เริ่มต้นเมื่อครึ่งปีก่อน ผมแอบชอบรุ่นพี่ที่ทำงานคนนึง ขอแทนรุ่นพี่คนนั้นว่าชื่อพี่เอ ผมแอบชอบพี่เอโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆที่ผมก็มีแฟนอยู่แล้ว ในช่วงนั้นผมทะเลาะกับแฟนบ่อย บอกได้ว่าจะเลิกกันเลยก็ได้ อาจจะเป็นเพราะตัวผมเองด้วยที่เปลี่ยนไป ผมนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับพี่คนนึงที่ทำงานที่เดียวกัน (ขอแทนว่าพี่บี) พี่บีคนนี้ผมนับถือว่าเป็นพี่ชายแท้ๆคนนนึง ซึ่งพี่บีเขาก็แอบชอบพี่เอเหมือนกัน และที่สำคัญเขามีครอบครัวอยู่แล้วนะ ต่อมาไม่นานผมเลิกกับแฟนผม โดยที่ทุกคนรอบข้างคิดว่าพี่เอเป็นมือที่สาม และนั่นมันก็เป็นเรื่องจริงในส่วนหนึ่ง ผมจึงไม่ได้อธิบายหรือแก้ตัวใดๆ ปล่อยให้เรื่องราวผ่านไปและจางหายไปตามเวลา หลังจากที่พี่บีรู้ว่าผมเลิกกับแฟน เขาก็แนะนำให้ผมจีบพี่เอ ด้วยเหตุผลเพื่อกันตัวเขาเองออกจากพี่เอและการนอกใจแฟน ผมลุยจีบพี่เอและผมก็จีบพี่เอติด เราตกลงเป็นแฟนกันกัน โดยมีพี่บีเป็นที่ปรึกษาเรื่องราวของเราตลอดทุกเรื่อง แต่เรื่องราวความรักของผมไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เนื่องจากเราทำงานที่เดียวกัน ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆท่านไม่พอใจมากนัก โดยเฉพาะหัวหน้าแผนก ซึ่งเปรียบเสมือนแม่คนนึงของพี่เอ และเรื่องราวที่เขาคิดว่าพี่เอเป็นมือที่สาม ทำให้เราทั้งคู่ถูกเรียกตักเตือน หลังจากที่เราคบกันมาได้สักพัก เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน ทำให้ผมมีโอกาสได้เล่นโทรศัพท์ของพี่เอ และแล้วสิ่งที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนมันก็เกิดขึ้น แชทของพี่บีเด้งมา!! ผมลังเลอยู่นานว่าจะเปิดอ่านดีไหม แต่สุดท้ายผมก็เปิดอ่านและเห็นข้อความก่อนหน้านี้อีกมากมาย ผมหน้าชามือสั่น เพราะในข้อความเหล่านั้นระบุว่าเขาบอกรักพี่เอ ถามพี่เอว่าถ้าเขาไม่มีใครจะคบกับเขาไหม ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าผมกับพี่เอคบกัน โชคดีที่ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่กับพี่บี ไม่งั้นนะผมคงต่อยเขาไปแล้ว ผมทักไลน์ไปหาพี่บีเพื่อเคลียร์เรื่องดังกล่าว พี่บีบอกกับผมว่าวางใจได้ เขาจะไม่ยุ่งกับเรื่ององผมกับพี่เออีก แต่เรื่องยังคงไม่จบเพียงเท่านั้น หลังจากทริปนั้น เราสองคนก็ทำตัวปกติ แต่เรื่องมันไม่ปกตินี่สิ หัวหน้าแผนกเข้าไปคุยกับแม่ผมเรื่องของพี่เอ โดยมีพี่บีเป็นคนพาไป และพูดยุให้แม่ของผมโมโหแล้วด่าพี่เอออกมาด้วยคำรุนแรงและหยาบคาย (แม่เป็นคนบอกผมเองว่าถ้าพี่บีไม่จี้ปมก่อน แม่ก็คงไม่เดือด) แน่นอนหัวหน้าแผนกของผมไม่พอใจเป็นอย่างมาก โกรธเราสองคนและโทรมาต่อว่าหนึ่งชุดใหญ่ และจบด้วยการห้ามไม่ให้เราคบกัน ด้วยความรักของผมและพี่เอง เราตกลงกันว่า เราจะจับมือและพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นถึงความรักของเรา เรื่องราวเหมือนผ่านไปได้ด้วยดี จนถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน มีรุ่นพี่ที่ทำงานแต่งงานกัน แน่นอน...ผม พี่เอ และพี่บีต้องไปร่วมงานด้วย แต่หัวหน้าแผนกติดธุระ จึงไม่ได้ไปร่วมงานด้วย ทุกอย่างเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี จนถึงตอนเย็นหัวหน้าแผนกโทรมาต่อว่าพี่เอ เช่น หน้าไม่อาย ทำอะไรไม่อายคนอื่นบ้างหรอ เป็นต้น ซึ่งผมกับพี่เอก็งงว่าเขาไปรู้อะไรมาและใครโทรไปฟ้อง เช้าวันต่อมา พี่บีมาถามผมว่าพี่เอเป็นไงบ้าง และเตือนผมให้ระวังหัวหน้าแผนกไว้ มันทำให้ผมและพี่เอคิดได้ว่าพี่บีคือคนที่ทำให้พี่เอโดนดุ แค่เราต้องหาหลักฐาน และแล้วโชคชะตาก็เข้าข้างเรา พี่เอมีโอกาสได้เล่นโทรศัพท์หัวหน้าแผนก สิ่งแรกที่พี่เอทำคือเข้าไปอ่านข้อความในไลน์ ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่มันก็ทำให้รู้ความจริงว่าในวันงานแต่ง พี่บีส่งรูปหมู่ที่เราถ่ายร่วมกันเกือบสิบคนไปให้หัวหน้าแผนกดูและย้ำหัวหน้าแผนกว่าให้ซูมดูที่ผมกับพี่เอ (เราสองคนทำแหวนคู่ใส่ที่นิ้วนางข้างซ้าย) ในวันนั้นเรานั่งข้างกัน ย้ำ!!ว่าแค่ข้างกัน และทุกคนในเฟรมชูนิ้วนางข้างซ้าย หัวหน้าแผนกพิมตอบกลับในแชทไลน์ของพี่บีว่า นิ้วนางข้างซ้าย , เกาะกันตัวเป็นปลิง พร้อมกับถ้อยคำหยาบคายอีกนับไม่ถ้วน (ผมผิดอะไร??) หลังจากที่รู้ว่าความจริง ผมจึงตัดสินใจหักกับพี่บี โดยถามพี่บีว่า ต้องการให้ผมเลิกกับพี่เอใช่ไหม เขาตอบกลับผมมาอย่างหน้าเซ่อๆว่าเขาหวังดีกับผม และเขาไม่ได้เป็นคนฟ้องหัวหน้าแผนกเรื่องในงานแต่ง จริงๆแล้วเรื่องราวที่ผมเล่ามามันยังไม่ได้ลงรายละเอียดอีกมากมายกับความไว้ใจผิดของผม ผมควรทำอย่างไรกับคนๆนี้ดี??
ผิดที่ไว้ใจ