คือ ต้องบอกว่าสมัยตอนผมเรียนม.ปลายเป็นคนอ้วนหน้าแย่มากครับ ไม่ค่อยมีเพื่อนฝูงมักถูกกีดกันครับ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงครับเพราะหน้าตาผมค่อนข้างแย่และน่ากลัวครับจะถูกแซวแขวะอยู่เสมอครับ จึงทำให้มีปมไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ผู้หญิงอยู่แล้วครับ ถ้าจำเป็นต้องพูดคุยหรือสอบถามงานจริงๆ ก็จะเกรงๆ ประหม่าๆหน่อยๆ ทำให้อีกฝ่ายรู้สึงระแวงและกลัวผมครับ
ระหว่างช่วงม.6 ชวงเทอมสุดท้ายผมตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จึงเริ่มออกกำลังกายและควบคุมอาหาร รวมถึงเริ่มดูแลตัวเองมากขึ้นด้วยครับ ซึ่งผมก็สามารถลดน้ำหนักและเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ ครับ ผมน้ำหนักลดจาก 88 กก. เป็น 62 กก. และเริ่มฝึกทักษะการพูดคุยตามใน Youtube และฝึกทักษะการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนอื่นโดยไปทำงานพาทไทม์ที่ 7-11 ครับ พอผมเข้าเรียนมหาลัยปี 1 ผมก็เข้ารับการรับน้องครับ ก็จะมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้ทำครับ ซึ่งถ้าเป็นผมสมัยก่อนจะไม่กล้าแสดงออกเป็นขี้อายมากๆ ครับ แต่เนื่องจากผมตั้งใจที่เปลี่ยนตัวเองมากๆครับ จึงออกไปเต้นแร้งเต้นกาตามคนอื่นจนได้เพื่อนและแฟนคนแรกมาครับ
ช่วงที่ผมคุยกับแฟนช่วงแรกๆ ผมก็กล้าๆกลัวๆหลายอย่างครับ ก่อนที่จะคบกัน ผมบอกกับแฟนว่าไม่เคยมีแฟนมาก่อนนะ แถมยังต้องทำงานพาทไทม์ตลอดไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวด้วย(ผมอยู่ตัวคนเดียวครับ ต้องส่งตัวเองเรียน เนื่องจากพ่อแม่เสียช่วงต้นเทอมม.6) ซึ่งแฟนก็บอกโอเคเข้าใจครับ ผมและแฟนคบกันได้ประมาน 5 เดือน เพื่อนผมก็บอกว่าเห็นแฟนไปเดินเที่ยวกับคนอื่นแถมจับมือกัน ตอนแรกผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เลยไปถามแฟนว่าไปเที่ยวมาหรอ ไปกับใคร แฟนผมก็บอกว่าไปกับเพื่อนที่เป็นตุ๊ด ด้วยความที่ว่าไม่อยากทะเลาะกันด้วย ผมจึงเชื่อครับ จนมีอยู่วันนึงผมแอบโดดงานขี้เกียจโทรไปลาบอกว่าที่มหาลัยมีกิจกรรม แต่จริงๆแล้วกะจะแอบไปหาแฟนที่ห้องแฟน
พอผมไปถึงห้องแฟนห้องก็ล็อคอยู่ผมจึงไขกุญแจเข้าไป(ผมมีกุญแจสำรองห้องแฟน แฟนให้เอาไว้) ปรากฎว่าเจอแฟนนอนกับผู้ชายอีกคน คือตอนนั้นแบบผมโครตเฟลอะ คือ ด้วยอาจที่ผมรักแฟนคนนี้มากไม่ได้เผื่อใจเรื่องพวกนี้ไว้ วันนั้นผมเลยถามแฟนไปว่า เห้ย ทำไมทำงี้วะ แฟนก็ตอบมาว่า ก็แกไม่ค่อยมีเวลาให้เราอะ ทำแต่งานเวลาก็ไม่ค่อยตรงกัน เราก็เบื่อนะเว้ย ตอนนั้นผมสตั้นมากคือมามองที่ตัวเองก็จริงอย่างแฟนบอก (คือปกติเวลาผมเรียนเสร็จก็จะไปทำงานเลย คือทำกะบ่ายยาวยันมืดกลับมาอีกทีก็ประมานเกือบเที่ยงคืนแล้วบวกกับความเหนื่อยล้าจากงานและเรียน ผมก็จะนอนเลยอาจจะโทรไปคุยกับแฟนบ้างถ้ายังรู้สึกไม่ง่วง แต่ก็จะมีเวลาเจอกันน้อยมากจริงๆ) แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้คุยกับอีกเลยบางครั้งเจอหน้ากันถ้าผมเห็นก่อนก็จะพยายามหาทางเลี่ยงเดินหนีไปอีกทาง
หลังจากเหตุการณ์นี้ผมก็กลัวมาตลอด กลัวการพูดคุยกับผู้หญิงกลัวการที่จะต้องเชื่อใจใครสักคนกลัวการเริ่มต้นสิ่งต่างๆ และทุกครั้งที่มีผู้หญิงคนใหม่พยายามจะทักมาคุยผมก็จะปิดกั้นตัวเองและบอกตัวเองว่าตัวผมตอนนี้ยังไม่สามารถดูแลใครได้ ไม่สามารถแบ่งเวลาให้คนที่ผมรักได้ ไม่สามารถมีเงินที่จะพาคนรักไปเที่ยวได้เหมือนคนอื่นได้ พอผ่านไปนานๆ เข้าผมก็เริ่มชินและตายด้านกับเรื่องความรักครับ แต่ก็ยังรู้สึกกลัวและประหม่าทุกครั้งที่คุยกับเพื่อนผู้หญิง ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนผู้หญิงคนนั้น ปล.ผมยังรู้สึกชอบผู้หญิงอยู่นะครับแต่ว่าถ้าให้คบจริงๆผมไม่กล้าคบครับ
เป็นโรคกลัวผู้หญิงครับทำไงดี
ระหว่างช่วงม.6 ชวงเทอมสุดท้ายผมตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จึงเริ่มออกกำลังกายและควบคุมอาหาร รวมถึงเริ่มดูแลตัวเองมากขึ้นด้วยครับ ซึ่งผมก็สามารถลดน้ำหนักและเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ ครับ ผมน้ำหนักลดจาก 88 กก. เป็น 62 กก. และเริ่มฝึกทักษะการพูดคุยตามใน Youtube และฝึกทักษะการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนอื่นโดยไปทำงานพาทไทม์ที่ 7-11 ครับ พอผมเข้าเรียนมหาลัยปี 1 ผมก็เข้ารับการรับน้องครับ ก็จะมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้ทำครับ ซึ่งถ้าเป็นผมสมัยก่อนจะไม่กล้าแสดงออกเป็นขี้อายมากๆ ครับ แต่เนื่องจากผมตั้งใจที่เปลี่ยนตัวเองมากๆครับ จึงออกไปเต้นแร้งเต้นกาตามคนอื่นจนได้เพื่อนและแฟนคนแรกมาครับ
ช่วงที่ผมคุยกับแฟนช่วงแรกๆ ผมก็กล้าๆกลัวๆหลายอย่างครับ ก่อนที่จะคบกัน ผมบอกกับแฟนว่าไม่เคยมีแฟนมาก่อนนะ แถมยังต้องทำงานพาทไทม์ตลอดไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวด้วย(ผมอยู่ตัวคนเดียวครับ ต้องส่งตัวเองเรียน เนื่องจากพ่อแม่เสียช่วงต้นเทอมม.6) ซึ่งแฟนก็บอกโอเคเข้าใจครับ ผมและแฟนคบกันได้ประมาน 5 เดือน เพื่อนผมก็บอกว่าเห็นแฟนไปเดินเที่ยวกับคนอื่นแถมจับมือกัน ตอนแรกผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เลยไปถามแฟนว่าไปเที่ยวมาหรอ ไปกับใคร แฟนผมก็บอกว่าไปกับเพื่อนที่เป็นตุ๊ด ด้วยความที่ว่าไม่อยากทะเลาะกันด้วย ผมจึงเชื่อครับ จนมีอยู่วันนึงผมแอบโดดงานขี้เกียจโทรไปลาบอกว่าที่มหาลัยมีกิจกรรม แต่จริงๆแล้วกะจะแอบไปหาแฟนที่ห้องแฟน
พอผมไปถึงห้องแฟนห้องก็ล็อคอยู่ผมจึงไขกุญแจเข้าไป(ผมมีกุญแจสำรองห้องแฟน แฟนให้เอาไว้) ปรากฎว่าเจอแฟนนอนกับผู้ชายอีกคน คือตอนนั้นแบบผมโครตเฟลอะ คือ ด้วยอาจที่ผมรักแฟนคนนี้มากไม่ได้เผื่อใจเรื่องพวกนี้ไว้ วันนั้นผมเลยถามแฟนไปว่า เห้ย ทำไมทำงี้วะ แฟนก็ตอบมาว่า ก็แกไม่ค่อยมีเวลาให้เราอะ ทำแต่งานเวลาก็ไม่ค่อยตรงกัน เราก็เบื่อนะเว้ย ตอนนั้นผมสตั้นมากคือมามองที่ตัวเองก็จริงอย่างแฟนบอก (คือปกติเวลาผมเรียนเสร็จก็จะไปทำงานเลย คือทำกะบ่ายยาวยันมืดกลับมาอีกทีก็ประมานเกือบเที่ยงคืนแล้วบวกกับความเหนื่อยล้าจากงานและเรียน ผมก็จะนอนเลยอาจจะโทรไปคุยกับแฟนบ้างถ้ายังรู้สึกไม่ง่วง แต่ก็จะมีเวลาเจอกันน้อยมากจริงๆ) แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้คุยกับอีกเลยบางครั้งเจอหน้ากันถ้าผมเห็นก่อนก็จะพยายามหาทางเลี่ยงเดินหนีไปอีกทาง
หลังจากเหตุการณ์นี้ผมก็กลัวมาตลอด กลัวการพูดคุยกับผู้หญิงกลัวการที่จะต้องเชื่อใจใครสักคนกลัวการเริ่มต้นสิ่งต่างๆ และทุกครั้งที่มีผู้หญิงคนใหม่พยายามจะทักมาคุยผมก็จะปิดกั้นตัวเองและบอกตัวเองว่าตัวผมตอนนี้ยังไม่สามารถดูแลใครได้ ไม่สามารถแบ่งเวลาให้คนที่ผมรักได้ ไม่สามารถมีเงินที่จะพาคนรักไปเที่ยวได้เหมือนคนอื่นได้ พอผ่านไปนานๆ เข้าผมก็เริ่มชินและตายด้านกับเรื่องความรักครับ แต่ก็ยังรู้สึกกลัวและประหม่าทุกครั้งที่คุยกับเพื่อนผู้หญิง ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนผู้หญิงคนนั้น ปล.ผมยังรู้สึกชอบผู้หญิงอยู่นะครับแต่ว่าถ้าให้คบจริงๆผมไม่กล้าคบครับ