"อย่ารักฉันได้ไหม" ขอทางออกสำหรับปัญหานี้จากใครก็ได้

สวัสดีเพื่อนๆ ตอนนี้เราประสบปัญหาทีหลายคนอาจมองว่ามันง่ายจะตายไป ปัญหาที่เรากำลัง
จมอยู่เป็นปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ เรื่องของมิตรภาพ ที่เราไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกิดขึ้น แต่อยู่ๆ
มันก็ได้เข้ามาหาเราโดยไม่ได้ตั้งตัว เราไม่สามารถหาทางออกให้กับตัวเองได้เลยในแต่ละวัน
เราจริงจังกับทุกเรื่อง เราจมอยู่กับมัน เราไปไหนต่อไม่ได้

* เราต้องขออภัยด้วยถ้าบางคำมันมีความเกี่ยวข้องกับบางสิ่งหรือบางคน

มันเป็นเรื่องราวของเกมเมอร์ อาจดูไร้สาระในสายตาหลายๆคน แต่ไม่ว่ายังไงเราก็ยังอยากได้
คำแนะนำและหาทางออกสำหรับมันให้ผ่านไปได้

เรื่องมีอยู่ว่า เราเป็นคนที่ใช้ชีวิตในโลกส่วนตัวมาโดยตลอด เรามักอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวมากกว่าที่
อื่นๆ เรามีหลายสิ่งที่ทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อ หนึ่งในนั้นก็คือการเล่นเกม เราเล่นเกมบนสตีม เราไม่
แชทข้อความ ไม่อะไรถ้าไม่จำเป็น จะเล่นอย่างเดียว หรือระหว่างเล่นในเกมก็มีตะโกนผ่านไมค์
ไปบ้าง แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็มีคนคนหนึ่ง เพิ่มเพื่อนเรามา จาก 49 กลายเป็น 50 คนที่มีในลิสต์

ก็ตามปกติ เพิ่มมากก็มีทักมาคุยบ้างไม่คุยบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้คุยหรอก แค่เอาไว้เข้าร่วมเกม
ด้วยกันแค่นั้นเอง แต่หลังจากคนที่ว่านั้นเพิ่มเพื่อนเรามา เขาก็ทักมาหาเรา หลายๆคนถ้าเล่นเกม
จะรู้ว่าถ้าเราเล่นอยู่แล้วมีคนทักข้อความมาแล้วเราต้องสลับหน้ามาตอบมันจะทำให้เราเสียสมาธิ
ซึ่งเราก็เป็นอาการนั้นแหละ ก็นอยด์บ้างแต่ก็ตอบไปเรื่อยๆ

เขาทักมาหาเราว่ามาจากไหน ชอบเล่นเกมสยองขวัญใช่ไหม คุยกันมาเรื่อยๆ แต่เราไม่ค่อยได้
เล่นเกมกับเขาเท่าไร เพราะเกมที่เขากับเราชอบมันแท่บจะต่างกัน มีแค่บางเกมที่คล้ายกัน พอจะ
เล่นด้วยกันได้

เขามาจากมาเลเซีย เราเพิ่งรู้ เป็นมุสลิม เป็นผู้ชาย แรกๆที่เราคุยกันระหว่างเล่นเกมไปด้วยก็ไม่ได้
คุยมากมายอะไร แบบเหมือนคนเจอหน้ากันแล้วก็ทักๆแล้วก็ไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบนั่นแหละ เขาก็
บอกกับเราว่า วันนั้นเขาไม่สบาย เป็นหวัดนิดหน่อย เราก็บอกให้ดูแลตัวเองให้ดี จะได้หายไวๆและ
จากการที่เราคุยกันมาเรื่อยๆ มันทำให้เขามองว่าชีวิตเรานั้นเป็นชีวิตที่มีความสุข เขาคิดว่าชีวิตของ
เราดีกว่าเขา เขาบอกว่าตัวเขาเองไม่มีความสุขเท่าไร เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่พอเราได้เห็นแบบ
นั้น เราก็คิดทันทีว่า นี่แหละ ฉันจะเป็นคนทำให้แกสนุกกับชีวิตในทุกๆวัน จะเล่นเกมด้วยกันให้สนุก
จนลืมทุกอย่างไปเลย ซึ่ง มันก็เป็นตามนั้นแหละ จากความแตกต่างก็กลายเป็นความคล้าย หรือจะเป็น
ความแตกต่างที่เข้ากันได้ แม้จะไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น

หลายๆเกมที่เราไม่เคยมี เราก็มีเขาก็มี ต่างคนต่างหาสิ่งที่จะทำให้เราได้ทำกิจกรรมร่วมกัน มันเป็น
แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เรามาสังเกตดูว่าเวลาเกือบทั้งหมดที่มีบนสตีม เราใช้ไปกับใครบ้าง ซึ่งก็มีแต่
กับเขา จากชีวิตที่มีแต่ความเงียบงันมาตลอด ที่อยู่แต่ในพื้นที่สงบ ตอนนี้มันกลายเป็นพื้นที่ที่มีสีสัน
ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ มันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ทุกสนุก ทั้งทุกข์ ตื่นเต้น ดีใจ ฯ

เขาเองก็มีชีวิตชีวามากขึ้น แล้วอยู่มาวันหนึ่งเราก็รู้สึกได้ว่าหลายๆอย่างจากที่เคยเป็นมันเปลี่ยนไป
เรารู้สึกว่า เขากำลังทะลายกำแพงของความสัมพันธ์ในแบบเพื่อนออกไป ให้มันกลายเป็นในแบบอื่น
เพราะทุกคำพูด ทุกอาการที่เราสัมผัสได้ มันไม่เหมือนอย่างที่เคยเป็น เขายังเคยชวนเราไปดูการแข่ง-
ขันฟุตบอลที่สนามเลย อยากให้เราไปดูเป็นเพื่อน ซึ่งนั่นมันคือสิ่งที่ทำให้เราคิดแค่ว่า ส่วนใหญ่เพื่อน
ก็มักจะชวนกันไปดูบอลตามปกติแบบนี้ เราไม่เคยคิดอะไรไปมากกว่านั้น แต่การกระทำอื่นๆของเขา
มันฟ้อง

จนนานวันเข้า ไม่ว่าเราจะทำอะไรแม้แต่นิดเดียวที่มันอาจจะทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจ เขาก็มักจะแสดง
ออกมา แต่แรกๆเขาก็ไม่ค่อยแสดงอะไรมากเท่านี้ เพราะเขากลัวว่าเราจะรำคาญ ไม่ค่อยกล้าทักมาก่อน
จนเราต้องทักไปก่อนนั่นแหละ เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เขาเจ็บปวดก็มีหลายเรื่อง เช่น เราตอบข้อความ
ช้า จากปกติเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เขามักจะบอกว่า เขารู้สึกเศร้าที่เราทำแบบนั้น ทำเหมือนว่าเขา
เป็นคนที่ตายไปแล้ว ส่งข้อความไปหาแต่เรากลับไม่สนใจจะตอบ และมันก็หนักมากขึ้นๆจนเราปรับตัว
ไม่ทัน ตอนนั้นเรายังไม่เข้าใจว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่เพราะเราก็เป็นของเราแบบนั้นมาตลอดที่
อยู่กับเขา มีแต่เขาที่เปลี่ยนไป เราก็มีทะเลาะกันบ่อยนะ ทุกข์ใจกันข้ามวันเลยก็มี เราเฝ้าสงสัยมาตลอด
ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาต้องการอะไร จนถามไป เขาบอกว่า เขาต้องการความรัก เขาขาดความรัก เขาก็
บอกว่า ขอได้ไหม เราก็บอกไปว่า ได้ ความรักแบบเพื่อนมีให้เสมอ ไม่อยากให้กังวลอะไร ก็ดูเขาจะรู้สึก
ดีขึ้น แต่ก็ยังคงมีปัญหาทะเลาะกันอีกในเรื่องแบบเดิมๆ พอเราไปเล่นกับคนนู้นคนนี้ในเกม แชทกันบ้าง
อะไรบ้างก็เกิดอาการนอยด์ใส่เราบ้าง ออนไลน์แต่เงียบไม่ยอมคุย จนเราถามแล้วเขาก็บอกว่ามันเป็น
เพราะอะไร นั่นแหละ เราถึงได้รู้ เรามีปัญหาจนถึงขั้นที่เราจะไม่ทนแล้ว เราขอจบมิตรภาพระหว่างเรากับ
เขา ซึ่งเขาก็ขอร้องอย่างหนักว่าอย่าไปจากเขาเลย เขาอ้อนวอนมากมายด้วยคำพูดและอาการต่างๆ

แต่เราก็มือไว ใจไว กดลบเพื่อนออกไปจนได้แต่เราลืมไปว่า เรายังเป็นเพื่อนกันในเอฟบี เราลืมลบออก
เขาก็ทักมาหลังจากที่รู้ว่าเราลบเพื่อนเขาออกจากสตีมไปแล้ว เราก็เลยได้โอกาสอธิบายว่าทำไมมัน
ถึงเป็นแบบนั้นและเราก็จบท้ายด้วยการขอจบมิตรภาพระหว่างเรากับเขาไว้แค่นี้ ตอนนั้นเราเลิกคุยกับเขา
ไปหลายวัน แต่ก็เห็นได้ว่าเขามีอาการกระวนกระวาย โพสต์สิ่งต่างๆที่ไม่เคยโพสต์ ซึ่งเรารู้ว่ามันสื่อมาถึง
เราโดยตรง เรารู้สึกผิดสุดๆ จนเรารู้สึกว่าเราต้องขอโทษ เพราะเราลืมไปว่า ความตั้งใจแรกที่เราได้คุยกับ
เขา ตอนที่เขาเพิ่มเพื่อนเรามาบนสตีมก็คือ เราอยากทำให้เขาสนุกได้ในทุกๆวันกับการเล่นเกมและทำสิ่ง
ที่มันสนุกไปด้วยกัน เราลืมไปเลย เราก็เลยเข้าไปขอโทษและคุยเพื่อปรับความเข้าใจ

เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น และเรารับรู้มาว่า เขาพยายามทำใจให้ลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าจะทำยังไง
เขาก็ทำไม่ได้ เขาบอกว่า เราเข้าไปเล่นอยู่ในหัวเขาตลอดเวลา แม้แต่ยามนอนเราก็ยังเข้าไปอยู่ในฝันของเขา
เขาไม่สามารถหยุดคิดเรื่องเหล่านี้ได้เลยแม้แต่นาทีเดียว เราเองก็รู้สึกแปลกเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือคุยกัน
เวลาเล่นเกม เขายังถามเราว่า เราไม่รู้สึกแปลกเลยเหรอ เวลาที่เราต่างไม่เจอกัน

เขาบอกว่า อย่าไปจากเขาได้ไหม เราคือทุกอย่างในชีวิตเขาแล้ว เพราะชีวิตที่ผ่านมา ไม่มีใครที่สามารถอยู่กับเขา
ได้ขนาดนี้ ไม่มีใครอยู่กับเขาในจนกระทั่งเช้าของวันใหม่ หลายคนที่ผ่านมาไม่มีใครพิเศษเหมือนเรา เพราะที่ผ่านมา
ชีวิตของเขาต้องจบความสัมพันลงเพราะตัวเองไม่มีเวลาให้ใคร เกมเมอร์อย่างเขาที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับสิ่งที่ชอบ
จะไปหาใครที่จะเข้าใจได้

ซึ่งตอนนี้ดูเขาจริงจังมากขึ้น เราก็บอกไปว่าเรายอมรับรักจากเขาไม่ได้หรอก เขาก็ถามว่าทำไม เขาขอร้องให้เรายอม
รับมันสักทีได้ไหม เขาไม่ไหวแล้ว เพื่อนๆรู้ไหมว่าเราร้องไห้ทุกครั้งที่เขาพูดแบบนั้น เราร้องอยู่คนเดียว เพราะเรากำลัง
รู้สึกว่า เรากำลังทำร้ายเขาอยู่หรือเปล่า เขากำลังมาเสียเวลากับคนอย่างเราอยู่หรือเปล่า เราเคยบอกเขาไปว่าอย่ามา
คาดหวังอะไรกับคนที่อาจไม่ได้มีตัวตนจริงอยู่เลย เขาก็บอกว่าเขาไม่แคร์เพราะเขาต้องการตักตวงความสุขให้ได้มาก
ที่สุดเท่าที่จะทำได้ แค่การโกหกนิดน้อยเพื่อให้เขามีความสุขเขาก็ยอม จะโกหกว่ารักเขาก็ได้ ขอให้มันเป็นอยู่อย่างนี้
เราเคยถามเขาเพื่อบอกเขาเป็นนัยๆว่า ถ้าให้เขาเลือกระหว่างเป็นท้องฟ้ากับทะเล จะเลือกอะไร เขาก็เลือกเป็นท้องฟ้า
เพราะจะได้โอบอุ้มและสามารถมองเราได้จากตรงนั้น ส่วนเราเลือกทะเล แม้แต่สิ่งที่เราเลือกยังต่างกันเลย เราบอกเขา
ไปว่าว่า เราต่างกัน ให้ลองมองไปที่ภาพแล้วคิดดูว่าท้องฟ้ากับทะเลดูเหมือนจะใกล้กัน แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันไม่เคย
มาบรรจบกันเลยสักครั้งเดียว มันไม่สามารถไปด้วยกันได้

ตอนนี้เราเจ็บมาก เรื่องราวเหล่านี้หลอกหลอนในหัวเราทุกนาที เราเฝ้าแต่หาทางออก ไม่ใช่เราไม่รู้สึกอะไรนะ เพียงแต่
เราจะไปรักกับเขาได้ยังไงในเมื่อเราเองก็เป็นผู้ชาย เราไม่ใช่ผู้หญิง เราไม่อยากทำร้ายจิตใจใคร แม้แต่เขาด้วยก็ตาม
เราอยากเดินออกมาจากเขาอย่างเงียบๆ ทิ้งให้ทุกอย่างมันกองอยู่ตรงนั้นในแบบที่มันควรจะเป็น พอพิมพ์มาถึงตรงนี้เรา
ก็ไม่สามารถที่จะหยุดร้องไห้ได้ ถ้าใครอยากเข้าใจว่ามันเป็นยังไง ลองฟังเพลง Skylar Grey - Everything I Need ดู
นั่นคือสิ่งที่เขาบอกเราทั้งหมด ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้ มันสะท้อนทุกสิ่งที่เขารู้สึกและต้องการเขามาที่หัวใจเรา เราจะร้อง-
ไห้ตลอด ถ้าความรักไม่ถูกจัดการด้วยเรื่องของเพศ เราอาจทำได้ดีกว่านี้แล้ว

เพื่อนๆอาจสงสัยว่าทำไมที่คุยกันมาตลอด เขาไม่ถามอะไรเราเลยเหรอ คำตอบคือ เขาไม่ถามอะไรเลย ไม่ขอดูหรือรู้
ข้อมูลส่วนตัวอะไรเลย เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาไปเอาความเข้าใจนั้นมาจากไหนว่าเราเป็นชายหรือหญิง ถ้าจะเป็นคนรักก็คง
เป็นแค่ "คนรักที่ไม่รู้จักกัน" คำนี้น่าจะเปรียบเทียบได้ดีที่สุดแล้ว

โดยพื้นฐานเราไม่อยากทำร้ายจิตใจใคร อะไรที่มันเกิดขึ้นเราจะไม่พยายามแก้ไข แต่เราจะพยายามทำตามที่มันเป็นไป
จนถึงจุดหมาย นั่นก็คงเป็นสาเหตุที่เราไม่เคยทำอะไรเลยให้มันชัดเจน และที่ผ่านมาเราคิดว่าโลกเสมือนจริงมันไม่มีทาง
เป็นจริงและไม่มีความยั่งยืน แต่เราคิดผิดมาก เพราะมันกำลังอยากจะกลายมาเป็นเรื่องจริงในชีวิตเรา ถ้าเราคิดแก้ไขหรือ
แสดงความชัดเจน มันคงไม่เลยเถิดมาถึงขนาดนี้

เราควรทำอย่างไรดี เพื่อนๆได้โปรดแนะนำทางออกให้เราได้ไหม ใครก็ได้ และได้โปรดอย่าด่าหรือตอกย้ำเราเลยนะเพราะ
ตอนนี้เรารู้สึกบอบช้ำ ถึงแม้มันจะเกิดขึ้นจากความห่วยของตัวเราเอง แต่เราก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่