เอื้ออำนวยสักที (ทั้งราคา และเวลาบิน) จนพีชแอร์ มาเปิดเส้นทางบินตรง
กรุงเทพ-โอกินาว่า ทำให้ความฝันก็กลายเป็นจริง พอมาเจอโอกินาว่าของจริงมันยิ่งกว่าที่คิดไว้ซะอีก ภาพของน้ำทะเลสีฟ้าใสเป็นประกายที่เกิดจากการ กระทบกับแสงแดด เป็นภาพที่สวยงาม ความสวยของที่นี่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าน้ำทะเลที่อื่นที่มีชื่อเสียงสักนิด แต่ที่หลงรักที่นี่สุด ๆ คงเป็นเพราะมีอาหารญี่ปุ่นสด ๆ ให้กิน คงหาที่อื่นมาเทียบได้ยาก ทะเลก็สวย แถมมีการญี่ปุ่นให้กิน ที่นี่ที่เดียวแหละ เกาะโอกินาว่า


เป็นไงมาไง

   จุดเริ่มต้นของทริปนี้ คือ ราคาโปรโมชันจากพีชแอร์ หลังจากที่เพจ เพื่อนบอกโปร โพสต์ไป-กลับ กรุงเทพ-โอกินาว่า ราคา 2 พันบาท ถึงกับขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีก เอาหล่ะท่องกับตัวเองเลยว่า "ตรูต้องได้ราคานี้" แล้วก็จดจ้องที่หน้าเว็บสายการบินถึงเวลาเมื่อไหร่จัดการทันที ปรากฎว่าวันแรกคนแห่จองน่าจะเยอะตลาดวายภายในไม่ถึง 30 นาที จนสุดท้ายมาได้ในวันถัดมา การได้ตั๋วราคาโปรเทคนิคไม่มีอะไรมากเลยครับ

1) บัตรเครดิต ต้องมีวงเงินพร้อมจจ่ายได้ทันที
2) หู ตา ต้องไว เสพสื่อเยอะ ๆ ราคาโปรมาให้จองช่วงวันที่ เท่าไหร่ เวลากี่โมง ต้องแม่นครับ ไม่งั้นไม่ทันคนอื่น
3) ลงทะเบียนกับแว็บสายการบินไว้ก่อน พร้อมใส่ชื่อและรายละเอียดผู้ที่จะเดินทาง (การเสียเวลาพิมพ์ชื่อผู้โดยสารทำให้พลาดมาเยอะแล้ว)
4) เดินทางได้ทุกวัน ตั๋วราคาโปรโมชั่นที่ออกส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ได้ออกทุกวัน ส่วนมากจะออกมากลางสัปดาห์ด้วยซ้ำไป อย่างโปรฯ นี้ออกเฉพาะบินไปวันอังคาร - กลับวันพฤหัส ฉะนั้นต้องเป็นคนที่ว่างงาน หรือวันลาเหลือ ๆ หยุดได้ทุกเมื่อ
5) อิสระในการตัดสินใจของคนจอง ถ้าไปเองคนเดียว หรือกับแฟน ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าหลาย ๆ คนยิ่งทำให้ยากต่อการตัดสินใจ เพราะจะหาวันว่างตรงกัน มักไม่มีตั๋วโปรฯรอเราอยู่

สุดท้ายก็จองได้จนได้กับราคาสองคน รวมค่าตัดบัตรเท่ากับ 4,640 บาท เท่ากับ คนละ 2,320 บาท ไม่เคยฟินเท่านี้มาก่อนเลยจริง ๆ

แผนการเดินทาง

   เพื่อเป็นไกด์ไลน์ว่ากระทู้นี้จะทุกคนไปพบกับอะไรบ้าง จึงรวบรวมแผนการเดินทางของทริปนีในระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2560 ดังนี้

>>> วันแรก 3 ตุลาคม 2560  
           - American Village
           - กินอาหารทะเลสด ๆ ถูก ๆ ที่ Toya Fishing Port
           - ดูหน้าผางวงช้างที่ Cape Manzamo
           - แวะชิมขนมมันม่วงที่ร้านของฝาก
           - เล่นน้ำที่ Sesoko Beach, Sesoko Island

>>> วันที่สอง 4 ตุลาคม 2560
           - ชมมรดกโลกที่ Nakijin Castle
           - ดูฉลามวาฬที่ Okinawa Churaumi Aquarium
           - ฟินกับน้ำทะเลสีเขียวใสราวกับมรกตที่ Emarald Beach
           - นั่งเล่นชิลล์ ๆ ที่ on the beach  Cafe  ร้านลับในหาด Nakijin
           - Kouri Island เล่นน้ำที่หาด Kouri
           - กินซูชิ 100 เยนที่ Nago
           - เดินเล่นที่ Aeon Shopping Mall และ Mega Store (ห้างของดองกี้)

>>> วันสุดท้าย 5 ตุลาคม 2560
           - เช็คเอ้าท์จากโรงแรม
           - มุ่งหน้าสู่ Ikei Island เป้าหมายคือ Ikei Beach หาดชิค ๆ ที่ปลายเกาะ
           - ช็อปปิ้ง และหาของกินที่ Aeon Rycom Mall
           - เดินทางสู่สนามบิน

ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้


พร้อมแล้วเก็บกระเป๋าเดินทางตามมาเลยครับ เริ่มต้นกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ Peach Air จะเช็คอินที่แถว M

เครื่องออกตรงเวลาเผง 01.25 น. โดยจะถึงสนามบินนานาชาตินาฮะ เวลา 07.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง 30 นาที


- Welcome on Board -

Peach Air เป็นสายการบินต้นทุน (Low Cost) การบริการที่นอกเหนือจากการเดินทาง อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม โหลดสัมภาระ ฯลฯ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมทั้งสิ้น โดยสัมภาระที่ติดตัวขึ้นเครื่องทุกชิ้นรวมกันห้ามเกิน 10 กิโลกรัม

เบาะค่อนข้างนั่งได้สบาย ๆ เลย ไม่อึดอัด

เมนูอาหาร (Peach Deli) ->  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เวลา 07.55 น. กัปตันก็พาทุกคนมาถึงที่ท่าอากาศยานนานาชาตินาฮะ ตามกำหนดการการบิน อาคารโดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำจะใช้โกดังสินค้า ซึ่งปัจจุบันก็พัฒนาจนค่อนข้างที่จะมีความพร้อมพอสมควร ต่างไปจากที่เห็นในรีวิวช่วงต้น-กลางปี ที่ยังมีความสะเปะสะปะไปบ้าง ตอนนี้ภายในอาคารโดยสารถูกแบ่งเป็นอย่างดี ด่านแรกที่เข้ามาก็จะเจอกับ การตรวจคนเข้าเมืองที่มีอยู่หลายช่อง โชคดีที่ผมได้นั่งด้านหน้าเครื่องเลยทำให้ผ่าน ตม. อย่างรวดเร็ว ภายในอาคารมีเครื่องปรับอากาศทั้งอาคาร มีห้องน้ำอย่างดี เข้ามาถึงจะเจอเค้าเตอร์รถเช่า หากไม่ได้จองมาก็ติดต่อที่นี่ได้เลย

จากนั้นมารอรถที่จะพาเราไปที่อาคารผู้โดยสารหลัก จุดนี้เจ้าหน้าที่จะไม่ให้ออกไปนอกบริเวณอาคาร จนกว่ารถรับ-ส่ง จะมารับ

นั่งไปไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงแล้วครับ

พอถึงอาคารผู้โดยสารหลักก็สามารถที่จะเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ภายในเกาะ แต่ถ้าหากเช่ารถไว้ นั้นจะมีรถรับ-ส่ง ของบริษัทรถเช่ารออยู่ที่หน้าอาคารผู้โดยสาร

ส่วนผมเช่ารถไว้กับ Times Car Rental โดยจองผ่าน Rentalcar.com เพราะเห็นว่าได้ราคาถูกกว่าจองตรง ซึ่งราคา 3 วัน รับรถ 3 ต.ค. 09.00 น. - 5 ต.ค. 17.00 น. เท่ากับ 2,900 บาท หรือวันละ 1 พัน ก็ราคาพอ ๆ กับเช่าที่เมืองไทย เราเดินมาถึงก็สามารถแจ้งชื่อกับพนักงานได้เลย เค้าจะมีรายชื่อลูกค้าพร้อมเที่ยวบินพร้อมอยู่แล้ว

นั่งรถมาไม่ทัน 5 นาที ก็มาถึงที่ทำการของ Times Car Rental ใหญ่โตมาก ๆ ทีเดียว เข้าไปถึงก็ยื่นรหัสจองที่ Rentalcar.com ส่งมาให้ พร้อมพาสปอร์ต ใบขับขี่สากล ใบขับขี่ประเทศไทย เอกสารก็เท่านี้ครับ  วิธีการทำใบอนุญาตขับรถสากล -> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เจ้าหน้าที่ก็เริ่มทำการแนะนำวิธีการใช้รถ กฎจราจร เครื่องหมายจราจร การใช้แผนที่ GPS แม้แต่การเติมน้ำมัน พร้อมกับให้เอกสาร คู่มือชุดใหญ่ ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ โดยเฉพาะตัว Mapcode ของแต่ละสถานที่ซึ่งผมว่ามันดีกว่าการใส่ข้อมูลอื่นมาก ๆ เลยค่อนข้างชัดเจนสุด

และนี่คือ "เจ้าทะเล" เพื่อนผมที่โอกินาว่า เครื่องยนต์ 1200 cc ขับที่นี่ไม่ต้องการรถแรงเลยครับถนนในเมืองห้ามขับเกิน 60 กม./ชม. บนทางด่วนได้ 80 กม./ชม.
ชื่อสินค้า:   okinawa 3 วัน 2 คืน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่