ความดิดนี้ได้มาตอนนั่งในห้องน้ำ แล้วว่างๆเลย จินตนาการว่าตัวเองเป็น ciws โดยถือสายฉีดตูดในมือ ไล่ฉีดยุงที่บินผ่านไปมา แล้วก็ปิ้งไอเดียขึ้นมาอย่างหนึ่ง เข้าเรื่องเลยละกันถ้าควอนตั้มคู่มีการแสดงออกทีเหมือนกันในทันทีทันใด ทำให้เราส่งข้อมูลข้ามจัรวาลได้ เราก็น่าจะส่งพลังงานข้ามจักรวาลได้เช่นกัน โดยที่ั่ด้านหนึ่งก็ใส่พลังงานไปในควอนตั้มให้สั่นเร็วขึ้น แล้วพอควอนนตั้มอีกตัวสั่นตามเราก็จับการสั่นแล้วดึงพลังงานออกมาใช้ พอดึงพลังงานออกมาควอนตั้มก็สั่นน้อยลง ทำให้ไม่ขัดกฎอนุรักษ์พลังงานตามความคิดผมก็มีแตกออกไปอีกว่าถ้าเราทำได้มันก็มีประโยชน์เช่นเราก็สามารถส่งพลังงานให้ยานอวกาศเคลื่อนที่หรือใช้ทำกิจกรรอื่นๆได้ตลอดได้โดยที่เราผลิตพลังงานบนโลกแล้วส่งให้ยายด้วยวิธีนี้ยานก็ไม่ต้องแบกเชื้อเพลิงหรือพลังงานไปเองซึงมีขีดจำกัดด้านปริมาณและน้ำหนัก และพอผมล้างตูดก็มีไอเดียอีกอันโผลมาว่าถ้าเราส่งพลังงานได้ทำไมเราจะส่งวัตถุไม่ได้ละ ถ้านำไปประยุกกับระบบส่งข้อมูล แหละเทคโนโลยี่ที่สสามารถเปลี่ยนพลังงานเป็นสสารกลับไปกลับมาได้ร้อยเปอร์เซน เราก็จะได้เลื่อนเคลื่อนย้ายมวลสารที่ไม่ติดกับกรอบของความเร็วแสงแบบการเทเลยพอร์ต โดยวิธีการคือก่อนอืนเราก็แสกนวัตถุนั้นๆแปลงเป็นข้อมมูลแล้วส่งข้อมูลไปให้อีกฝั่งจากนั้นเราสลายมวลสารด้วยปฎิสสารให้กลายเป็นพลังงานจากนั้นก็ส่งพลังงานไปอีกฝั่งพออีกฝักได้รับพลังงานมาก็เปลี่ยนกลับเป็นสสารและปฎิสสาร แล้วนำสสารมาใช้ร่วมกับข้อมูลที่ไแด้มาตอนแรกก็ประกอบกลับเป็นอย่างเดิม ส่วนปฎิสสารก็เก็บไว้ใช้เวลาต้องการจะส่งวัตถุกลับมาแต่พอเดินออกจากห้องน้ำผมก็ฉุดคิดได้ว่าถ้าเราใช้วิธีนี้ส่งวัตุถุไปชั้นบรรยากาศแล้วปล่อยให้มันตกลงมาแล้วเราเก็บพลังงานจากการตกลงมา พอถึงพื้นโลกเร่าก็ส่งมันขันไปใหม่แล้วแบบนี้ไม่เท่ากับว่ามันขัดกฏอนุรักษ์พลังงานงั้นหรอ ผมเลยคิดว่าต้องมีจุดที่พลังงานออกไปซักที่เช่นการทำใหื้ควอนตั้มสั่นในแรงโน้มถ่วงยจะต้องใช้พลังานมากกว่าทำให้พลังงานหายไปทำให้พลังงานที่อีกฝังได้รับน้อยกว่าที่อีกฝั่งใส่เข้าไปตอนนี้หรือว่าจะมีตรงอื่นอีกผมก็ไมทราบ
ขอจบการจินตนาการของผมเท่านี้ครับ
ทฤษฎีการเคลื้อนย้ายด้วยความเร็วมากกว่าแสงแบบนี้พอเป็นไปได้ไหมครับ
ขอจบการจินตนาการของผมเท่านี้ครับ