จากปัญหา ฝุ่นขณะนี้ มีคนส่งลิงค์
https://nasofilters.com/buy-now/?fbclid=IwAR0d2O2MjomsjJNrcovpAmrSCWhbw7MZoKxLjmBXLSOZPeAb5-fB_C1AjJc
นี้มาซึ่งน่าสนใจมาก เท่าที่ศึกษาดู สินค้าได้รางวัลและการยอมรับมากมาย (ติดแล้วดันจมูก ดูโด่งขึ้น)
ที่สำคัญ ขาย30ชิ้น ₹294.65  (130.75 บาท) 1แผ่นได้1วัน ตกวันละ4-5บาท
ซึ่งดูแล้วมันถูกกว่า พวก 3D หรือ 3M (120-150บาท) หรือ แบบผ้าปิดปกติติดออฟชั่น คือ ตัดทรงเดียวกับของแพง+เอาวาวมาติด+ใส่แผ่นคาร์บอนเพิ่ม(7-50บาท*shopee) แต่ทำไม ไม่ค่อยเอามาขายกัน เซิรจหา google เจอแค่ เจ้าเดียว ขายตกแผ่นละ 22บาท(+4เท่า)
หาใน Amazon ก็ไม่คลุมพื้นที่ส่งอีก(หรือทำไม่เป็นก็ไม่รู้) ผมว่าแม้จะ"แก้ที่ปลายเหตุ"แต่ถ้า รัฐฯ.นำเข้ามาขาย ก็น่าจะทำได้นะครับ

เกี่ยวกับปัญหา pm2.5
บ่นสักนิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมว่า รัฐฯ.น่าจะหาผลประโยชน์แนวใหม่ๆให้เข้ากับยุคสมัยได้แล้ว คือ แทนที่จะรับค่าปิดตา จากโรงงานต่างๆที่ปล่อยฝุ่นก็ดี ปล่อยน้ำเสียก็ดี มา "เป็นผู้คุมจัดจำหน่ายติดตั้งนำเข้า เครื่องกรอง ที่ได้มาตรฐาน ย้ำว่า"ได้มาตรฐาน" บังคับให้ โรงงานติดตั้ง อาจแพงหน่อยแต่ครั้งเดียวจบ (หรือมีแผ่นกรองขายไม่แพงเป็นงวดๆ) หรือ แผ่นกรองฝุ่นที่เสียบติดกับท่อไอเสียรถยนต์(ของใช้หมดไป รัฐขายถูก,ภาษีถูก) แบบนี้ น่าจะดีกว่าคือ 1.อากาศในไทยดีขึ้น 2.ทัศนมุมมอง ต่างชาติดีขึ้น 3.รัฐมีรายได้จากภาษี(รับมากขึ้น) 4.โรงงานจากเสียกินเปล่า เป็นเสียแล้วช่วยอากาศ เป็นอนาคตลูกหลานตนเอง  มีแต่ได้ทุกฝ่ายเพียงแค่ปรับวิธีนิดหน่อยครับ  
อีกหนึ่งที่กังวลPM2.5 คือ  น้ำ ครับ แม้ฝุ่นขนาดมันเล็กมาก แต่มันก็มีน้ำหนัก ย่อมตกลงตามแรงดึงดูด ไม่ว่าตกเอง ฝน ชำระล้างร่างกาย(อาบน้ำ) ซักผ้า เหล่านี้ มันก็แน่นอนว่าลงแม่น้ำ และประปา ก็สูบน้ำมาทำน้ำประปา ส่งตามบ้าน ผมไม่แน่ใจว่า ระบบประปาจะกรองฝุ่นจิ๋วนี้ได้ (ใส่สารส้ม+ปูนขาว กรองด้วยหินกับทราย ใส่คลอลีน) ถ้าเครื่องกรองที่บ้านคุณดีก็ไม่เป็นไร ถ้าแย่ ก็อาจรับไปเต็มๆ  
และฝุ่นตัวนี้มันผ่านเข้ากระแสเลือดได้(เล็กกว่าช่องเซลล์) นั่นหมายความว่า ในอนาคตอาจพบว่า เข้าทางผิวหนังได้   ทางประเทศจีนเองก็พบปัญหา PM2.5นี้ ก่อนเราและเขาจริงจังขนาด ทำเป็น"วาระแห่งชาติ" สั่งปิดโรงงานที่ไม่ผ่าน สั่งเปลี่ยนเครื่องรถยนต์ที่ไม่ผ่าน งดสร้างฯ.ที่ก่อฝุ่น(ในช่วงมีฝุ่นสูง) แต่ในประเทศไทย รัฐฯ. ยังเงียบมากๆ มีเพียงสื่อประโคมข่าว และให้ประชาชน แก้ที่ปลายเหตุกันเอาเอง(ซื้อหน้ากากใส่,ขังตัวอยู่บ้าน)  สั่งจากนอกเอง ก็จำกัดจำนวน,ภาษีแพงมากๆ แต่ด้วยค่าครองชีพ จะไปซื้อ หน้ากากที่กันได้ มันก็มีค่าใช้จ่ายรวมๆเดือนนึงก็ไม่น้อย และอาจต้องใช้ไปอีก5-10ปี(เพราะรัฐป่านนี้ยังไม่เริ่มแก้ไขเลย)  จะยิ่งแพงเมื่อป่วยจากโรคที่เกิดจากฝุ่น อาจต้องเตรียมเก็บเงินไว้หลักหมื่น-แสน  เซ็งจริงๆ