[CR] Winter Kansai 2019 เที่ยวไปเรื่อยเรื่อย เราไม่เมื่อยเราไม่เหนื่อย 7วันเต็ม Kyoto-Hyogo-Hiroshima-Osaka {งบ 35k}

เที่ยวต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกกก 7 วัน 7คืน  
เกียวโต: วัดเซนสวนปาไผ่ แสงสุดท้ายจากวัดบนเขา เส้นทางศึกษาธรรมชาติทางมังกร หนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (1)
มรดกโลกสมบัติชาติปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดยืนยงและไร้พ่าย สะพานแขวนที่ยาวที่สุดหลังฝนตก แสงสีที่ริมอ่าว
เมืองแห่งความเงียบรถบัสผีหลอก ไข่ออนเซ็นที่แท้ทรู โอบันยากิอร่อยมากกก
หนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (2) กวางน้อยบนเกาะ
พิพิธภัณฑ์แห่งบทเรียน ทำความรู้จักกับอาวุธที่ไม่เพียงทำลายอดีต ปัจจุบัน และยังส่งต่อไปสู่อนาคต
1st time ชินคันเซ็นครั้งแรกกกก โอซาก้าครั้งแรก ออนเซ็นครั้งแรก กินช็อปชม นอนสนามบินก็สบายดีนะ  


***ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ประสบพบมา เป็นมุมมองส่วนตัวผิดพลาดประการใดขออภัยมาทีนี้ด้วย***
      ****บรรยายยืดยาวใครไม่ชอบข้ามไปท้ายสุดจะลงรายละเอียด-คชจไว้นะคะ****


          ปีที่แล้วเพิ่งเคยไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตกับเพื่อนสองคน ไปโตเกียวและใกล้เคียงเป็นการเปิดประสบการณ์เที่ยวด้วยตัวเอง พบว่าไม่ยาก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ความฝันไม่ได้หยุดแค่ไปเยี่ยมเยือนภูเขาไฟฟูจิ คันไซก็เป็นหนึ่งในความตั้งใจว่าจะต้องไปให้ได้ แต่ก็ไม่คิดว่าทริปต่อมาจะเร็วขนาดนี้....
          เมื่อเห็นโปรบินถูก ก็เข้าไปลองเล่นๆ ว่ามันจะมีราคานั้นมั้ยนะ พอได้ปุ๊บถามว่าไปมั้ยยย มารตอบเลยไปปปป ถึงจะแอบป็อดๆ นิดนึงว่าไปคนเดียวก็เถอะราคาโปรมีในช่วงใบไม้แดงด้วย แต่เสียดายเป็นช่วงที่ลาไปไม่ได้ เลยไปได้ช่วงโลวซีซั่นแทน

ได้ตั๋วแล้ว มีเวลา 7 วันลงสนามคันไซ ไปไหนดีคะ วางแพลนให้หน่อยค่ะ ไปครั้งแรกค่ะ


คำตอบของคำถามสำหรับคนที่อยากไปอยู่แล้วตอบไม่ยาก มีเป้าหมายแล้ววิธีการจะตามมา

      สำหรับเราหนึ่งเมืองที่อยากไปมานาน กับเหตุการณ์ที่ประวัติศาสตร์โลกต้องจารึกคือเมือง hiroshima สถานที่ซึ่งทำให้โลกได้รู้จักอาวุธร้ายแรงอย่างระเบิดปรมาณูเป็นครั้งแรก ที่ที่ครั้งหนึ่ง เลือด ร่าง และน้ำตามากมายเกินจะนึกฝัน
      และเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปเมือง priority ของเราจึงเลือกใช้ JR Kansai-Hiroshima pass  5 day แผนการ 5 วันจึงอิงตามเดินทางที่ครอบคลุมในพาสนี้ และครั้งแรกที่เยือนคันไซย่อมต้องทัวร์โอซาก้า อีก 2 วันเที่ยวในโอซาก้าโดยใช้ osaka amazing pass

คลอดแพลนหลังจากได้ศึกษาเข้มข้น (จริงจังมากกก) เอารูปจาก Ig มาใส่เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ

ภาพรวมเป้าหมายคร่าวๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

โบกมือลามลพิษ PM2.5 (ชั่วคราว)
      มารอสนามบินก่อนเช็คอินประมาณร่วม 2 ชั่วโมง คนเกือบเต็มลำ  ขอนิดนึงพนักงานภาคพื้นประกาศบอร์ดรัวเร็วเว่อแบบไม่หายใจ ฟังแล้วแบบเค้าต้องรีบขนาดนี้เลยหรอ บอร์ดเสร็จ กัปตันก็รีบมาก เครื่องเทคออฟตรงเวลาเป๊ะ แต่มาถึงก่อนกำหนดเกือบ 1 ชม .. ยามเช้ามองไปเห็นแสงพระอาทิตย์ขึ้นทางหน้าต่างอีกฝั่งก่อนแลนด์

โดนศุลกากรเรียก เพี้ยนสะอื้น
     สนามบินคันไซ ลงเครื่องไปไม่กี่ก้าวก็หนาวสะท้านจนต้องควักชุดมาใส่ ผ่านตม โดยไม่ถามอะไร แต่ custom อะสิ กวักมือเรียกจ้า แรกๆ ยิ้มๆนะ แต่นางถามเยอะ และเราก็ฟังไม่ค่อยออกเพราะนางพูดเร็วและงึมงัมในคอ พอเราขอทวนคำถามจากยิ้มๆ นางก็ทำหน้าบึ้งใส่ ใจเริ่มแป้วนิดๆ แค่พูดช้าลงอีกนิดก็ฟังรู้เรื่องละเจ้ ทำไมต้องชักสีหน้าดั้ว ก็ถามว่ามากี่วันไปไหนบ้าง คราวที่แล้วไปไหน แล้วก็เปิดตรวจกระเป๋า แล้วก็ให้ผ่านไป

     แม้ว่าจะถึงเร็ว แต่ก็เช้าเกินเคาเตอร์แลก pass ที่ซื้อมาล่วงหน้าจะเปิด  เดินออกจากcustom ปุ๊บก็เจอเลย ก็ไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วมายืนต่อคิวรอเลย พนงมาเร็วนะ มาก่อนเวลา แล้วก็มากั้นคิวอย่างเป็นระเบียบ เปิดตรงเวลาเป๊ะ ใช้เวลาไม่นานในการรันคิว โชว์เอกสารแล้วก็รับแบบไม่ต้องพูดอะไรมาก  

D1 Arashiyama and kiyomitzu dera เกียวโตฤดูหนาว คลาสสิคแม้ไร้สีสัน

     จากเทอมินัล1 เดินขึ้นบันไดเลื่อนออกทางเชื่อมรับลมหนาวแรก เหมือนอยู่ดอยยังงั้น แต่ใส่ 3 ชั้น heattech extra คอเต่า แจคเก็ต blocktech และ ultralight down ก็เอาอยู่ รถไฟ Nankai กับ JR ตรงข้ามกัน
     เราเปิดใช้ pass เลยซึ่งสามารถนั่ง Ltd Haruka ไปเกียวโตได้โดยสะดวกรวดเร็ว จอดเพียงไม่กี่สถานี กระเป๋าใบใหญ่ก็ใส่ช่องสบายๆ  

LTD EXP HARUKA
ข้ามน้ำเข้าเมือง

      หลังจากลงสถานีเกียวโตก็ซื้อ bus+subway one day pass 900 Y และนั่งใต้ดินไป 1 สถานีเพื่อไปฝากกระเป๋ายังที่พักของค่ำคืนนี้
key นึงที่สำคัญเลยในการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ คือ จุดหมายอยู่ใกล้ exit ที่เท่าไร ออกผิดคือเดินไกลแถมยังมาเจอทางออกใกล้ๆ ให้เจ็บใจเบาๆ  
ฝากกระเป๋าแล้วตัวเบาย้อนกลับไปสถานีเกียวโต

สถานีเกียวโต

      แพลนของเราเที่ยวเกียวโตสองวัน ที่เที่ยวเลือกตามที่เดินทางด้วยรถไฟเจอาร์สะดวกก่อนสำหรับทริปนี้  (วัดทองวัดเงินเจอกันทริปหน้านะ)
     จาก Kyoto sta นั่งไปลง Sagaarashiyama ถึงเกือบๆ เที่ยงเนี่ย

      ลงมาแล้วเดินต๊อกแต๊กผ่านเมืองไป ก็จะถึงถนนสายที่มีร้านรวงสองข้างทางและมีวัดเท็นริวจิอยู่ข้างหน้า เราเดินไปตามถนนเพื่อไป Togetsukyu bridge ก่อนซึ่งจะผ่านสถานี renden ด้วยใครมาทางนี้ก็จะถึงย่านอะราชิยามะเลยไม่ต้องเดินไกล

เดินไปผ่านร้านชีสปลาไม้ร้อนๆ ก็แวะยืนกินก่อน ลงเครื่องมายังไม่ได้กินไรเลย

ถนนเลียบริมแม่น้ำ มีคาเฟ่ร้านรวงมากมาย รวมถึงร้านกาแฟที่จะมาเปิดสาขาเมืองไทย %Arabica ด้วย แต่ไม่มีเวลาเลยไม่ได้แวะไปนั่งจิบกาแฟชมวิวสโลว์ไลฟ์เลย

แม้จะเป็นยามไม้ไร้ใบ แต่ก็ยังทำให้รู้สึกปลอดโปร่งสบายใจอยู่ดี

คนมากมายมุ่งหน้าไปทางเดียวกัน ข้ามสะพานไปยังไม่รู้ว่าเราข้ามสะพานข้ามจันทร์อยู่หรือนี่

ลงไปเดินสวนที่พื้นโรยหินไว้ แดดแรงดีมากเลยวันนี้

สะพานโทเก็ทสึเคียวฤดูหนาว กับต้นไม้ที่ดูแห้งแล้ง

เดินไปเรื่อยก็มีร้านแผงตั้งขายดังโงะอยู่ คนขายมัทฉะดังโงะเป็นหนุ่มคิ้วท์ๆ แต่ไม่อร่อยอ่า ขอเตือนไม่อร่อย แข็งๆ+ขมๆ 100 Y

ข้าวปิ้ง (เรียกไรจำไม่ได้แล้ว) กัดแล้วจะเหนียวๆ กลิ่นไหม้ๆ นิดๆ หิวอยู่ก็รองท้องไปได้ 300 Y

เสน่ห์อะราชิยามะ

เสร็จแล้วก็เดินเตร็ดเตร่รอบๆ แล้วเดินย้อนกลับไปวัดเท็นริวจิ วัดนิกายเซน

      เราหลงเดินๆ เข้าไปเรือนนอกซึ่งก็คือโถงธรรมะ ที่เข้าชมภาพ  cloud dragon ค่าเข้าชม 500 เยน ไหนๆ มาแล้วเอาซะหน่อย (ประโยคเสียตังเลยเนี่ย) ด้านในเค้าไม่ให้ถ่ายรูป
      เป็นธรรมเนียมว่าวัดเซนจะต้องมีภาพมังกรบนเพดานของโถงธรรมะ ซึ่งมังกรเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาในวัฒนธรรมเอเชีย ภาพ cloud dragon ถูกเขียนโดยตาซ้ายอยู่กึ่งกลางของเพดานวงกลม ซึ่งทำให้ไม่ว่าจะมองจากทิศทางไหน มังกรจะมองมาทางเราเสมอ

รูปจากแผ่นพับ สบตามังกร

     ดูเสร็จก็ออกมาชมวัดเท็นริวจิ ซึ่งแปลว่าวัดมังกรสวรรค์ วัดนิกายเซนที่สร้างในสมัยคริสตศตวรรษที่ 14 แต่ถูกไฟไหม้ถึง 8 ครั้ง อารามในปัจจุบันถูกสร้างสมัยเมจิ  แต่สวนที่มีชื่อเรียกว่า โซเก็นชินั้น เป็นหนึ่งในสวนเซนที่เก่าแก่ที่สุดเป็นของดั้งเดิม และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ค่าเข้าชม 1300 เยน (วัด+สวน)

     เข้ามาในส่วนของวัด วัดเป็นอาคารไม้เดินผ่านระเบียงก็จะเห็นสวนที่ขึ้นชื่อ นั่งมองจากระเบียงในอาคารก็ดีไปอีกแบบ

คู่ชมสวน

ทางเดินไม้สบายเท้า

สวนจากทางเดิน

เดินในอาคารเสร็จก็ต้องออกมาใส่รองเท้าเพื่อออกไปเดินชมสวนต่อสำหรับคนที่ซื้อแพคเกจไว้

อาราม

เท็นริวจิในฤดูหนาว

เราอาจไม่สวยนัก แต่ขอผลิบานเป็นสีสันให้แก่ฤดูหนาว

      เสร็จแล้วทะลุไปออกป่าไผ่ได้

ป่าไผ่บ่ายแก่ๆ แสงเริ่มน้อย แต่คนเยอะตลอด

     ฤดูนี้มืดเร็ว ประมาณ 5 โมงนิดๆ ด้วยความว่าต้องไปต่อวัดคิโยมิสึเลยรีบเดินนิดนึง เดินออกผ่านศาลเจ้าแห่งความรัก  ซึ่งคนเยอะมาก และแล้วเราก็เลี้ยวผิด ไปออกอีกทางที่เป็นเมืองเงียบๆ แต่ก็วนไปถึงสถานี jr ได้เหมือนกัน

สามารถพบบุคคลใส่ชุดกิโมโนได้อย่างไม่ยากที่สถานีเกียวโต แม้ว่าจะเป็นหน้าหนาวก็ตาม

     เรานั่งรถไฟกลับไปสถานีเกียวโตเพื่อขึ้นรถบัสเห็นจอดอยู่พอดี  ขึ้นปุ๊บออกเลย เราลงป้าย kiyomitzumichi ซึ่งเป็นทางเดินที่ไม่มีอะไรเลยร้านรวงก็ปิดหมด รีบสุดชีวิต ฟ้ามืดลงๆ ทางคือขึ้นเขาชันๆ
      หอบแฮ่กเลย มาถึงแล้ว ในบริเวณวัด คนก็ยังมากอยู่ ฟ้ามืดลงในไม่กี่นาที


     พอดีอีกครึ่งชมวัดปิด เลยไม่ได้เข้า ถ่ายวิวอยู่บนเขานั่นแล
แม้มิได้ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์สามสาย
แต่จะเป็นอย่างไรเล่า
ในเมื่อ ณ ขณะนี้
ไม่ปรารถนาใดกว่า
การได้มายืนอยู่ที่นี่
Kyoto Night

พอ6 โมงเย็นวัดปิดไล่คนออก เราเดินลงตามถนนที่มีร้านของฝากที่เริ่มเก็บกันแล้ว ได้แวะซื้อของฝากอย่างสองอย่าง
ชื่อสินค้า:   เที่ยวต่างประเทศ ญี่ปุ่น บันทึกนักเดินทาง โอซาก้า
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่