ความไกลคืออุปสรรค ถ้ารักกันไม่มากพอ

ใช่ครับ  ตามหัวข้อเลย  จากประสพการณ์ จขกท.ล้วนๆ ผ่านมาไม่ถึง48ชม.  

เกริ่นเลยนะครับ ผมอายุ36 แฟนอายุ29  เราคบกันมา2ปีกว่าๆ(ยังไม่ได้แต่งงานกันแต่มีแพลน)  คบได้ประมาณ4เดือนเศษๆ มีคำสั่งย้ายแฟนย้ายที่ทำงาน ในกทม.(เดิมอยุ่ตจว.) แฟนผมทำงานธนาคาร รัฐแห่งหนึ่ง

ช่วงแรก ดีมากๆ เพราะการนานๆเจอกันที รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เจอกัน (1-2อาทิต) ไปเทียวตจว.กันบ่อยๆ ทุกครั้งที่แฟนลาพักร้อน ไม่เขา ก็ผมต้องขับรถไปหากัน ตลอดแทบทุกอาทิต ห่างกันไม่เกินเดือนไม่ปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ มีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ดีกัน เรื่องๆเล็กๆน้อยๆ

จนมีวันหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป หลังกับจากไปเทียวเชียงราย เมือ4-5เดือนที่แล้ว  จากนั้นเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน

พิมมาถึงตอนนี้ จขกท.น้ำตาซึมๆ เนื่องจากคนที่ว่าผมเรียกว่าแฟน  เธอไม่เหมือนเดิม กริยา ท่าทาง รอยยิ้ม หรือพฤติกรรมต่างๆ มันแสดงออก  ฉุนเฉียว พูดห้วนๆ โกรธง่าย ชวนทะเลาะ ทุกครั้งที่เจอ หรือคุยกันในโทรศัพย์

พยายามปลอบใจตัวเองมาตลอด ว่าอาจเป็นเพราะอารม  จากการทำงาน และมีการโฟตในเฟชบุค อ่อยๆ  อยุ่บ่อยครั้ง มีเพื่อนของเขามาแซว (คือผมกับแฟนเปนเพื่อนกันเฟช แต่ไม่เคยโฟตรูปคู่กันเนื่องจากเขาไม่อาจไม่ยากใครรุ้จะรุ้เฉพาะเพื่อนที่สนิทๆแต่ไม่ใช่ที่ทำงาน)

ผมสงสัยมาตลอด ถามตรงก้ชวนทะเลา อาการไม่สนใจ ไม่ค่อยอยากมาหา จะไปหาก็บอกติดธุระ ไม่สะดวก นานๆมาหาที (20-30วัน) ก้ไม่เคยนอนค้างด้วยกันที่บ้านผม(ตจว.)  เขาจะกับไปนอนบ้านอีกหลังของยายเขา แบบนี้ตลอด4เดือน ทำให้ในใจตะกิดตะข้วงมาตลอด  เขาก้พิมไลน์มาหา และก็โทมาหาบ่อยๆจนจนบางครั้ง  ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าเหมือนเดิม  

ก่อนวันเกินเหตุ ไม่กี่วัน เพื่อนที่ทำงานเขา แอบเห็นเขาไปกินขนม แถวที่ทำงานด้วยกัน เลยมาแอบแซวแท๊กในเฟช ว่าเห็น นะว่ามากะใคร

ผมก็ถาม ว่าน้องแซวทำไม แฟนตอบว่าไม่มีอะไร เพื่อนกันชวนกินขนมเฉยๆ  

จากนั้นได้ 2-3วัน ที่ผ่านมา เขาจะกับมาบ้านที่(ตจว.)ปกติเราจะนัดเจอกันไปกินข้าวด้วยกัน ละก็กับมานอนบ้านผม แต่หลังไม่เคยนอนบ้านจะอ้างตลอดเป็นห่วงยาย ทุกครั้งผมก้ไม่บ่น เพราะไม่อยากทะเลาะ

วันนั้นผมเลยบอกว่า ทำไม่เคยมานอนค้างไม่ได้จะ4เดือนละนะ มาก้แป๊บๆก็กับ คุยกับใครรึป่าว!?......

จากคำถามนี่...ทำให้ผมอึ้ง มือ ไม้ชา เข่าแทบทรุด

เขาตอบมาว่า มีรุ่นน้องที่ทำงานมาจีบ คุยกัน  ชอบซื้อขนมมาให้บ่อยๆ  ผมยังทำใจเซื้อเสือ ถามต่อว่า แล้วตัดสินใจแล้วเหรอ  เขาตอบว่า "ป่าว" จากคืนนั้นผมได้คำตอบเขาแค่คำเดียว ในทางไลน์

เช้าวันที่เขา จะกับมาตจว.  ก้คิดอยากเจอเขาอีกครั้งเพื่อที่จะคุยปัญญาของเรา  แต่ดูเหมือนเขาบ่ายเบี่ยงบอกต้องพายายไปกินข้าว นู้ นี่ ผมเลยตัดสินใจ ขอเวลาไม่นาน อยากเจอ  ก้เลยสรุปว่าเขายอมมาเจอ  เรานัดกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

ตลอดเวลาที่นั่งกินข้าว อยุ่ข้างกัน เป็นมื้อที่ทรมานมากที่สุด อาหารแต่ละคำ แทบเคี้ยวไม่ลง

เราคุยเรื่องของเรา และของเขา  เหมือนว่าทุกอย่างเปลี้ยนไปจิงๆ ตลอดเวลาผมไม่กล้าเอื้อมมือไปจับ หรือไปโดนส่วนไหนของเขาเลย เพราะไม่คิดว่าเราจะมีสิทธิขนาดนั้น  น้ำตาตกใน ยอมรับสภาพ แต่อาการเขาปกติมาก  เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมยังเก็บอาการ และเอ่ยไปบอกว่า ก่อนส่งขึ้นรถ ดูแลตัวเอง ด้วย  

นั้นเป็นปะโยคสุดท้าย ที่ผมได้คุยกับเขาตัวจิง ต่อหน้ากัน  ใจตอนนั้นรู้สึกวูปมาก แต่อีกใจก็รู้สึกดีที่ความอัดอั้นได้ป่อยมาหมด ยังพอปะครองกับบ้านไหว

วันต่อมา เขาทักมาในไลน์ นุ้ขอโทษ ทุกสิ่งทุกอย่าง นุ้นนี้นั้น เท่าที่เขาพูดได้....แต่

ไม่มีคำไหน  หลุดมาจากปากเขาเลยว่า .....กับมารักกันได้ไหม  ขอให้ยกโทษหรืออภัยให้เขาเลยซักคำเดียว....มันเป็นความเงียบที่ดังที่สุด ณ เวลานั้น

ผมได้แต่พิมไปว่า...ไม่เป็นไร  ดูแลตัวเองด้วย  อย่าพึ่งตัดสินใจคบใคร ดูกันนานๆ  ทั้งที่น้ำตาแอบซึมๆ

เช้านี้ ผมได้พิมไปบอกเขาเองว่าขอไม่ติดตาม IG FB ของเขาซักระยะ เพราะเมื่อคืน ผมกับไปอ่านในทุกๆคอมเม้น ในทุกๆโฟต เฟชของเขา เหมือนคำถามที่ยังคาใจ หรือสงสัยมาตลอด กับมาเฉลย ตอนที่เพื่อนเขาเม้น โฟตต่อ หรือแซว ผมจึงขอเวลาทำใจละมีสมาธิกับงาน  ถ้าหายดีแล้วจะขอมาเป็นเพื่อนกันใน FB iG อีก  เขาได้ตอบสั้นๆว่า.... คะ

เป็นไงครับเลือดเย็น..เหลือเกิน

ทั้งนี้อยากให้เขากับมา นะแต่คงไม่มีโอกาส เพราะคิดว่าใจเขาไปไกลเกินแล้ว  อีกใจก็กัวว่ากับมาคบจะเป็นเหมือนเดิมอีก...

นาทีนี่ ก้แค่ได้นั่งทำใจ......รักแท้  แพ้ความห่าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่